บทที่ 5 เทศกาลขึ้นปีใหม่
ตอนที่ 86 กลับบ้าน
***วันที่ 45 เรตนิว เวลา 48:00 น. ***
ณ ทวีป คริสตัล ทวีปที่ว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดทุกชีวิตของดาว ไดม่อน
ยานเหาะบอลลูนที่มีรูปทรงคล้ายตูดลูกท้อลำหนึ่ง กำลังลอยต่ำเพื่อเทียบท่าสนามบินลอยฟ้าขนาดใหญ่
มันเป็นสนามบินที่สร้างขึ้นให้ดูคล้ายผลึกคริสตัลสีแดงสด มีวงแหวนสีขาวโคจรสามวงตรงหัว กลาง ปลาย จนแลดูคล้ายกับเป็นดาวพระเคราะห์ที่ลอยตัวอย่างอิสระเหนือทวีป
“ยานพาณิชย์ [ปีกแสงดอกลิลลี่] ขออนุญาตลงจอดเทียบท่าค่ะ ลิล~”
เผ่าภูติตัวน้อยที่สวมหมวกกัปตันเอยนามของบริษัทสังกัด นำยานเทียบสะพานขนาดใหญ่ที่ยืดยาวออกมา
ผู้คนหลากชาติและเผ่าพันธุ์ต่างเดินขวักไขวหัวไหลกระทบอย่างหนาแน่นคับคั่ง
ภายในโถงชานชลาที่ถูกขัดจนเงาวับเป็นผืนกระจก มีภาพสะท้อนของสิ่งทอประดับตกแต่งรูปตูดลูกท้อ ห้อยโยงเต็มโครงสร้างที่อยู่เหนือขึ้นไป
ทางเดินที่แน่นขนัดนี้ กำลังเต็มไปด้วยเสียงดนตรี เสียงนักท่องเที่ยว เสียงตะโกนของสาวสวยแจกใบปลิวดังเรียงเคียงคู่สองฟากฝั่ง
มีหุ่นโกเล็มตัวใหญ่สูงยี่สิบเมตร ยืนนิ่งให้เด็กเล็กปีนป่ายเล่นสนุก
มีกลุ่มนักบวช ยืนขับขานร้องเป็นเพลง บอกกล่าวเล่าตำนานการสร้างโลกที่ชวนให้ง่วงหลับตา
พอเดินเลยผ่านทางเดินที่ทอดตัวยาวสู่ห้องโถงใหญ่ จะพบเห็นลานจัดแสดงงานศิลปกรรมอันโอ่โถง
มีทั้งเครื่องประดับที่ปั้นเป็นแก้วผลึกคริสตัลสีรุ้ง วางห้อยเรียงรายติดประดับ
มีหุ่นนาโนเม็ดทรายสีขาว ก่อตัวเป็นรูปคริสตัลทั้ง 5 กับภาพคลื่นกองทัพที่โถมโรมรันใส่กันเป็นภาพจำลองสงคราม
ถัดไป ณ ใจกลางโถงนั้น มีรูปปั้นสำริสขนาดยักษ์ประดับปั้นวาง ให้เหล่านักเดินทางเข้าถ่ายชม
รูปปั้นวีรสตรีเผ่ามนุษย์ วีรสตรีสมองกล้าม [ผู้กล้า เอรีส]
รูปปั้นยักษาแห่งปฐพี [บานา]
รูปปั้นปราชญ์แห่งพงไพรจากเผ่าภูติ [เอสเทอ]
รูปปั้นผู้กล้าทมิฬแห่งอาร์โทรโพดา [สเลบ]
รูปปั้นผู้กล้าสีแดงขาว ปักษาผู้เป็นไท [เปอร์ไซด์]
รูปปั้นแห่งวีรชนทั้งห้าเผ่านั้น ถูกสร้างอย่างองอาจหาญ ยืนประจันหน้ากับรูปปั้นของเทพผู้ชั่วร้ายทั้งสามองค์ที่กำลังหันเผชิญหน้าอย่างดูชั่วร้ายและคุกคาม
หนึ่งคือรูปปั้นเทพไร้ใบหน้า
หนึ่งคือรูปปั้นเทพไม่มีแขน
หนึ่งคือรูปปั้นเทพไม่มีขา
เป็นรูปปั้นเทพที่สวมชุดคลุมทั้งตัว จนไม่อาจระบุได้ทังเพศ หรือเผ่าพันธุ์ของพวกมัน
