[โนอาร์] เทพเจ้ามีชีวิตของเผ่ามนุษย์สัตว์ ผู้ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของศาสนา [โนอาร์]
เขาคือใครกัน?
หากจะกล่าวถึงประวัติของเทพเจ้าองค์นี้ คงต้องขอย้อนความกลับไปถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงของเผ่ามนุษย์สัตว์—
[ฉันขอสรุปสั้น ๆ ในไม่กี่บรรทัดค่ะ (•ิ_•ิ) ]
—เฮ้ย?
[คือดาวบ้านเกิดเผ่าฉัน [เผ่ามนุษย์สัตว์] ได้เกิดเหตุการณ์ดาวแตก จนต้องสร้างยานอพยพหนี แต่ยานที่ว่าดันแตกจนตายห่านกันยกเผ่า แล้วต้องให้คนที่รอดชีวิตมาสร้างขึ้นมาใหม่ ด้วยเทคโนโลยีสร้างคิเมร่า เป็นเหตุให้เผ่ามนุษย์สัตว์มีเลือดสีน้ำเงิน – ฟ้า ส่วนฉันที่เป็นเผ่ามนุษย์สัตว์ดั้งเดิมนั้น จะมีเลือดสีแดงค่ะ (/•ิ_•ิ) /]
—เดียวสิ ลาพิส…
[ส่วนสาเหตุที่พวกมนุษย์สัตว์มาอยู่บนดาวดวงนี้ ก็แค่ว่ายานที่แตกนั้นมันมาตกบนดาวที่พวกเราสร้างขึ้นมาโดยบังเอิญเท่านั้นเอง ส่วนโนอาร์เป็นแค่หุ่นยนต์มีชีวิตที่เกิดจากการอัพโหลดสมองของนักวิทยาศาสตร์ในช่วงเวลานั้น เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตเป็นอมตะ พอเวลาผ่านไปเป็นพัน ๆ ปี เลยเกิดอาการทางจิตที่ตีกันเองจนมีบุคลิกผิดเพี้ยนค่ะ (•ิ_•ิ) ]
—เธอ… มาจากรูไหนกลับไปที่รูนั้นเดียวนี้เลยนะ!
[ไม่หยุดค่ะ— แล้วที่พวกเผ่ามนุษย์สัตว์ในปัจจุบันนับถือโนอาร์เป็นเทพเจ้า ก็แค่เพราะว่าเข้าใจผิดว่าเป็นผู้สร้างตัวเองขึ้นมา เลยนับถือกันไปเองค่ะ (/•ิ_•ิ) /]
—หน้าที่อธิบายความเป็นมา มันควรจะเป็นหน้าที่ของผม ผู้บรรยายต่างหาก!
[อย่าทำเป็นงกไปหน่อยเลย บทฉันหายไปยาว ๆ คงต้องขอพื้นที่แสดงตัวบ้างสิ? อีกอย่าง คุณนะชอบเล่ายืดยาวน่ารำคาญ เพราะงั้น เอาเป็นว่า ฉันขอตัดจบประวัติที่มาของโนอาร์แต่เพียงเท่านี้ ถ้าอยากรู้เพิ่ม ขอเชิญไปอ่านภาคเก่า ๆ ได้ในนิยายภาค [Pioneer Era] ค่ะคุณผู้มองดูทุกท่าน (ᗜˬᗜ) ]
—เดียว!? อย่าพึ่งตัดบทของผมไปดื้อ ๆ แบบนี้สิ! เฮ้ย!? เดียวก่อน!!
***ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน***
“คุณ—”
“โนอาร์!!”
คนตรงหน้า คือใบหน้าของโนอาร์ หุ่นยนต์ผู้อ้างตัวเป็นเทพสูงสุดของเผ่ามนุษย์สัตว์
ข้าน้อยรีบนำมือแตะถุงน่องขวา เพื่อเตรียมคว้ามีดเลเซอร์เตรียมต่อสู้
ข้าน้อยไม่รู้หรอกว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ เวลานี้
แต่ที่ข้าน้อยรู้อย่างหนึ่ง
คือยัยนี่เป็นมารร้าย ที่บังอาจส่งคนมาลักพาตัวเหล่าเด็ก ๆ ของข้าน้อยไป!
