***เวลา 27:00 น.***
“ฉันรับทราบเรื่องราวการออกแสวงบุญของพวกท่านนักบวชแล้ว พวกคุณกับผู้ติดตามสามารถใช้ตึกหอพักที่ตั้งอยู่ทางขวาได้เสมือนบ้านของตัวเองค่ะ”
“ขอบคุณมาก คุณแคทเธอรีน”
ผมกำลังยืนมองดูคุณเอโซพูดจาสุภาพอย่างหาได้ยาก กับนักบวชสาวตัวเล็กเผ่ามนุษย์มดตรงหน้า
เธอเป็นเผ่ามนุษย์มดที่มีผิวเปลือกสีแดง สูงหนึ่งเมตร สวมผ้าคลุมสีขาวอันหมายถึงนักบวชระดับสูงสุดของวิหารเทพทั้งสาม
ดวงตาที่เป็นผิวเปลือกแข็งมันวาวของเธอช่างดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
แถมแขนขายังลีบเล็กดูแหลมคมจนให้ความรู้สึกถึงอันตราย ว่าจะทำให้เกิดแผลได้เพียงแค่สัมผัสมัน
ให้ตายเถอะ ไม่ว่าจะยังไง ผมก็ไม่ชินกับรูปลักษณ์ของเผ่ามนุษย์มดได้เสียที
“อีกเรื่อง ระหว่างที่อยู่ที่นี่ รบกวนอย่าก่อเรื่องทำลายวิหาร เหมือนอย่างที่พวกคุณเคยทำลงไปในทุกที่ที่ได้ผ่านไปเยือนนะคะ”
“โอ๊ย~ เรื่องทำลายวิหารมันก็แค่ข่าวลือ ทุกครั้งเกิดจากอุบัติเหตุทั้งนั้น ใช่ไหมแมรี่ ลาพิส? ”
“ใช่ ช่าย~ ไม่ได้ตั้งใจเลยแม้แต่น้อย~”
[ไม่ได้ตั้งใจค่ะ ^_^]
ทำลาย… วิหาร?
“อีกเรื่อง คุณเทเรซ่าได้ฝากข้อความผ่านทางดิฉันมา รบกวนฟังด้วยค่ะ”
“ฝากมาว่า? ”
“ไอพวกเด็กบ้า! อยู่ ๆ เอาเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาฝากให้ดูแลตั้ง 103 คน! อย่าหางานเพิ่มให้คนแก่ใกล้ลงโลงจะได้ไหม!! แล้วถ้าว่างมากนัก ก็ช่วยโผล่หัวกลับมาที่นี่ก่อนสิ้นปีด้วย!”
“โอเค… ได้รับข่าวแล้ว ขอบคุณมากค่ะ”
ผมว่าแอบมองเห็นเอโซอมยิ้มหัวเราะอยู่แฮะ
คนที่ชื่อเทเรซ่าจะต้องมีความสำคัญมากต่อพวกเธออย่างแน่นอน
“งั้นผมขอตัวแยกไปซื้อของใช้จำเป็น กับวัตถุดิบที่จะเอามาใช้ทำอาหารก่อนนะครับนายท่านหญิง”
“ได้เลย เอานี่ไปด้วย บัตรเครดิตของเรา เจ้ามีอิสระที่จะใช้จ่ายได้ทุกอย่าง อีกอย่าง ตอนนี้พวกเรามีเวลาเยอะแยะ ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ค่อย ๆ เลือกของไปสบาย ๆ ได้ เพราะกว่าพวกเราจะเริ่มลงมือขั้นถัดไป คงต้องรอแม่กระต่ายกลับมารวมตัวก่อนนั่นละ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
ผมแยกตัวจากกลุ่มในช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ
ภายในเมืองใต้พิภพเราจะไม่สามารถมองเห็นตะวันตกดินได้
