“ฑาทิม หยุดใช้ปืนไฟเดียวนี้ เดียวมังกรของนายก็ตายเพราะขาดอากาศหายใจกันพอดี!”
ผมพยายามตะแบงเสียงให้ได้ดังมากที่สุด เพื่อที่จะให้เขาได้ยิน
“ฮืม!? ว่ายังไงนะเจ้าหน้าอ่อน!”
ถึงจะไม่แน่ใจว่าได้ยินหรือไม่ แต่อย่างน้อยเขาก็หยุดใช้ปืนพ่นไฟ แล้วหันกลับไปมองดูพวกมังกรของตัวเอง
ใบหน้าของมังกรสุดรักสุดหวงของเขาทั้งสี่ตัว ล้วนต่างเริ่มซีดเซียวเหมือนคนขาดอากาศหายใจ
แต่กระนั้น เหล่าสัตว์ที่ซื่อสัตย์ก็ยังคงพ่นไฟต่อไปไม่หยุด แม้นว่านั่นจะทำให้พวกมันตายได้ก็ตาม
“เฮ้ย!?! เอาจริงดิวะ!! ข้าลืมไป! ข้าขอโทษ! พวกแกไม่ต้องพ่นไฟแล้ว หยุดเดียวนี้เลยเจ้าพวกโง่!”
*กรร…*
แสงไฟสีทองที่สาดไปทั่วอุโมงค์ใต้ดินเริ่มจางหาย
อากาศที่ชวนอึดอัดเริ่มผ่อนคลายเบาบาง
ความร้อนเริ่มถูกระบายออกผ่านช่องอากาศด้านบนของอุโมงค์ แล้วถูกแทนที่ด้วยอากาศที่ไหลผ่านจากช่องอากาศช่วงล่าง
ถึงจะสามารถป้องกันสภาวะขาดอากาศตายของพวกมังกรไปได้ แต่ใช่ว่าจะรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ถูกฝูงแมงมุมทรายปิดล้อมเอาไว้
จำนวนมันมีเยอะมาก จนแค่กำลังเล็ก ๆ ของพวกเราสามคนไม่เพียงพอที่จะช่วยเสริมทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาได้
อย่างแม้แต่ตอนนี้ แค่จะหาทางวิ่งฝ่าฝูงเข้าไปหากลุ่มของฑาทิมยังทำไม่ได้เลย
สถานการณ์ตอนนี้คืออุโมงค์ได้กลับมามืดอีกครั้ง
แสงไฟเพียงแหล่งเดียวในสถานที่แห่งนี้ คือตรงปากประตูที่ห่างออกไปทางด้านหลังราว 30 เมตร กับแสงไฟจากรถกระทิงของฑาทิมที่อยู่ข้างหน้าห่างออกไปราว 70 เมตร
พวกแมงมุมมันยังไม่รู้ว่ามีคนสามคนกำลังวิ่งเข้าไปใกล้ฝูงของพวกมันจากทางด้านหลัง
ถ้าพวกมันรู้ตัวเมื่อไหร คงได้กรูเข้ามาขย้ำพวกเราให้กลายเป็นเนื้อบดในทันทีอย่างแน่นอน
แต่จะว่าไปแล้ว— แผนดึงความสนใจพวกมันให้ไปทางประตูเองก็ดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
เอายังไงดี ทำตัวเสียงดังเพื่อเรียกให้แมงมุมหันมาทางพวกเราตอนนี้เลยดีไหมเนี่ย?
“พี่ชายมนุษย์ พี่สาวกระต่าย ใช้สิ่งนี้ค่ะ!”
“นี่มัน? ”
“หนักเจ้าค่ะ!? ”
มีปืนกระบอกหนึ่งถูกนำมายัดใส่มือของผม
มันเป็นปืนสีขาวทรงกระบอกที่ไม่มีรังเพลิงกับช่องปล่อยรังสี และมีตัวลำกล้องยาวถึง 6 เมตร พร้อมล้อติดปลายฐานกระบอกปืนเพื่อใช้ลากเคลื่อนย้าย
*ตึ่ง!*
เพราะถูกยัดเข้ามือแบบไม่ทันตั้งตัว เลยเผลอทำมันหล่นกระแทกใส่พื้นเต็มแรง
เสียงโลหะหล่นกระแทกพื้นอุโมงค์ดังสะท้อนไปทั่ว
เสียงขาแมงมุมที่สั่นไหวเริ่มมีการเปลี่ยนทิศทาง หันเหมาทางพวกเราแทน
เชี่ยแล้วไง!
