***วันที่ 30 เรตนิว เวลา 33:00 น.***
ณ ท่าเทียบแคปซูลของอุโมงค์พลังงานขนส่งขนาดใหญ่
มันเป็นอุโมงค์ที่ดูมีอายุเก่าแก่ ถูกทิ้งร้างจนเต็มไปด้วยสีแดงคล้ำของสนิม
ทุกตารางนิ้วของพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นกับความชื้น อีกทั้งยังมีกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ลอยนวลฉุนจมูก
ไม่มีร่องรอยของผู้คนพักอาศัยอยู่ นอกจากหุ่นยนต์แอนดรอยรูปร่างมนุษย์มดจำนวนสิบตัว ที่ยืนอารักขาอยู่หน้าประตูสีเทาบานใหญ่ที่ถูกปิดตายเอาไว้
“มาถึงแล้วโว๊ยยย! เสียเวลาไปตั้งนานเลย วะ ฮะ ฮะ ฮะ!”
ชายเผ่ายักษ์ที่มีผมสีส้มเปลวเพลิงยาวจรดเอว และมีใบหน้าคมงดงามเฉกหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เขาสวมชุดหนังสีเงินตัวเก่ง ที่มีตราอักษรชื่อ [โฮป-คอมปะนี] ปักเอาไว้บนปกเสื้อขวา
“เออ! ใช่! เสียเวลานานมากเลยนะเอ็ง กว่าจะโผล่หัวมาที่เหมืองนี้ได้เนี่ยเจ้าทึ่มฑาทิม!”
ในเวลานั้นเองที่มีเสียงตะโกนอย่างโกรธเคืองดังขึ้นมา
บุรุษยักษ์หันไปทางต้นเสียงนั้น
เนื่องจากเป็นเสียงที่คุ้นเคยที่น่ารำคาญใจสำหรับเขา เขาจึงย่นคิ้วเข้าหากันอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“… ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้วะไอบ้า [อัลดีไฮน์] ”
ภายในเงามืดของอุโมงค์ มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนรอการมาถึงของบุรุษเผ่ายักษ์
พวกเขาเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยคนจากเผ่ามนุษย์นกทั้งหมด เป็นชาย 3 คน กับ หญิงอีก 17 คน
ทุกคนล้วนแล้วแต่มีหน้าตาสวยงาม จนทำให้นึกว่าเป็นกลุ่มคนที่มาจากงานประกวดซุปเปอร์โมเดลชั้นนำของโลก
“เรามาอยู่ที่นี่เพราะเหตุผลเดียวกับเอ็งนั่นแหละเจ้ายักษ์โง่”
ชายผู้ที่มีปีกสีขาวบริสุทธิ์ แผงคอฟูฟ่องดั่งพญาอินทรี ได้เดินออกมาจากเงามืดเพื่อแสดงรอยยิ้มเย้ยหยั่นให้กับบุรุษยักษ์เปลวเพลิง
ที่ด้านหลังของเขา มียานเหาะลำใหญ่รูปทรงคล้ายนกเหยี่ยวสีเงินที่ถูกเด็ดปีก จอดรออยู่เป็นจำนวนสามลำ
ที่บนตัวลำของยานเหล่านั้น มีตราสลักอักษร [โฮป-คอมปะนี] ที่เหมือนกับตราของบุรุษยักษ์ปรากฏอยู่อย่างโดดเด่น
“ว่ายังไงนะ! ภารกิจ [เปิดเหมืองแร่ อาเท็ม] มันควรมีแต่หน่วยของข้า [ยักษาฑาทิม] ที่รู้เท่านั้นสิ!”
“ถ้าไอโง่อย่างแกรู้ คนในบริษัททั้งหมดก็รู้เหมือนกันนั่นละวะ”
“ด่าใครว่าโง่กันฟะ! ข้าเป็นรุ่นพี่เอ็งนะเฟ้ย หัดให้ความเคารพกันบ้างหน่อยสิวะ!”
“หึ หึ หึ รุ่นพี่ที่ถูกกลุ่มของรุ่นน้องอย่างผมทำผลงานแซงหน้าได้อย่างงั้นหรือครับ? ”
“ว่ายังไงนะ!”
