***การฝึกวันที่หนึ่ง***
นรก
มันคือนรก
เป็นนรกขุมแรกสุด [สัญชีวมหานรก] ก็มิอาจเป็นการกล่าวที่เกินเลยไปนัก
*กร๊อบ!*
“อ๊ากกกกก!”
ตายครั้งที่หนึ่ง
โลกทั้งใบถูกบิดกลับ 180 องศา
รู้สึกได้ว่าสติกำลังจะหลุดร่วงออกจากร่างกาย
มองไม่เห็นอะไร แต่กลับรับรู้สึกถึงที่ว่างและภาพรอบตัวได้อย่างน่าประหลาด
รู้สึกว่ารอบตัวไร้ซึ่งสรรพสิ่ง แต่กลับสัมผัสได้ถึงสรรพสิ่ง
ไม่มีสิ่งใดเหมือนที่ว่างอากาศ แต่กลับสัมผัสได้ถึงตัวตนของที่ว่างรอบตัว
เห็น— ขอบเขตของโลกที่กำลังซ้อนทับกันจนชวนสับสน เสมือนหนึ่งเรากำลังแช่ลงไปในน้ำทะเลผืนกว้างที่เย็นเฉียบ
“!!”
พอรู้ตัวอีกที ก็พบว่ากำลังลืมตาตื่นมองใบหน้าของสตรีภูติผมสีแดงอยู่
“เป็นยังไงกับประสบการณ์ที่ได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง? ไม่สิ ต้องบอกว่าอยู่ในช่วงจังหวะที่วิญญาณกำลังจะหลุดออกจากร่างกายมากกว่า เพราะผมผู้นี้รักษานายได้ทันก่อนจะหมดลมหายใจไปอย่างสมบูรณ์ยังไงละ โฮะ โฮะ โฮะ~”
เมื่อกี้นี้คือสิ่งที่เรียกว่า [ความตาย] …
ผมหันไปมองรอบตัว
ที่ด้านข้างติดกัน มีคุณควอตซ์ที่ถูกรักษาหายดีแล้ว กำลังนั่งตรวจดูแขนขวาของตัวเองอยู่
แขนที่ถูกตัดขาดได้ถูกเชื่อมกลับโดยไม่มีบาดแผลปรากฏได้อย่างน่าอัศจรรย์
แม้แต่เธอก็ยังดูไม่เชื่อสายตาตัวเอง จนต้องตรวจดูซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะแน่ใจ
ในจุดที่ห่างออกไปไม่ไกล มีหนูไซต์กำลังนั่งขัดสมาธินิ่งเป็นรูปปั้นหิน
ร่างกายของเธอไม่มีบาดแผลหรือรอยบุบสลายใด ๆ ปรากฏให้เห็น
แต่ผมกลับมองเห็นมีเส้นแสงบาง ๆ โยงยาวออกมาจากบนหัวของเธอ เชื่อมติดกับลูกไฟสีน้ำเงินประหลาดที่ลอยอยู่ด้านบนหัว
ราวกับว่ากายวิญญาณได้ถูกถอดออกมาจากร่างกายของเธอไปแล้วเช่นนั้น
“เอาละ ไม่มีเวลามาสังเกตุคนอื่นเล่นหรอกนะ ลาพิสเตรียมตั้งท่าจะออกล่าพวกนายอีกรอบแล้ว รู้ตัวไหม? ”
“รอเดี่ยว—”
*พลั๊ก!*
คราวนี้ไม่ทันแม้แต่จะได้ส่งเสียงร้องเจ็บปวด
สิ่งที่เห็นเป็นภาพสุดท้าย คือเรียวขาที่สวยงามของคุณลาพิสกำลังพุ่งเข้ามาปะทะใบหน้า
พอรู้ตัวอีกที คอของผมก็หมุนทำมุม 90 องศากับพื้นโลกไปแล้ว—
ตายครั้งที่สอง…
ตายแล้วฟื้น แล้วตายเป็นครั้งที่สาม
“อั๊ก!”