“เหมือนว่าพวกมันจะหันมาโจมตีทางพวกเราแล้วค่ะ! รีบยิงออกไปเร็ว ๆ สิค่ะพี่ชายมนุษย์ พี่สาวกระต่าย! เพราะมันกระบอกใหญ่ เลยต้องใช้สามคนช่วยกันยิงค่ะ!”
เด็กสาวตัวน้อยว่าเช่นนั้นแล้วรีบกางขาตั้งยึดลงบนพื้นจนแน่น
“แล้วไอปืนกระบอกนี้มันคืออะไรกันเล่า!? ไปเอามาจากที่ไหนเนี่ย? ”
“พอดีเห็นว่าหุ่นยนต์ที่เฝ้าประตูถือพวกนี้เอาไว้ทุกตัว ประกอบกับที่มีแมงมุมทะเลทรายอยู่อีกฝั่งของประตู เลยคิดว่าบางทีปืนพวกนี้น่าจะใช้ไล่พวกมันได้ค่ะ!”
พูดจามีเหตุผลอยู่แฮะ
“งั้นมาลองกันเลยเจ้าค่ะ!”
“โอเค เดียวผมกับควอตซ์จะจับตำแหน่งศัตรูให้ หนูไซต์เป็นคนเหนี่ยวไกปืนนะ!”
“ได้เลยค่ะ!”
สามคนรวมเป็นหนึ่ง โดยให้หนูไซต์ไปยืนอยู่ที่ส่วนท้ายคอยควบคุมไกปืน ส่วนพวกเราสองคนจับตรงหัวปืน เพื่อคอยขยับตำแหน่งในการเล็งเป้า
รู้สึกเหมือนเป็นการรวมร่างเตรียมปล่อยอาวุธอะไรสักอย่างของขบวนการห้าสีเลยแฮะ…
“ยิงละนะค้า~”
*อีสสสสสสสสสสสสสส กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด—–!!!!!*
“เสียงเชี่ยไรเนี่ย!!”
“ปวดหูสุด ๆ ไปเลยเจ้าค่ะ!”
“เจ็บหูอ๊ะ! แง!”
ทั้งที่คาดหวังว่ามันจะยิงลำแสงหรืออะไรสักอย่างออกมา แต่กลับกลายเป็นเสียงประหลาดที่ชวนให้ปวดประสาทสุด ๆ ไปแทน
เสียงนั้นดังไปทั่วอุโมงค์ สะท้อนไปตามผิวโค้ง จนราวกับว่ามีปืนในลักษณะที่คล้ายกันอีกนับร้อยกระบอกยิงออกมาพร้อมกัน
ถึงจะมีบางส่วนที่พังเสียหายจนเต็มไปด้วยกองทราย แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรที่จะลดทอนเสียงสะท้อนนี้ลงมาได้เลย
*อีสสสสสสสสสสสสสส——–!*
เสียงที่ชวนน่าปวดหูนี้ยังคงดังไม่หยุด
เหล่าแมงมุมที่เคยกรูเข้ามาหาพวกเรา ต่างพากันวิ่งหนีกลับไปในรูตามกำแพงที่เจาะออกมา
เอาจริง ขนาดผมเองยังอยากวิ่งหนีไปจากตรงนี้เลย
ตอนนี้รู้ซึ้งแล้วว่าทำไมหุ่นยนต์แค่ 10 ตัว ถึงสามารถเอาฝูงสัตว์ร้ายพวกนี้ได้อยู่หมัด
“โอ๊ยยยย! หยุดเจ้าปืนบ้านี้ที!”
“พยายามอยู่ แต่… คือ… แบบว่าเหมือนปืนมันจะเก่ามาก… ไกปืน… มันหักไปแล้วค่ะ…”
“เวรกรรม!”
ผมหันไปทางเจ้ายักษ์ฑาทิม
ยานกระทิงเหล็กสี่ลำที่เคยเต็มไปด้วยยักใยแก้วเปื้อนเมือกเหนี่ยว กำลังเริ่มลอยลำตัวบินขึ้นมาเหนือพื้น
ดูท่าว่าจะใช้ช่วงจังหวะที่พวกเราหันเหความสนใจ ซ่อมแซมยานให้กลับมาบินอีกครั้งได้สำเร็จ
งั้นพวกเราเองก็ได้เวลาจรลีแล้วเช่นกัน
*อีสสสสสสสสสสสสสส——–วีดดดดดดดดดดดดดดดดดด—–!!!!!*
โอ๊ย! ปวดหู!