แต่ด้วยการจำลองอาทิตย์เทียมที่ใจกลางเมือง เลยทำให้พอจะรู้เวลาของโลกภายนอกได้อยู่
แสงไฟจากก้อนพลังงานที่ลอยเหนือเมือง มันจะคอยเปลี่ยนสีตามช่วงเวลา
เช้าแสงฟ้า กลางวันแสงขาวนวลตา ยามเย็นแสงสีส้มแดง
เมืองแห่งรังไหมดินและหอคอยลิฟท์ขนสินแร่ที่ค้ำจุนเมืองใต้พิภพกำลังถูกย้อมให้กลายเป็นสีส้มสวยงามตา
“…บรึย~”
แต่ภาพที่มีเผ่ามนุษย์มดเดินยั้วเยี้ยเต็มเมืองนี่ยังไงก็รับไม่ได้จริง ๆ แฮะ
เผ่ามนุษย์มดนั้นมีความแตกต่างเชิงโครงสร้างร่างกายไปจากเผ่าอื่น ๆ สูงมาก
พวกเขามีทั้งเขี้ยวที่แหลมคม แล้วยังมีร่างกายทนทาน แข็งแรง
ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมือนมดตัวยักษ์ เลยทำให้บางครั้งรู้สึกหวาดหวั่นว่าจะถูกจับกินกุดหัวเวลาตอนที่เดินผ่านพวกเขาไป
ถึงผมจะไม่ใช่คนที่กลัวแมลง แต่… อันนี้ไม่ไหวจริงจังขอบอกเลย
“ขะ— ขอซื้อหญ้าเนื้อวัว กับหญ้าเนื้อปลาครับ”
“เชิญครับ ราคาทั้งหมด 30 ยูนิต ครับ”
สิ่งที่ผมซื้อมาคือต้นหญ้าเนื้อ
มันคือพืชประหลาดที่โตในทะเล มีลักษณะคล้ายใบว่านหางจระเข้ มีเปลือกแข็งหุ้มสีเนื้อ และมีเนื้อภายในเป็นโครงสร้างโปรตีนที่ให้รสชาติคล้ายกับเนื้อสัตว์
มันคืออาหารโปรตีนราคาถูกที่ทุกคนนิยมเอามาทำอาหารเพื่อชดเชยการใช้เนื้อสัตว์จริงที่มีราคาแพงกว่า
“ต่อไปก็นมเบฮีมอธ แล้วก็ผงเครื่องเทศ—”
ผมเริ่มทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านที่ดีด้วยการมองหาวัตถุดิบราคาถูก แต่อร่อย แล้วยังเต็มไปด้วยโภชนาการ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อหวังให้พวกสาว ๆ ได้กินของอร่อยหลังจากที่ต้องเหนื่อยจากการเดินทางไกล
โดยเฉพาะกับลาพิส ที่จะต้องทำให้เธอรู้สึกประทับใจต่อรสชาติอาหารของเราให้ได้
ผมได้ยินมาจากเอโซว่าลาพิสมีสภาพร่างกายที่ผิดปกติ และไม่ยอมรับการผ่าตัดรักษาเหมือนกับพวกเธอที่มีความผิดปกติของร่างกายเช่นกัน
เธอน่าสงสารมาก ที่ไม่สามารถรับรู้รสชาติเหมือนอย่างคนปกติทั่วไปได้
ผมตกใจมากเลยละ ในตอนที่ผมเห็นเธอเอาซอสมะเขือเทศมาบีบลงไปในกาแฟ
เห็นว่าเธอทำแบบนั้นเพื่อคาดหวังว่าลิ้นของเธอจะสามารถรับรสบางอย่าง— แต่ไม่ว่าจะทำให้มีรสชาติรุนแรงยังไง เธอก็ไม่สามารถรับรสชาติได้อยู่ดี
“จะต้องทำให้เธอประทับใจให้ได้—”
“ชุดพ่อบ้านดูเหมาะกับคุณดีนะครับ คุณออน? ”
“—!?!”
ผมตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะที่กำลังมองดูเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก ที่ผู้คนนิยมซื้อไปเล่นประกอบการรับประทานบนโต๊ะอาหาร
เสียงที่ทักทายผมมาจากข้างหลังนั้น คือเสียงที่ผมเคยได้ยินมาครั้งหนึ่งในวันสมัครเข้าทำงานเป็นตำรวจสากล
เสียงของผู้บัญชาการ [โน-เนม] ชายผู้ที่มอบภารกิจตรวจสอบรุ่นพี่ทั้งสองคนนั้นให้กับผม
“ผะ– ผู้บัญ—”
“อย่าตกใจไป และอย่าเอยชื่อนั้นออกมากลางสาธารณะ เราไม่เคยมาเหยียบที่นี่”
“… ครับ”
เคยคิดอยู่ว่าซักวันทางตำรวจสากลคงส่งคนมาตามหาตัวเองที่หายตัวไป
แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้
ไม่คิดว่าระดับผู้บัญชาการจะมาด้วยตัวเอง
ในตอนนั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกระตุกลงไปในกระเป๋าเสื้อ
พอหันกลับไปมอง ก็พบว่าไม่มีใครยืนอยู่ข้างหลังผม
ในทางกลับกัน ที่กระเป๋าเสื้อกลับมีอุปกรณ์หูฟังปรากฏอยู่คู่หนึ่ง
ผมนำมันขึ้นมาสวมลงที่ใบหูของตัวเอง
“ไม่ต้องห่วง เรานั้นมาคนเดียว เป็นมิตร ไม่ใช่ศัตรู ทำเป็นซื้อของต่อไปแบบนี้ซะ”
ผมเริ่มทำตามคำสั่งของเขา
ถึงจะดูเหมือนว่าทำตัวอย่างว่าง่าย แต่ภายในใจกำลังรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ว่าจะถูกเก็บได้ทุกเวลา
หัวใจเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
มือขวากุมลงในกระเป๋า เพื่อพร้อมที่จะชักปืนขึ้นมาต่อสู้ได้ทุกเวลา
“ก่อนอื่นเลย เรื่องคดีของคาร์นิวอยเมื่อวันก่อน ข้าได้ลงมาตรวจสอบด้วยตัวเองแล้ว พบว่ามันมีบางอย่างแปลก ๆ เหมือนกับว่ามีคนพยายามเข้ามาเปลี่ยนเนื้อหา แล้วปลอมแปลงหลักฐานเอาไว้ ข้าเลยอยากมายืนยันด้วยตัวเอง ว่าคนที่ให้ข่าวนั้น ไม่ใช่กลุ่มพลเมืองดีตามที่ถูกระบุเอาไว้ในฐานข้อมูล แต่เป็นเจ้าเองใช่ไหมที่สืบมาได้? ไม่ต้องส่งเสียงตอบ แต่ถ้าใช่ ให้หยิบถ้วยหมักปลาร้าด้านข้างมาวางใส่ในตะกร้าซะ”
ผมหยิบขวดปลาร้ามาวางใส่ในตะกร้าตามที่เขาบอก
“อย่างงั้นหรือ? เป็นแบบนี้จริง ๆ สินะ? อีกเรื่อง ตอนนี้มันมีรายงานเข้ามาว่าเจ้าคือหนอนขององค์กร เจ้าใช่หนอนหรือไม่? ถ้าไม่ใช่ จงเดินไปหยิบน้ำวูดูใส่ลงในตะกร้าซื้อของซะ”
ผมไม่ใช่หนอนขององค์กร แต่เป็นเจ้านกบ้าตัวนั้นต่างหาก!
ว่าแล้วผมก็หยิบน้ำวูดูยัดลงไปตะกร้า
“งั้นใครคือหนอน? ถ้าเป็นดิไลออน ให้หยิบครีมไวท์ซอส แต่ถ้าเป็น อาร์เซนิค ให้หยิบซอสน้ำหมึกสีดำแทน”
ผมหยิบซอสน้ำหมึกสีดำลงตะกร้าไป
“ดีมาก… เป็นเจ้าอาร์เซนิคนี่เอง”
ผู้บัญชาการ โน-เนม นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
เขาเชื่อคำพูดของผมอย่างงั้นหรือ?
พอเห็นว่าอีกฝ่ายเชื่อเราง่าย ๆ แบบนี้ ก็เลยทำให้ชักหวาดกลัวคิดว่านี่จะเป็นกับดักอะไรหรือเปล่า?
“ไม่เป็นไร อย่าได้เกร็งขนาดนั้น รู้ไหมว่ามันแสดงออกมาที่ท่าทางหมดแล้วนะ? ”
นี่ท่านแอบดูผมจากตรงไหนกันเนี่ย…
ผมพยายามแกล้งทำเป็นมองหาของ แต่ที่จริงคือกำลังกวาดสายตามองหาคนที่ดูน่าสงสัย
แต่ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ไม่เห็นวี่แววของคนที่ดูจะเป็นผู้บัญชาการได้เลย
“อย่ามองหาเราเสียให้ยากเลย ฮะ ฮะ ฮะ~ เอาละ งั้นมาต่อกัน เรานะเชื่อคำพูดของเจ้า ไม่คิดว่าเจ้าโกหก เพราะเราแอบส่งสายสืบตามดูเจ้าทุกฝีก้าวอีกรอบต่อหนึ่งเอาไว้แล้ว เลยรู้ว่าเจ้าบริสุทธิ์ตั้งแต่แรก ที่ถามไป ก็แค่เพื่อยืนยันข้อมูลที่ได้รับมา เรื่องมันมีเท่านี้เอง”
เฮ้ย…?
