เรา เทพไร้แขนกำลังเดินจิบชาแก่สุดขมที่ซื้อมาจากร้านข้างทาง โดยมีสหายหัวฟ้าเดินอยู่ข้างตัวอย่างสงบเรียบร้อย
ตอนนี้ พระจันทร์สีแดงทั้งสามดวงกำลังเริ่มที่จะใกล้เรียงตัวเป็นแนวเดียวกันแล้ว
ทั้งที่ใกล้จะถึงเวลาในคำทำนาย แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดอะไรวุ่นวายขึ้นมา
ทุกอย่างล้วนช่างสงบสุข ควรค่าแก่การพักผ่อนหย่อนกาย แล้วหลับตาสักสองสามงีบ—
“จับ~ ตัว~ได้~ แล้ว~”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! ”
—เสียงคุ้นหูอยู่แฮะ…
“หุ หุ หุ ซูด~ เด็กตัวน้อยน่าร้าก~ ไม่ต้องกลัวไปหรอกน้า~ ผมแค่จะขอ กอด- รัด- ฟัด- ร่างกายนุ่ม ๆ ที่น่ารักให้หนำใจอย่างเอ็นดูเท่านั้นเอง ไม่ทำอะไรที่เป็นการล่วงละเมิดทางเพศหรอกน้า~”
“ฟังยังไงก็ล่วงละเมิดทางเพศชัด ๆ เลยค่ะ!! ”
เราเห็นเด็กสาวผิวเผือกกำลังตะโกนใส่ยัยหื่นทั้งน้ำตา
ในเวลาเดียวกัน พระจันทร์สีแดงก็เรี่ยงตัวตรงเป็นแนวเดียวกับยานลำนี้พอดี
อืม… เกิดเรื่องอาเพศขึ้นให้แล้ว
ยัยนั่นทำนายถูกจริง ๆ ด้วยแฮะ
[เข้าไปหยุดเธอก่อนดีไหม?
©_©]
“ก็ดี ไปหยุดยัยนั่นก่อนจะวุ่นไปมากกว่านี้ดีกว่า”
พวกเรารีบกระโดดข้ามหัวฝูงชน มุ่งตรงไปที่ยัยหื่นหัวแดง
กระโดดไต่ผนังลิฟท์แก้วขึ้น เพื่อปีนขึ้นยืนไปบนตัวลิฟท์ที่ถูกทำให้หยุดค้างใจกลางชั้นสาม
“หยุดแค่นั้นแหละแมรี่โกลว์”
“แฮก แฮก แฮก~… อ๊ะ! ต่อให้เป็นเอโซหรือลาพิสมาหยุด ก็ไม่มีทางหยุดผมจากความกระหื่นกระหายที่ต้องการเสพติดโลลิน่ารัก ๆ หนึ่งโดสได้หรอกนะ!! ”
“ช่วยไม่ได้วุ้ย ลาพิส จัดการ!! ”
[รับทราบค่ะ >~<\]
สหายหัวฟ้ากระโดดข้ามชั้นไปที่ร้านขายตุ๊กตาตรงชั้นสี่
เธอคว้าเอาตุ๊กตารูปแมวตัวหนึ่งออกมาจากชั้นวาง ก่อนจะรีบวางเงินทิ้งเอาไว้บนเคาน์เตอร์ แล้วใช้วิชาเคลื่อนไหวฉับพลันกลับมาที่ลิฟท์ตัวนี้
” แมรี่โกลว์ ลาพิสกำลังขโมยตุ๊กตาน้องแมวของเธออยู่นะ! ”
“ว่ายังไงนะ!! ”
สายตาของเทพไร้แขนถูกเปลี่ยนเป้าหมายจากเด็กสาวคนแคระไปที่เทพไร้หน้าแทน
” นะ— น้องแมวของผม!?! ”
น้ำเสียงของเธอแตกพร่ามัวราวกับเป็นมารดาที่ถูกลักพาตัวลูกน้อยไปต่อหน้า
เธอรีบกางปีกภูติสีแดงออก แล้วบินตามเทพไร้หน้าไปแทบจะในทันที
ใช้ตายเถอะ
มันจะถูกหลอกง่ายไปหรือเปล่านี่?
