กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 38 ลาออก
ผมตื่นมาในห้องของเราสามในห้องใหญ่ของบ้านใหญ่
เรามีเตียงใหญ่ที่สั่งทำพิเศษสำหรับเรา 3 คน
มันไม่ได้แพงมากเพราะเราไม่ได้เลือกลวดลายหรืออะไรที่หรูหรามากมาย แค่มันใหญ่กว่าปรกติ
ตอนนี้ผมอายุ 21 ปีกับอีก 4 เดือน
มันเป็นตั้งแต่เมื่อวานที่เจ้าหญิง ไม่สิ ราชินีวล็อดซีเมียแห่งวาโรซีเมียเรียให้ผมเป็นแฟนของเธอ
เราจะต้องย้ายไปวาโรซีเมียเรีย
ผมไม่มีปัญหากับการได้แฟนใหม่เพราะผมติดความเป็นซัคคิวบัสของเธอ
และฝีมือเธอมากกว่าเรา มันทำให้ผมสนใจเธอมากกว่าทั่วไป
มีหลายเรื่องที่ต้องทำวันนี้
อย่างแรกผมต้องไปลาออก
ผมลุกขึ้น ห่มผ้าวีกับวิวที่นอนเปลือยข้างผม
เมื่อวานผมใช้เวลา 3 ชั่วโมงเพื่อง้อพวกเธอ และพวกเธอหายงอนเรียบร้อยแล้ว
แต่ความสัมพันธ์ของพวกเธอกับวาโรยังเป็นการเรียกวาโรว่า ‘ยัยตัดหน้า’
ผมพยายามพูดโน้มน้าวให้เธอยอมเปลี่ยนการเรียกอยู่นาน
แต่ความพยายามมันสูญเปล่าเพราะมันเป็นเรื่องใหม่ที่เสียมารยาทกับเธอมาก
ส่วนหนึ่งมันก็เป็นความผิดของผมที่ผมไปติดเจ้าหญิง
ก็มันเจ้าหญิงต่างเมืองในต่างโลกอีกที โอกาสนี้จะไม่หวนกลับมาอีกถ้าผมปล่อยไป
ผมอาบน้ำแต่งตัวโดยที่วีกับวิวยังไม่ตื่นกัน ผมแต่งตัวให้ดูดีเพราะวันนี้มีธุระ
ผมไปเรียกบุญมีเพื่อนสต้าร์คสมัยเด็กที่บ้านเด็กกำพร้าและสามีเธอบุญมา
พวกเธอดูงงๆ แต่เมื่อผมบอกว่ามันเกี่ยวกับงานแรกพวกเธอทำหน้ามุ่งมั่น
ผมนั่งรถฟาเนิคกับพวกเธอไปโรงแรมวาโร ผมมีธุระกับเธอก่อน
วาโรมาเจอผมที่ห้องรับแขกชั้นแรก
เธอลงมาแบบตื่นเต็มที่แล้ว
เธอเป็นคนตื่นเร็วเพราะตอนผมนอนค้างกับเธอ เธอจะตื่นก่อนผมเสมอ
แม้ผมว่าผมตื่นเร็วแล้ว ผมตื่นช้ากว่าเธอ
“วาโร ฉันจะให้เพื่อนไปวาโรซีเมียเรียก่อน นี่บุญมีเพื่อนสมัยเด็กของฉันและคนของฉัน ส่วนนี่บุญมาสามีเธอ”
“ฉันราขินีวล็อซีเมียแห่งวาโรซีเมียเรีย ฉันมาพักร้อน ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ฉันบุญมี นักสร้าง กำพร้าศิโร”
“ผมบุญมา นักสร้างเหมือนกัน กำพร้ามาร์แลนด์”
เพื่อนและสามีแนะนำตัวอย่างประหม่า แล้ววาโรแนะนำตัวแบบมองตาตลอดและยิ้มแย้ม
“ฉันมีแผนให้บุญมีกับบุญมาไปสร้างร้านและบ้านที่วาโรซีเมียเรียก่อน ฉันจะต้องถามเรื่องที่ทาง”
ผมบอกวาโรแบบมีไฟ
“ได้สิ มีกระดาษสักแผ่นมั้ย?”
