การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 636 สร้างครอบครัว (2)
บทที่ 636 สร้างครอบครัว (2)
บทที่ 636 สร้างครอบครัว (2)
เฮ่อเจียรุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มทันที “ถ้าอย่างนั้นให้เจ๋อหยวนร้องกับเสี่ยวเยี่ยดีไหม” วันนี้เขารับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กับโม่เจ๋อหยวนก็ถือว่าเป็นฝ่ายเจ้าบ่าว อีกอย่างเขาก็ไม่ใช่คนที่ต้องร้อง บวกกับอยากจะฟังโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานร้องเพลงด้วย
“เอาอย่างนั้นก็ได้”
พวกเธอที่อยู่ด้านในยิ้มพลางพยักหน้ารับ
เฟิงเยี่ยหานอดไม่ได้ที่จะเหลือบสายตามองโม่เจ๋อหยวน ตอนแรกเขาไม่จำเป็นต้องร้องด้วยซ้ำ แต่เพราะวันนี้โม่เจ๋อหยวนถือว่าใหญ่สุด ดังนั้นเขาจึงยอมร้องเพลงเถียนมี่มี่ด้วยกันกับโม่เจ๋อหยวน
“เพราะมาก”
ทุกคนไม่คิดว่าโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานจะร้องเพลงเพราะได้ขนาดนี้ ดังนั้นถังเซวี่ยที่อยู่ด้านในจึงเปิดประตูให้เขา
“ซวงเอ๋อร์…”
เมื่อประตูเปิดออกโม่เจ๋อหยวนก็รีบเดินเข้าไปข้างใน ชั่วพริบตาเดียวเขาก็มองไปเห็นถังซวงนั่งรออยู่ แววตาของเขาเป็นประกาย “ซวงเอ๋อร์ ฉันมารับเธอแล้ว”
ถังซวงเห็นโม่เจ๋อหยวนก็ยิ้มให้เขา วินาทีที่พวกเขาสบตากันนั้นราวกับว่าในอากาศเต็มไปด้วยความหอมหวาน
หลังจากที่เจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวแล้ว ทุกคนก็ส่งเจ้าสาวออกไปด้านนอกพร้อมกันด้วยความครึกครื้น
หลังจากที่ขบวนต้อนรับออกเดินทาง ถังหลานและจิงเจ้อหรงก็ร้องทักคนอื่น ๆ ให้ไปที่โรงแรม ภายในโรงแรมทั้งสองครอบครัวจัดเลี้ยงฉลองกันอย่างคึกคัก
หลังจากที่ถังซวงตามด้วยโม่เจ๋อหยวนมาถึงโรงแรม พวกเขาก็ยุ่งอยู่ตลอด ส่วนพวกจิงเจ้อหรงและถังหลานที่ตามมาทีหลังก็รอต้อนรับแขกอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของโรงแรม พร้อมด้วยโม่ถิงฮวาและหลินเหม่ยเจิน
“จิงเจ้อหรง เดี๋ยวพวกเราไปดื่มกันสักแก้วนะ”
โม่ถิงฮวาปลีกเวลาหันไปกล่าวเชิญจิงเจ้อหรงให้มาร่วมดื่มด้วยกัน
จิงเจ้อหรงได้ยินก็พยักหน้าทันทีและกล่าวว่า “ได้ครับ”
ในวันนี้ทั้งสองครอบครัวได้กลายเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วอย่างแท้จริง
เมื่อแขกทุกคนมาถึงพิธี งานแต่งงานก็เริ่มขึ้น
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนเดินไปข้างหน้าสุดและประกอบพิธีการแต่งงานจนเสร็จ พอจบพิธีทั้งสองคนก็มองหน้ากันอย่างลึกซึ้ง
เมื่อคนด้านล่างเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนและถังซวงมองกันด้วยสายตาลึกซึ้ง ก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือ และตะโกนโห่ร้องให้พวกเขากอดกันและกัน
ถังซวงได้ยินเสียงเซ็งแซ่จากด้านล่าง ก็รีบหลบสายตา หลังจากนั้นก็หันไปกล่าวกับโม่เจ๋อหยวน “พวกเราต้องไปคารวะเหล้ากันแล้วใช่ไหม”
“ใช่”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้ายิ้ม ๆ หลังจากนั้นจึงพาถังซวงไปคารวะเหล้าด้วยกัน
แขกที่มาในงานวันนี้นั้นเยอะมาก กว่าที่พวกเขาทั้งสองคนจะคารวะเหล้าเสร็จ ก็ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว
“ซวงเอ๋อร์ เธอไปทานอะไรสักหน่อยเถอะ”
โม่เจ๋อหยวนรู้สึกสงสารถังซวง จึงรีบพาเธอไปที่โต๊ะเจ้าภาพ
ถังซวงหิวมาก ๆ พอจับตะเกียบได้เธอก็รีบจ้วงเข้าปากทันที โม่เจ๋อหยวนทานเป็นเพื่อนเธอเล็กน้อย แต่ผู้เฒ่าโม่และผู้เฒ่าจิงก็ยังชวนเขาดื่มเหล้าเพิ่มอีกแก้วสองแก้ว ดังนั้นหลังจากที่เขาทานข้าวไปได้แค่สองคำก็ต้องเดินออกไปพร้อมกับแก้วเหล้า
