“ขอปฏิเสธ”
สหายเทพไร้แขนกำลังปัดตกคำขอร้องที่น่าสงสารของเด็กสาวตัวน้อยอย่างไร้เยื่อใย
เดียวก่อนจิ!
“ตั้งสติก่อนเอโซ อย่าพึ่งรีบตัดสินใจด่วนได้ปฏิเสธไปแบบนั้นสิ! ”
“เธอนั่นแหละที่ต้องตั้งสติ ลืมวัตถุประสงค์แรกของพวกเราไปแล้วหรือ? ”
เออ… แบบว่าลืมไปแล้วแฮะ
ผมหันไปมองหนูน้อยนางฟ้าที่ทำท่าจะร้องไห้ สลับกับไปมองสหายเทพไร้หน้าที่ยืนมองดูพวกเราสองคนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เด็กสาวคนนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือ
ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมีปัญหากับการตรวจคนเข้าเมือง แต่สาวน้อยน่ารักเช่นนี้คงมีเหตุผลจำเป็นบางอย่างที่เปิดเผยไม่ได้นั่นละ
คนที่เป็นสาวน้อยน่ารัก ไม่มีทางเป็นคนไม่ดีไปได้หรอกรู้ไหม?
แต่จะให้เราพูดจาโน้มน้าวสหายไร้แขนยังไงนี่สิ
ถ้าให้โหวตเสียงกัน ยังไงสหายไร้หน้าก็ต้องเลือกเข้าข้างฝ่ายสหายไร้แขนอยู่แล้ว
เพราะในกลุ่มเรา คนที่มีความคิดและฉลาดที่สุด มีแต่ยัยสหายไร้แขน
แต่จะให้ทิ้งเด็กคนนี้ไปเลย—
ผมยอมรับไม่ได้หรอก!
จิตใจที่โหยหาของน่ารักเอาไว้ครอบครองของผมมันจะร่ำไห้เอาได้
“… นี่ เอโซ ขอเหตุผลที่ไม่อยากให้การช่วยเหลือเด็กที่กำลังลำบากอยู่ ให้ผมได้ฟังหน่อยจะได้ไหม? ”
“ให้ตายสิ… อย่างแรก พวกเราไม่ควรเอาตัวเองไปยุ่งกับเรื่องวุ่นวายในเวลานี้ เพราะมันเกี่ยวกับแผนการของฉันที่จะเข้าไปในทวีปเทวภูมิด้วย
อย่างที่สอง เด็กคนนี้ไม่ยอมบอกชื่อของตัวเองมาตั้งแต่แรก ประกอบกับเหตุการณ์และสถานที่ ที่พวกเราไปพบเธอ ถ้าเป็นเด็กปกติทั่วไป ป่านนี้คงจะบอกชื่อที่อยู่ เพื่อให้พวกเราติดต่อผู้ปกครองของเธอไปแล้ว ถ้าได้เกี่ยวข้องกับคนน่าสงสัยแบบนี้ พวกเราต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายระดับที่ชวนปวดหัวแน่นอน เชื่อเราเถอะ”
พอสหายพูดแบบนี้แล้ว— มันก็น่าสงสัยจริง ๆ ด้วยแฮะ
พอหันไปมองเด็กสาว เธอก็อ้าปากค้าง ก่อนจะรีบหุบปากของตัวเองลง แถมยังแสดงสีหน้าที่เห็นได้ชัด ว่าคำพูดของเอโซนั้นถูกต้อง
” เป้าหมายของเราที่จะทำในทวีปเทวภูมิ จะทำให้พวกเราสามารถเข้าใกล้สิ่งที่พวกเราต้องการ ถ้าอยากให้แผนการมันพังตอนนี้ ก็ช่วยเด็กคนนี้ไปได้เลย ให้สิทธิพิเศษเธอได้เลือกเลย ว่าไง? ”
“ที่ว่าจะไปทวีปของมนุษย์สัตว์เพื่อทำอะไรสักอย่างกับองค์กรคาร์นิวอยอะไรนั้นนะเรอะ? ไอของแบบนั้นจะช่วยให้พวกเราเก็บวิญ—”
” เฮ้ยยยย!!! ”
สหายไก่เหลืองรีบวิ่งเข้ามาอุดปากของผมด้วยปีกแข็ง ๆ ของเธอ
ความรู้สึกในเวลานี้คือเหมือนว่ากำลังโดนผ้าขนหนูคุณภาพต่ำเอามาห่มลงบนร่างกายตัวเองเลย
” ทำอะไรของเธอกันเนี่ย!? ”
” เราต่างหากที่ต้องถาม คิดจะพูดเรื่องนั้นออกมาที่นี่ทำไมกันยะ! ”
” อ๊ะ!? ”
ผมหันไปมองเด็กสาวที่กำลังยืนรอคำตอบจากพวกเราอยู่ข้าง ๆ
ดวงตาของเธอนั้นกำลังส่อแววสงสัยใคร่รู้อย่างเห็นได้ชัด
“เออ… พวกพี่ ๆ มีธุระกับกลุ่มชมรมสัตว์กินเนื้อ [คาร์นิวอย] หรือคะ? ”
ปิดไม่ทันแล้ว!