เราเตรียมกระดาษมาเพราะเราอาจคิดออกแบบบ้านที่เราอยากอยู่
วาโรรับกระดาษและวาดคร่าวๆ ฝีมือการวาดของเธอดีและเส้นตรงเป็นเส้นตรงหมด
“นี่เป็นวังหลวง”
กลางกระดาษมีสี่เหลี่ยมใหญ่ ๆ
“นี่เป็นอุปสรรคกับเราข้างหลังปราสาท”
“ปราสาทใหญ่แค่ไหน?”
“จะเดินให้ทั่วต้องเดิน 3 วันเต็มๆ”
ผมถามวาโรและเธอบอกขนาดคร่าวๆแบบยิ้มๆภูมิใจ
ข้างหลังปราสาทมีวงกลมเล็กกระจายเต็มไปหมด
“ตรงนี้เป็นพื้นที่หินลึกลับที่หนักมากและขุดไม่ได้ เราไม่รู้จะกำจัดพื้นที่ตรงนี้อย่างไร”
เธอทำท่าทางตอนอธิบายด้วยหน้าตาที่เหมือนหงุดหงิด
“พื้นที่นั้นฉันพอมีแผนอยู่ และนี่คือที่ที่พวกเธอจะทำงานบ้านอยู่ตรงไหนก็ได้”
เธอไม่ได้วาดอะไรอีก แล้วชี้พื้นที่ที่เหลือ
“ตรงนี้เป็นเมืองที่มีคนเยอะ”
เธอขีดเส้นเกือบถึงสุดกระดาษแล้วเขียนว่าเมือง
จากนั้นเธอวาดสี่เหลี่ยมติดกับเมือง
“นี่เป็นพื้นที่นอกปราสาทที่ยังไม่ได้ใช้ทำอะไร ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ร้านเธอ”
มันกว้างเป็นห้างได้เลยเท่าที่เธอให้มาจากนั้นพี่วาโรขอกระดาษไปหนึ่งแผ่นแล้วเอาขึ้นห้อง
“เดี๋ยวฉันมา”
เธอเหมือนจะไปเขียนอะไรหรือไปหยิบอะไรที่ห้องของเธอ ผมทำปากกาให้เธอแล้ว มันเป็นแบบหรูใช้เหล็กไร้มลทิลเคลือบเปลือกหอยตัดลายทองแบบเปลี่ยนไส้ได้
“จะเอาที่ทำงานกับบ้านอยู่ด้วยกันที่เดียวกันมั้ย?”
บุญมีถามผมด้วยหน้าตาเหมือนอยู่ในระหว่างทำงานจริงจังแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอทำหน้าแบบนี้
“แยกดีกว่า สร้างบ้านก่อน เผื่อห้องสำหรับหัวหน้าแผนก 33 ห้อง แล้วห้องพนักงาน 33 ห้อง ห้องแม่บ้านอีก 33 ห้อง มีห้องนั่งเล่นใหญ่ 1 ห้อง ห้องน้ำใหญ่ 1 ห้องสำหรับคนทั้งหมด และห้องเครื่องออกกำลังกายอีก 1 ห้องไม่ต้องใหญ่เท่าห้องนั่งเล่น แต่ไม่อึดอัดเมื่ออยู่ 10 คน ใช้ไม้ทนๆ งบ 200,000 ทอง”
เธอจดงานของเธอ
“ส่วนร้านเมื่อเข้าประตูจะเจอกับร้านอาหาร จากนั้นเห็นร้านเสื้อผ้าเป็นห้องแยกไปไม่เกะกะ แล้วมีโซนข้างหลังทำเป็นโซนสำหรับผู้ใหญ่ที่มีประตู ส่วนแยก เอากระจกด้านเดียวที่ดงเสือดอกเล่นน้ำใช้ ให้ช้างนอกมองไม่เห็นของข้างใน ส่วนเรื่องสไตล์เอาที่เธออยากออกแบบ บุญมี แล้วแต่เธอออกแบบเลย พยายามทำพวกห้องพวกอุปกรณ์อะไรให้เป็นแบบไม่ถาวรนอกจากหลังคากับตัวร้าน ให้เป็นแบบถอดเปลี่ยนได้จะได้ไม่เสียค่าเปลี่ยนอะไรมาก”
บุญมีกับบุญมาจดทั้งหมดที่ผมบอกอย่างละเอียด
“เน้นทำร้านของที่เรามีก่อน ส่วนร้านที่จะเพิ่มมาเยอะเราจะค่อยๆทำไป ต่อเติมเพิ่มร้านเพิ่มสถานที่ไว้เยอะๆ มันที่มันจะเหลือค่อนข้างเยอะ เราจะใช้พื้นที่แค่ 20% ส่วนที่เหลือรอเติม งบ 100,000 ทอง เอาสีไฟน่าเดิน เท่านี้แหละที่ต้องไปสร้างก่อน”
บุญมีเอากระดาษอีกแผ่นมาจดที่ผมบอก
“น่าจะเสร็จสิ้นปีถ้างบเยอะขนาดนี้ เราใช้คนเยอะได้”
“อืม เยี่ยม ของานละเอียดอยู่ได้ทนนาน ดูโปร่งๆ หลังคาเอาเรียบๆพร้อมต่อเติม ไม่ต้องลวดลาย ทำชั้นเดียวก่อน ด้านหน้าเป็นกระจกเห็นร้านอาหาร”
“ครบแล้วมั้ย วารี?”