เสียงปืนบ้านี่ดันเจือกดังขึ้นกว่าเดิมซะงั้น!
แถมยังดังอย่างน่ากลัว ราวกับว่าพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่ออีกด้วย!
“คุณคนสวยทั้งสอง รีบจับมือของข้าเอาไว้เร็ว!”
“ค่ะ~!”
“เจ้าค่ะ!”
ผมได้ยินเสียงของฑาทิมดังขึ้น
ที่ตรงหน้า มียานกระทิงเหล็กลำหนึ่งกำลังบินเลียบต่ำตรงมาทางพวกเรา
บนยานเหาะคันนั้น มียักษ์แดงตัวใหญ่กำลังยื่นมือลงมารับพวกสาว ๆ
เล็งช่วยเฉพาะกับพวกสาว ๆ เท่านั้น โดยไม่สนใจผมเลยสักนิด~
ไอเจ้ายักษ์บ้ากามเอ๊ย…
“คุณ ออน ครับ จับเอาไว้!”
“!!”
ท่ามกลางความสับสนเพราะคลื่นเสียง มีเสียงแหลมคล้ายผู้หญิงดังแทรกขึ้นมา
ผมเงยหน้ามองไปทางเสียงนั้น
ที่ด้านข้างของฑาทิม มีเผ่ายักษ์ร่างเล็กผมสีฟ้าคนหนึ่ง กำลังยื่นแขนที่เรียวบางมาทางผม
นั่นใช้ลูกน้องของฑาทิมที่ชื่อ [เบอร์รี่] หรือเปล่า?
“รับที!”
จะเป็นใครก็ช่าง ตอนนี้รีบคว้าเอาความช่วยเหลือเอาไว้ก่อนดีกว่า
ผมรีบยกมือขวารับมือที่ยื่นมาของเขาเอาไว้
สัมผัสของมือที่ได้รับ ช่างนุ่มนวลราวกับเป็นมือของผู้หญิง
แถมยังมีกลิ่นหอมด้วย
ผู้ชายบ้าอะไร ทำไมถึงมีมือที่นุ่มกับกลิ่นหอมได้ขนาดนี้?
*อีสสส——วีดดดดดดดดด—–*
หลังจากขึ้นยานกระทิงมาได้สักระยะ เสียงหวีดร้องของปืนก็เริ่มเบาลงจนแทบไม่ได้ยินอีก
สงบลงได้สักทีวุ้ย…
ต้องขอบคุณ คุณเบอร์รี่จริง ๆ ที่ยื่นมือมาช่วยเราเอาไว้
“…ขอบคุณครับ คุณ เบอร์รี่”
“อ๊ะ!? เออ— ไม่เป็นไรคะ— ครับ!”
ทำไมต้องอายหน้าแดงด้วยฟะ…
จะว่าไป เราเคยช่วยหมอนี่เอาไว้ตอนเหตุการณ์หมอกปีศาจ
พอมาเจอกันอีกครั้ง เจ้าหมอนี่ก็ดูเหมือนพยายามยากจะคุยบางอย่างกับเรา
แถมมันยังเป็นคนที่ยื่นมือมาช่วยเราเอาไว้
แล้วยังมีหน้าตากับรูปร่างที่เหมือนยักษ์เพศหญิงมากกว่าเพศชาย
แถมยังมีแสดงท่าทีขวยเขินใส่ผมอีก
อย่าบอกนะว่า— เจ้าหมอนี่จะเป็นพวกรักร่วมเพศที่กำลังแอบชอบผมอยู่!?!
***
ฉันมีนามว่า [เบอร์รี่]
เพราะมีนิสัยเหมือนผู้ชายมาตั้งแต่เกิด เลยทำให้ไม่มีใครมองว่าฉันเป็นผู้หญิงเลย
ในเมื่อไม่มีใครมองว่าเป็นผู้หญิง เลยตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างผู้ชายไปเสีย
ฉันทำตั้งแต่ปลอมตัว โกหกเพศในบัตรประชาชน แล้วสมัครงานมาเป็นนักสำรวจอยู่ในหน่วยของคุณฑาทิมที่เปิดรับเฉพาะแต่เผ่ายักษ์เพศชายเท่านั้น
ฉันคิดว่าได้ฝั่งความเป็นผู้หญิงไปตั้งแต่ที่เข้ามาอยู่ในหน่วยนี้ไปแล้ว จนกระทั้งวันหนึ่ง
“ไม่เป็นไรนะครับ”
“อันตรายครับ!”