แต่อย่างน้อยยังดี ที่เธอไม่ได้ยินคำพูดสุดท้ายที่เกี่ยวกับการ [เก็บวิญญาณ] ของพวกเรา
“คือว่าเรื่องนั้น…”
“ถ้ามีธุระกับคนในองค์กรนี้ ให้ฉันช่วยได้นะคะ เพราะว่าฉันรู้จักกับคนข้างในองค์กรด้วยละ! ”
” งั้นยินดีรับข้อเสนอ ลาพิส แมรี่โกลด์ พวกเรามาช่วยเจ้าหนูคนนี้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วยกันเถอะ”
“จะเปลี่ยนท่าทีไวไปไหมนั้น! ”
***ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ทวีปสนามแม่เหล็กภาคตะวันออก***
ทวีปสนามแม่เหล็ก
มันคือมหาทวีปที่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนทวีป
ภาคตะวันออก
ภาคตะวันตก
และภาคใต้
หนึ่งในสองทวีปนั้นได้ถูกครอบครองโดยเผ่ามนุษย์สัตว์
แต่ทว่ามีเพียงแค่ส่วนภาคตะวันออกเท่านั้น ที่พวกเขาไม่อาจครอบครองมีชัยเหนือธรรมชาติอันโหดร้ายได้
ที่ทวีปภาคตะวันออกแห่งนี้ จึงกลายเป็นเขตไร้ประเทศหรือเผ่าพันธุ์ใด ๆ เข้าครอบครอง และยังไร้ซึ่งกฏหมาย
มีเพียงแค่กฏหมายสากลที่ทุกคน ทุกเผ่ายอมรับให้นำมาใช้กับดินแดนแห่งนี้เท่านั้น
ด้วยเหตุผลข้างต้น ประกอบกับการที่มันเป็นทวีปซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชิดกับดินแดนของเผ่ามนุษย์สัตว์ กับเผ่ามนุษย์มด มันจึงกลายเป็นพื้นที่แก่งแย่งของสองเผ่านี้เป็นหลักไป
เพื่อไม่ให้เกิดสงครามรุนแรง เมือง [บูเล็ตฟรีโซน (bullet-free zone) ] จึงถือกำเนิดขึ้น พร้อมกับขี้เส้นกฏเกณฑ์ของการแข่งขันบุกเบิกทวีปเอาไว้อย่างชัดเจน
“หากว่าใครสามารถหาทางเอาชนะธรรมชาติในสถานที่อันโหดร้ายนี้ได้ก่อน เขาผู้นั้นจักเป็นผู้ครอบครองทวีปภาคตะวันออกนี้”
นั่นคือกฏเหล็กที่ถูกตั้งเอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามที่ไม่จำเป็น
นี่ก็นานมากกว่า 100 ปี แห่งการบุกเบิก ที่นังไม่ได้ตัวผู้ชนะ
ซ้ำร้าย ด้วยความที่มันไร้กฏเกณฑ์ กับระเบียบที่แน่ชัด มันจึงกลายเป็นแหล่งทำธุรกิจสีเทาที่ใหญ่ที่สุดในโลกดไปโดยปริยาย…
” ผ่าน”
” นี่ก็ผ่าน”
” ผ่านไปได้เลย”