“ครบแล้วแหละ”
พี่วาโรมาที่ห้องรับแขกโรงแรมอีกครั้งพร้อมจดหมาย 2 ฉบับ
มันเขียนข้างหน้าว่า ราชินีวล็อดซีเมียถึงโฮเบริม
โฮเบริมเป็นใคร? อาจเป็นคนที่ดูแลวาโรซีเมียเรียอยู่ตอนนี้ที่เธอมาพักร้อนยาว
ผมต้องขอบคุณเขาด้วยที่ให้เวลาเธอพัก และสุดท้ายชะตาเราสองคนมาบรรจบกัน
“เอาไปคนละฉบับยื่นให้ยามวังข้างหน้า แล้วบอกว่าจากราชินีวล็อดซีเมีย”
วาโรบอกพวกเราและยื่นจดหมายให้บุญมีกับบุญมา
“ขอบคุณที่สละเวลาให้คนอย่างเรา”
“ใช่ครับ องค์ราชินี”
บุญมีขอบคุณวาโรด้วยหน้าตาที่ยังดูประหม่าอยู่และบุญมาเห็นด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงของบุญมา เขาเป็นคนพูดน้อยมาก
คราวนี้เขาคงเจอคนใหญ่คนโตแล้วประหม่า
ผมให้ใบเบิกเงินกับบุญมีและบุญมา
“พร้อมเมื่อไหร่ออกเดินทางได้เลย”
“ถ้าอย่างนั้น เราไปเตรียมกระเป๋าเดินทางและพร้อมเดินทางวันนี้เลย”
หน้าเธอดูพร้อมออกทำงานต่างชาติแล้ว
“ขอบคุณ”
“เรื่องธรรมดาน่า”
เธอทำมือปัดเหมือนเป็นเรื่องเล็ก
“ขอถามอย่างนึงวาโร”
“ว่าอะไรวารี?”
“ที่วาโรซีเมียเรียมีซ่องมั้ย?”
เมื่อผมถามเธอ เธอทำหน้าเหมือนสงสัย
“มีอยู่ในประเทศ แต่ไม่มีแถววังหลวง ฉันไม่ได้ห้าม แต่ก็ไม่ได้สนับสนุนเหมือนกัน”
“อย่างนั้นเหรอ”
เมื่อผมได้ยินคำตอบจากเธอ ผมตัดสินใจเรื่องที่ต้องคุยกับท่านหญิงเสือดำ
“ไปล่ะ”
“แล้วเจอกัน”
ผมลาเธอแล้วเราจูบกันเบาๆ ก่อนแยกย้าย
เมื่อออกมาเราแยกรถ บุญมีกับบุญมาจ้างรถฟาเนิคไปบ้านใหญ่ ส่วนผมไปดงเสือดอกเล่นน้ำ
เมื่อเข้ามาหลายคนจ้องผม และมีพนักงานกลุ่มหนึ่งมาหาผม
“คุณวารี เราจะปิดร้านแล้วเหรอ? หนูต้องพาครอบครัวหนูไปด้วย ไม่มีใครดูป้าหนูเลย”
“คุณวารีคะ เราย้ายไปด้วยได้มั้ย หนูต้องสมัครเข้าใหม่มั้ย?
