“ฆ่ามานนนน!”
ให้ตายสิ คนที่นี่มันเป็นเสียแบบนี้ทุกที
กับไอสิ่งที่เรียกว่า “การรุกรานของมอนสเตอร์ยักษ์” นะ
ข้าน้อยถอนหายใจยาวอย่างหมดแรง
สภาพแบบนี้ คงไม่มีใครจะมามีอารมณ์เดินซื้อจานชามกันหรอก
ดูสิ
แม้แต่คุณนักบวชลาพิสที่กำลังยืนดูจานชามจนถึงเมื่อกี้ ยังถูกหันเหความสนใจไปทางนั้นเลย
ถ้ารู้ว่าจะมีแบบนี้คงเอาอาหารมาเร่ขายแทนตั้งแต่แรกไปแล้ว
เสียโอกาสทำเงินไปซะได้นะเรา
“มาใช้โอกาสที่วุ่นวายในตอนนี้ หาสถานที่ตั้งเบื้องหลังของพวกมันกัน แมรี่โกลว์ เธอไปตรวจสอบจากที่สูง ลาพิส ไปตรวจสอบฝั่งโกดังสินค้า ส่วนเราจะไปตรวจบริเวณท่าเทียบเรือเอง—แล้วก็ ไซน์ ฝากเธอตรวจสอบฝั่งตลาดสด โดยเน้นไปที่การเฝ้าบริเวณทางเข้าตลาด ถ้าเห็นคนที่เธอรู้จักสมัยตอนอยู่ในองค์กร ให้รีบแจ้งพวกเราทันที เข้าใจนะ”
“ได้ค่ะ พี่สาวเอโซ!”
นักบวชสตรีที่เป็นเผ่ามนุษย์นกผมสีเหลืองกำลังกระซิบบางอย่างกับพรรคพวกของเธอ
เธอกระซิบด้วยเสียงที่เบามาก จนไม่น่าจะมีใครได้ยินนอกจากพวกเธอกับเด็กสาวคนแคระ
แต่ขอโทษด้วยที่ข้าน้อยเป็นคนหูไว
ข้าน้อยได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดกระซิบกันทั้งหมด รวมไปถึงรู้ชื่อของพวกเธอทุกคนจากเสียงกระซิบนั้น
หูกระต่ายขนปุยของข้าน้อยไม่ได้มีไวเพื่อประดับหัวให้ดูน่ารักเฉย ๆ หรอกนะ
ว่าแต่ตรวจสอบ? เฝ้าระวัง?
แถมยังสายตาที่ดูเหมือนกับเป็นบุคคลจากโลกเบื้องหลังของสตรีนกเหลืองคนนั้น
กลุ่มนักบวชสาวจากวิหารเทพทั้งสาม…
พวกเธอคงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
[ขอตัวก่อนนะคะ =o=]
นักบวชลาพิสถือป้ายอำลาข้าน้อย แล้วเดินกลืนหายไปในฝูงชนที่กำลังวิ่งกรูไปทางชายฝั่ง
ส่วนภูติหัวแดงที่ชื่อแมรี่ โกลว์ เธอคนนั้นกำลังดึงฮูทกันหนาวลงมาปิดผมสีแดงที่โดดเด่นของตัวเอง ก่อนจะบินกลืนหายไปกับฝูงเผ่ามนุษย์นกกับเผ่าภูติที่กำลังบินว่อนอยู่แถวที่นั่งบนหลังคาของตลาดสด—
“ส่วนเธอ แม่สาวกระต่าย ดูเหมือนว่าจะได้ยินอะไรบางอย่างไปสินะ? สายตาเธอมันกำลังฟ้องแบบนั้น ถ้าเป็นคนฉลาด อย่าได้มาทำเป็นสอดรู้กับพวกเราเชียวละ”
—งะ… รู้ได้ยังไงเจ้าค่ะ?
ข้าน้อยคิดว่าตัวเองไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกไปเลยนะ!
