ฉัน… เจ็บ…!
“แงงงงง!”
“อย่ามาทำเป็นร้องไห้!”
ชายเผ่ามนุษย์มดกำลังเพิ่มแรงของเขี้ยวที่จมอยู่ในแขนขวา
ความเจ็บปวดที่แทบจะทำให้สลบ มันกำลังแล่นผ่านไปทั่วประสาทร่างกาย ราวกับเป็นรถไฟขบวนด่วนที่ไม่ยอมหยุดวิ่ง
ฉัน— กำลังจะตาย
ไม่!
ฉันไม่อยากตายตอนนี้!
“พอใกล้ตายแล้วมาทำเป็นร้องไห้? เจ้าพวกคาร์นิวอยไร้สำนึก!”
“ฆ่า! ฆ่ามันให้เหมือนกับที่พวกมันฆ่าพวกเรา!”
“ม่ายยยยยยย!”
คงต้องบอกเป็นโชคดีในความโชคร้าย
เขี้ยวของมดยักษ์ที่กำลังปักจมลงไปในแขนขวา ได้ถูกง้างออกเพื่อเตรียมสับลงมาเหมือนกรรไกรที่ตัดกระดาษ
แต่เป็นเพราะส่วนเนื้อของแขนที่ติดอยู่ในง่ามเขี้ยว เลยทำให้กลายเป็นว่าตัวฉันถูกเหวี่ยงออกไปพร้อมกับเขี้ยวของมัน
ด้วยแรงเหวี่ยงกับเนื้อบาง ๆ ที่ไม่ค่อยมีมวลกล้ามเนื้อ เลยทำให้ถูกแรงเหวี่ยงนั้นฉีกเอาเนื้อต้นแขนจนหลุดขาดออกมาจากเขี้ยวของมัน
“อึ๊ก!”
เพราะเจ็บจนด้านชาไปแล้ว เลยทำให้ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ
“ฮือ…”
ถึงจะหลุดจากเขี้ยวมาได้ แต่จะให้หนีไปที่ไหน?
ฉันไม่สามารถหนีผ่านกำแพงหิมะข้างนอกนั้นไหวได้หรอก
แถม… เลือด…
เลือดมันยังไหลออกมาไม่หยุด…
รู้สึก… ไม่มีแรง…
“ฆ่า—”
“ข้าบอกว่าเดียวก่อนไงไอพวกบ้า!”
“!?!”
ฉันรีบหันเอาหลังชนผนังเต็นท์ แล้วจับตามองไปที่มดยักษ์
เจ้ามดยักษ์ตัวนั้นกำลังใช้แขนของแมลงที่มีสี่ข้างดึงรั้งร่างกายเพื่อหยุดตัวเองเอาไว้อยู่
หมายความว่ายังไง?
“เจ้าหนู ข้ามีคำถาม”
“…”
ฉันรู้สึกว่าแววตาของเขาเปลี่ยนไป
ราวกับว่าเขาได้เปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งไปแล้ว
“เจ้าหนู ใครคือเจ้านายของเจ้า? ”
เจ้านาย?
หมายถึงผู้มีพระคุณ?
หรือหมายถึงคุณอีกาดำที่ดูแลฉันในเวลานี้?
แก้แค้น กับคำถามแบบนี้…
ฉันพอที่จะปะติดเรื่องราวได้แล้ว
ฉันไม่รู้ว่าชายคนนี้ไปมีความแค้นอะไรกับใคร
แต่… สงสัยว่าเขาคงมีความแค้นกับใครสักคนในองค์กรคารฺนวอย
เพื่อที่จะสืบหาคน ๆ นั้น เลยมาตามจับที่ฉันแทน? หรือเปล่า?
โอ๊ย… คิดแล้วปวดหมองอะ
ปวดหัวก็ปวด เจ็บก็เจ็บ แถมแขนขวายังไร้ความรู้สึกไปแล้วอีก
ตาก็ทำท่าจะปิด…
“ถ้าไม่ตอบ ข้าจะสังหารเจ้าแทน”
แง!!
อย่ามาเร่งเอาคำตอบกันสิค่ะ!
“แง! แต่ฉันไม่คิดที่จะบอกอะไรหรอก! ฉัน… ฉันจะไม่มีวันทรยศผู้มีพระคุณเด็ดขาด!”
ใช่!
ต่อให้ตาย ฉันก็ไม่มีวันยอมทรยศผู้มีพระคุณ!
ไม่มีวันยอมทรยศ คนที่ยอมรับในตัวของฉัน!