“คุณวารีครับ ผมห่วงเรื่องการสมัครที่ได้ข่าวว่ามันยากขึ้นทุกวัน เราไม่อยากเสียงานนี้ไป”
“คุณวารีเจ้าคะ ดิฉันไปด้วยได้ค่ะ ดิฉันโสด”
เหล่าพนักงานต่างพูดความกังวลของตัวเอง
“เขียนจดหมายเรื่องที่กังวลมาแล้วยื่นให้หัวหน้าแผนก ระบุชื่อ, ตำแหน่ง, ทีม, และที่อยู่ มาให้หัวหน้าแผนก เขียนให้ละเอียดฉันจะหาเวลาตอบให้ ส่วนเรื่องที่นี่จะปิดมั้ย ตอนนี้ฉันตอบไม่ได้ เพราะฉันกำลังจะไปยื่นลาออก”
“มันกำลังดีอยู่แล้วทำไมทิ้งบ้านเกิดหนูไปล่ะคะ?”
คนข้างหลังยกมือแล้วพูดเสียงดัง พนักงานทั้งหลายต่างพยักหน้าและพูดใช่ๆให้ได้ยินดังๆ
ผมเดินไปหาเธอ และพนักงานหลบทางให้ผม
ผมไม่ได้บอกให้ทุกคนมาคำนับนอบน้อมผม
แต่คนส่วนใหญ่ก้มคำนับแล้วหลบทางแยกเป็นวง
เมื่อผมจับไหล่เธอมั่นและหายใจเข้าลึกๆ
“ฉันเจอความเป็นไปได้ที่ความรักจะเกิด ฉันจะไม่ทิ้งโอกาสแบบนั้นไป ทุกคนรู้ว่ารักแท้ฉันมีวีกับวิว เรื่องนั้นทุกคนรู้หมด แต่นาก็ซี้ฉัน และราชินีวล็อดซีเมียเรียก็จะคบเป็นแฟนกันสิ้นปีนี้ ฉันรู้สึกได้ เวลาที่ฉันได้อยู่กับเธอมันรักแท้ ถ้าเธอต้องกลับแล้วฉันต้องทำงานที่นี่ต่อแบบเสียคนรักไป ฉันทนกับตัวเองที่ตัดสินใจอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าพวกเธอมีคู่แท้ แต่งแล้ว อยู่กันนานแล้ว มีลูกแล้ว เขียนเรื่องราวดีๆมาได้เลย ฉันจะออกงบเดินทางให้”
ผมพูดไปยาว
“ตอนนี้มันมีอยู่สองอย่าง เรื่องบ้านให้พนักงานที่จะย้ายครอบครัวไปอาจมี แต่ฉันต้องเตรียมหลายอย่างเหมือนกัน งบฉันเลยจำกัด เอาล่ะ ช่วงนี้ทำงานต่อ แล้วคิดหรือเขียนมาดีๆ ฉันจะไม่ทิ้งใครซักคนที่พิงหลังฉันเพื่อใช้ชีวิตไปเดินเดียวแล้วให้พวกเธอล้มหน้าฟาด ฉันรับปากได้ด้วยงบที่เหลือ”
ทุกคนหันหน้าไปสุมหัวกันพูดเบาๆ แต่ผมได้ยินว่าพูดเรื่องที่งบเราเยอะมากๆเกินธรรมดาเยอะอลังการ
ทุกคนคุยกันเสียงดังขึ้นแล้วสรุปกันด้วยหน้าตามุ่งมั่นมีไฟ
“ขอบคุณทุกคนที่ทำงานหนัก จะไม่มีเสียงใครตะโกนหาดังแล้วไม่ถึง แจ้งข่าวไปให้ทุกคนรู้”
ทุกคนพยักหน้ารับปากแล้วกลับไปทำงาน
ผมขึ้นไปหาท่านหญิงเสือดำ
เมื่อเจอหน้าผมพี่เดนีโรเหมือนมีเรื่องจะพูด
“จะลาออกแล้วเหรอ แล้วร้านจะเป็นไง? เสือ- ท่านหญิงเสือดำโมโหมาก”
“ใช่ครับพี่ แต่ร้านยังไม่รู้ คนของเราไม่ค่อยมี”
เมื่อผมตอบ พี่เดนีโรจ้องหน้าผม
“มีอะไรไม่พอใจเหรอ?”