เหล่านักท่องเที่ยวที่บังเอิญได้รับอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ตกเมื่อยามรุ่งอรุณ ต่างกำลังต่อแถวยาวเพื่อเพื่อเปลี่ยนเครื่องไปสู่ทวีปเทวภูมิ ตามกำหนดการดั้งเดิมของพวกเขา
แต่ด้วยความที่เป็นทวีปนอกกฎหมายที่ไม่มีใครอยากจะมา จึงทำให้เครื่องบินเที่ยวหน้านั้นจะมีขึ้นเร็วสุดภายใน 7 วันข้างหน้า
ส่วนสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว จะถูกส่งตามมาทีหลังจากการเก็บกู้ยานที่ตกลงใจกลางป่า
ด้วยภาระหน้าที่ของผู้ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ผู้มักมากในการหาช่องทางร่ำรวยจากเงินใต้โต๊ะ จึงได้ถูกเรียกมารวมตัวเป็นกรณีฉุกเฉิน
ที่เมืองนอกกฎหมายแห่งนี้ ในเวลาปกติมันไม่ค่อยจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนกันนักหรอก…
ด้วยเหตุนี้ คนที่ถูกเรียกตัวมา จึงไม่ค่อยจะใส่ใจกับการตรวจตราที่ไม่ได้เงินพิเศษสักแดง
เพราะผู้มาเยือนกลุ่มนี้เป็นคนที่อยู่ด้านสว่าง การจะไปทำเรื่องงามหน้าใส่ อาจจะทำให้เมืองแห่งนี้ถึงกับการล่มสลาย
ถึงจะเป็นเมืองที่ไร้ผู้คุมกฏ ไร้ประเทศปกครอง แต่มันก็ยังมีแนวเส้นสุดท้ายถูกนานาชาติขีดค่าไม่ให้ใครยอมล้ำเส้นเอาไว้อยู่
ที่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างว่องไวและขยันขันแข็งนั้น แท้ที่จริงคือความสะเพร่าอย่างสุดหาสิ่งใดจะมาเปรียบเทียบได้
พวกเขาก็แค่อยากรีบจบงานสร้างภาพลักษณ์ แล้วรีบกลับไปแกล้งผู้ทำธุกิจสีเทา เพื่อคอยรับเงินใต้โต๊ะที่ทำกำไรได้มหาศาลเร็ว ๆ มากกว่า
“คนต่อไป”
“ผ่าน”
“คนต่อไป”
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เผ่ามนุษย์มดคนหนึ่ง กำลังปล่อยให้เผ่ามนุษย์นกผมสีเหลือง กับมนุษย์สัตว์หนู ผมสีฟ้าจากแถวของตนเดินผ่าน โดยไม่แม้แต่ชายตามองดูเอกสาร—
“ผ่า— … ฮืม? ”
— เขาก็ถึงกับต้องหยุดชะงักตัวเอง แล้วลุกขึ้นยืนหันไปมองผู้โดยสารตรงหน้าเป็นครั้งแรกของวัน
เธอคือสตรีที่ถูกระบุว่าเป็นเผ่าภูติ
มีผมสีแดงกับปีกสีแดงที่เด่นชัดตา
มีแววตาเหมือนคนที่กำลังล่องลอย
เป็นไอโง่ที่ดูคล้ายว่าในสมองมีแต่อากาศอันว่างเปล่า
ใช่… มันก็แค่เผ่าภูติหน้าโง่คนหนึ่งเท่านั้น
แต่เป็นเผ่าภูติที่มีความสูงตั้งสองเมตรครึ่งเลยเชียวนะ!!