นักบวชคนที่ชื่อ เอโซ กำลังหันมามองข้าน้อยด้วยแววตาของนักฆ่า
ไม่รู้ว่าทำไม แต่ข้าน้อยรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่สามารถทำให้ขนทั่วร่างกายถึงกับลุกชันตั้งขึ้นมาได้
ราวกับเป็นสายตาของยมทูตเช่นนั้น—
“ค่ะ… ข้าน้อยไม่คิดยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอกเจ้าค่ะ…”
ข้าน้อยรู้สึกได้ว่าไม่สามารถเอาชนะสตรีผู้นี้ได้
เธอคนนี้อันตรายเจ้าค่ะ
อย่าไปยุ่งด้วยเลยจะดีที่สุดเจ้าค่ะ
***
“ไซน์ ฝากเธอตรวจสอบฝั่งตลาดสด โดยเน้นไปที่การเฝ้าบริเวณทางเข้าตลาด ถ้าเห็นคนที่เธอรู้จักสมัยตอนอยู่ในองค์กร ให้รีบแจ้งพวกเราทันที เข้าใจนะ”
“ได้ค่ะ พี่สาวเอโซ!”
ฉันตอบรับพี่สาวด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
ถึงจะง่วงอยู่ แต่ไม่รู้สึกเลยว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายมาผิดพลาด
ฉันจะไม่ทำให้ความคาดหวังของพวกพี่สาวต้องสูญเปล่าเด็ดขาดค่ะ!
“งั้น—”
*ฟิ้ว~*
เหลือแต่สายลม
เพียงชั่วพริบตา คุณพี่สาวทั้งสามคนก็หายไปกับสายลมแล้ว
“—เร็ว!!”
สมกับเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ มีความสามารถเหนือสามัญสำนึกไปไกลเลยทีเดียวค่ะ!
แต่ฉันเองก็จะยอมแพ้ไม่ได้
เพราะว่าฉันเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มของฮีโร่สาวแล้วเช่นกันค่ะ!
ฉันหยิบมือถือที่พี่สาวทั้งสามคนรวมเงินซื้อมาให้ฉันใช้
มันเป็นมือถือรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าคลาสสิกผิวสีเงิน
เป็นสีเดียวกับสีเส้นผมของฉันค่ะ
“เอาละ เริ่มการสำรวจได้!”
หน้าที่ของฉันคือการทำแผนที่ของตลาดสด
แต่ตลาดสดส่วนเบื้องหน้านี้ ตัวฉันรู้จักทุกซอกทุกมุมไปแล้ว เลยทำให้แม้แต่หลับตา ก็ยังสามารถเขียนแผนที่ขึ้นมาได้
ตลาดสดแห่งนี้ไม่มีอะไรนอกจากลานโล่งสำหรับตั้งร้านค้า กับห้องน้ำเหม็น ๆ ตามหัวมุมของตลาด
อ่าว?
แบบนี้งานของฉันก็จบแล้วสิเนี่ย?
“…”
ไม่สิ ไม่สิ ไม่สิ
มันต้องมีอะไรที่ฉันทำได้อยู่บ้างอีกนั่นละ
“ไอโง่! แค่ดูขนาดตัวก็รู้แล้วว่าพวกโกเลมเอาไม่อยู่หรอก! ของแบบนี้มันต้องเรียกกองทัพมาสู้! ข้าขอแทงฝั่งราชาจระเข้ชนะ 1000 ยูนิต!”
“แกสิโง่! พวกชาวประมงไม่ยอมปล่อยให้โกเลมราคาแพงพังไปง่าย ๆ หรอก แถมดูราคาต่อรองนี้ซะ! 100 ต่อ 1!? คนตั้งโต๊ะพนันมันรู้อยู่แล้วว่าทุกคนต้องแทงฝั่งราชาจระเข้ ข้าขอแทงเงินฝั่งชาวประมงชนะ 10,000 ยูนิต ไปเลย!”
