วิญญาณหลงทางที่ไม่ยอมไปโลกหน้าจำนวน— น่าจะราวหนึ่งหมื่น? หรือสองหมื่น? ทั้งหมด กำลังถูกเราจับด้วยคริสตัลแห่งวิญญาณที่เป็นวัสดุจากโลกคนตาย
คริสตัลแห่งวิญญาณคืออะไรอย่างงั้นหรือ?
มันคือแร่ชนิดหนึ่งที่มีขั้วแม่เหล็กวิญญาณรุนแรง และสามารถใช้ดึงดูดพลังงานวิญญาณไม่ให้หนีไปไหน
พูดง่าย ๆ คือขังมันเอาไว้นั่นละ
ถ้าถามว่าทำไมถึงมีของแบบนี้ในฝั่งโลกคนเป็นได้?
แบบว่า— ตอนที่พวกเราสร้างโลกนี้ขึ้นมาอะนะ— ในอดีตพวกเราเคยได้เล่นสนุกอะไรเอาไว้นิดหน่อย~ เลยทำให้มีของแบบนี้เหลือทิ้งเอาไว้ยังไงละ~
แน่นอนว่าเจ้าพวกโง่ของฝั่งโลกคนเป็นไม่มีใครรู้ถึงคุณค่าของแร่คริสตัลพวกนี้สักคนเดียว
ถึงจะมีพวกฉลาด ๆ มาเก็บไปวิจัยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครไปได้ไกลสุดเหมือนอย่างเจ้ามนุษย์ที่ชื่อว่าเอซ
สุดท้าย ของพวกนี้เลยทำให้ถูกวางทิ้งเอาไว้อยู่ในส่วนลึกของวิหารเทพทั้งสาม ในฐานะวัตถุโบราณและเป็นหลักฐานทางความเชื่อของเทพผู้สร้างโลกใบนี้
พวกเราก็แค่แอบลอบเข้าไปพื้นที่ต้องห้ามของวิหาร แล้วลักเล็กขโมยน้อยติดมือออกมาด้วย มันก็เท่านั้นเอง~
“อั๊ก!”
ผีร้ายที่สิงยัยกระต่ายได้ถูก [วิญญาณคุ้มครอง] ของเธอในการถีบส่งออกมาเต็มเท้า
ส่วนเจ้าตัวการหลักที่สิงร่างของเจ้าหนุ่มออนกำลังส่งเสียงครางทรมานออกมา
ครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับยัยแมรี่โกลว์เลยละ
เพราะลองทำตามคำแนะนำการทำนายของเธอ เลยโชคดีได้วิญญาณจำนวนมากมาแบบไม่คาดคิด
แถมยังเป็นงานรวบรวมวิญญาณที่ง่ายมาก ระดับที่เรียกว่าแทบจะไม่เสียเหงื่อออกมาแม้แต่หยดเดียว
กำไร้~ กำไร~
“…”
แต่ถึงอย่างงั้น เราก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ดูน่าสงสัยอยู่
คือ— พูดก็พูดนะ เรายังไม่รู้เลยว่าเจ้าวิญญาณหลงรอบนี้มีความแค้นอะไรที่เหนี่ยวรั้งเอาไว้ ถึงได้มีความยึดติดกับโลกคนเป็นจนมีตบะแก่กล้า
แถมยังมีข้อสงสัยเกี่ยวเรื่องที่มันใช้วิชาของเทพเจ้าเป็นด้วย
เพราะปกติมันไม่น่าจะเรียนรู้ได้เอง
หรือจะมีเทพเจ้าตัวไหนไปสอนมันเอาไว้?