บรรยากาศที่ดูครึกครื้น และเต็มไปด้วยผู้คนจากทุกเผ่าพันธุ์เช่นนี้ ไม่เพียงมีให้เห็นแค่ในตัวสนามบิน
แม้แต่ภายในเมืองเอง ก็ยังมีการจัดโชว์ในลักษณะที่คล้ายคลึงกันปรากฏให้เห็นไปเสียทุกหนแห่ง จนทำให้บรรยากาศที่ชวนดูเศร้าหมองของฤดูหนาว กลายเป็นความรื่นรมย์ราวกับอยู่ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิ
โดยเฉพาะกับเครื่องสำริดขนาดเล็กรูป [ตูด] ที่มีขายกันแทบทุกร้าน ทุกย่านการค้า จนยิ่งทำให้ดูขบขัน ขัดกับบรรยากาศที่มีหิมะโปรยปรายอย่างเศร้าสร้อยนี้ยิ่งนัก
มันคืองานเทศกาล
เป็นการเทศกาลประจำปีของดาว
เป็นวันแห่งการปลดเป็น [ไท] จากเทพผู้ชั่วร้ายที่สร้างโลกใบนี้
วันเทศกาลขึ้นปีใหม่อันศักดิ์สิทธิ์ที่มีนามว่า
[งานระบำตูด]
มันเป็นงานรื่นเริงที่ทุกคนต่างตั้งตารอคอย
จะมีการจัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นที่เมืองคริสตัล เมืองที่เชื่อกันว่าเป็นเมืองแห่งต้นกำเนิดของชีวิต
โบสแห่งเทพทั้งสามจะเป็นเจ้าภาพใหญ่ เชิญผู้นำทั่วโลกมารวมตัวจัดงานด้วยรอยยิ้ม—
“อยากทำลายงานเทศกาลบ้า ๆ นี้ทิ้งจังเลยวุ้ย”
—แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนบางกลุ่มที่รู้สึกไม่ค่อยยินดีกับงานนี้เท่าไหรนัก
“จะให้ผมเผารูปปั้นบ้า ๆ ตรงนั้นทิ้งให้ไหมสหาย”
“อย่าพึ่ง ตอนนี้มีคนเยอะเกินไป เดียวจะซวยเอาได้ แมรี่ โกลด์”
“แต่ลาพิสวิ่งไปนู้นแล้วนะ”
” เฮ้ย!?! ยัยสมองกล้ามนั่น! ใครก็ได้รีบไปหยุดเธอเร็ว!”
นักบวชแห่งเทพทั้งสามกลุ่มหนึ่งในชุดเสื้อยืดที่สวมใส่สบายตัว กำลังเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่เบียดเสียดและเหม็นเหงื่อ
นักบวชกลุ่มนั้นประกอบด้วยคนจากเผ่ามนุษย์สัตว์หนึ่งคน เผ่ามนุษย์นกหนึ่งคน และ เผ่าภูติหนึ่งคน
“ยัยบ้า! หยุด หยูดดด!”
นักบวชสาวเผ่ามนุษย์นกกำลังพยายามตะโกนหยุดเพื่อนนักบวชเผ่ามนุษย์สัตว์
แต่เธอห้ามไม่ทัน
นักบวชผมสีฟ้าวิ่งแหวกฝูงดุจเป็นกระแสน้ำไหลผ่านโขดหิน
ไหลตัวไปกับกระแสชล แล้วกระโดดพุ่งตัวเป็นดั่งเงามืด
เงานั้นวิ่งผ่านรูปปั้นฝั่งกลุ่มผู้กล้า ประหนึ่งเป็นแสงที่วิ่งผ่าน
ปลายเท้ากระแทกเบา ๆ ตรงปลายเส้นผมของรูปปั้นเผ่ายักษ์
เกิดเสียงกระแทกดังขึ้น ก่อนจะตามด้วยเสียงลั่นของฐานที่เสียสมดุล
“หืม? ”
ฝูงชนที่กำลังยืนถ่ายรูป ต่างขยี้ตาตัวเองพร้อมกัน
เมื่อกี้— เหมือนจะมีอะไรผ่านหน้ากล้องไปหรือเปล่า?