ถังเซวี่ยและถังชุนหยานเห็นว่าถังซวงทานไวมาก จึงรีบเติมข้าวให้เธอหนึ่งถ้วย
“พี่ค่อย ๆ ทานนะ”
ถังซวงอิ่มหลังจากทานข้าวไปแล้วสองชาม “พวกเธอก็ทานด้วยสิ ไม่ใช่เอาแต่มองฉัน”
“ค่ะ”
ถังเซวี่ยและถังชุนหยานเองก็หิวจนแทบแย่ ดังนั้นพวกเธอจึงเริ่มทานบ้าง
ในขณะนี้เองเฉินกวงหยางและคนอื่น ๆ ก็เข้ามา “น้องสาว ยินดีกับเธอด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่เฉิน”
เปาลี่ผิงและเฟ่ยไห่ชางก็ตามมาแสดงความยินดีด้วย แต่หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเสร็จและพูดคุยกับถังซวงสักพักก็เตรียมตัวกลับ
เฉินกวงหยางเดินมาเป็นคนสุดท้าย เขาพูดกับถังซวงอย่างอดไม่ได้ “น้องสาว ถ้ามีเวลาก็ไปหาผู้เฒ่าฉีหน่อยนะ งานครั้งนี้เขาอยากจะมามาก เสียดายที่อายุมากแล้ว เดินทางไปมาไม่ไหว”
ถังซวงได้ยินก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ค่ะ เดี๋ยวปลายปีฉันจะไปเยี่ยมท่านนะ”
เฉินกวงหยางได้ยินก็รู้สึกดีใจมาก “ผู้เฒ่าฉีรู้คงดีใจมากแน่”
ทั้งสองคนพูดคุยกันได้สักพักหนึ่ง เฉินกวงหยางก็จากไปพร้อมกับเปาลี่ผิงและคนอื่น ๆ
วันนี้ผู้อาวุโสจูเองก็มาด้วย เขาหาโอกาสพูดคุยกับถังซวงได้สองสามคำ และก็ล้วนเป็นคำชมทั้งสิ้น เมื่อเขาพูดคุยกับผู้เฒ่าจิงได้สักพักก็กลับไป
หลังจากที่ทุกคนเฉลิมฉลองกันเสร็จเรียบร้อยก็ทยอยกันกลับ
เมื่อถังซวงและโม่เจ๋อหยวนรอผู้อาวุโสทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ยกน้ำชาให้ทีละท่าน จากนั้นจึงเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีงานแต่ง
“ซวงเอ๋อร์ ลูกกับเจ๋อหยวนอยู่ด้วยกันสองคน ก็ทานข้าวให้ตรงเวลาด้วยนะ หรือถ้าไม่อยากทำกับข้าวก็กลับมาทานที่บ้านก็ได้นะลูก” เมื่อนึกได้ว่าลูกสาวคนโตจะต้องกลับบ้านไปพร้อมกับโม่เจ๋อหยวนแล้ว สีหน้าของถังหลานก็เต็มไปด้วยความอาวรณ์
จิงเจ้อหรงก็เช่นกัน แต่ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว ถังซวงก็ต้องอยู่ด้วยกันกับโม่เจ๋อหยวน ดังนั้นหลังจากเขาเอ่ยเชิญ ก็ปล่อยให้ทั้งสองกลับไป “วันนี้พวกลูกคงเหนื่อยกันมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะลูก”
โม่เจ๋อหยวนโค้งคำนับให้จิงเจ้อหรงและถังหลานอย่างสุดตัวและกล่าวว่า “พ่อครับแม่ครับ ผมจะดูแลซวงเอ๋อร์เป็นอย่างดีแน่นอน พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วง”
“อืม พวกเราเชื่อในตัวลูกนะ”
โม่เจ๋อหยวนได้ยินก็ยิ้มออกมา ก่อนที่จะจับมือถังซวงเอาไว้ เขาเอ่ยลาหลินเหม่ยเจินและคนอื่น ๆ สุดท้ายจึงกลับไปยังห้องบ่าวสาว
“ซวงเอ๋อร์ ภรรยาของฉัน”
หลังจากที่ทั้งสองกลับไปยังห้องบ่าวสาวที่ตกแต่งอย่างสวยสดไว้นานแล้ว โม่เจ๋อหยวนก็อุ้มเธอไปที่ห้องนอน
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะลูบไหล่ของโม่เจ๋อหยวนและพูดว่า “อาหยวน พี่ทำอะไรน่ะ รีบปล่อยฉันลงเร็ว”
แต่โม่เจ๋อหยวนก็ไม่ได้ปล่อยถังซวงลง มิหนำซ้ำยังอุ้มเธอเอาไว้ตลอดและพาไปที่เตียง “ซวงเอ๋อร์…”
ถังซวงเห็นสายตาร้อนแรงของโม่เจ๋อหยวน ก็พอเดาได้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น แก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างอดไม่ได้
โม่เจ๋อหยวนจินตนาการถึงภาพเช่นนี้ในใจมานานแล้ว ในตอนนี้เขามองถังซวงซึ่งมองตนด้วยความแพรวพรายแล้วจึงปิดไฟในทันที