ไม่น่าจะเป็นไปได้…
*พรึบ!*
อยู่ ๆ ภาพรอบตัวก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าลงจนกระทั้งแทบจะหยุดนิ่ง
พลังงานจากโลกคนตายกำลังถูกแทรกแทรงเข้ามาในมิติแห่งนี้ ผ่านทางรอยบิดเกลียวที่เกิดจากการผสานระหว่างมิติคนเป็นกับคนตาย
พลังงานมหาศาลที่แทรกแทรงเข้ามานั้น ทำให้การไหลเวียนของเวลาในมิติแห่งนี้เริ่มผันผวน
กระแสคลื่นสีเงินที่ไม่อาจมองด้วยดวงตากำลังไหลเวียนอยู่รอบตัวของเจ้าหนุ่มออน
ไหลเวียนแล้วแทรกซึมผ่านทางผิวหนังจนก่อตัวขึ้นมาเป็นรูปร่าง
พลังงานจำนวนมากที่ไม่อาจจับต้องได้ มันกำลังเกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่กับร่างกายของเจ้าหนุ่มมนุษย์ที่เป็นร่างทรง ควบคู่ไปกับตอบสนองกับวิญญาณที่สิงสู่ภายในตัวของมัน
นี่มัน— แย่แล้ว!
นั่นมันคือกระบวนการก่อสร้างร่างกายทิพย์ของเหล่าเทพเจ้านี่!?
วิญญาณคือรูปแบบของสิ่งมีชีวิตพลังงานรูปแบบหนึ่ง
ภายมิติโลกคนตายนั้น มันมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การคงรูปลักษณ์กายวิญญาณ โดยไม่จำเป็นต้องสูญเสียพลังงานในการคงรูปเหมือนโลกมิติคนเป็น
หากวิญญาณจะอยู่ในโลกมิติคนเป็น จะต้องการร่างกายเนื้อเพื่อการสิงสู่อาศัย
มันคือกฏธรรมชาติ
แต่ทุกกฏย่อมมีข้อยกเว้น
เพราะหากพลังงานที่หลอหลอมรวมตัวกันนั้น มันมีความเข้มข้นมากพอ ก็จะสามารถใช้พลังงานของมันสร้างแรงขั้วแม่เหล็ก ก่อตัวมวลรวมอะตอมเป็นร่างเนื้อขึ้นมาได้เอง
และร่างกายที่ก่อตัวจากพลังงานที่ว่า มันสามารถมีรูปร่างได้หลากหลาย มีอิสระในการคงรูป รวมไปถึงอิสระในเจตจำนงที่จะให้อยู่ในกฏฟิสิกส์ของโลกคนเป็น
ในภาษาของพวกมนุษย์โลกจะเรียกสิ่งนี้ว่า [กายทิพย์]
มันเป็นเทคนิคของเทพเจ้าที่ไม่ควรจะมีผีบ้าตัวไหนเรียนรู้เทคนิคของมันได้ ถ้าหากไม่มีไอบ้าตัวไหนไปสอนมันให้
นี่มัน— มีไอบ้าตัวไหนสักตัวไปสอนวิชาเทพเจ้าให้กับไอผีตัวนี้จริง ๆ ด้วย
เพื่ออะไร? ทำไม?
ที่สำคัญคือเป็นฝีมือของใคร…
“เจ้าหนูไซน์! เก็บคริสตัลวิญญาณแล้วหนีไปให้ไกลที่สุดจากที่นี่ ถ้าถือมันเอาไว้จะสามารถผ่าพายุมิติออกไปข้างนอกได้ รีบหนีไป!”
“เอ๊? แต่ว่า—”
“ห้ามเถียง! ไปเดียวนี้ซะ!”
“!!! ค่ะ— ค่ะ!”
เราไม่คิดจะหันไปมองดูว่าเจ้าหนูหนีไปแล้วจริงหรือไม่
เพราะตอนนี้ศัตรูตรงหน้าได้กลายเป็นศัตรูที่ไม่อาจละสายตาไปได้อีกแล้ว—
***
พลัง!