ดูจากการสนทนาของทั้งคู่แล้ว ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะไม่กินเส้นกันเท่าไหรนัก
[โฮป-คอมปะนี] คือบริษัทเอกชนอิสระที่รวบรวมนักรบเพื่อการว่าจ้างในการสำรวจดินแดนใหม่ที่มีอายุยาวนานถึง 95 ปี
ผู้ก่อตั้งคือสุดยอดบุรุษเผ่ามนุษย์ [โฮป] ตำนานแห่งบุรุษผู้ว่ากันว่ามีเผ่าพันธุ์ที่เจ็ดสิงสู่อาศัยอยู่ในร่างกาย จนมีอายุยืนยาวกว่าปกติของช่วงชีวิตเผ่ามนุษย์
บริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมานั้น มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการสำรวจที่เป็นไปไม่ได้ ทำให้มันเป็นไปได้
ไม่ว่างานนั้นจะมีสัตว์ประหลาดหรือภัยธรรมชาติโหดร้ายแค่ไหน พวกเขาจะจัดสรรหาบุคคลากรเพื่อทำให้ภารกิจเหล่านั้นลุล่วงให้สำเร็จ
ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะถูกบริหารโดยลูกหลานของเขา แต่ว่ากันว่าผู้ก่อตั้งรุนแรกยังคงมีชีวิตอยู่ และยังคงสามารถรักษาชื่อเสียงที่รุนแรกได้สร้างเอาไว้อย่างไม่มีเสื่อมสลาย
แน่นอนว่าค่าจ้างแพงมาก…
บุรุษยักษาฑาทิมกับบุรุษเหยี่ยวอัลดีไฮน์ สองคนนี้เองก็เป็นพนักงานของบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งนี้
“เอาละ ที่พวกเราต้องเสียเวลามารอรุ่นพี่โง่ ๆ ถึง 7 วัน ก็ไม่มีอะไรมากมายครับ แค่อยากจะพูดต่อหน้ารุ่นพี่ตรง ๆ ว่า”
“ว่า? ”
“ภารกิจนี้ พวกเราจะเป็นคนพิชิตเองครับ”
ว่าแล้วบุรุษอินทรีหน้าหล่อก็กางปีกบินกลับขึ้นไปบนยานเหาะเหยี่ยวเงิน
ตัวยานทั้งสามเริ่มลำงอกปีกเหล็กกล้าออกมากางทั้งสองข้าง
เสียงเดินเครื่องยนต์ดังกังวาลสะท้อนไปทั่วอุโมงค์
“ยืนยันใบอนุญาตนักสำรวจ— แจ้งการเปิดประตู”
เสียงหุ่นยนต์เฝ้ายามเปล่งวาจากลบเสียงเครื่องยนต์ที่กำลังดังกังวาล
กำแพงสีเทาหนาที่ถูกปิดตายเริ่มเปิดแยกออกเป็นสองฟากฝั่ง
กระแสลมแรงถูกดูดเข้าสู่พื้นที่อันชื้นแฉะของอีกฟากประตูที่ไม่เคยถูกเปิดนานนับหลายสิบปี
ไม่มีแสงไฟหรือคลื่นพลังงานปรากฏให้เห็นตามขอบเขตของอุโมงค์
ซ้ำร้ายภายในนั้นยังเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกกัดแทะจากสัตว์ร้าย
มีบางส่วนถูกแรงดันทรายพังถล่มลงจนเห็นเป็นภูเขาทรายสูงท่วมหลุม
บางส่วนเห็นรอยลอกคราบของแมงมุมยักษ์ที่ถูกทิ้งร้าง
หากเงียหูฟัง ณ จุดที่ไกลออกไปในความมืดมิด จะได้ยินเสียงกัดแทะเนื้อที่ชวนให้ไม่อยากจินตนาการภาพตาม
“ยังไงก็รีบตามมานะครับรุ่นพี่! แต่คนอย่างรุ่นพี่คงลืมเตรียมตัวมาแน่นอน รู้ไหมครับว่าจะผ่านประตูนี้ มันต้องขอเอกสารทางการอีกฉบับ? แล้วกว่าออกเอกสารใหม่คงต้องใช้เวลาสัก 45 วัน เลยนะครับ”
“เฮ้ย!? ว่ายังไงนะ!!”
สีหน้าของบุรุษยักษ์ฑาทิมเริ่มซีดเผือก
ดูท่าเขาจะลืมเตรียมเอกสารมาล่วงหน้าอย่างที่พญาอินทรีขาวบอกกล่าว
“ยังไงก็ขอให้สนุกกับการยื่นเอกสารผ่านอุโมงค์ปิดตายนี้นะครับ! ฮะ ฮะ ฮะ!”
