“เบื่อง่า~”
ฉันกำลังนั่งเล่นเชือกที่ผูกติดกับลังกล่องข้าง ๆ โดยไม่สนใจงานเฝ้าระวัง
ไม่ใช่ว่าอู้ แต่มันน่าเบื่อจริง ๆ นะ!
แบบว่า~ มันไม่มีอะไรเลยนอกจากเสียงกระทบก้อนน้ำแข็งใต้ท้องเรือ กับเสียงลม
พวกยามเฝ้าเรือเองก็โดนคุณพี่หัวฟ้าปราบหมดจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ
ส่วนยามตรงกราบเรือซ้ายที่พวกพี่สาวกระต่ายมุ่งหน้าไป ที่ตรงนั้นก็โดนปราบไม่เหลือเช่นกัน
เก่งกันแบบนี้จะให้เฝ้าระวังไปทำไมก็ม่าย~ รุ~
“หืม~¶ หื่ม~× หื้ม~”
ฉันเริ่มฮำเพลงฆ่าเวลาไปพลาง ผูกเงื่อนน้องแมวไปพลาง
แต่แล้วก็มีเสียงโหวกเหวกกรีดร้องดังขึ้นมา
ฉันรีบย่อตัวต่ำ แล้วเงยหัวขึ้นมาเพียงแค่พอให้ดวงตาพ้นลังกล่องเหล็ก
ที่ตรงหัวเรือห่างออกไปหลายร้อยเมตร มีเงาของฝูงชนกำลังกรูกันออกมาจากประตูหนีไฟ
พวกเขากรีดร้องไม่เป็นภาษา ยื้อแย่งวิ่งหนีเอาชีวิต
พวกเขาพยายามที่จะวิ่งตรงไปที่หัวเรือเพื่อขึ้นยานเหาะที่จอดเรียงเป็นตับ
แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อยู่ ๆ ยานพวกนั้นกลับเริ่มส่งไอร้อนออกมาจากเครื่องยนต์พร้อมกัน ก่อนจะระเบิดพังไปต่อหน้า
“เรื่องบ้าอะไรเนี่ย!? ”
“บินหนีเองก็ได้วะ!”
พวกเผ่าที่บินได้พยายามจะกางปีกบิน
แต่แล้วอากาศรอบ ๆ ตัวพวกเขากลับเริ่มสั่นไหว
ฉัน… ว่าเหมือนจะมองเห็น—
มีอะไรบางอย่างกำลังก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นมาบนอากาศ…
***
“ลาพิสกำลังดึงความสนใจ เอโซแฮกระบบยาน รวมไปถึงยึดการควบคุมยานเหาะทุกลำ— เหลือแค่ผม ที่ยังไม่ได้เริ่มงานสินะ? ”
นักบวชภูติผมสีแดงพูดกับตัวเองจากบนเสาอากาศที่อยู่สูงที่สุดของเรือลำนี้
“งั้นก็~ ได้เวลาสนุกแล้วสิ~”
เธอพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สนุกสนาน
มุมปากของสตรีภูติผมแดงกระตุกเป็นรอยยิ้มอันน่ารังเกียจ
แสงจันทร์ตกกระทบภูติน้อยสีแดงใต้ชุดคลุมสีดำ
เธอผู้นั้นช่างงดงาม หากแต่กำลังสร้างรอยยิ้มของยมทูตผู้ชั่วร้าย
เธอกางปีกออกสองข้าง แผ่ละอองแสงสีแดงอันน่ากลัวเจิดจ้า
คลื่นพลังงานเวทมนตร์นั้น กำลังรบกวนพื้นที่มิติ บิดผันสมการที่ว่าง แล้วเชื่อมแผ่นดินคนเป็นกับคนตายให้เข้าหากัน
เธอกำลังดึงเรือทั้งลำ ให้เข้าไปอยู่ในรอยแยกระหว่างโลกคนเป็นกับคนตาย ด้วยเวทมนตร์ของโลกคนตาย
วิญญาณ— ผู้เคียดแค้น
วิญญาณ— ของผู้ที่ถูกสังหารกิน
วิญญาณ— ที่ไร้อัตตาตัวตนของเหล่าโคลนนิง
วิญญาณหลงทางเหล่านั้น กำลังเริ่มรู้สึกรับรู้
รับรู้— ว่าพวกมันสามารถสัมผัสกับโลกของเหล่าคนเป็นได้ในนาทีนี้
คนเป็นมองเห็นคนตาย
คนตายมองเห็นคนเป็น
รอยแยกระหว่างมิติจักมาบรรจบลง ณ จุดรอยต่อเดียวกัน
มันเหมือนเป็นแสงจากแมลงเล็ก ๆ แต่พวกมันไม่ใช่แมลง
ละอองแสงพวกนั้นกำลังบินมารวมตัว แล้วก่อรูปร่างเป็น [หัว]
เป็น [หัว] ที่ไม่ใช่หัว
เป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบพลังงาน ที่ไม่ใช่พลังงานของโลกคนเป็น
มันไม่มีดวงตา ปาก จมูก หรือรูปร่างอันใดชัดเจน
แต่ผู้ที่พบเห็นกลับสามารถรับรู้ได้ ว่ามันคือ [หัว] ของสิ่งมีชีวิต
“ตัวบ้าอะไรวะ!”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!? ไม่เคยเห็นสัตว์รูปแบบนี้มาก่อนเลย!”