ครั้งที่สี่
“อุ๊ก!”
ครั้งที่ห้า
“โอ๊กกกก!!”
ครั้งที่หก
เวียนว่ายตายเกิดเช่นนี้เรื่อยไปทั้งวันจนเริ่มรู้สึก…
ตรูมาทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่?
ไม่ใช่ว่าตอนนี้ผมควรจะเริ่มไปสืบองค์กรคาร์นิวอย ตามเบาะแสที่พึ่งได้รับมาหรอกหรือยังไงกัน?
*ฉัวะ!*
ว่าแล้วก็ตายเป็นรอบที่เจ็ดของวัน…
ผมต้องรับมือกับการ [ล่า] ของคุณลาพิสที่เอาถึงตายเช่นนี้ไปตลอดทั้งวัน
ไม่เพียงแค่ตอนกลางวัน แม้แต่ตอนกลางคืนเองก็ยังถูกเธอออกล่าจนไม่ได้เป็นอันหลับนอน
ผมกับคุณควอตซ์ถูกฆ่าต่อเนื่องเช่นนั้นจนเริ่มคิด ว่าการฝึกเช่นนี้มันจะได้อะไรขึ้นมาอย่างงั้นหรือ?
***การฝึกวันที่สอง***
*ผุบ!*
“ข้าน้อยหลบได้แล้วเจ้าค่ะ!”
วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเหลือเชื่อเกิดขึ้นกับคุณควอตซ์
เหมือนว่าเธอจะเริ่มตามทันความเร็วปานนรกของคุณลาพิสทันแล้ว
ส่วนทางน้องไซต์ วันนี้เธอก็ยังคงอยู่ในท่านั่งสมาธิอย่างสงบเหมือนเมื่อวานไม่มีผิดเพี้ยน
ส่วนทางด้านตัวผมนั้น—
*พลั๊ก!*
—ตายเป็นครั้งที่หนึ่งร้อย…
ทำยังไงก็ยังไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของคุณลาพิสทันได้เลยครับ…
***การฝึกวันที่สาม***
“ข้าน้อยว่าสามารถจับเคล็ดบางอย่างได้แล้วเจ้าค่ะ!”
ณ เวลาเช้าตรู่ของวัน
ผมเห็นคุณควอตซ์ตั้งท่ายืนสงบนิ่งเพื่อทำสมาธิ
ส่วนคุณลาพิสยืนอยู่รอบนอกมองดูเธอโดยไม่คิดเคลื่อนไหว
ในตอนนั้นเองที่ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
ผมคือคนที่สามารถมองเห็น [วิญญาณ]
ดังนั้น เลยสามารถมองเห็นปรากฏการที่เกี่ยวกับทางวิญญาณได้
ร่างกายของสิ่งมีชีวิตล้วนแต่ประกอบด้วย [กาย] กับ [วิญญาณ] นั่นคือสิ่งที่ผมรู้มาจากพวกสามสาวนักบวช
ก่อนที่ผมจะรู้จักกับพวกเธอ ผมเองก็เคยเห็นอะไรในลักษณะนี้มาก่อน
มันคือภาพของไอแสงประหลาดที่กำลังกระจายตัวออกมาจากร่างกาย
ก่อนที่ผมจะรู้จักกับวิญญาณ ผมเคยคิดว่าตัวเองแค่ตาฝาดเฉย ๆ
เพราะเอาจริง ๆ ผมก็ไม่ได้เห็นมันทุกวันหรอก
เคยเห็นอะไรที่คล้าย ๆ แบบนี้แค่สองถึงสามครั้งเองได้
ที่เห็นบ่อยสุดก็มีครั้งล่าสุดที่ไปทำภารกิจปีศาจหมอก กับเจอในเมืองเถื่อนแค่นั้น
แต่ในคราวนี้ รอบกายของคุณควอตซ์กำลังถูกอาบไปด้วยแสงประหลาดที่ว่านั่น
ถ้าจะให้พูดเปรียบเปรย ก็คงเหมือนกับถังแก๊สที่บรรจุมวลก๊าสเอาไว้เต็ม แล้วจงใจเจาะรูเพื่อปล่อยก๊าสปริมาณมากออกมาพร้อมกัน
“แมรี่โกลว์ เตรียมการรักษาได้”
หืม?