ถึงจะไม่รู้ว่าทำไม แต่รู้สึกได้ถึงความรู้ที่ถูกยัดเข้ามาภายในหัว เสมือนหนึ่งเป็นความทรงจำของตัวเอง
นี่หรือคือความลับของพลังงานความตาย!?
“ว๊ากกกกกกกก!”
เราใช้ร่างกายของร่างทรงเหวี่ยงมือขวาออกไป พร้อมกับจินตนาการภาพของแขนมดข้างหนึ่ง
ทันใดนั้นคลื่นแสงสีเงินจักรวมตัวกันก่อเป็นรูปร่างยืดยาวออกมามากกว่า 50 เมตร กลายเป็นขามดยักษ์ที่ทั้งแหลมคมและทรงพลัง
เราทดลองใช้แขนข้างนั้นเหวี่ยงโจมตีใส่ยัยภูติหัวแดงที่กำลังรักษาพวกน่าเวทนาที่อยู่ด้านหลัง
“เฮ้ย!?!”
ยัยภูติหัวแดงรีบใช้พลังภูติของตัวเองสร้างสนามพลังงานแรงสูงเพื่อหวังดีดขาของเราออกไป
โล่ทรงกลมสีเงินปะทะกับขาแมลงยักษ์สีเงิน
พลังงานทั้งสองที่ปะทะกัน ได้ก่อให้เกิดเป็นกระแสคลื่นน้ำวนบนอากาศ
แต่ด้วยมวล น้ำหนัก อีกทั้งกระแสของพลังงานที่สูงกว่า จึงทำให้เกราะบาง ๆ ของมันไม่อาจต้านทานเอาไว้ได้
*ตึง!*
“ฮืม? ”
ทำไมทั้งที่พลังของฝั่งเรามากกว่า แต่กลับเป็นขาของเราที่เบี่ยงไหลไปตามผิวของเกราะ แล้วทับลงบนที่ว่างของพื้นห้องจัดเลี้ยงแทนได้ละ?
ส่วนพื้นที่ถูกขาของเราทิ้งน้ำหนักลงทับ ได้เกิดเป็นหลุมกว้างลึกลงไปมากกว่า 100 เมตร ฉีกเป็นรอยแยกยาวมากกว่า 50 เมตร ในทันที
ช่างทรงพลังนัก
แต่หากไม่โจมตีถูกก็ช่างไร้ค่า
ว่าแต่ทำไมการโจมตีของเราถึงรู้สึกเหมือนว่าจะถูกพลักออกมากันนะ?
มันเหมือนราวกับ— มีขั้วแม่เหล็กตรงข้ามมาพลักออกไปแบบนั้นเลย
“อ๊า—”
เราเข้าใจแล้ว
จะว่าไปพลังงานในธรรมชาติมักจะมีสองขั้วตรงข้ามเสมอเลยไม่ใช่หรือยังไง?
พลังงานวิญญาณเองก็คงจะมีกฏเช่นนั้นเหมือนกันกระมั้ง?
คราวนี้เรายืดแขนซ้ายออกไป
จินตนาการถึงภาพของขามดอีกข้าง
แต่คราวนี้ล้วงลึกลงไป สร้างอัตลักษณ์แห่งขั้วตรงข้ามขึ้นมาแทน
*พรึบ!*
คราวนี้พลังงานได้ก่อตัวเป็นรูปร่างสีขาว
รู้สึกได้ถึงขั้วของพลังงานที่แตกต่างออกไป
“เฮ้ย!?! อะไรจะเรียนรู้ขั้ว [บวก-ลบ] ของพลังงานวิญญาณได้ไวขนาดนั้น!? แมรี่โกลว์ ลาพิส พวกเราต้องรีบปราบยัยนี่แล้ว! ช่างหัวเจ้าพวกบ้านั้นก่อน ปล่อยให้เสียเลือดแค่ 5-10 นาที คงไม่ตายหรอก”
“เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าต้องรีบปราบก่อน!”
[รับทราบค่ะ >_<\]
โฮ่?