เหล่าชมรมคาร์นิวอยผู้มีรสนิยมพิศดารต่างยืนนิ่งสนิทต่อหน้า [หัว] ที่ปรากฏตัวอย่างไม่ทันคาดคิด
“มันจะอะไรก็ช่าง รีบหนีก่อนเถอะ!”
เหล่าผู้มีปีกไม่คิดจะหยุดอยู่บนเรือบ้า ๆ ลำนี้อีกต่อไป
พวกเขาบินทะยานขึ้นท้องฟ้า ฝากหนรอดชีวิตเอาไว้ที่ปีกของตัวเอง
แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำเช่นนั้น ไม่ต่างอะไรไปจากแมงเม่าที่บินเข้ากองไฟ
[หัว] เริ่มพุ่งเข้ากลืนเหล่าฝูงนกที่กำลังพยายามโบยบินหนีออกจากรัง
“อ๊ากกกกก!”
“ร้อน! นี่มันอะไรกัน!? ”
เหล่าเผ่านกกำลังมอดไหม้ด้วยแสงไฟสีขาว
เหล่าเผ่าภูติกำลังร่วงโรยจากฟ้าดั่งดอกไม้ที่แห้งเหี่ยว
ร่างกายของพวกเขาที่ถูกเผ่า มิได้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน
ไร้ริ้วรอยบาดแผล
หากแต่เหี่ยวย่น ดวงตาไร้แสง จิตใจถูกช่วงชิง
ราวกับจิตใจและอัตตาของพวกเขา ได้สูญสลายมลายสิ้นหายไป
ในเวลาเดียวกัน สิ่งมีชีวิต [หัว] ที่บินวนอยู่รายรอบเรือได้เริ่มกรูเข้าโจมตีฝูงชนบนเรือ
พวกมันอ้าปากกว้างจนมีขนาดกลืนเผ่ายักษ์ได้ทั้งตัว
บินโถมลงต่ำ แล้วกวาดทะลุผ่านผู้คนนับสิบไปอย่างรวดเร็ว
ถูกสูบวิญญาณ กลืนกินอัตตา แล้วทิ้งไว้เพียงร่างเนื้อ
กลายเป็นตุ๊กตาไร้สำนึกที่กลวงโบว่างเปล่า
“เหวอออออ!!!”
ผู้คนต่างเริ่มตื่นตระหนก
พวกเขาวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง เสมือนหนึ่งเป็นฝูงมดแตกรัง
บ้างพยายามวิ่งกลับเข้าห้องโถงอาหารแห่งการเฉลิมฉลอง
แต่ทว่าภายในห้องอาหารนั้น ยังมีเพชฌฆาตสีฟ้ารอคอยอยู่
*ฉั่วะ!*
หัวสด ๆ ที่เปือดเลือดสีดำของเผ่ายักษ์ตนหนึ่งกำลังลอยปลิวออกมาจากห้อง
วิญญาณของคนเป็นถูกสังหาร ลอยหลุดจากร่างสู่โลกคนตาย
ทว่าดวงวิญญาณสดใหม่ที่ถูกฆ่านั้น ไม่อาจมุ่งสู่โลกหน้าได้ดั่งหวัง
เหล่า [หัว] ที่บินรายล้อมเรือ พวกมัน ต่างกรูเข้ากลืนวิญญาณสดใหม่ที่ว่า
ทำตัวเหมือนฝูงฉลามที่ดักรอปลาหลงฝูง แล้วล่าเหยื่อลงท้อง เติมเต็มความหิวกระหาย
พวกมันอ้าปากกว้าง กัดฉีกรุมทึ้งดวงวิญญาณ แยกมันออกเป็นห้าส่วน
กำแพงใด ๆ มิอาจขวางกั้นพวกวิญญาณได้
พลังงานวิญญาณที่ถูกกลืนกิน กำลังถูกถ่ายทอดสู่ผู้ล่า
ผู้กลืน ได้รับวัฐจักรแห่งพลังงาน
ส่วนผู้ถูกกลืน กำลังถูกทำลายตัวตนอัตตา
สูญเสียความเป็นเอกลัษณ์เฉพาะบุคคล มิอาจฟื้นหวนกลับคืนสู่วังวารวัฐจักรชั่วนิรันดร์
ภูติสาวสีแดงที่ไม่มีใครสังเกตุเห็นกำลังอยู่มองดูเหตุการณ์ทั้งหมด ณ บนเสาอากาศเรือ
“ได้เวลาสูบวิญญาณ”
เธอพูดกับตัวเอง แล้วเริ่มโปรยขวดเปล่าจำนวนมากออกไปในอากาศ
ขวดเปล่าเหล่านั้นถูกพลังงานบางอย่างที่มีแสงสีน้ำเงินล้อมกรอบ แล้วเริ่มแผ่ขยายออกเป็นวังวนรูหนอน