“บอกแล้วว่าเสียเวลาเปล่า”
“ฆ่ามันไปเถอะ”
“…ได้ แต่ฆ่ามันง่ายไป ทรมานก่อนฆ่า เหมือนที่พวกมันทำกับพวกเราจะดีกว่า”
“เห็นด้วยอย่างยิ่ง!”
มดยักษ์พูดกับตัวเองคนเดียว ก่อนจะสะบัดเลือดที่เปื้อนปลายเขี้ยวออก
เขายืนนิ่ง มองดูฉันโดยไม่เคลื่อนไหว
ในตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกถึงลม
ลมอะไร—
*หวี๊ดดดดดดดด—–!!!!!! *
“!?! อ๊ายยยย!! ”
แก้วหูของฉันทั้งสองข้างกำลังถูกระเบิดด้วยด้วยเสียงกรีดร้อง
ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้เปิดปากกรีดเสียง
ไม่มีเค้าของต้นเสียงมาจากรอบค่ายที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะหนา
แต่ทว่าฉันกลับได้ยินเสียงกรีดร้อง
เป็นเสียงที่ดังกังวาลสะท้อนอยู่ภายในสมองอย่างไร้ที่สิ้นสุด
ราวกับว่าเสียงนั้นมันมากับสายลม
ราวกับว่าในพื้นที่อันว่างเปล่า มีผู้คนจำนวนมากกำลังกรีดร้องใส่ตรงหน้าฉันในเวลานี้
“หยุด— ได้โปรด!? อย่าทรมานฉันไปมากกว่านี้เลย!”
ถ้าหากตายไป ฉันอาจจะรู้สึกสบายมากกว่านี้—
แต่จะยังตายไม่ได้
ความปราถนาเดียวที่ยังทำให้ฉันมีไฟสู้ชีวิต คือภาพของผู้มีพระคุณที่รับเลี้ยงดูแลฉัน
ฉันจะต้องรอดชีวิต—
รอด เพื่อไปรับความอบอุ่นจากเขา—
“อึ๊ก – -!!”
ฉันกำลังออกตัววิ่ง
วิ่งตรงไปทางโต๊ะทำงานของคุณพี่อีกาดำ
คุณอีกาดำมีอีกใบหน้าเป็นตำรวจสากล ดังนั้น ที่โต๊ะน่าจะมีอาวุธเก็บเอาไว้อยู่
ฉันต้องการอาวุธ—
*ตึ่ง!*
ทว่าโต๊ะทำงานตัวนั้นกลับลอยขึ้นเหนือพื้นพร้อมกับที่เกิดเสียงกระแทก
เอ๊!?!
ทำไมโต๊ะถึงลอยขึ้นมาได้เองแบบนั้น!?
“อยากได้อาวุธ? ของแบบนั้นไม่มีหรอก”
เหวอ!?!
ฉันรีบกลิ้งตัวหลบโต๊ะที่กำลังพุ่งลงมา จนไปชนที่ผนังของเต็นท์เป็นรอบที่สอง
รู้สึกได้ถึงความเย็นของหิมะที่กำลังแผ่กระจายผ่านผ้าสีขาวมาสู่แผ่นหลัง
แต่ในครั้งนี้ นอกจากความเย็น ยังมีความรู้สึกสัมผัสที่คล้ายกับ [เนื้อสด] ร่วมอยู่ด้วย
*หมับ!*
“โอ๊ย! มือ!? ทำไมมีมือตรงนี้!?!”
มีมือกำลังยื่นทะลุมาจากผ้าเต็นท์มาจับแขน ขา ของฉันเอาไว้
สีซีด เน่าเหม็น แห้ง แต่กลับร้อนไปด้วยพลังงานบางอย่างที่ให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ
มันเป็นสัมผัสของคนตาย—
“ศพ!? ไม่น้าาาาาา!!”
“เหล่าคนตายที่ข้าไปเจอในโรงพยาบาลอันเน่าเหม็น พวกศพที่ไม่สมควรตาย ที่กำลังจะถูกขายไปเป็นอาหารมื้อหลักของพวกคาร์นิวอย… อย่างเจ้า!”
“ฉันไม่เชื่อ! องค์กรของผู้มีพระคุณคือองค์กรแห่งคุณธรรม! อย่ามาใส่ร้ายกันนะ!”
ฉันไม่เชื่อหรอก!
“ยังมาพูดจาโกหกหน้าตายได้อีก เด็กอย่างเธอกินไปกี่ศพกันแล้ว? เจ้าสิ่งที่ชั่วร้ายในร่างของเด็กสาว? ”
” ฉันไม่ได้ –!!”