พูดเสียงดังเลยนะว่ามีพลังอยู่สองขั้ว
ใช้งานแบบนี้ กับแบบนี้หรือ?
เราไม่คิดจะรอให้พวกยัยนักบวชสามคนมีเวลาเตรียมพร้อมโจมตี
เราใช้ร่างทรงเป็นสื่อกลางพลังงาน สร้างแขนและขาเพิ่มขึ้นมาจนมีทั้งหมดรวมเป็น 6 ข้าง
ฝั่งขวาคือพลังงานขั้วบวกที่มีสีเงินสวยงาม ดูไหลลื่นเหมือนสารปรอท
ฝั่งซ้ายคือพลังงานขั้วลบที่มีสีขาว ดูจางเบาบางเหมือนเป็นก้อนอากาศ
*พึบ—!*
“ทางขวาสินะ? ”
“!!!”
นักบวชผมสีฟ้าใช้จังหวะที่เราสร้างแขนขา พุ่งตัวบุกเข้ามาจากทางขวาด้วยความเร็วสูง
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราไม่อาจจับตามความเร็วของมันได้ทัน แต่ด้วยวิชากายทิพย์ จึงทำให้เราสามารถกางคลื่นตรวจจับด้วยพลังงานวิญญาณ แผ่ออกรอบทิศทางไปรอบตัวเองได้
สิ่งนี้คือ [โดมประสาทวิญญาณ] เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ [เขาผู้นั้น] มอบให้เรามาพร้อมกับเทคนิคการสร้างร่างกายทิพย์
มันคือ เทคนิคการใช้พลังงานวิญญาณ สร้างเป็นโยงใยประสาทไร้สี ไร้ตัวตน กางออกไปในระยะรัศมี 50 เมตร รอบตัว คอยทำหน้าที่เสมือนเส้นประสาท ที่ทั้งตรวจจับและตอบสนองโต้กลับได้ทันที โดยที่เราไม่จำเป็นต้องคิดควบคุมสังการตอบโต้
ร่างของยัยนักบวชกำลังวิ่งผ่านคลื่นประสาทตรวจจับที่เรากางออกมา
มองเห็นรูปร่างที่ก่อตัวผ่านเข้ามาจากทางขวา พร้อมกับลูกแตะหุ้มพลังงานสีเงินที่กำลังเหวี่ยงหวดลงมาจากด้านบน
ในเวลาเดียวกัน ได้เกิดกระแสไฟฟ้าตอบโต้ไหลพล่านไปทั่ว [โดมประสาท] ที่เราสร้างอยู่รอบตัวเอง
หนึงในขาของเราได้ถูกยกรับขึ้นมารับลูกแตะของเธอ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องคิดเอง
*โครม!*
เกิดกระแสลมพายุระเบิดเป็นวงกว้าง
โต๊ะและเครื่องเรือนรอบตัวพวกเราถึงกับพัดปลิวกระเด็นไปกองอยู่ตามมุมทั้งสี่ทิศ
ลูกแตะสีเงินที่รุนแรงของเธอ มิอาจผ่านพ้นขาสีขาวของเราเพียงข้างเดียวมาได้
ยัยนักบวชผมสีฟ้าพยายามที่จะหมุนตัวแตะจังหวะสอง
แต่ด้วย [โดมประสาท] จึงทำใช้ขาอีกสองข้าง โต้ตวัดสวนกลับด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเฉกเช่น [ร่างนำใจกายนำจิต]
*ฉัวะ!*
หนึ่งขาสีเงินรับลูกแตะที่หุ้มด้วยพลังงานสีขาว อีกหนึ่งขาสีขาวแทงเข้าตรงอกของเธอเสมือนมือที่ตบแมลงวันอันน่ารำคาญ
“!!!”