เขายิ้มและหัวเราะราวกับเป็นคนบ้าเมื่อได้เห็นสีหน้าของรุ่นพี่ตัวเอง
เขามุดกลับเข้าไปในยานเหยี่ยวเงิน แล้วบินทะยานออกไปในอุโมงค์อันมืดมิด โดยทิ้งรุ่นพี่เอาไว้เบื้องหลังพร้อมกับเสียงหัวเราะของตัวเองเป็นของฝากทิ้งท้ายไป
***
“คุณออน น้องไซน์ พวกเรารีบช่วยใครสัก แล้วกลับไปรายงานผลให้พวกคุณเอโซฟัง เพื่อจบการฝึกที่สองนี้กันเถอะค่ะ!”
“งือ…”
“ฮึม…”
“รีบจบการฝึก เพื่อกลับไปขอฝึกวิธีควบคุมพลังซ้อนเร้นยังไงละเจ้าค่ะ!”
“งือ…”
“ฮึม…”
“ปัดโธ่! ทั้งสองคนช่วยมีไฟสู้กันหน่อยสิเจ้าค่ะ!”
ณ ส่วนเขตนอกการดูแลของภาครัฐของเหมืองแร่ทางตอนเหนือทวีป
ในสถานที่เสื่อมโทรมแห่งนี้ มีพวกเราสามคนกำลังเดินทอดน่องด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะรื่นเริงเท่าไหรนัก
ในจุดที่พวกเราเดินกันอยู่ ณ ปัจจุบัน คือส่วนใต้ผืนทรายที่เป็นเหมืองแร่ขนาดใหญ่
มีเสียงขุดเจาะ เสียงคนเหมืองทำงาน เสียงหุ่นโดรนที่บินตรวจหาแหล่งแร่ ดังขึ้นไม่ขาดสาย
แต่เป็นเพราะมันตั้งอยู่ส่วนนอกของพื้นที่คุ้มครอง จึงให้สามารถเห็นเศษซากรถขนแร่ที่เคยถูกจี้ปล้น กองกายเกลื่อนไปทั่วตามทางเดินเล็ก ๆ นี้
ไกลออกไปในอุโมงค์เองก็มีเสียงยิงปืน เสียงคนทะเลาะกันดังขึ้นเป็นระยะ
สรุปง่าย ๆ เลยคือพวกเราสามคนกำลังเดินอยู่ในเหมืองเถื่อนนั่นละเจ้าค่ะ
“ทั้งที่ยังใช้พลังซ้อนเร้นไม่ได้ แต่กลับให้ข้ามมาสู่บทเรียนที่สองเฉย…”
“แถมบทเรียนแปลก ๆ นี้มันคืออะไรกัน? ให้มาช่วยคนในเขตเหมืองเถื่อนเนี่ยนะ? มันเกี่ยวกับการใช้พลังซ้อนเร้นตรงไหน? ”
สิ่งที่สหายของข้าน้อยกำลังบ่นเป็นหมีกินผึ้ง คือสาเหตุที่พวกเราสามคนมาเดินอยู่ตรงนี้
เมื่อเช้า… อยู่ ๆ คุณเอโซก็ประกาศยุติการฝึกขึ้นแรก แล้วข้ามไปขั้นที่สองโดยไม่สนใจว่าน้องไซน์กับคุณออน ยังไม่สามารถควบคุมพลังงานซ้อนเร้นได้
ที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้ มีเพียงแค่การรับรู้สัมผัสถึงตัวตนของพลังงานเท่านั้น
ข้าน้อยไม่รู้ว่าคุณเอโซกำลังคิดอะไรอยู่
เธอบอกว่าฝึกเจ็ดวัน ได้ถึงระดับที่สัมผัสตัวตนของพลังงานลึกลับนี้ได้ เธอก็พอใจแล้ว และเป็นที่มาของการขึ้นบทเรียนที่สองโดยทันที
“จงไปช่วยเหลือใครสักคนในเขตเหมืองเถื่อนซะ”
ช่างเป็นวิธีการฝึกที่ฟังดูน่ากังขามากเจ้าค่ะ
การฝึกแบบนี้ มันจะไปช่วยอะไรได้กันเจ้าค่ะ?