แต่ด้วยความไวราวปีศาจของลาพิส จึงทำให้ไม่มีกล้องไหน จับภาพที่คมชัดเอาไว้ได้ทันเวลา
รูปปั้นกำลังเอน
เสียสมดุลพร้อมกับเอนตัว
เอนตัว… แล้ว—
*โครม!*
พังครืนลงมาทั้งหมด เหลือเพียงแค่รูปปั้นฝั่งเทพมาร ที่ยังยื่นเด่นตระหง่านเอาไว้ตรงใจกลางห้องโถงทางออกแห่งนี้
[ภารกิจทำลายรูปปั้น เสร็จสิ้นค่ะ XD]
“ไม่ต้องมาทำเป็นวาด [XD] อย่างภูมิใจเลยนะลาพิส! ทำไมไม่รอจนคนน้อยกว่านี้ก่อนละ!? ”
[ไม่มีใครมองตามการเคลื่อนไหวของฉันหรอกค่ะ :d]
“ทวีปนี้มีเผ่า [ปีศาจ] อยู่เยอะ! แล้วไอเผ่านี้มันสเป็คสูงมาก อย่าไปคิดดูถูก—”
“เฮ้ย! ผู้ต้องสงสัยตรงนั้น! เป็นพวกเธอใช่ไหมที่ทำลายรูปปั้น!? ”
“พูดไม่ทันขาดคำ! รีบหนี— แล้วยัยแมรี่ โกลด์ มันหายไปไหนแล้วเนี่ย? ”
***
“อูหู~ ตุ๊กตาผู้กล้าเอสเทอขนาดหนึ่งต่อหนึ่ง น่ารักน่าชังแท้~”
” คุณผู้หญิงตาถึงแท้! เพราะว่าตัวนี้เป็นสินค้าทำมือพิเศษที่มีเพียงตัวเดียวในโลก! หากไม่ซื้อตอนนี้ ก็ไม่รู้จะเอาที่ไหนได้แล้ว! บู~”
” ตัวละเท่าไหร!? ”
” ราคาเพียง 1 แสน ยูนิต! บู~”
” ซื้อเลย!”
” ด้วยความยินดีครับ! บู~”
ผมกำลังซื้อตุ๊กตาอดีตผู้กล้าเผ่าภูติที่น่ารักน่าชัง จากร้านค้าเผ่าภูติคนหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ปากประตูทางออก
” หยุด— หยูดดดด!”
” ใครมันจะหยุดให้โง่กันเล่า!”
เหมือนจะมีเสียงคุ้นหูดังมากจากข้างหลัง แต่ทำเป็นไม่สนใจดูท่าจะเป็นการฉลาดกว่า
” เออ… พี่สาวค่ะ… นั่นพี่กำลังจะทำอะไรกันค่ะ…? ”
“อ่าว!? เสียงนี้เจ้าหนูไซน์นี่? ไปเอากระเป๋าเดินทางมากันเสร็จแล้วอย่างงั้นหรือ? ”
” ใช่แล้วเจ้าค่ะ… ว่าแต่… นั่นท่านอาจารย์ แมรี่ โกลด์ กำลังทำอะไรอยู่กันไม่ทราบเจ้าค่ะ? ”
“กำลังซื้อตุ๊กตาอยู่นะคุณควอตซ์ นี่ไง! ของมีจำนวนจำกัดเชียวนะ!”
เราอุ้มตุ๊กตาสุดน่ารักขึ้นมาให้เธอดู
ขนาดของมันสูงเท่าตัวจริงด้วยขนาดหนึ่งต่อหนึ่งเลยเชียวละ~
เคยคิดอยากได้ของสะสมน่ารัก ๆ แบบนี้มาเก็บในโกดังสุดรักของตัวเองตั้งนานแล้ว~
” เออ… พอดีไม่อยากทำลายความฝันหรอกนะคะ แต่ไอของแบบนี้มีขายกันให้ทั่วตลาดเมืองเผ่าภูติเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยเองยังเคยเอาเข้ามาขายเลย ราคาตกตัวละ 200 ยูนิตเองเจ้าค่ะ”
“วะ— ว่ายังไงนะ!?!”
ของราคา 200 แต่เอามาขาย 1 แสน!?
ผมหันไปมองหน้าพ่อค้าภูติ
เจ้าพ่อค้าคนนั้นส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับมาให้ แล้วทำเป็นวางป้าย [สินค้าหมด] ก่อนจะรีบปิดหน้าร้านหนีไปแทบจะในพริบตา
ไอ-ตัว-แสบ!!