ฉันหันไปตามเสียงตะโกนเชียร์การต่อสู้ของเหล่าประชามุงที่เต็มแนวชายฝั่ง
พวกเขากำลังวิจารณ์กันอย่างออกรส พร้อมกับชมการต่อสู้ของชาวประมงกับราชาจระเข้ด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น
ถึงจะเป็นภาพที่ชินตาเพราะเห็นมาตั้งแต่ตอนสมัยอายุ 2 ขวบ จนถึง 10 ขวบก็เถอะ แต่ไม่มีครั้งไหนที่ฉันจะได้มาเห็นในระยะใกล้แบบนี้
เพราะว่าปกติฉันมักถูกสั่งให้อยู่แต่ข้างในห้อง ในตัวอาคารโกดังหลังนั้น—
จริงด้วยสิ!
ถ้ากลับไปที่อดีตห้องพักของฉัน มันจะต้องมีข้อมูลบางอย่างอยู่แน่นอน!
เพราะว่าห้องทำงานของ ซิงเคไนต์— คนชั่วหลอกฉัน มันตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับอดีตห้องนอนของฉัน
ที่นั่นจะต้องมีข้อมูลบางอย่างอยู่แน่นอนค่ะ!
ถึงจะผิดคำสั่งของพวกพี่สาวไปบ้าง แต่แบบนี้มันน่าจะดีกว่า
ว่าแล้วก็รีบไป—
*กีสสส!!*
“มีโกเลมตัวหนึ่งถูกจับเขวี้ยงมาทางนี้แล้วโว๊ยยย!”
” บาเรียจะเอาอยู่เรอะนั่น!?!”
” เผ่นโว๊ยยยย!!”
อยู่ ๆ ก็เกิดคลื่นมวลชนพากันวิ่งหนีแตกตื่นมาจากฝั่งท่าเรือ
ด้วยความสูงที่ไม่ถึงหนึ่งเมตรของฉัน เลยทำให้มองไม่เห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
แต่ที่รู้อย่างหนึ่ง
“กรี๊ดดดดดด!? ”
คือฉันกำลังจะถูกฝูงชนเหยียบตายแล้วค่าาาา!!
ฮัลโหลลล! ตรงนี้มีเด็กน้อยเผ่าคนแคระน่ารักอยู่คนหนึ่งนะค่าาาา!!
ฉันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกคลื่นซึนามิซัดให้กลืนหายไปในทะเล
ถึงจะพยายามใช้เทคนิควิ่งฝ่ากระแสมวลชลที่ตัวเองถนัด แต่ก็มิอาจต้านทานคลื่นสมุทรที่เชี่ยวกรากไปได้
สงสัยแบบนี้คงต้องสละชุดกันหนาวที่รุ่มร่ามตัวนี้ทิ้ง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวเสียแล้ว
“ฮึบ!”
ฉันดึงหมวกไหมพรม ถอดแว่นตาดำ แล้วถกเสื้อคลุมกันหนาวออก
โยนมันไปบนโต๊ะของร้านคุณกระต่ายเมื่อกี้ แล้วใช้ร่างที่บอบบางของตัวเอง มุดลอดไปตามระหว่างขาของผู้คน—
“ทางนี้ครับคุณน้องสาว!”
“เอ๊!!? ”
แต่ก่อนที่ฉันจะได้โชว์เทคนิคแพรวพราวหลบดงตีน อยู่ ๆ ก็มีใครไม่รู้มาดึงแขนของฉันเอาไว้
ฉันถูกแขนเล็ก ๆ นั้นดึงให้ขึ้นมานั่งบนลำตัวโลหะที่เย็นเฉียบ
สองหูเรียวยาวได้ยินเสียงควบเหล็กกระทบพื้นยางแข็งเป็นจังหวะ
มองเห็นแผ่นหลังของเด็กผู้ชายที่สวมเสื้อคลุมทั้งตัวจรดไปถึงหัว ติดอยู่บนลำตัวที่ดูคล้ายกับม้า
เด็กเผ่ามนุษย์สัตว์ – ม้า ที่อยู่ในร้านของคุณกระต่ายเมื่อกี้นี้นี่นา?