*พรึบ!*
เกิดเสียงระเบิดไอน้ำขึ้นในเวลาเดียวกับที่คุณแมรี่โกลว์เริ่มบินลงมาในหลุมทราย
ควันสีขาวพวยพุ่งกระจายไปทั่วรอบตัวคุณควอตซ์ ก่อนจะเริ่มกระจายตัวบางตาลง
“—อึ๊ก!!”
ที่ผิวหนังของคุณควอตซ์กำลังเต็มไปด้วยรอยแผลไหม้พุพองจากน้ำร้อนลวก
เธอพยายามข่มความเจ็บปวดของตัวเองไปพร้อมกับเอาตัวกลิ้งไปบนพื้นทรายที่เย็นฉ่ำ
“นี่มัน…”
“ผลจากการใช้พลังซ้อนเร้นแบบไม่ระวังนะ อย่าเข้าใจผิดสิว่าพลังนี้จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่งแบบซุปเปอร์ฮีโร่ มันก็แค่พลังงานรูปแบบหนึ่งมีถูกดึงเอาออกมาจากร่างกายเท่านั้น มันไม่ได้เพิ่มมวลกล้ามเนื้อหรือความทนทานอะไรให้ร่างกายหรอก เหมือนกระดาษที่สหายเอโซแสดงให้เห็นไง พอใช้งานเสร็จก็ถูกความร้อนเผาไหม้ไปหมดเลย อันนี้เป็นกรณีเดียวกัน ดันดึงพลังงานออกมาเยอะเกินไปแบบไม่มีหลักการ เลยกลายเป็นเผาไหม้ผิวตัวเองไปเสียแบบนั้นแทน”
น่ากลัวชะมัด…
“เพราะฉะนั้น หนูไซต์~ ถ้าจับหลักการได้แล้ว ก่อนจะเอาออกมาใช้ ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าร้อนวิชาเหมือนแม่สาวตรงนี้นะจ๊ะ~”
นี่พวกเธอ…
คิดจะใช้ให้พวกเราเป็นบทเรียนตัวอย่างให้กับเด็กคนนั้นเองหรอกเรอะ!?!
“นี่ถามจริงเถอะ! ทำไมถึงไม่ใช้วิธีแบบเดียวกับน้องไซต์มาฝึกให้กับพวกเราละครับ!? ”
“การใช้วิชาถอดวิญญาณมันเปลืองพลังงานเยอะ พวกแกเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ทน ๆ เจ็บไปเถอะน่า อย่าบ่นมากนักเลย”
ถึงคุณเอโซจะพูดแบบนั้น แต่รอยยิ้มนี่เป็นรูปแบบของนางปีสาจสาวชัด ๆ
“ฮืม!? ”
ผมรีบก้มตัวหลบในจังหวะนั้น เพราะรับรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานบางอย่างที่กำลังพุ่งเข้ามาจากทางด้านหลัง
ปลายหมัดที่ไม่ทรายฝ่าย กำลังวิ่งเฉี่ยวผ่านเหนือเส้นผม จนเกิดเป็นรอยแผลหัวแตกยาวราวหนึ่งเซนติเมตร
คุณลาพิสอ้อมมาอยู่ข้างหลังของผมตั้งแต่เมื่อไหรกันเนี่ย?