“สวัสดี—”
“ผะ— ผมไม่น่าสงสัยเลยสักนิด!! ”
น่าสงสัยเกิ้น…
ถึงจะไม่เต็มใจทำงานแค่ไหน แต่สภาพแบบนี้คงจะให้ปล่อยผ่านไปง่าย ๆ ไม่ได้
เขากำลังคิดเช่นนั้น
“ขอรบกวนตรวจสอบเอกสารนะครับ”
เจ้าหน้าที่มนุษย์มดผิวสีดำเอยด้วยเสียงโทนเดียว แล้วเปิดเครื่องแสกนเอกสาร
ข้อมูลจำนวนมากถูกถ่ายถักด้วยเส้นแสงขึ้นเหนืออากาศหลังผนังกำบังตา
[แมรี่โกลด์ ซินเนียร์]
สูง 100 ซม.
อายุ 20 ปี
เพศสภาพ หญิง
เผ่า มนุษย์ภูติ
ถิ่นเกิด ทวีปคริสตัล เมืองคริสตัล
ศาสนา เทพทั้งสาม
ประเทศ คริสตัล
“ความสูง 100 เซนติเมตร…”
ชายเผ่ามนุษย์มดเริ่มขยี้ตาตัวเอง แล้วก้มหน้า เงยหน้าสลับมองคนที่ยืน
“เออ… คุณ แมรี่โกลด์ ครับ ไม่ทราบว่าคุณ—”
“ใต้เสื้อกันหนาวตัวนี้ไม่มีคนซ่อนอยู่หรอกนะ! ผมก็แค่โตขึ้นพรวดพราดเท่านั้นเอง!! ”
“…”
“…”
มีอะไรอยู่ใต้ข้างใต้เสื้อกันหนาวสินะ…
ท่าทางเลิกลั่น เหงื่อกาฬไหลเป็นสาย
ไม่ว่าจะดูยังไงมันก็น่าสงสัย
” เดียวขอตรวจข้างใต้เสื้อ—”
” นี่ คุณเจ้าหน้าที่ค่ะ”
ก่อนที่ชายคนนั้นจะได้ทันกดปุ่มเปิดเครื่องสแกนร่างกาย ก็ได้มีเสียงเล็กแสนหวานดังแทรกขึ้นมา
สตรีที่เป็นเผ่ามนุษย์นกคนเมื่อกี้ กำลังเดินกลับมายืนอยู่ที่ข้างซุ้มทำงานของเขา
“พอดีว่ามือถือของฉันมีปัญหา ยังไงรบกวนช่วยตรวจดูให้ทีสิคะ? ”
เธอถือวิสาสะยื่นมือถือเข้ามาภายในซุ้ม
” ฮืม? ”
ชายคนนั้นถึงกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างตื่นตกใจ
มือถือที่เธอยื่นเข้าไป มันมีข้อความการส่งมอบโอนเงินก้อนเป็นจำนวนมากถึงหกหลัก โดยเว้นช่องที่หมายบัญชีเอาไว้ให้เขาได้กรอกลงไปเอง
” นี่คือ… ”
เขารู้ได้ในทันทีว่าเป็นการยัดใต้โต๊ะ เพื่อยอมให้สตรีภูติแปลกหน้าผ่านเข้าไปในเมือง
ชายคนนั้นแอบหวั่นวิตกว่าจะถูกกล้องจับมองเห็น แต่พอดูให้ดี เขากลับพบว่าอีกฝ่ายจงใจใช้ตัวเองยืนบังมุมของกล้องเอาไว้
ไม่เพียงแค่หลบมุมกล้องของสถานที่ แม้แต่มุมกล้องภายในซุ้มเองก็ยังถือหลบได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ชื่อบัญชีเองก็ดูถูกตั้งให้ประหลาดอย่างจงใจ เพื่อปกปิดที่มากับตัวตนจริง
“ฮะ ฮะ ฮะ คุณลืมกดอัพเดตเครื่องนะครับ”
เขาหัวเราะอย่างดีใจที่ได้เงินก้อนอย่างไม่คาดคิด
“ผ่าน”
เจ้าหน้าที่มนุษย์มดประทับตราให้ผ่านเข้าเมืองอย่างไร้ข้อกังขาใด ๆ อีก
ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้เงินก้อนในงานที่ไม่คาดหวังแบบนี้—
***หลังจากนั้นราว 10 นาที***
“คนถัดไป”
ชายเผ่ามนุษมดกำลังยิ้มกริ่มเป็นรอบที่สอง
เพราะคราวนี้เขาเห็นคนประหลาดที่สวมผ้าคลุมสีขาวทั้งตัวปกปิดหน้าตาตัวเอง กำลังตรงเข้ามาที่ซุ้มของเขา
ภายในหัวของเขากำลังเริ่มคาดหวังเงินสกปรก ที่จะใช้เรียกไถผู้โดยสารลึกลับรายนี้—
“ครับ”
แต่ทว่าความสุขของเขากลับถูกรบกวนโดยพวกไร้มารยาท
เพราะดันมีคนเผ่ายักษ์ที่อยู่หลังคนสวมผ้าคลุม กำลังทำท่าจะเดินแซงคิวขึ้นมาแทรก
“เดียวก่อนสิคุณ ทีละคนสิครับ!? ”
พวกยักษ์นี่มันแหล่งรวมของคนป่าเถือนอย่างที่เขาว่ากันจริง
เขาคิดเช่นนั้น
“หืม? แต่นี่มันว่างอยู่นะครับ!? ”
แต่ทว่าชายเผ่ายักษ์กลับดื้อด้านเถียงเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่มนุษย์มดเริ่มมีใบหน้าบูดเบี้ยวอย่างฉุนโกรธ
นี่เอ็งตาบอดหรือยังไงวะ?
เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับแยกเขี้ยวที่ยาวถึงหนึ่งเมตรออกมา เพื่อข่มขู่ชายเผ่ายักษ์
“เหวอ!? นี่จะขู่กันเรอะ! ผมว่าจะพูดดี ๆ แล้วนะ! ไหนละคิวก่อนผม!?! ”
“แล้วเอ็งไม่เห็นคนที่สวมผ้าคลุมตรงนี้ยังไง!? ”
“ไหนวะคนสวมผ้าคลุม! ”
“ก็ตรงนี้ไง! ”
เจ้าหน้าที่เผ่ามนุษย์มดยื่นแขนชี้ตรงไปที่ชายสวมผ้าคลุมตรงหน้า
ในตอนนั้นเอง—
*เจ้า… เห็นเรา…? *
ที่ชายเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงแหบแห้งดังออกมาจากใต้ผ้าคลุมนั้น
” หืม? ”
มันเกิดขึ้นเร็วมาก
ชายสวมผ้าคลุมนั้น [บิน] เข้าประชิดร่างกายของเจ้าหน้าที่เผ่ามนุษย์มด
เจ้าสิ่งลึกลับนั้นถกผ้าคลุมหัวออกด้วยมือที่ไม่มีอยู่
เผยใบหน้าที่ไร้เส้นผม
ดวงตาลึกกลวงขาดเลือดจนเห็นเป็นก้อนเนื้อโปรงแสงไร้สี
จมูกบุบบี้แบน
ปากถูกฉีกขาด ผิวเต็มไปด้วยรอยแผลไหม้ไฟ
*ถึงญาณรับรู้จะไม่เท่า—ผู้หญิงภูติผมแดง— แต่ขอให้พวกเราได้ยื้มร่างกายเถิด—*
*ยื้มร่างกาย— เพื่อแก้แค้น—*
*แก้แค้น— คาร์นิวอย—*
หลังสิ้นเสียงที่แหบแห้ง เจ้าหน้าผู้นั้นก็เริ่มกรีดร้องราวกับเป็นคนบ้า ก่อนจะสลบหลับไหลไป
ที่น่าแปลก คือไม่มีใครในสถานที่แห่งนั้นพบเห็นชายสวมผ้าคลุมสีขาวเลยแม้แต่คนเดียว
MANGA DISCUSSION