มันคือสนามพลังงานรูปแบบหนึ่ง
เป็นสนามพลังที่จะดึงดูดพลังงานวิญญาณให้เข้าหา
หรือก็คืออุปกรณ์ที่มีเอาไว้เพื่อดูดรวบรวมวิญญาณนั่นเอง
[หัว] ที่บินลอยรอบตัวเธอเริ่มถูกแรงดึงดูดนั้นสูบเข้าไป
เหล่า [หัว] กำลังแตกสลายกลายเป็นละอองแสง
จากละอองแสง แตกสลายกลายเป็นคลื่นกระแสน้ำ
พวกมันกำลังถูกดูดบรรจุลงไปในขวด กักขัง ไร้หนทางหนี
สตรีภูติก้มมองดูขวดบรรจุวิญญาณที่อัดแน่นด้วยสีหน้าอย่างพึงพอใจ
ขวดที่บรรจุพลังงานวิญญาณจนแน่นขนัด จะถูกคัดแยกออกในภายหลังด้วยสหายผู้มีภูมิความรู้ของเธอ
คัดแยกส่วนอัตตาตัวตน คืนมันสู่โลกคนตายให้พญายมราช
ส่วนพลังงานวิญญาณอันเปี่ยมไปด้วยรสชาติอันเข้มข้น—
“พวกเราจะกินมันเอง”
—จะกลายเป็นอาหารวิญญาณของพวกเธอในภายหลังไป
***
กังขังในวังวนมิติที่แยกออก
ฆ่าคนเป็นให้กลายเป็นคนตาย
ปล่อยคนตายให้มาฆ่าคนเป็น
ขุนวิญญาณให้อ้วนพีด้วยวิญญาณที่บรรจงสังหาร
แล้วเก็บตักตวงผลดอกที่งอกเงย กลืนกินเติมเต็มดวงจิต เพื่อหวังคืนสู่แดนเทพเจ้า
เทพทั้งสามไม่เคยคิดสู้เพื่อความถูกต้อง
เทพทั้งสามไม่ได้สู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนตาย
พวกเขา— ก็แค่ทำเพื่อ [ตัวเอง]
ทำเพื่อ [ตัวเอง] เท่านั้น
***
“ระ— รายงาน! ต้องรีบรายงานพวกพี่สาวฮีโร่!”
ฉันรีบควักมือถือสีเงินขึ้นมาเพื่อติดต่อหาพวกพี่สาว
ถึงจะไม่รู้ว่าพวกนี้คือตัวอะไร แต่สถานการณ์มันไม่ปกติเอาเสีย–
*ฮูมมม!!*
“เอ๊? ”
เสียงอะไร…
พอหันไปมองตามเสียง ก็เห็น [หัว] ขนาดใหญ่กำลังแยกส่วนที่คล้ายปากหันมาทางฉันอยู่
” ม่ายยยยยยย!!! ”
ฉันรีบเตรียมกระโดดหนีมัน
แต่ก่อนที่จะได้ทันกระโดดหนี เจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดก็บินเลี้ยวผ่านตัวฉันไปซะดื้อ ๆ
พวกมันส่งเสียงโหยหวนราวกับว่ากลัวอะไรสังอย่าง แล้วพากันบินทิ้งระยะจากฉันไปเสียอย่างงั้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันค่ะเนี่ย?
“… อ๊ะ! จริงสิ ต้องรีบติดต่อพวกพี่สาว!”
ฉันรีบหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ก่อนที่จะได้ทันโทรติดต่อพวกพี่สาว มือของฉันกลับหยุดเคลื่อนไหวไปเสียก่อน
คราวนี้ไม่ใช่เป็นเพราะมี [หัว] เข้ามาโจมตี
แต่เป็นเพราะฉันบังเอิญเหลือไปเห็นบางอย่าง
ตรงใกล้จุดหัวเรือ
ตรงห้องอาหารที่พี่สาวลาพิสบุกเข้าไป
ตรงประตูหลังที่มีรถเข็นจำนวนมากถูกปล่อยวางทิ้งเอาไว้
ที่ตรงนั้น มีอาหาร [หัน] ถูกวางเรียบเอาไว้บนจาน
มันไม่ใช่ หมูหัน หรือ เป็ดหัน
แต่เป็น [ตัวฉัน] ที่โดนเอาไปทำเป็นอาหาร [หัน]
เป็นอาหาร ที่ปรุงจากตัวของ [ฉัน]
MANGA DISCUSSION