ณ ปลายขาสีขาวของเรา มีร่างของสตรีนักบวชสีฟ้าที่ถูกแทงทะลุหน้าอกซ้าย แล้วห้อยต่องแต่งอย่างน่าเวทนา
เลือดสีแดงฉานกำลังไหลเวียนออกมาจากปากแผลที่เคยมีหัวใจของเธอดำรงอยู่
เธอดูดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวด และพยายามใช้สองมือของตัวเองเพื่อดึงร่างกายออกมาจากขาของเรา
เธอกำลังจะตายในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว
ทั้งหมด เกิดขึ้นเพียงในเวลาสั้น ๆ แค่ 2 วินาทีเท่านั้น
“ปล่อยลาพิสซะ!”
นักบวชภูติตะโกนลั่นพร้อมกับยิงคลื่นความร้อนสูงโจมตีมาทางเราทั้งหมด 20 นัด
คลื่นความร้อนนั้นมีทั้งที่สร้างจากกฏฟิสิก และกฏของคลื่นพลังงานวิญญาณปะปนกันมา
“…ดูท่าจะอันตรายแฮะ”
เราตัดสินใจหลบมันทั้งหมดด้วยการพึ่งพาการรับรู้จาก [โดมประสาท]
ส่วนลำแสงที่หลบไม่พ้น ก็ใช้ขาของเราปัดมันทิ้งไป—
*ฉับ!*
ขาข้างที่แทงนักบวชผมสีฟ้าถูกปีกสีทองที่หุ้มด้วยแสงสีขาวตัดออกครึ่ง
ยัยนักบวชสีเหลืองใช้จังหวะที่ถูกรบกวนด้วยการโจมตีของภูติ เพื่ออำพรางตัวเอง แล้วเข้ามาช่วยเหลือสหายของตน ประหนึ่งเป็นนักฆ่าผู้ลอบเร้นใต้เงาแสงจันทร์
แต่เสียใจด้วย
เพราะไม่มีการเคลื่อนไหวได้ ที่สามารถรอดพ้นการตรวจจับของ [โดมประสาท] ไปได้หรอกนะ
*ฉึก!*
ขามดสี่ข้างถูกยกขึ้นแทงกระหน่ำลงไปที่ร่างของนักบวชสีเหลืองพร้อมกัน
คมหอกที่ยาวกว่า 50 เมตร ซึ่งประสานไปด้วยขาสีเงินกับสีขาว ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวจนดูเหมือนเป็นหอกยักษ์ที่สามารถสังหารเทพเจ้า
หอกนั้นแทงทะลุปีกสีเหลืองที่เธอพยายามเอามากางป้องกันแทนโล่ ทะลุผ่านร่างเนื้อ เฉือนผ่านเอวซ้าย ก่อนจะส่งร่างของนักบวชผมเหลืองกับผมสีฟ้าลอยข้ามห้อง ไปฝังอยู่ในกำแพงดินด้านหลัง
“ลาพิส เอโซ!!”
ยัยนักบวชภูติรีบบินไปหาเพื่อนของเธอ พร้อมกับกางม่านป้องกันสุดกำลังปกป้องเอาไว้
ชิ— ทั้งที่ตั้งใจจะแทงหัวใจยัยหัวเหลืองให้ตายตามยัยหัวฟ้าไปอีกคนแท้ ๆ
ดันเบี่ยงหลบจุดตายได้อีกนะยัยนี่
ว่าแต่ช่างเป็นพลังที่ยอดเยี่ยมนัก
ถ้าเรามีพลังนี้ละก็ จะต้องสามารถควบคุมทุกอย่าง แล้วปฏิรูปเผ่าอาร์โทรโพดาได้อย่างแน่นอน
ไม่สิ ไม่ใช่แค่ปฏิรูป แต่ยังสามารถใช้มันยึดครองเผ่าอื่นที่หวังรุมกินโต๊ะพวกเราจากสิทธิประโยชน์เหมือง ให้มาอยู่ใต้การปกครองของเผ่าพวกเราได้อีกด้วย
“แด่ความยิ่งใหญ่ของเผ่า แด่ท่านอาเทม แด่ท่านมารดาแห่งแผ่นดิน แฟตที่สอง!”