“ตั้งแต่มาไม่มีเลยครับ ขอไปลาออกได้มั้ยครับ?”
พี่เดนีโรเอียงหัว
จากนั้นเขาเปิดประตูเงียบๆ
ผมเดินเข้าไปห้องทำงานเรียบๆหรูๆ
ท่านหญิงเสือดำกอดอกคิ้วขมวดอยู่ และเมื่อเห็นผมเธอเดินมา
จากนั้นเธอแก้ผ้าผมหมดอย่างเร็ว เธอแก้ผ้าอย่างเร็วหลังจากนั้นแล้วจะขึ้นขี่ผม
ผมอุ้มเธอขึ้นแล้วเธอตาเปิดกว้างเหมือนคาดไม่ถึง ผมวางเธอที่โต๊ะและเอาแรงๆจนโต๊ะเลื่อน
ผมกับเธอสุดพร้อมกัน
ผมปล่อยใน ไม่ใส่ถุง
เธอเอาผ้าเช็ดน้ำที่ออกแล้วเปิดลิ้นชักหยิบอุ้ยมวน จากนั้นเธอจุดไฟดูด
ผมทำไฟแช็กแบบไฟแช็กเหล็กไร้มลทิลกับแอลกอฮอล์ มันขายดีอยู่
และที่ท่านหญิงใช้เป็นสลักเสือเผาสีดำใส่ให้สีไม่ลอก
เธอนั่งแหกขาให้เห็นน้ำไหลและนั่งแบบเอาศอกวางบนเข่าหลังค่อมดูดอุ้ย
จะว่าเซ็กซี่มันก็เห็น แต่ท่านั่งเอาสบายคนนั่งมากกว่าให้คนดู
แต่ผมไม่มีปัญหา
“ผมมาลาออก”
“ฉันได้ข่าวแล้ว”
ผมพูดแล้วเธอสวนมา
“พี่ให้มั้ย?”
“มาเป็นมือซ้ายของฉันมั้ย? ส่วนแบ่งดงเสือดอก 5% เก็บฮาโมนี่ลดลงเหลือ 20%”
เมื่อผมพูดขอเธอ ท่านหญิงจะเลื่อนตำแหน่งให้ผม
แต่ผมส่ายหน้าแบบไม่คิด
“ผมรักษารักครับ”
“แต่เราก็เอากันทุกครั้งนี่?”
เธอพูดตรงๆเมื่อผมพูด
“ท่านหญิงเสือดำไม่ได้รักผม ผมเป็นได้แค่ลูกน้องพี่ ไม่ใช่ผัวพี่ที่แหกตรงนั้นเด้าสุดแรงเกิดแล้วปล่อยในได้”
ท่านหญิงเสือดำจับคางแล้วเหมือนกำลังนึกภาพอยู่
“เฮ้อ เธอนี่มันหาเรื่องปวดหัวจริงๆเลย เอาเสื้อผ้าฉันมา”
ผมไปหยิบเสื้อชิ้นเดียวของเธอที่อยู่ข้างหลัง
ผมเอาเสื้อวาบหวิวมายื่นให้เธอ
“ใส่”
เธอสั่งผม
ผมใส่เสื้อเธอกลับไปที่เธออย่างระวังเหมือนกำลังเอาแหนบคัดพลอยคีบเกสรดอกไม่แบบที่ไม่ให้ดอกไม้ช้ำ
ผมใส่เสร็จเธอมองหน้าผมแล้วพ่นอุ้ยใส่หน้าผม
ผมยื่นมือไปขอดูดด้วย
เธอดูดเข้าปากคำใหญ่แล้วมาจูบไปพ่นไปใส่ปากผม
จากนั้นเเราแลกลิ้นกันแบบควันออกปาก
“ฉันจะไม่ปิดฮาโมนี่ กำไรขนาดนี้ ฉันปล่อยหลุดมือไปไม่ได้ นั่นงานสุดท้ายของน้อง”
เธอสั่งผมและกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเอง
“ไปวันไหน จะยังผลิตของเล่นให้ฉันได้มั้ย?”
“ของเล่นเดี๋ยวผมจะผลิตขายส่งเอาแต่ทุนให้ ท่านหญิงแค่บอกจำนวนห้องที่จะใช้เหมือนเคย ส่วนฮาโมนี่ จะมีผลิตขายปีหน้า มันจะไม่ได้เป็นแค่ของดงเสือดอกเล่นน้ำอย่างเดียว”
“จึ แล้วไปวันไหน?”