เป็นคนเดียวกับที่ชมฉันว่า [น่ารัก] เมื่อกี้นี้
“คุณคือ? ”
“ผมชื่อ [เวอไดท์] ครับคุณน้องสาว!”
เขาตะโกนตอบฉันท่ามกลางเสียงอึกทึกของผู้คน
เขาพาฉันขึ้นขี่หลัง แล้วควบสี่ขาแทรกฝูงชนออกไปจนพ้นเขตตลาดสด
พอหลุดออกมาในที่โล่ง ก็มองเห็นโกเลมขนาดสิบห้าเมตรตัวหนึ่งกำลังจะตกลงมาทับที่ใจกลางตลาดแล้ว
“ไม่เห็นจำเป็นต้องแตกตื่นเลยไอพวกบ้า ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นออกมาตามลำโพงที่ติดรายรอบไปทั่วตลาดสด
ชายเผ่าเสือขนสีน้ำตาลเข้มสูงสองเมตรครึ่งคนหนึ่ง กำลังวิ่งตรงไปทางโกเลมยักษ์ที่ร่วงหล่น
เขาวิ่งไปตามสันหลังคา
ชุดเกราะที่สวมทับเรืองแสงสีแดง พร้อมระเบิดประจุแรงดันอากาศ ขับดันให้ร่างกายบินทะยาน
แสงดาวตกแดงนั้นวิ่งขึ้นฟ้า ปะทะกับร่างโกเลมเหล็กใจกลางอากาศ
ใช้แขนขวาชกไปที่แผ่นหลังจนเกิดเป็นรอยบุมลึก ส่งมันให้ลอยกลับไปหาราชาจระเข้เป็นดั่งลูกปืนใหญ่ไป
*โครม!*
เกิดเสียงคลื่นกระแทกรุนแรง พร้อมกับมีกำแพงน้ำลอยขึ้นสูงเหนือเส้นขอบฟ้า
ราชาจระเข้ที่ถูกก้อนเหล็กกระแทกหัว ถึงกับล้มกลิ้งกลับหลังไม่เป็นท่า
“นั่นมันสุดยอดชาวประมงที่พวกเราเผ่ามนุษย์สัตว์ภาคภูมิใจ [ซิงเคไนต์] !”
ชายผู้ที่พึ่งแสดงความสามารถอันน่าตื่นตาให้เห็น คืออดีตผู้มีพระคุณที่พยายามหลอกฉันเพื่อเอาไว้ใช้งานและจับกิน
คุณ [ซิงเคไนต์] …
เพียงแค่เห็นเขา หัวใจของฉันมันก็บีบรัดขึ้นมาในทันที
ใจหนึ่งรู้สึกโกรธ แต่อีกใจกลับรู้สึกโหยหาอยากเข้าไปอ้อนขอความอบอุ่น
ความทรงจำที่เขาเลี้ยงดูฉันมาอย่างดีตั้งแต่วัย 2 ขวบจนถึงปัจจุบัน กำลังไหลเวียนเล่นเทปย้อนกลับ
“…”
ไม่…
ครอบครัวที่แท้จริงของฉันคือพี่สาวฮีโร่สามคนนั้นต่างหากค่ะ…
“ดูเหมือนว่าจะปลอดภัยแล้วคุณน้อง~”
เสียงของเด็กชายที่ให้ฉันขึ้นขี่หลัง ได้ดึงสติให้ฉันกลับสู่ปัจจุบัน
เขากำลังหันหน้ามามองฉันอยู่
เขามีดวงตาสีทอง ขนสีทอง และมีครึ่งใบหน้าปิดเอาไว้ด้วยผมที่ยาวจนรกรุงรัง
น้ำเสียงของเขาดูสั่น อีกทั้งยังมีเสียงหัวใจเต้นแรงจนได้ยินชัดเจน
พอสังเกตุให้ดี ดูเหมือนว่าแก้มของเขากำลังจะแดงเป็นลูกตำลึงอีกด้วย
นี่พี่ชายกำลังป่วยอยู่หรือเปล่าเนี่ย?