” ถือซะว่าเป็นค่าบทเรียนไปเถอะเจ้าค่ะ แล้ว— ไหนละคะ รถเข้าเมืองของพวกเราเจ้าค่ะท่านอาจารย์? ”
“อ๊ะ? ”
ลืมไปเสียสนิท…
เพราะช่วงนี้มันใกล้เทศกาลสิ้นปีแล้ว เลยทำให้ท่าอากาศยานวุ่นวายเป็นพิเศษ
ดังนั้น พวกเราเลยแยกกลุ่มกับพวกไซน์ เพื่อแบ่งหน้าที่กันทำงาน
กลุ่มหนึ่งไปเอากระเป๋า อีกกลุ่มมาเรียกหารถ
ส่วนสาเหตุที่อยู่ ๆ พวกเรามาปรากฏตัวบนทวีปคริสตัล มันมีเหตุผลด้วยกันอยู่หลายอย่าง
อย่างแรก คือมาทำงานในฐานะนักบวชวิหาร ที่ถูกบังคับให้ร่วมทำพิธีประจำปีของวิหาร
อย่างที่สอง คือมาดูพวกเด็ก ๆ ร่างโคลนที่อยู่กับแม่ชีเทเรซ่า
อย่างที่สาม คือมาเยี่ยมแม่ชีเทเรซ่า
อย่างที่สี่ คือช่วยคุณควอตซ์ในการเข้าถึงตัวโนอาร์ เพราะพิธีขึ้นปีใหม่ เธอคนนั้นจะต้องมาเข้าร่วมพิธีในฐานะผู้นำประเทศ เหมือนกับประเทศอื่น ๆ
อย่างที่ห้า คือพวกเราจะต้องใช้ [ห้องนั้น] เพื่อเริ่มทำการสืบสวนตัวการที่ส่งวิญญาณหลงมาป่วนโลกของเรา
“แสดงว่าพวกอาจารย์ลืมกันแล้วสินะเจ้าค่ะ… ให้ตายสิ ถ้ามีคุณออนอยู่ด้วย เรื่องคงจะง่ายกว่านี้เจ้าค่ะ”
“พี่ชายออนเขาเหมาะกับเป็นพ่อบ้านจริง ๆ นั่นละคะ น่าเสียดายที่เขาขอแยกตัวไปก่อน…”
“นั่นสิเจ้าค่ะ”
สองสาวน่ารักกำลังพูดถึงเจ้าหนุ่มมนุษย์ ด้วยน่าตาประมาณว่า ” เสียดายจัง~”
ให้ตายสิ เจ้าหมอนั่นช่างเป็นชายที่บาปหนาเสียจริ้ง~ (เสียงสูง)
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่น อยู่ ๆ ถึงได้บอกขอแยกตัวก่อนที่พวกเราจะมาที่ทวีปนี้
แต่เอาเถอะ มันเลือกเส้นทางของมันเอง ไม่เห็นจำเป็นต้องไปรู้สึกหวงแหน หรือต้องเสียดายเลยสักนิด
” หยูดดดด!!! ใครก็ได้ ช่วยจับผู้หญิงสองคนนั้นที!”
” ถ้าคิดว่าจับได้ ก็เข้ามาเลย!”
เอาอีกแล้ว
เสียงดังคุ้น ๆ หู มันดังขึ้นมาอีกแล้ว
ยัยเอโซทำอะไรของเธอ—
ผมหันกลับไปมองดูทางต้นเสียงวุ่นวาย
ที่ข้างหลัง มีลานแสดงที่พังเละเทะไม่มีชิ้นดีปรากฏอยู่
พื้นที่เงาวับถูกทำให้เปื้อนไปด้วยฝุ่นควันจากเศษซากรูปปั้น
ของจัดแสดงภายในร้านรวงต่างล้มพังนอนเรียงรายเฉกเช่นเสาโดมิโนที่ล้มลงมา
ฝูงชนต่างวิ่งกันอลหม่านสับสน เพราะมีตัวการที่คุ้นหน้ากำลังวิ่งผ่าน ไปพร้อมกับใช้สองปีกคว้าสินค้า ค้าขาย มาขว้างปาใส่ผู้คน
ด้านหลังของคนคุ้นหน้าที่ว่า คือฝูงตำรวจสนามบินที่เต็มไปด้วยเผ่าปีศาจ
เออ… ไหนเธอบอกว่าจะไม่ก่อความวุ่นวายตอนนี้ไม่ใช่หรือ?
แทนที่จะชวนผมป่วนประสาทพร้อมกัน กลับไปเล่นสนุกกันแค่สองคนกับลาพิสได้นะยัยพวกนี้นี่
เพื่อความวายป่วง คงต้องขอร่วมวงอีกคนสักหน่อยแล้วสิ~
สะสมพลังงานภูติไปที่ปีก~
ขับดัน แล้วเปลี่ยนสภาพอะตอม แปลงให้มันกลายเป็นมวลไอน้ำที่จับตัวหนา
“เมฆฝน? ในอาคารเนี่ยนะ? ”
พวกตำรวจเริ่มจะรู้สึกตัวกันแล้ว
แต่รู้ตัวช้าไปแล้วเด้อ~
“งานเทศกาลบ้า ๆ แบบนี้ จงเปียกปอนแล้วพังไปให้หมดซร้าาา”
MANGA DISCUSSION