***วันที่ 46 เรตนิว เวลา 14:00 น. ***
ณ สนามบินนานาชาติเมืองคริสตัล เมืองหลวงของทวีปคริสตัล
“เฮ้ย! มีใครเจอตัวท่านบ้างไหม!? ”
“ไม่! ทางนี้ไม่เจอตัวเลยครับ!”
เผ่ามนุษย์สัตว์กลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งวุ่นไปทั่วสนามบินท่ามกลางฝูงชน
พวกเขาต่างติดเข็มกลัดรูปหอคอยทรงกรวยหัวคว่ำเอาไว้บนปกเสื้อ
มันคือสัญลักษณ์บ่งบอกว่าพวกเขาคือนักบวชของศาสนา [โนอาร์] ศาสนาประจำเผ่ามนุษย์สัตว์
“ซวยแล้วไง! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับท่านผู้นั้นละก็— ทุกคน! รีบกระจายตัวออกตามหาด่วน!”
““รับทราบครับ!””
พวกเขาดูร้อนรนมาก
เผ่ามนุษย์สัตว์กลุ่มนั้นประกาศคำสั่งเสียงดังลั่น แล้ววิ่งกระจายตัวเข้าไปในตัวเมืองด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด
แม้แต่ตำรวจประจำสนามบินที่วิ่งเข้าไปสอบถามพวกเขาด้วยความสงสัย ยังถึงกับมีใบหน้าซีดเผือกทันที ที่ได้รับฟังเรื่องราวปัญหาของพวกเขา
ดูเหมือนว่าที่เมืองแห่งนี้ กำลังจะมีพายุลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นมาเสียแล้ว—
***ณ วิหารหลักของเทพทั้งสาม ณ ใจกลางเมือง***
บนระเบียงทางเดินด้านหลังของวิหารที่ทอดตัวไปสู่ส่วนของหอพักนักบวช และพื้นที่ปลูกพืชไร่ของวิหาร
มันเป็นพื้นระเบียงหินอ่อนที่ปูลาดทอดตัวตรงไปยังอาคารแยก ตัดผ่านใจไร่ขนาดใหญ่ที่ถูกปลูกด้วยพืชเกษตรเรียงรางขนาบข้างสองฝั่ง
กลิ่นหอมของดอกไม้ ผลไม้ และใบพืช ณ ยามเช้า ช่างหอมชวนชม ชวนให้ผู้ที่มาเดินรู้สึกผ่อนคลายอารมณ์ยิ่งนัก
“สมัยก่อน เด็กพวกนั้นซนยังกับลิงตั้งแต่เล็ก พออายุได้ขวบหนึ่งแข็งแรงพอจะวิ่งได้เอง เจ้าพวกนี้ก็ชอบออกไปทำลายข้าวของในวิหารเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว ทำเอาฉันได้รับรายงานปัญหาจนแทบไม่ได้หลับนอนเลยละ”
“โฮ่~ พวกพี่สาวเองก็มีช่วงเวลาซน ๆ แบบนั้นด้วยหรือค่ะ!”
“ใช่แล้วจ๊ะคุณหนูผู้น่ารัก~❤ ตอนนั้นนะ นักบวชคนอื่น ๆ มีแต่พูดบอกว่าให้ฉันเอาเด็กพวกนี้ไปทิ้งให้สำนักงานดูแลเด็กกำพร้ายังจะดีเสียกว่า แต่สำหรับฉันที่เป็นคนเก็บพวกเขาเข้ามาดูแลเองกับมือ ไม่สามารถทำใจยักษ์ใจมารทิ้งเด็กที่น่าสงสารได้ลงคอหรอก สุดท้ายเลยเลี้ยงดูเจ้าพวกตัวแสบจนโตได้อย่างที่เห็นนี่แหละจ๊ะ”
นักบวชชรากับนักบวชฝึกหัดที่มีผมสีเงินยาวกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่บนทางเดินที่ทอดตัวยาวที่ว่านี้
พวกเธอทั้งคู่ต่างดูมีความสุขและสนิทสนมเป็นอย่างมาก
สนิทสนมในระดับที่หากมองด้วยสายตาของคนนอก จะมองเห็นเป็นภาพของคุณยายที่พาหลานตัวเองมาเดินเล่นก็ไม่แปลกอะไร
“เออใช่ พอมาที่นี่เลยนึกขึ้นมาได้ จะเล่าอะไรให้ฟัง! รู้ไหมว่าตอนสมัยที่เจ้าตัวแสบยังอายุได้ราวขวบครึ่ง พวกนั้นเคยมาเล่นในไร่สวนตรงนี้ แล้วเจ้าหนูลาพิสดันกินไม่เลือก จนไปเผลอกินผลลูกท้อที่เน่าไปแล้ว จนทำให้ท้องเสียติดกันสามวันสามคืนเชียวละจ๊ะ!”