“อันตรายครับท่านโนอาร์!”
สองคู่หูไซบอร์ก มนุษย์กอลิล่ากับมนุษย์หมีหัวแดง ทั้งคู่ต่างกระโจนใส่ข้าน้อยพร้อมกัน
ในมือที่ถูกประกอบขึ้นด้วยเหล็กกล้าสีดำสนิท กำลังเรืองแสงสว่างที่ถูกหุ้มด้วยพลังงานไฟฟ้าแรงสูง
ขนกายลุกซูตั้งชันขึ้นสูง เพราะแรงไฟฟ้าสถิตที่ไหลผ่านในอากาศ
เวลาเสมือนถูกหยุดนิ่ง
ข้าน้อยใช้สัมผัสที่ว่างและวิญญาณรับรู้เส้นทางการจู่โจม
สองขาตอบโต้ขับดันมวลกล้ามเนื้อ พุ่งกระโดดถอยหลังผ่านบานประตูไม้
สองมือชักใบมีดเลเซอร์ ออกแรงเหวี่ยงขว้าง เล็งเป้าหมายไปที่รอยต่อแขนกล
มีดเลเซอร์วิ่งตัดอากาศเป็นเส้นตรง กำลังส่องแสงสีแดง ขีดฆ่าที่ว่างหมายจะแยกโลกให้เป็นสองเสี่ยง
“กระจอกน่า!”
“ห่วยแตก!”
ฉับพลันนั้น สองไซบอร์กได้กางโล่แสงทรงกลมขึ้นด้วยแขนกลของมัน
สองสิ่งวิ่งปะทะ บังเกิดเป็นแสงพลังงานขั้วตรงข้ามที่กำลังแตกประจุหักล้าง
ใบมีดเลเซอร์ทำมือราคาถูกของข้าน้อย ถูกโล่พลังนั้นดันกระเด็นออก
“ชิ!!”
ข้าน้อยชูมือสองข้างขึ้น พร้อมกับกางออกเพื่อเผยปุ่มเม็ดสีแดงขนาดเล็กที่นำมาติดตอนชักมีด
แสงสีแดงจักเรื่องรองขึ้นจากฝ่ามือ เกิดเป็นประกายเส้นด้ายสายฟ้าฟาดสีแดง วิ่งตรงไปที่ด้ามมีดทั้งสอง
“หืม!? ”
“อันตราย!”
สองไซบอร์กต่างรีบก้มตัวลงเพื่อหลบมีดเลเซอร์ที่กำลังวิ่งย้อนกลับมาสู่มือของข้าน้อย
หลบได้…
ผู้คุ้มกันของเธอช่างมีวรยุทธ์ที่ร้ายกาจนัก
ถ้าสู้ตรง ๆ คงไม่ใช่วิธีที่ฉลาด
คงต้องล่อออกมา แล้วใช้ประโยชน์จากสวนข้างนอกในการเพิ่มมุมอับ เพื่อหาโอกาศเอาชนะพวกมัน
“แหม่ ๆ ใจร้อนจริงเชียวนะ [ซุนไกท์] [วานาดิไนต์] สมัยก่อนไม่ได้มีนิสัยแบบนี้ไม่ใช่หรือ? สงสัยคงเป็นเพราะผลกระทบจากการดัดแปลงร่างกายครั้งล่าสุดกระมั้ง? ”
ดูเหมือนว่าโนอาร์จะบ่นอะไรสักอย่างออกมา
แต่ข้าน้อยไม่มีเวลามาใส่ใจกับคำพูดไร้สาระของเธอในเวลานี้
ข้าน้อยวิ่งหนีไซบอร์กทั้งสองคนเข้าไปในสวนไร่ข้างหลัง
ต้นพืชสูงสามเมตรที่ดูคล้ายรวงข้าวโพด แต่ให้ผลเป็นก้อนอัดแป้งสีขาวนวล เริ่มเข้าถมทัศนวิสัย
อาจดูเป็นการกระทำที่โง่เขลา ที่เอาร่างกายซึ่งมีขนสีดำแซมมาซ่อนในมวลหมู่พืชสีขาว
แต่นี่คือวิธีการที่ดีที่สุดในการซ่อนหลืบเร้นกายของตัวเอง
ยามเมื่อสีดำกลืนหายไปในสีขาว เหล่าประชาจักมองตามหาแต่เพียงสีดำ
ข้าน้อยใช้แขนกระตุกเสื้อยืดของตัวเองสุดแรง
พริบตานั้น เสือยืดได้ถูกแหวกแยกออกเป็นผืนผ้าคลุมขาว
ผืนผ้าคลุมขาวนั้น ได้เข้าปิดบังปกคลุมกายาจนมิด
“เจ้าขนดำหายไปไหน!”