ในตอนนั้นเองที่ฉันเห็นบางอย่าง
บนโต๊ะที่พึ่งถูกทุ่มใส่พื้นจนพัง
ท่ามกลางซากนั้น มันมีเอกสารวางสุมกองทิ้งเอาไว้
ตาฉันนะดีมากเลยละ
เพราะตาดีมาก เลยทำให้เห็นได้ชัด ว่าเอกสารพวกนั้นมันพูดถึงอะไร
มันคือลิสรายการอาหาร ของมื้ออาหารใหญ่ในอาทิตย์หน้า กับมื้อฉลองส่งท้ายปีขององค์กรคาร์นิวอย
ที่ท้ายเอกสาร มีการระบุว่า [ลับเฉพาะ] กับ [ทำลายทันทีที่อ่านเสร็จ] ระบุเอาไว้
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าเอกสารตัวนี้ คุณพี่อีกาดำจะลืมทำลายมันทิ้ง—
ในรายการอาหารนั้น มันมีชื่อของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ถูกระบุเอาไว้อยู่
จานรอง เนื้อชาวดาวไดม่อน (ต้องมีในรายการ)
[เผ่ามนุษย์ เพศ ชาย อายุ 18 ปี]
[เผ่ายักษ์ ไม่จำกัดเพศ อายุ 30 ปี]
[เผ่ามนุษย์นก ไม่จำกัดเพศ อายุ 2 ปี]
[เผ่าภูติ เพศชายหรือหญิง อายุ 5 ปี]
จานหลัก เนื้อชาวต่างดาว (ถ้าหามาได้)
[เผ่ามนุษย์พืช อายุต่ำกว่า 5 ปี]
[เผ่าเอลฟ์ เพศหญิง อายุอย่างต่ำ 200 ปี]
—
รายการเหล่านั้นล้วนแต่ช่างน่ารังเกียจ
ที่น่ารังเกียจ คือความเป็นจริงที่กำลังทำลายความเชื่อมั่นทั้งหมดที่ฉันเชื่อมาตลอดทั้งชีวิต
ที่น่ารังเกียจยิ่งกว่า คือความเป็นจริงของรายชื่ออาหารสุดท้ายที่ปรากฏให้เห็น
มันเป็นรายการที่ฉันเห็นแล้วถึงกับต้องมองเพ่งอ่านอีกครั้ง เพื่อยืนยันความจริงว่าตัวเองไม่ได้มองผิดไป
รายการอาหาร [เผ่าคนแคระ เพศหญิง อายุ 10 ปี ผิวเผือก ผมสีเงิน]
รายการที่ระบุถึงลักษณะเฉพาะของฉันอย่างชัดเจน…
แล้ว— ผู้ที่ลงนามรับรองรายการอันน่ารังเกียจก็ไม่ใช่ใครอื่น
เขาคือคุณ [ซิงเคไนต์] หนึ่งในระดับผู้บริหารคาร์นิวอย สาขาเผ่ามนุษย์สัตว์ คนที่เป็นผู้มีพระคุณของฉัน
คนที่เก็บฉันมาดูแลจากข้างถนน
คนที่ยอมรับฉัน ยอมรับคนที่ไม่มีใครเอาอย่างฉัน
คนที่— ฉันเชื่ออย่างหมดหัวใจ ว่าเขาจะไม่ทรยศฉันอย่างเด็ดขาด…
…
..
.
.
***ในเวลาเดียวกัน***
“ฮืม? รู้สึก…ผมรู้สึกได้…”
สตรีภูติผมแดงที่กำลังบินลอยต่ำในส่วนเมืองชั้นกลาง กำลังพูดกับตัวเองท่ามกลางซากของผู้คนที่ล้มตัวนอน
ในอากาศท่ามกลางซากผู้นั้น กำลังเต็มไปด้วยละอองแสงที่ไม่สามารถสะท้อนบนดวงตาของคนปกติ
ละอองแสงเหล่านั้นกำลังแตกสลายหายไปในอากาศ ราวกับว่าพวกมันกำลังกลับคืนสู่สถานที่ ที่พวกมันควรจะไปกัน
“ผมรู้สึกได้ ว่ามีเด็กสาวตัวน้อยกำลังร้องไห้!?!”
ภูติหัวแดงเอยเช่นนั้น ก่อนจะบินทะยานหายตัวไปจากสถานที่แห่งนั้นไป
MANGA DISCUSSION