“ฮือ… ทำไมถึงใช้ไม่ได้… ทั้งที่สัมผัสได้แล้ว…”
“พี่ควอตซ์ขี้โกงอ่า~ มีทริกอะไร ช่วยบอกกันบ้างจิ~”
สองสหายน้อยใหญ่หันมามองทางข้าน้อยด้วยสายตาของพวกขี้อิจฉา
จะให้ตอบยังไงกันดีเนี่ย…
เพราะข้าน้อยเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเช่นไรดี ว่าพลังงานลึกลับที่ว่านี้ มันมีหลักการทำงานอย่างไร
แบบ— พอข้าน้อยรู้ตัวอีกที ข้าน้อยก็ใช้งานมันได้แล้ว
อารมณ์มันเหมือนกับที่เวลาเด็กทารกสามารถเดินตั้งไข่ได้เอง โดยไม่มีใครสอนแบบนั้นเลยเจ้าค่ะ
“อะ— เอาเป็นว่าคุณเอโซคงมีความคิดอะไรอยู่แล้วเจ้าค่ะ!”
“หวังว่าคงไม่ใช่กลั่นแกล้งกันมากกว่าหรอกนะ? ”
“เออ…”
อันนี้เถียงสู้ไม่ไหวแฮะ
เพราะข้าน้อยเองก็รู้สึกเหมือนกัน ว่ากำลังถูกคุณเอโซแกล้งอยู่
” บูว~ บูว~ อยากกระโดดเด้งไปมาแบบพี่สาวกระต่ายได้บ้างงะ”
” นั้นสิน้า~ ผมเองก็อยากลองดูว่าพลังนี้จะช่วยอะไรในการใช้อาวุธได้บ้าง ถ้าทำได้ คงสามารถเอาไปใช้ปราบคนเลวได้อีกเยอะแยะเลยละ ไม่เหมือนใครบางคน ที่เป็นแล้วไม่ยอมบอกเคล็ดลับให้เนี่ย”
“…”
บ่นนู้นนี่นั่นกันอยู่ได้
ข้าน้อยชักจะรำคาญแล้วนะเจ้าค่ะ!
“เดียวแม่จับหักคอหมกเหมืองแร่ทั้งสองคนให้ตรงนี้ดีไหมเจ้าค่ะ? ถ้าจะโทษใคร ไปโทษคุณเอโซนู้นเลยเจ้าค่ะ!”
” หวาย!?! พี่สาวกระต่ายเดือดแล้ว!”
” หนีเร็วไซน์!”
” เดียวก่อน แถบนี้มีโจรเจ้าค่ะ!”
ทั้งสองคนเริ่มวิ่งหนีข้าน้อยเข้าไปในส่วนลึกของเหมือง
ให้ตายสิ
แต่ว่านะ—
หึ หึ หึ
คิดว่าจะหนีข้าน้อยพ้นหรือเจ้าค่ะ?
ข้าน้อยนะ ระดับที่ไล่ตามความเร็วของคุณลาพิสทันแล้วนะเจ้าค่ะ!
—แต่ทว่าข้าน้อยกลับไล่ตามจับตัวไม่ทันซะงั้น
“? ”
ไม่ใช่ว่าพวกเขาวิ่งเร็วกว่าข้าน้อย
แต่ทั้งสองคนต่างเคลื่อนไหวได้อย่างน่าทึ่ง จนข้าน้อยไม่สามารถจับตัวได้มากกว่า
พวกเขาสามารถวิ่งไปในที่มืดได้ราวกับมีดวงตาของเผ่าปีศาจ
สามารถหลบมือของข้าน้อยที่กำลังคว้าจับเอวจากข้างหลังได้ ราวกับมีดวงตาหลัง
แม้แต่กับดักไฟฟ้าของพวกโจรที่วางฝั่งดินรอบ ๆ พื้นที่ พวกเขาก็ยังสามารถหลบมันได้ทั้งหมด
นี่มัน…
” เฮ้…? ”
ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนกำลังใช้ประโยชน์จากสัมผัสพลังงาน ในการมองเห็นในที่มืดเหมือนข้าน้อยหรือเจ้าค่ะ?
ดีไม่ดีคงใช้มันออกมาโดยไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ
“ระวังขานะน้องไซน์”
“อ๊ะ!? ”
ข้าน้อยเห็นแสงพลังงานสีฟ้าในความมืดข้างหน้า
เงาหนึ่งกำลังคว้าตัวอีกเงาหนึ่งที่กำลังหลบกับดักกงจักรไม่พ้น
คุณออนเขาอุ้มน้องไซต์หลบกับดักมากมาย อีกทั้งยังสามารถชักปืนขึ้นมายิงโจมตีใส่พวกโจรเผ่ามดที่ซุ้มอยู่ในดินได้อีกด้วย
ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่ข้าน้อยเองก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
“ฮึบ”
เพราะข้าน้อยสามารถกระโดดหลบวิถีลูกปืนของพวกโจรได้
หลบลูกปืนโดยไม่ต้องพึ่งพาความสามารถของชุด battle suit ที่แอบสวมอยู่ข้างในเสื้อนอกตัวนี้
บางทีการถูกคุณลาพิสล่าทั้งวันทั้งคืน อาจทำให้ฝีมือของพวกเราเก่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นน้องไซต์ที่ฝึกในรูปแบบที่ปลอดภัยกว่า จึงไม่มีเขี้ยวเล็บมากพอรับมือกับสิ่งเหล่านี้ แล้วจำเป็นต้องพึ่งพาคุณออนในบางจังหวะ
การไล่ฆ่าพวกเราไม่ใช่การกลั่นแกล้ง
การฝึกของพวกคุณเอโซไม่ได้เปล่าประโยชน์เจ้าค่ะ!