“… ขอบคุณมากค่ะ”
ฉันกล่าวขอบคุณเขาพอเป็นพิธี แล้วหันไปมองคุณ ซิงเคไนต์ อีกรอบ
เขาเปิดใช้งานของชุดเกราะ พร้อมกับสั่งหยุดการโจมตีของชายฝั่ง
เหล่าโกเลมที่เหลือเพียงเก้าตัวเริ่มเดินถอยร่นออกห่างจากราชาจระเข้ที่กำลังพยายามพลิกตัวลุกขึ้นยืน
*ฟุบ!*
พร้อมกันนั้น ได้เกิดเสียงลมกระแทกรุนแรงดังมาจากทางหลังคา
บุรุษเสือสีน้ำตาลกำลังบินทะยานผ่านอากาศไปทางราชาจระเข้
สองมือถือขวานรังสีขนาดสามเมตร ชูมันขึ้นเหนือบ่า เร่งคลื่นพลังจนแผ่เห็นเป็นแสงสีแดงยืดยาวขึ้นท้องฟ้ากว่าสิบเมตร
*ซ่าาาา!*
แล้วฟาดสิ่งนั้นลงไปในใจกลางขาขวาของราชาจระเข้เต็มแรง
ความร้อนแผดเผาพร้อมกับมีควันไอน้ำพวยพุ่ง
ผิวหนังหนาถูกฉีกแยกออกจากการแทรกแทรงรังสีระดับอนูอะตอม
เลือดสีน้ำเงินที่น่ารังเกียจไหลออกเป็นสาย ย้อมทะเลแถบนั้นจนส่งกลิ่นเหม็นกระจายไปทั่วบริเวณ
*กีสสส!*
ราชาจระเข้คำรามอย่างเจ็บปวด
มันลุกขึ้นยืนด้วยขาข้างที่เจ็บ แล้วใช้หางฟาดใส่บุรุษเสือน้ำตาล
มันพ่นแสงรังสี ระเบิดเปลวพลังความร้อนสีแดงไปทั่วอนูอากาศ เพื่อหวังสังหารแมลงวัลอันน่ารำคาญ
แต่มันไม่อาจตบแมลงวันตัวนี้ให้ร่วงลงมาได้
เพราะแมลงวันตัวนี้ สามารถหลบทุกการโจมตีของมันได้ทั้งหมดอย่างสมบูรณ์แบบ
“น้องสาวสนใจการต่อสู่ตรงนั้นสินะ งั้นเดียวพี่จะพาไปส่งในระยะใกล้ให้”
* (เก๊กหน้าหล่อ) *
“เดียวก่อนค่ะ—!?!”
อะไรของคุณพี่ม้าคนนี้กันเนี่ย?
อยู่ ๆ เขาก็เก๊กหน้าหล่อ แล้วควบพาฉันไปทางริมทะเลเฉยเลย
แต่มาคิดอีกทีมันก็ดีเหมือนกัน
เพราะว่าอาคารที่ฉันกำลังจะไปสำรวจ มันตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับริมท่าเรือพอดี
แถมพี่คนนี้ยังวิ่งเร็วกว่าฉันด้วย
สมกับที่เป็นเผ่ามนุษย์สัตว์ – ม้า
” งั้นก็รบกวนด้วยค่ะ คุณพี่ชาย [เวอไดท์] ”
เอาละ ได้เวลาทำให้พวกพี่สาวแปลกใจแล้ว
ฮิ ฮิ ฮิ~
MANGA DISCUSSION