เราจะขอใช้ชีวิตและพลังนี้ทำให้ให้เผ่าของเรากลับมารุ่งเรือง เพื่อถวายให้แด่ท่าน!
“แค๊ก! มันเจ็บนะยะ! ให้ตายสิ อยู่ ๆ ต้องมาสู้กับพวกที่ใช้กายทิพย์ แต่พวกเราต้องใช้ร่างเนื้อไปสู้เนี่ย มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!!”
นักบวชผมสีเหลืองอาเจียนเป็นเลือดออกมาก้อนใหญ่ พร้อมกับคําสบถที่หยาบคาย
“ให้ตายสิ [แด่ความยิ่งใหญ่ของเผ่า แด่ท่านอาเทม แด่ท่านมารดาแห่งแผ่นดิน แฟตที่สอง] ฟังแล้วจะอ้วก เคยนึกสงสัยว่าแค้นเรื่องอะไร ทำไมถึงยึดติดโลกคนเป็นได้ขนาดนี้ นั่นมันก็แค่ความยึดติดที่คิดเอาเองไม่ใช่หรอกเรอะ? ทำไมพวกผีแค้นพวกนี้ถึงมีความคิดบิดเบี้ยวกันแทบทุกตัวเลยนะ? ”
“…แกหมายถึงใคร ที่ว่าเป็นผีแค้น? ”
“เออ หมายถึงแกนั่นละเจ้าผีโง่!”
“เราไม่ใช่ผีแค้น!”
เราคือผีที่ทวงคืนความยุติธรรม
เราคือผีแห่งความยุติธรรมที่หวังอยากจะล้างบางพวกนักโกงเมืองให้หมดไป
ผีที่หวังกำจัดสิ่งสกปรกให้หมดไปจากแผ่นดินเพื่อมารดาแห่งแผ่นดินที่เรารักยิ่ง
“แกบอกว่าทำเพื่อแฟตที่สอง? ถามจริงเถอะ ยัยนั่นเคยพูดจากปากเองหรือยังไงว่าต้องการแบบนี้? ”
เรื่องแบบนั้น—
“ทำไม? ถึงกับเถียงกลับไม่ได้เลยหรือยังไงยัยผีแค้น? ”
แก…
แกเคยเห็นบ้านเมืองที่ถูกปกครองอย่างยุติธรรมในทุกชนชั้น โดยแฟตที่สองมาก่อนหรือเปล่า?
แกเคยได้รับความหวังที่เกิดจากการเปลี่ยนปฏิวัติค่านิยมเพศหญิง โดยท่านอาเทมไหม?
สองมารดาแห่งแผ่นดินผู้ล่วงลับ คือผู้มอบชีวิตใหม่ให้กับพวกเรา มดชนชั้นทาส!
แล้วเรื่องอะไร ใครมันจะยอมให้บ้านเมืองกลับมาเป็นแบบเดิมเพียงเพราะแค่สองคนนั้นตายจากไปกันเล่า!?
“อย่างแกมันจะมารู้เกี่ยวกับท่านแฟตที่สองกัน!”
เราพุ่งเข้าไปหายัยนักบวชด้วยความโกรธ
ด้วยระยะโจมตีของขาที่ยาวถึง 50 เมตร และมีทั้งหมด 6 ข้าง ผสานไปด้วยพลังงานวิญญาณสองขั้ว พวกมันที่บาดเจ็บอยู่ถึงสองคน ไม่มีทางป้องกันเอาไว้ได้อย่างแน่นอน
เรา— จะหุบปากเน่า ๆ ของยัยนักบวชเดียวนี้!
“สุดท้าย ผีโง่ก็ยังเป็นผีโง่อยู่วันยังค่ำละนะ”
MANGA DISCUSSION