“ท่านอาจารย์… ลาพิส… เนี่ยนะเจ้าค่ะ…? ”
ท่ามกลางวงสนทนาที่สนุกสนานของคุณยายกับหลานตัวน้อย มีมนุษย์กระต่ายอีกคน ที่กำลังเดินยิ้มแห้งอยู่ข้างหลัง
เธอกำลังนึกภาพตาม
นึกภาพของนักรบมือเปล่าที่สามารถหักคอเผ่ายักษ์ซึ่งตัวใหญ่กว่าเกือบสามเท่าตัวได้ง่าย ๆ กำลังนั่งขี้แตกอยู่ในห้องน้ำติดต่อกันสามวันสามคืน
“ฮุ ฮุ ฮุ— …อุ๊ปส์! ขออภัยเจ้าค่ะ!”
แม้นจะยึดถือความเคารพต่อตัวผู้สอนวิชาวิญญาณให้กับตัวเองแค่ไหน แต่เธอมิอาจที่จะอดขำออกมาทางไม่ได้
ในตอนที่กระต่ายสาวหลุดหัวเราะ สตรีชรากับเด็กสาวที่เดินนำหน้าก็หยุดบทสนทนาชั่วคราว แล้วหันกลับมามองเธอด้วยใบหน้าที่เจ้าเล่ห์
เป็นใบหน้าที่เจ้าเล่ห์ระดับอยากเอาบาทามาลูบหน้ากันให้ได้เลยทีเดียวเชียว
“ใบหน้าแบบนั้นแปลว่าอะไรกันเจ้าค่ะ!”
“แหม่ ๆ พี่ควอตซ์ อยากฟังเรื่องเผา ๆ ของพวกพี่สาวก็ไม่ยอมบอก มาร่วมวงด้วยกันสิค่ะ~”
“ไม่ต้องกลัวว่าเด็กพวกนั้นจะได้ยินหรอก ฟังเรื่องน่าอายสมัยเด็กของยัยตัวแสบ เอาไว้ใช้ข่มขู่บางเวลา มันก็ไม่เสียหายหรอกนะจ๊ะคุณหนูกระต่าย”
“นี่คุณใช่นักบวชจริง ๆ หรือเปล่าเจ้าค่ะ? ”
“ก็ใช่นะสิจ๊ะ~❤”
พอเห็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ของหญิงชราแล้ว กระต่ายสาวก็เริ่มรู้สึกได้ถึงภาพของอาจารย์ตัวเองที่กำลังซ้อนทับกับแม่เลี้ยงของพวกเธอ
นี่มัน— แม่ลูกกันชัด ๆ เลยเจ้าค่ะ!
กระต่ายสาวกำลังคิดเช่นนั้น
ว่าแล้วนักบวชเทเรซ่าก็เริ่มเผาลูกเลี้ยงของตัวเองอย่างสนุกสนานโดยไม่มีความเกรงใจ…
เล่าตั้งแต่เรื่องที่ [เอโซ] เคยพยายามกางปีกบินบนฟ้าตอนสองขวบ แต่บินไม่ขึ้นแล้วกลิ้งหัวคว่ำลงมาจากหลังคาโบสถ์
[ลาพิส] ที่เคยพยายามแกล้งทำเป็นว่าดวงตามองเห็น แล้วไปคว้าชุดของผู้ชายมาสวมเดินเล่นใจกลางเมืองตอนสามขวบด้วยความเข้าใจผิด
[แมรี่] ที่เคยรวมหัวกับ ลาพิส เอโซ มาสวมบทบาท [สาวน้อยเวทมนตร์แห่งดวงจันทร์] สุดน่ารักพรุ้งพริ้งตอนอายุสี่ขวบ หลังจากที่ได้ไปดูรายการทีวีการ์ตูนช่องหนึ่งเข้าให้
การฉีรดที่นอนครั้งแรกของพวกสามแสบ
สารพัดเรื่องราวน่าอายที่ควรถูกเก็บฝั่งเอาไว้กับอดีต กำลังถูกนำมาเล่าขานต่อให้สองสาวฟังจนหมดเปลือก
เด็กสาวผมสีเงินกำลังหัวเราะร่วน
สาวกระต่ายนุ่มฟูเองก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
แม้แต่ชายร่างยักษ์ผู้กุมชะตาดวงวิญญาณทั้งมวลในขอบเขตแดนนรกที่กำลังเฝ้าดูจากอีกมิติเป็นการฆ่าเวลา ก็ยังถึงกับหัวเราะน้ำตาไหลออกมาเป็นสายน้ำตก
“อ๊ะ ถึงแล้ว ที่นี่แหละจ๊ะ หอพักที่ฉันใช้เลี้ยงดูพวกคุณหนูทั้ง 103 คน ถึงจะซุกซนไปบ้างจนทำให้ฉันรู้สึกเหนื่อย แต่นิสัยน่ารักทุกคน เป็นเด็กดีที่เชื่อฟังกันหมด ผิดกับยัยสามแสบลิบลับเลยละจ๊ะ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณเทเรซ่า ที่ช่วยดูแลพวกร่างโคลนให้!”