เมื่อผมพูดยาวเธอเหมือนหงุดหงิดที่ผมตอบไม่ตรงคำถาม
“วันที่ 1 เดือน 12 ครับ”
เธอเดินไปหยิบกระดาษมาจด
“ทำไมวันนี้ทำดี? แล้ววันอื่นธรรมดาสุดๆ”
“ผมอยากให้ท่านหญิงสนุกบ้างผมเลยเลิกเกรงซักวัน”
“มันดีที่สุดตั้งแต่มา นกรักส่วนตัวที่เราคุยกันให้เอาติดไปด้วย ฉันจะเอามันไว้ในห้องนี้”
เธอถามผมแล้วเมื่อผมตอบเธอสั่งผมแบบขมวดคิ้วกลัวผมทำไม่ได้
“แน่นอนครับว่าทำได้”
ผมตอบให้เธอแน่ใจ
“ดีมาก งานดงไม่ต้องทำแล้ว เน้นกับการหาคนมาดูฮาโมนี่ต่อ”
“ครับ ขอบคุณที่ได้ร่วมงาน”
ผมเดินไปหาโต๊ะแล้วยื่นมือจะไปจับมือ ผมยืนอยู่หน้าโต๊ะเธอ
เธอปัดมือผม เท้าโต๊ะแล้วยืดหน้าข้ามโต๊ะมา
เราจูบปากแลกลิ้นกันจนน้ำลายหยดใส่โต๊ะ
เธอจูบไปเช็ดโต๊ะไป
เมื่อเสร็จเธอกลับไปนั่งที่เธอ
“แบบนี้ดีกว่าน่า เรายังอยู่กันอีกครึ่งปี ฉันว่าจะไปเปิดซ่องที่วาโรซีเมียเรียอยู่”
“เราได้ที่แถววังหลวงที่คนเยอะ พี่สนใจเปิดสาขามั้ยล่ะ?”
เมื่อผมเสนอ เธอทำหน้าคิดหนัก
“สาขาคือ?”
“มันเป็นร้านที่ขายเหมือนกันกับที่นี่ทุกอย่าง คุณภาพ ความรู้สึกเดียวกันหมด”
ผมเอาแผนที่ที่วาโรวาดให้ท่านหญิงเสือดำดู
“นี่วังหลวง นี่เมืองที่คนเยอะ แล้วนี่ร้านผม ถ้าท่านหญิงเปิดร้านข้างกัน มันจะอยู่ใกล้กันเหมือนเดิม”
“อย่างนั้นเหรอ มันน่าสนใจ ลงมือหาคนดูที่นี่ต่อและหาคนเปิดสาขาเหมือนที่เสนอ ไม่ต้องห่วงเรื่องที่ ฉันจะเช่าเอา ยังไม่ซื้อ”
“แล้วแต่ท่านหญิงครับ อีกอย่าง ผมต้องไถ่ตัวพี่อายะ”
“อายะเหรอ?”