“เดียวตรงนี้ผมจัดการเอง พวกคุณรีบหนีไปเถอะครับ!”
ฉันก็ได้พบกับเจ้าชายขี่ม้าขาวของฉัน
ถึงเผ่ามนุษย์จะมีขนาดตัวเล็กกว่า อ่อนแอ แล้วยังขี้ขลาด แต่ชายคนนี้กลับเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนและความเข้มแข็ง
เขาช่วยชีวิตของฉันเอาไว้
ไม่เคยมีใครปฏิบัติกับฉันอย่างนั้นมาก่อนในชีวิต
เพราะแบบนี้ ฉันเลยอยากเจอเขาอีกครั้ง
อยากเจอ…
อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ อยากเจอ
จนกระทั้งคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจออีกครั้งในวันที่มาทำภารกิจบนทวีปแห่งความแห้งแล้ง
ไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอกันอีกเป็นครั้งที่สามในอุโมงค์แห่งนี้
เขาต้องเป็นผู้ชายในโชคชะตาของฉันอย่างแน่นอน
ว่าแต่ยัยกระต่ายที่อยู่กับเขาเป็นใคร?
ผู้หญิงในชุดนักบวชเมื่อวันนั้นเป็นใคร?
ผู้ชายหน้าใสคนนี้จะต้องเป็นของ ๆ ฉันคนเดียวเท่านั้น
ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว ของ ๆ ฉันคนเดียว
เพราะยังมีคำถามมากมาย เลยยังไม่กล้าเปิดเผยความจริงว่าตัวเองเป็นผู้หญิง
ฉันต้องปลอมตัวต่อไป เพื่อสำหรับเหตุการณ์ว่าตัวเองอาจจะต้องเข้าไปขับไล่ (ฆ่า) พวกหนอนเน่าที่มารุมตอมเขา
ฉันจะไม่ยอมให้มีอีนังตัวร่านหน้าไหนมาหลอกใช้ความอ่อนโยนของเขาเป็นอันขาด
“เออ”
“คะ— ครับ? ”
อยู่ ๆ คุณ ออน ก็เริ่มหันมาทักทายฉัน
ใบหน้าของเขาดูตึงเครียด เหมือนว่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
นี่มัน— สายตาของคนที่เหมือนพบความจริงอะไรสักอย่าง!?
อย่าบอกนะว่าเขารู้แล้วว่าฉันเป็นผู้หญิง!
จะ— จะทำยังไงดี!?!
ตะ— แต่ถ้าเขารู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง นั่นหมายความว่าเขามองว่าฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง!
อ๊าย~❤ ถ้าเป็นแบบนี้ มีความสุขตายเลยค่ะ~❤
“นี่…ขอบอกเอาไว้ก่อนนะครับ ว่าผมชอบผู้หญิงตามปกติ”
“เออ…? ”
หมายความว่ายังไง?
พูดแบบนี้… หมายความว่าเห็นฉันเป็นผู้ชายที่ชอบไม้ป่าเดียวกันอย่างงั้นเรอะ?
“!!!— มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิยะ!”
“โอ๊ย! ตบหัวผมทำไมครับเนี่ย!? ”
“ไม่รู้ไม่ชี้! หึ!”
ว่าแล้วก็ตบหัวมันสักทีด้วยความหมั่นไส้
นึกว่าจะมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของฉันได้เสียอีก!
ฮือ…
แต่แบบนี้ก็ดูน่ารักไปอีกแบบอยู่นะ~❤
ว่าแต่…ทิศทางที่ยานกำลังมุ่งตรงไป มันคือเส้นทางไปที่เหมืองร้างใจกลางทวีปนี่?
ไม่ใช่ว่าพวกเราจะต้องพา คุณ ออน กลับไปส่งที่เหมืองก่อนหรอกหรือคุณหัวหน้าฑาทิม?
MANGA DISCUSSION