“หุ หุ หุ ไม่เป็นไรหรอก แต่ฉันขอแนะนำคุณหนูตัวน้อยอย่างหนึ่งก่อนที่จะเข้าไปในเขตหอพักนะจ๊ะ”
“ค่ะ? ”
นักบวชชราก้มตัวลงมาลูบหัวของเด็กสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน
“ถึงจะเป็นร่างโคลน แต่พวกเธอก็คือผู้ที่เกิดมามีสายเลือดร่วมกันกับเธอทั้งหมด 103 คน พวกเธอทั้งหมดคือ [ครอบครัว] ของเธอ มากกว่าจะเป็นร่างโคลนของเธอนะจ๊ะ”
“ [ครอบครัว] … หรือคะ? ”
“ใช่จ๊ะ”
ในเวลานั้น เด็กสาวตัวน้อยไม่อาจทำความเข้าใจในความหมายของคำพูดของนักบวชได้
แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงมีหยาดน้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากเป้าตาทั้งสองของเธอได้กัน?
“ครอบครัว… ค่ะ! พวกเธอคือครอบครัวของฉัน!”
เด็กสาวฉีกยิ้มอย่างมีความสุข
นักบวชชราที่เห็นรอยยิ้มของเด็กสาว ได้ยิ้มตอบรับรอยยิ้มนั้น แล้วเปิดประตูบานไม้ของอาคารเก่าแก่ที่สูงสามชั้นตรงหน้าเข้าไปข้างใน
เด็กสาวไชน์ กำลังจะได้พบกับร่างโคลน—
ไม่ใช่สิ
เธอกำลังจะได้พบกับ [ครอบครัว] ของเธออีกครั้ง
“อ่าว? มีแขกในตอนเช้าขนาดนี้ด้วยหรือเนี่ย? เนี๊ยว~”
แต่ทว่าสิ่งที่รอคอยพวกเขา กลับไม่ใช่เหล่าเด็กสาวผมสีเงินจำนวน 103 คน
ด้านหลังประตูไม้เก่า ๆ คือห้องโถงรวมที่ถูกจัดวางให้เป็นลานสอนหนังสือภายในอาคาร
บนพื้นที่ว่างหินอ่อนที่ถูกปูทับด้วยพรมเก่า ๆ สีเทา มีเด็กสาวผมสีเงินจำนวนมากในชุดคลุมสีเทา กำลังรุมล้อมสตรีคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ใจกลางของห้อง คู่กับเผ่ามนุษย์สัตว์ไซบอร์กอีกสองคน
คนหนึ่งเป็นไซบอร์กเผ่ามนุษย์สัตว์-กอลิล่า ที่มีผมสีดำเป็นมัน
อีกคนเป็นไซบอร์กเผ่ามนุษย์สัตว์-หมี ที่มีเส้นผมกับขนตามร่างกายเป็นสีแดง
ส่วนสตรีที่ยืนอยู่ตรงกลางห้องโถง เป็นสตรีเผ่ามนุษย์สัตว์-แมว ที่มีความงดงามประดุจราวกับเป็นเทพธิดาจากสวรรค์
เธอสวมชุดเดรสกระโปรงยาวสีเงินที่แหวกโชว์แผ่นหลังเนียนขาวดุจหิมะ เข้าคู่กับสีของเส้นผม
เป็นสตรีที่มีความสูงเพียง 133 เซนติมเตร ร่างกายผอมบางน่ารัก มีผมเป็นสีเงินถักเปียคู่ยาวทอเป็นประกายเงางาม
หางกับหูแมวสีเงินของเธอดูนิ่งสงบไร้อารมณ์ และมีดวงตาสีเงินที่คมกริบดูมีอำนาจ
บรรยากาศของเธอ ช่างดูศักดิ์สิทธิ์ ประหนึ่งเป็นเทพเจ้าผู้ที่บรรลุถึงสัจธรรมของโลกา
[โนอาร์] เทพเจ้ามีชีวิตของเผ่ามนุษย์สัตว์ ผู้ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของศาสนา [โนอาร์] ได้มายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเธอแล้ว
MANGA DISCUSSION