นี่ผมถูกสะกดรอยไปตอนไหนกันเนี่ย?
ผมว่าผมไม่ได้ถูกสะกดรอยนะ
เพราะถ้าถูกสะกดรอย ก็ต้องมีรู้สึกตัวกันบ้างสิ?
“แม่สาวนักบวชสี่คน กับสาวกระต่ายอีกหนึ่งที่อยู่กับเจ้าดูน่ารักไม่เลว โดยเฉพาะคนที่มีผมสีฟ้า ดูน่ารักดีไม่เลวเลย เจ้าเห็นด้วยไหม? ”
โอเค— ถูกสะกดรอยตามมาจริง ๆ ด้วยแฮะ
ส่งเรามาสืบคน แล้วส่งคนมาสืบซ้อนผมอีกรอบ
สรุปผมเป็นได้แค่ [ตัวล่อ] ของผู้บัญชาการจริง ๆ ด้วย
ให้ตายเถอะ…
“ออกมาทางสีหน้าหมดแล้วเจ้าตำรวจหนุ่ม อย่าน้อยใจไปสิ เพราะเจ้าเลยนะ เราเลยได้ข้อมูลดี ๆ มาเพียบ แต่มันยังไม่มากพอล้มทั้งองค์กรคาร์นิวอย ถ้าเราเริ่มลงมือตอนนี้ อย่างมากก็ล้มได้แค่สาขาทวีปมนุษย์สัตว์ที่เดียว ดังนั้นจึงอยากให้เจ้ารับภารกิจทำหน้าที่เป็นตัวล่อต่อ แต่มันจะยากขึ้นตรงที่ตอนนี้เจ้ามีมลทินไปแล้ว กำลังจะถูกออกหมายจับจากตำรวจสากล คนในองค์กรกว่าครึ่งเชื่อว่าเจ้าผิดจริงเพราะเจ้าดันหายตัวไปดื้อ ๆ หลังเกิดเรื่องวุ่นวาย ดังนั้นเราเลยอยากให้เจ้าปลอมตัวเป็นพ่อบ้านแบบนี้ต่อไป อย่าได้ใช้ตัวตนจริงออกมาเด็ดขาด พอจะยอมรับได้หรือไม่? แน่นอนว่าค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อแน่นอน ถ้าตกลงยอมรับ ช่วยหยิบเลือดค้างคาวหมัก อันที่เป็นอาหารสำหรับเผ่าปีศาจใส่ลงไปในตะกร้าที”
“…”
พูดตามตรงว่ารู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่เล็กน้อย
แต่การที่เขาออกมาพูดกับผมด้วยตัวเอง มันเลยทำให้รู้สึกว่าดีกว่าไม่ยอมบอกอะไรเลย แล้วหลอกใช้งานผม
เอาเป็นว่าจะยอมเล่นบทเป็นตัวล่อต่อให้ก็ได้
ผมโยนถุงบรรจุเลือดค้างคาวลงไปในตะกร้าซื้อของ
“เยี่ยม! ภารกิจต่อไปที่อยากให้ทำ คือการเปิดโปงเบื้องหลังของคาร์นิวอยสาขาเผ่ามนุษย์มด เพราะเจ้าพวกนี้มันสามารถสื่อสารกันด้วยคลื่นสมองได้ หากว่าคน คนนั้นมีความสามารถมากพอ เผ่ามนุษย์มดคนนั้นจะสามารถเข้าไปแอบอ่านใจคนอื่น ในทางกลับกัน ทางเราเองก็จะถูกอ่านใจได้ด้วย การส่งคนจากกรมตำรวจไปสืบสาขาของเผ่ามนุษย์มดเลยยากมากที่จะทำจริง แล้วคนที่ไว้ใจได้ในตอนนี้ก็เริ่มมีน้อยเต็มทน ข้าเลยอยากให้เจ้ารับหน้าที่สืบตรงนี้แทน เดียวเบาะแสลับจะวางเอาไว้ใต้ฝาขวดดินแสนอร่อยของเผ่านางไม้ มันถูกวางอยู่ตรงแถวที่สามนับจากซ้าย ขวดในสุด เดินมาหยิบไปได้เลย”
“…”
จากที่ฟัง คงจะเป็นงานที่ยากน่าดู
แบบนี้ผมคงไม่มีเวลาไปช่วยคุณควอร์ตทำคดีลักพาตัวเด็ก ๆ ไซบอร์กของเธอแน่นอน
จะทำยังไงกันดีเนี่ย ผมไม่อยากผิดสัญญากับเธอเสียด้วยสิ?