เธอดูแฟ้มเอกสารข้างหลังแล้วเปิดตัวหนีบเอากระดาษที่มีหัวกระดาษเขียนว่าอายะมา
“นี่รายละเอียดกับจำนวน มัน 2,000 ทอง”
ผมเขียนและเซ็นใบเบิกเงินทันที
“ผมขอไถ่ตัวเธอครับ”
“ฉันต้องถามความเต็มใจเธอก่อน”
“ไม่มีปัญหาครับ ถ้าอย่างนั้น ผมไปก่อนนะครับ”
“อืม”
ผมขอไถ่ตัวเธอและท่านหญิงเสือดำบอกว่าต้องรอถามความเต็มใจ
เมื่อผมขอตัวหลังจากนั้น เธอตอบรับหลังผมลาแล้วออกห้อง
ผมยืนหน้าประตูแล้วพี่เดนีโรมองมาแล้วยิ้มๆ
“ดีมากเจ้าหนุ่มปี๊สๆ”
พี่เดนีโรก็รู้จักฉายาผม
ผมเดินหาลูกน้องท่านหญิงที่คาเฟ่ ผมอยากได้ตัวเล็กๆ
ผมเจอคนหนึ่งตัวเล็กมากๆ ทั้งตัวเธอน่าจะสูงเท่าไหล่ผมและโครงร่างกายเธอเล็กหมด
เธอหน้าสวยผมฟ้าอ่อน เธอแต่งตัวแนวยั่วยวน ผมเคยเห็นนิสัยเธอบ้าง เธอเป็นคนถึงเนื้อถึงตัวจับตัวลูกค้าตลอด แต่วิ่งออกหลังจากเข้าไปทุกครั้ง
เธออายุ 18 และตั้งแต่เธอมา เธอไม่ได้ลูกค้าเลย
“ผมวารี ผมสนใจคุณ”
“อุ้ย แค่ก! แค่ก! แค่ก! ว้ายน้ำหก”
ชาไข่มุกหกใส่โต๊ะเลอะไปหมด พนักงานมาเช็ดอย่างเร็วแล้วเก็บไปหมด
“หนูราฟเนส หนู 18 เพิ่งมา แต่ทำงานพิมพ์ถุงอูริจิตั้งแต่ 15-18 หนูยังซิงอยู่นะ มันแค่แพงกว่าปรกตินิดหน่อย แต่หนูให้ความรู้สึกเหมือนแฟนได้”
“อยากเป็นเมียเก็บใครซักคนมั้ย? อยู่ดีกินดีไม่ต้องทำงาน”
“ฟังดูดีนะ แต่อย่างหนูท่าทางยาก”
เมื่อเธอตัดพ้อตัวเองหลังผมพูดผมตัดสินใจ
“ฉันจะซื้อเธอออก เราจะไปวาโรซีเมียเรีย สนใจมั้ย? ทุกอย่างไม่เสียอะไร แต่สัญญาว่าจะเป็นเมียของฉัน”
“เธอมีเมียอยู่แล้วนี่? ไม่พูดแล้ว! เดี๋ยวเธอเปลี่ยนใจ เอาๆ ฉันเอาด้วย ไปหาท่านหญิงกัน”
เธอเดินโอบเอวผมแล้วซบไหล่ผมด้านข้างเพราะเธอสูงไม่พอ
เราเดินกันแบบนี้ไปหาท่านหญิง
พี่เดนีโรทำหน้าตาสงสัย
อาจเป็นเพราะเขางงที่ทำไมมาอีก
เมื่อพี่เดนีโรให้เข้าห้อง
“ท่านหญิงครับ ไถ่เธอออกเท่าไหร่?”
ท่านหญิงไปหยิบแฟ้มและเอากระดาษออกมาหนึ่งแผ่นหลังผมถามแล้วเปิดดู
“นี่รายละเอียดกับราคา”
ผมดูรายละเอียด มันมีเขียนอยู่หลายครั้งว่าดาวรุ่ง
แต่เธอไม่มีลูกค้าเลยนี่?
มันเขียนอยู่ว่า 5,000 ทอง
ราคามันแพงมาก แต่น่าจะเพราะเธอเด็กและดาวรุ่ง
ผมเขียนบิลเบิกเงินตามจำนวน
เมื่อเราออกมาเธอทำท่าขอจูบ
“เสี่ยเป็นของจริงของหนู”
“เรียกฉันพี่เถอะ ไว้ก่อน ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่ชอบแล้วกลับไปพักบ้านใหญ่”
เมื่อเธอบอกแล้วผมบอกเธอ ผมให้เธอไป 1,000 ทอง แล้วจูบเธอแค่เบาๆ
จากนั้นเธอวิ่งถือบิลไป
ดูร้านฮาโมนี่แล้วนั่งคิดเรื่องที่ต้องทำ
ผมต้องเตรียมทีมคนมาทำฮาโมนี่ต่อ
วีกับวิวมาพร้อมนา
“วารีจะเอาไงต่ออ่ะ พอไม่มีงานแล้วไม่รู้จะทำอะไรเลย?”
“เดี๋ยวฉันหาอะไรให้ทำวิว ที่ดีสำหรับเธอกับวี”
เรานั่งคุยกันจนประชุม
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ตอนนี้เปิดให้อ่านฟรี 90 วัน ขอเชิญโดเนทสนับสนุนผู้แต่ง แต่รูปแบบ Ebook มีราคาไม่แพง ขอบคุณมากครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: https://x.com/wayutl
https://facebook.com/100087843892571/