“ใช้ระบบจับคลื่นความร้อนไม่เจออีกต่างหาก!”
ไม่เพียงแค่บดบังปลายขนสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าน้อย แต่ผ้าคลุมสั่งทำตัวนี้ยังช่วยบดบังคลื่นความร้อนให้กับข้าน้อยด้วย
ปล่อยให้สายลมพัดผ่านข้างลำตัว
วางจิต ว่างเปล่า ตัวตนกลืนหาย
หนึ่งกาย หนึ่งจิตกายา หนึ่งอัตตา
“ข้าเริ่มชักหลอน ๆ แล้ววะ ซุนไกท์”
“นั่นสิ ข้าว่า… พวกเราอย่าตามยัยนั่นเข้าไปลึกมากกว่านี้เลย วานาดิไนต์”
กระต่าย ใครว่าคือสัตว์ผู้ถูกล่า
กระต่าย คือสุดยอดสัตว์แห่งนักล่าต่างหาก
ศัตรูกำลังหันหลังให้
ข้าน้อยมิอาจรอช้า
สองมือนักสังหารเผยตัวตนลงดาบ
พุ่งตัวปรากฏอย่างเงียบกริบไร้ตัวตน แล้ววาดคมมีดคู่ฟาดฟันใส่แขนศัตรู ประหนึ่งเป็นเพชฌฆาตรที่ลงดาบ—
” พอแค่นี้เถอะ เนี๊ยว~”
“!!!”
โนอาร์ เจ้าเครื่องจักรที่อ้างตัวเป็นเทพเจ้า กำลังมายืนขวางเส้นทางพิชิตศัตรูอยู่ตรงหน้าของข้าน้อย
เธอกำลังหยุด—
กำลังหยุดมีดเลเซอร์ทั้งสองเล่มของข้าน้อยเอาไว้ ด้วยเพียงปลายนิ้วแมวสองข้างของเธอเท่านั้น
“อึก!”
ข้าน้อยรีบกระโดดถอยออกมาตั้งหลัก
ช่างกดดัน
ทั้งที่มีร่างกายเล็กจ๊อย แต่กลับมีแรงกดดันเสมือนหนึ่งกำลังเผชิญหน้ากับภูผาที่มิอาจปีนข้ามพ้นผ่าน
“ไม่ต้องเครียดขนาดนั้น วันนี้ เราแค่อยากมาเห็น [เด็ก ๆ ของคุณเทเรซ่า] มันก็เท่านั้นเอง เนี๊ยว~”
เธอส่งยิ้มมาให้ข้าน้อย
หมายความว่ายังไง ที่บอกว่าเด็ก ๆ ของคุณเทเรซ่า?