“ออ แล้วก็อีกคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ [อย่าจับปลาสองมือ] เรื่องคดีเด็กไซบอร์กของแม่สาวกระต่าย มันเป็นเรื่องใหญ่กว่าคดีของคาร์นิวอยมาก ความจริงตอนนี้ทางตำรวจสากลเองก็มีจัดทีมไปสืบเรื่องนี้อยู่เช่นกัน เพราะหลัง ๆ มานี้ศาสนาโนอาร์เริ่มมีการเคลื่อนไหวแปลก ๆ เกิดขึ้น เลยกลายเป็นอีกคดีที่ต้องตามสืบตรวจสอบ แต่ถ้ายื่นมือไปยุ่งกับคนของศาสนานั้นโดยไม่มีแผนการ ไม่มีทางจบสวยแน่นอน ดีไม่ดีอาจเกิดเป็นสงครามครั้งใหม่เสียด้วยซ้ำ เราขอแนะนำว่าตอนนี้อย่าพึ่งลงมือทำอะไรจะเป็นการฉลาดกว่า”
มะ— แม้แต่เรื่องนี้ก็รู้ด้วย!?!
ผมเริ่มชักอยากเห็นหน้าคนที่กำลังสะกดรอยซ้อนคนที่ว่านี้แล้วแฮะ
ทำอีท่าไหนถึงสามารถเก็บข้อมูลได้ราวกับว่ามองเห็นเข้ามาในชีวิตของผมกันได้เนี่ย?
มันต้องเป็นคนที่มีฝีมือมากอย่างแน่นอน
“สุดท้าย มีอีกเรื่องที่อยากแจ้ง ตอนนี้เราได้ส่งพวก อาร์เซนิค ไปทำงานอีกทวีปแล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนจากองค์กรมาตามล่าเจ้าในเวลานี้ ลาก่อน ขอให้โชคดีในการทำภารกิจ”
เสียงเงียบหายไปพร้อมกับในเวลาเดียวที่ผมกำลังหยิบขวดโหลบรรดุดินออกมาวางลงในตะกร้า
ที่ข้างใต้ฝาขวด มีชิบข้อมูลขนาดเล็กถูกแนบติดเอาไว้อยู่
ขวดโหลบรรจุดินนี้คืออาหารของเผ่านางไม้ ที่เป็นสิ่งมีชีวิตชาวต่างดาวประเภทพืช
อาหารหลักของพวกเธอก็คือสารอาหาร จะเป็นเนื้อหรือดินก็กินได้ทั้งหมด เลยทำให้มีผลิตภัณฑ์แปลก ๆ แบบนี้วางขายในท้องตลาด
ว่าแต่ภารกิจเปิดโปงคาร์นิวอยสาขามนุษย์มดอย่างงั้นหรือ?
นี่ใจคอคิดที่จะทยอยเปิดโปงความชั่วไปทีละสาขาจนครบ แล้วค่อยเอาหลักฐานมาฟาดเปรี้ยงเดียวล้มทั้งกระดานเลย?
กว่าจะถึงเวลานั้น มันจะต้องมีคนตายไปอีกเท่าไหร?
สู้พอได้หลักฐานมาแล้ว รีบดำเนินคดีไปเลยจะไม่ดีกว่าหรอกหรือยังไง?
หรือกลัวว่ามันจะถอนรากถอนโคนทั้งองค์กรไม่ได้ ถ้าพวกเรารีบร้อนลงมือเกินไป?
“รายการสินค้าทั้งหมด 1,250 ยูนิต ค่ะ”
“นี่ครับ”
ผมยื่นบัตรเครดิตของเอโซให้กับพนักงานหญิงเผ่ามนุษย์มด
“นี่ค่ะบัตรกับบิลสินค้า”
หลังจากที่ซื้อสินค้ามาเสร็จ ผมก็พึ่งรู้สึกตัวบางอย่าง—
[ดิน] ที่เป็นอาหารของเผ่านางไม้
[ปลาร้าหมัก] กับ [น้ำวูดู] อาหารพื้นเมืองกลิ่นแรงสุดเหม็นของเผ่ามนุษย์
[ซอสน้ำหมึก] ที่ทำมาจากหมึกของปลาหมึก
[ถุงเลือดค้างคาว] สำหรับเผ่าปีศาจ
รู้สึกตัว— ว่าไอของพวกนี้มันจะเอามาผสมทำเป็นอาหารแสนอร่อยได้ด้วยวิธีไหนกันฟะเนี่ย?
MANGA DISCUSSION