ในระหว่างที่คิดอะไรไร้สาระ ก็สัมผัสได้ถึงมวลสารหนึ่งที่กำลังจะถูกเหวี่ยงขึ้นมาจากทางซ้ายล่าง
ถึงจะรับรู้สึกถึงตัวตน แต่ร่างกายของผมมันตอบสนองไม่ทัน แล้ว
*พลั๊ก!*
ผมถูกเรียวขาของลาพิสอัดกระแทกเข้าใส่ใจกลางหลังเต็มแรง
รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านกระจายไปทั่วไขกระดูก จนได้ยินเสียงแตกหักออกเป็นชิ้น ๆ ของโครงสร้างร่างกายตัวเอง
ไม่รอดตั้งแต่เช้าเลยวุ้ย
***การฝึกวันที่สี่***
ณ ยามเช้าตรู่ของวัน
“วันนี้ข้าน้อยขอแก้มือเจ้าค่ะ!”
*ฉัวะ!*
พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็เห็นแขนขวาของคุณควอตซ์กระเด็นลอยขึ้นท้องฟ้าไปแล้ว…
วันนี้เองก็เหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา
คือตายไปนับร้อยครั้งโดยที่ไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมขึ้นมาเลย
ถามจริงเถอะ ไอวิธีฝึกแบบนี้มันได้ผลจริงดิ?
การฝึกแบบน้องไซต์ยังดูมีความเข้าท่ามากกว่าเลย!
“อืม…? เหมือนว่าแม่สาวกระต่ายจะผ่านเงื่อนไขแรกได้ก่อนเจ้านะ เจ้าหนุ่มมนุษย์”
“? ”
ผมหันไปมองดูคุณควอตซ์ตามเสียงพึมพำของคุณเอโซที่ดังมาจากบนปากหลุม
คุณกระต่ายกำลังยืนตั้งสมาธิอยู่
แต่การตั้งสมาธิของเธอในคราวนี้ กลับไม่มีแสงสว่างหลุดเล็ดรอดออกมาจากร่างกายของเธอเลย
ในทางกลับกันแล้ว บรรยากาศโดยรอบของเธอกลับกำลังนิ่งสงบ จนแม้แต่อากาศเองยังรู้สึกเสมือนได้หยุดไหลไป
สองสตรีหันหน้าเผชิญโดยมิเปล่งวาจา
เสียงผืนทรายนิ่งเงียบสงบลง
เสียงลมหายใจดังเป็นช่วงจังหวะ
เวลานั้น จักมองเห็นการไหลเวียนของกระแสชีพจร
มองเห็นทวงท่าแห่งจิตสำนึกที่เริ่มเคลื่อนไหวไปตามคลื่นสมองสั่งการ
มองเห็นการเคลื่อนย้ายของพลังงานที่กำลังไหลเวียนจากจุดบอดแห่งร่างกาย สู่แขนและขาของสตรีสองฝ่าย
“นี่มัน—? ”
“โอ๊ว? เจ้ามนุษย์หนุ่มมองเห็นเหมือนกันใช่ไหม? กับการไหลของพลังงานซ้อนเร้นที่กำลังขับออกมาอย่างสวยงามตรงนั้น? ถือว่ามีการพัฒนาขึ้นอยู่นะเนี่ย~”
“การไหลของพลังงานซ้อนเร้น? ”
ผมหันไปมองดูการเคลื่อนไหวของสตรีทั้งสองคนอีกรอบ
เวลาที่หยุดนิ่งได้ถูกขับเคลื่อน
ร่างกายของทั้งสองฝ่ายเริ่มเคลื่อนไหวพุ่งเข้าหากัน
มันช่างน่าแปลก
ทั้งที่สมองไม่อาจตามทันวิเคราะห์คิด