แต่ถึงพวกเขาจะเก่งขึ้นยังไง—
“จับได้แล้วเจ้าค่ะ!”
“โอ๊ย!”
“แง! ถูกกระต่ายมารจับตัวแล้วค่ะ!!”
—พวกเขาไม่มีทางเก่งกว่าข้าน้อยที่มีความสามารถพื้นฐานสูงกว่าได้หรอกเจ้าค่ะ
“… ผมขอโทษที่พูดจาไม่ดีใส่ครับ”
“อย่าหักคอหนูเลยนะ พี่สาวกระต่ายสุดสวย”
ให้ตายสิสองคนนี้นี่…
ไซต์ยังพอเข้าใจได้ว่าเป็นวัยกำลังซน แต่ไม่คิดเลยว่าคุณออนจะมีมุมงอนชาวบ้านเป็นเด็กกับเขาด้วย
น่ารักอยู่เหมือนกันนะเนี่ย~
“!!!”
ความเย็นเฉียบขั้วหัวใจถาโถมโจมตีร่างกาย
มีอะไรบางอย่าง กำลังพุ่งผ่านเข้ามาอยู่ในร่างกายของตัวข้าน้อย แล้วบินผ่านทะลุออกไป
“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณควอตซ์? ”
“… เปล่า ไม่มีเจ้าค่ะ”
ช่วงนี้ข้าน้อยมักรู้สึกแปลก ๆ แบบนี้เป็นระยะ
ยิ่งตั้งแต่หลังจากฝึกสัมผัสพลังซ้อนเร้น ยิ่งรู้ถึงสิ่งนี้รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
มันคืออะไรกัน…
“…”
ในตอนนั้นเองที่คุณออนมองมาทางข้าน้อย แล้วทำหน้าเหมือนคนเห็นผี
” ทำไม? บนหน้าข้าน้อยมันมีอะไรติดอยู่หรือเจ้าค่ะ? ”
“เออ… เปล่าครับ รีบไปหาคนช่วยเถอะ”
“นั่นสิ ว่าแต่จะช่วยใครกันดีเจ้าค่ะ? ”
ที่เขตเหมืองเถื่อนตรงนี้ มันมีแต่พวกนอกกฎหมายทั้งนั้น
ถ้าให้ช่วยพวกเขา คงไม่พ้นเรื่องการปล้นสะดมชาวบ้านนั่นละเจ้าค่ะ
หาเรื่องยัดคุกให้ตัวเองชัด ๆ ใครมันจะไปทำกันเจ้าค่ะ?
“โว๊ยยย! เอกสาร!?! งานเอกสารอีกแล้วววว!! ข้าเกลียดดดด!!!”
เสียง?
พวกเราหันไปตามต้นเสียงโวยวายที่ดังลั่น
เหมือนว่าใกล้ ๆ รางเลื่อนของเหมืองแร่ส่วนนี้ จะโถงเปิดโล่ง พร้อมกับมีอาคารใต้ดินหลังหนึ่งตั้งอยู่
[สำนักงานรัฐอัตโนมัติ]
บนอาคารมีป้ายเช่นนั้นส่องแสงไฟนีออนเจิดจ้า
มันคือสถานที่ราชการที่ไม่ต้องใช้คนดูแลอะไรประมาณนี้เจ้าค่ะ
“แค่จะขอใบผ่านทางไปเหมืองแร่ทางภาคกลาง มันจะยุ่งยากอะไรหนักหนาวะไอหุ่นกระป๋อง!”
ซึ่งคนที่โวยวายอยู่หน้าสำนักงานตรงนั้น คือชายเผ่ายักษ์ที่มีผมสีส้มเปลวเพลิงเจ้าค่ะ
MANGA DISCUSSION