“นักบวชสูงสุดแห่งวิหารเทพทั้งสาม คุณเทเรซ่า เราต้องขออภัยแก่ความเสียมายาทของคนคุ้มกันของเราด้วย เนี๊ยว~”
“ทะ— ทางฉันเองก็ต้องขออภัยเช่นกันค่ะ…”
” ไม่ ๆ เป็นทางเราต่างหากที่ผิดมารยาท เพราะเล่นมาเยี่ยมเยือนแบบไม่ได้นัดหมายล่วงหน้าเอาไว้ก่อน เนี๊ยว~”
เธอกำลังทำเสมือนว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ผิด
” ว่าแต่ท่านโนอาร์ คือว่าท่าน—”
” จุ ๆ เพราะมาแบบไม่เป็นทางการ เลยไม่อยากให้ใครรู้นะว่าเรามาที่นี่ อย่างที่บอก เราแค่อยากมาเห็นเด็ก ๆ ของคุณเทเรซ่า เพราะได้ข่าวว่าคุณเทเรซ่ามีวิธีเลี้ยงดูเด็กที่ดีเลิศยิ่งกว่าใคร เราเลยรู้สึกสนใจ แล้วก็อย่างที่คาด เด็กข้างในนั้น ทุกคนเป็นเด็กดีจริง ๆ เราชื่นชมคุณมากค่ะ คุณเทเรซ่า เนี๊ยว~”
เธอรีบตัดบทพูดของนักบวชเทเรซ่าด้วยรอยยิ้ม
แค่สนใจเลยมาดูอย่างไม่เป็นทางการ?
น่าสงสัยเจ้าค่ะ…
” ไม่ต้องต้อนรับอะไรทั้งสิ้น เดียวพวกเราจะไปแล้ว ไม่อยากรบกวนพวกคุณไปมากกว่านี้ วันนี้เราไม่เคยมาที่นี่ คุณเทเรซ่าเข้าใจความหมายนี้ใช่ไหมคะ? เนี๊ยว~”
“… ดิฉันเข้าใจค่ะ”
โนอาร์พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูอันตราย
เธอ… กล้าขมขู่แม้แต่กับนักบวชสูงสุดของศาสนาอื่นเลยอย่างงั้นหรือเจ้าค่ะ?
ถ้าอีกฝ่ายไม่เล่นด้วย นี่อาจกลายเป็นปัญหาระดับโลกเลยนะเจ้าค่ะ!
เธอคนนี้ กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่…
โนอาร์กับผู้ติดตามของเธอโค้งตัวลาพวกคุณเทเรซ่าโดยไม่พูดอะไร แล้วเดินตรงไปทางระเบียง โดยทำทีเสมือนว่าความวุ่นวายไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในชั่วขณะหนึ่งที่โนอาร์กำลังเดินผ่านข้างตัวของข้าน้อย —
” (หุ หุ หุ~ อย่ามองเราด้วยสีหน้าที่แค้นเคืองขนาดนี้สิเนี๊ยว~ เด็กของเธอยังปลอดภัยดี ไม่ต้องห่วงหรอก บุตรแห่งผู้กล้ากระต่ายเอ๋ย เนี๊ยว~) ”
“!!!”
— เธอได้กระซิบพูดกับข้าน้อยเอาไว้เช่นนั้น
เป็นไปไม่ได้
ทำไมเธอถึงรู้ว่าข้าน้อยสืบเชื้อสายมาจากใคร?
ไม่! นี่มัน… ไม่น่าเป็นไปได้เจ้าค่ะ!!
ข้าน้อยเริ่มรู้สึกมืดแปดด้าน
นี่คือครั้งแรกที่ข้าน้อยได้พบกับโนอาร์แบบตัวเป็น ๆ
ข้าน้อยเคยคิดว่าเขาเป็นแค่หุ่นยนต์โง่ ๆ ตัวหนึ่งจากเรื่องราวที่ท่านแม่เล่าให้ฟัง
แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด
ทั้งอำนาจ
ทั้งความสามารถด้านข่าวสาร
ทั้งฝีมือการต่อสู้
ไม่มีสิ่งใด ที่ข้าน้อยสามารถเอาไปสู้กับเธอได้เลย…
“ข้าน้อย… ควรทำยังไงต่อ… ท่านแม่…”
MANGA DISCUSSION