ทั้งที่ดวงตาไม่อาจมองตามทันการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วประดุจแสง
แต่ผมกลับรับรู้มองเห็นเป็นรูปร่างอย่างเด่นชัด
ไม่ใช่ว่ามองเห็น
ไม่ใช่ว่ารู้ตัวผ่านทางสัญชาตญาณ
แต่กลับรับรู้เห็นได้ในขณะที่ดวงตามิอาจมองเห็นพวกเธอ
ผมรู้ว่าคุณลาพิสกำลังเหวี่ยงหมัดขวาโจมตีใส่ช่วงท้องของคุณควอตซ์
ผมรู้ว่าคุณควอตซ์กำลังเบี่ยงตัวหลบ แล้วสวนกลับด้วยขาขวา
ผมรู้ว่าทั้งคู่สามารถ รุก-รับ การโจมตีที่เกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีได้ถึง 5 เพลงหมัด
ทุกการปะทะหมัดของสองฝ่าย จักเกิดแสงสว่างสีฟ้าและระเบิดคลื่นความร้อนแผ่ขยายออกมา
*บรึ้ม!*
ผืนทรายระเบิดออกเป็นวงกว้าง
หลุมลึกขนาดเท่าคนจำนวนห้าหลุมผุดปรากฏขึ้นบนพื้นที่ต่อสู้ในเสี้ยวเวลาของการปะทะ
พวกเธอวิ่งไล่แลกหมัดจากจุดศูนย์กลาง แล้วพุ่งตัวไปทางกำแพงหลุมทราย
สตรีผมสีฟ้ารัวหมัดราวห่าฝนใส่กระต่ายสาวที่กำลังวิ่งไปตามกำแพงทรายนั้น
เสียงทรายระเบิดดังรัวขึ้นต่อเนื่องทิ้งเป็นทางยาว
หลุมทรายขนาดใหญ่จำนวนมากผุดขึ้นบนกำแพง ประดุจดั่งมีฝูงแมลงยักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังวิ่งไต่ผ่าน
ในตอนนั้นเองที่แผ่นดินเริ่มสั่นสะท้าน
กำแพงทรายที่ถูกอัดทำลาย เริ่มไม่อาจคงรูปอยู่ตัวได้
มันเริ่มไหลย้อนตัวลงสู่ก้นหลุมเป็นสายน้ำตก
กำแพงเริ่มกลายเป็นทางลาดลงที่เคลื่อนไหล
ผืนทรายกลายเป็นกระแสน้ำวนอันเชี่ยวกราก ที่หวังดูดทุกชีวิตให้จมลงมา
แต่กระนั้น ราวกับทั้งสองคนสามารถรับรู้และมองเห็นจังหวะแห่งผืนทรายที่ไหลลงมานี้ได้
ไม่มีใครเลย ที่พลาดท่าหยั่งเท้าลงพื้นทราย แล้วถูกกระแสน้ำทรายนั้นไหลดูดกลืนให้จมลงไป
ในตอนนั้นเองที่การเคลื่อนไหวของกระแสพลังงานทั้งสองฝั่งเริ่มเปลี่ยน
ฝ่ายที่ถูกล่าได้เปลี่ยนใจไปเป็นฝ่ายที่พุ่งเข้าล่า
ฝ่ายที่ไล่ล่าได้หันเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายป้องกัน
*ตู้ม!*
คลื่นทรายขาวที่ไหลลงได้พุ่งกระจายตัวขึ้นท้องฟ้ากว้างจนเห็นเป็นม่านสีน้ำตาล
หยาดเม็ดทรายได้สะท้อนกับแสงอาทิตย์ ส่องประกายเป็นแสงพราวแวววาว ราวกับเป็นอัญมณีนับล้านที่ถูกแขวนตรึงบนฟากฟ้า
ท่ามกลางแสงสว่างสะท้อนแสบตานั้น มีแสงสีฟ้าวิ่งไหลผ่านเป็นคลื่นสาย
คุณควอตซ์ใช้เทคนิคบางอย่าง ทำให้ตัวเองสามารถวิ่งไปบนอากาศ
เธอใช้แสงประหลาดที่ขับออกมาจากฝ่าเท้าเป็นแรงขับดันเหมือนท่อไอพ่น พุ่งตัวใส่คุณลาพิส
เธอเหวี่ยงเท้าขวาจนดูเหมือนเคียวปั่นคออันแหลมคม
แต่แล้วเธอกลับใช้เท้าซ้ายหยุดตัวเองกลางคัน แล้วดีดตัวเองหลบหมัดซ้ายที่กำลังพุ่งสวนมาของคุณลาพิส
เธอดีดตัวสูง แล้วตีลังหาตลบหนึ่งจังหวะ หมายเอาขาทั้งสองล็อคคอ เพื่อหวังบิดหักของคออีกฝ่าย
แต่ทว่าคุณลาพิสได้ปล่อยให้ตัวเองร่วงลงสู่พื้นไปกับผืนทราย แล้วดันร่างพุ่งส่วนขึ้นมา พร้อมกับหันปลายมือแหลมแทงเป็นหอกใส่ต้นคอของอีกฝ่าย
*พลั๊ก!*
ทางคุณควอตซ์สามารถนำมือซ้ายและขวาเข้ามาประกบกันได้ทันเวลา
ช่างงดงาม
การต่อสู้ของทั้งสองคนที่ดวงตาไม่อาจมองทัน กลับทำให้ผมมองเห็นการต่อสู้ที่งดงามเช่นนี้ได้
ที่บรรยายมาข้างต้นนั้น ผมไม่ได้เห็นทุกท่วงท่าด้วยตาตัวเอง
แต่เห็นเป็นภาพเงาแสงสีฟ้าที่เกิดจากสัมผัสวิญญาณ
ทุกการปะทะและการต่อสู้จะมองเห็นเป็นคลื่นกระแสสีฟ้า ประหนึ่งราวกับมองดูภาพยนต์แฟนตาซีที่ใส่แสงสีเสียงลงไปอย่างวิจิตรตระการตา
นี่หรือ คือการต่อสู้ด้วยพลังงานซ้อนเร้น
นี่หรือ คือการต่อสู้ด้วยพลังงานวิญญาณ
“อึ๊ก! ขอเวลานอกเจ้าค่ะ!— แฮก— ฮ่าาาาา!”
ดูเหมือนว่าคุณควอตซ์จะทำได้ดีที่สุดแค่นี้
เธอทรุดตัวลงแนบพื้นทราย หลังจากรับมือหอกสุดท้ายของคุณลาพิส
ทั่วร่างของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ จนเสื้อผ้าเปียกปอนแนบเนื้อเห็นเรื่อนร่างใต้ผิวผ้าอย่างน่าตกใจ—
“แหม่ ๆ เจ้าหนุมน้อยวัยใส มองแม่สาวกระต่ายตัวเปียกปอนแบบไม่วางตาเลยนะจ๊ะ~ มีรสนิยมแบบนี้เองหรือเจ้าหนุ่ม? ”
“เฮ้ย! ไม่ใช่—!?!”
“ฮุ ฮุ ฮุ~”
ผมรีบปฏิเสธข้อกล่าวหาของคุณเอโซที่บินลงมายืนข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหรก็ไม่รู้
แต่เธอกลับหัวเราะอย่างสนุกสนานโดนไม่สนใจผม แล้วเดินเข้าไปดูอาการของคุณควอตซ์
“อืม… สอบผ่าน พาแม่สาวกระต่ายไปฝึกขั้นตอนถัดไปได้เลย”
” ขอบคุณเจ้าค่ะ”
ถูกคุณควอตซ์นำหน้าไปเสียแล้ว
แต่ไม่เป็นไร ถ้าเป็นแบบนี้ อีกไม่นาน ผมเองก็น่าจะตามทัน—”
*กร๊อบ–?!*
—น่าจะตายเป็นครั้งที่ 450…
“ส่วนเจ้าหนุ่มจงตายต่อไป จนกว่าจะรู้วิธีขับเคลื่อนพลังงานซ้อนเร้นนี้ซะ”
ดูท่าว่าผมคงต้องตายอีกหลายร้อยครั้ง กว่าจะตามคุณควอตซ์ทันแฮะ
MANGA DISCUSSION