ลืมไปแล้วหรือยังไง ว่าของทุกอย่างมันถูกโหลดใส่ใต้เครื่องไปแล้ว?
นั่นนะ มันไม่ใช่ตุ๊กตาของเธอเสียหน่อย
***10 นาทีต่อมา***
“ต้องขอโทษแทนเพื่อนบ้าตัวนี้ด้วยค่ะ”
[ขอโทษด้วยค่า– (>_<) ]
“เธอเองก็ขอโทษด้วยซะ แมรี่โกลว์”
“… ขอโทษค่ะ”
พวกเราสามคนกำลังก้มหัวขอโทษอยู่ที่หน้าห้องของหน่วย รปภ. ของยาน
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พวกภูติมันก็มีนิสัยซุกซนเป็นธรรมชาติอยู่แล้วละนะ ฮะ ฮะ ฮะ”
ชายเผ่ามนุษย์หัวล้านที่เป็นหัวหน้า รปภ. หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะยอมปล่อยพวกเราออกไปโดยไม่ว่าความอะไรอีก
เป็นโชคดีของพวกเราที่หมอนี่เข้าใจอะไรง่ายไม่มากเรื่อง
ดีนะที่ไม่ถูกเรียกเก็บค่าเสียหาย
ไม่อย่างงั้น คงต้องบากหน้ากลับไปขอเงินคืนจากแม่ชีเทเรซ่าแน่…
” ว่าแต่ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะ ว่าคนอย่างเทพไร้แขน—”
“พวกเรายังอยู่ต่อหน้าฝูงชนนะ…”
“—คนอย่างเอโซจะยอมก้มหัวให้คนอื่นแบบนี้”
“ใช่ว่าเราอยากก้มหัวให้เสียหน่อย แต่อีกฝ่ายไม่ใช่คนรู้จักเหมือนอย่างเจ้าสี่ตา หรือแม่ชีเทเรซ่า ที่จะยอมให้เราถล่มข้าวของเหมือนที่พวกเราชอบถล่มวิหารเล่นได้ ถ้าต่อต้านสังคมมาก ๆ เดียวก็อยู่ไม่ได้กันพอดีหรอก”
” เอโซมีสามัญสำนึกกับเขาด้วย!?! จะให้เรียกรถพยาบาลไหม!!! ”
” ไม่ต้อง!! ”
โอ๊ย… ปวดหัวกับยัยนี่จริง…
” หึ ว่าแต่เธอนะแหละเป็นบ้าอะไร? แค่ไม่เชื่อเรื่องที่เธอทำนาย ต้องถึงกับงอนจนไปก่อเรื่องขนานนั้นเลยเรอะ? ”
” คำทำนาย? ”
” นี่ลืมไปแล้วเรอะ!! ที่เธอบอกเรื่องพระจันทร์เรียงตัวอะไรนั่นไง!! ”
” อ๊ะ? จริงด้วยสิ!!! ”
ฉันละเชื่อยัยนี่จริง ๆ ให้ดิ้นตายเถอะ
[ซึ่งตอนนี้พวกเราก็ผ่านจุดที่พระจันทร์เรียงตัวมานานแล้วนะคะ]
“…”
“…”
เกิดความเงียบชวนอึดอัดขึ้นต่อหน้าป้ายคำบอกเล่าของเทพไร้หน้า
เราเลยหันไปจ้องหน้าเจ้าเทพไร้ขาด้วยสายตาที่เย็นชาเพื่อรอคำตอบจากปากมัน
ตอนนี้สภาพของเจ้าหัวแดงคือมีเหงื่อกาฬไหลท่วมกายเลยละ
“เออ… มะ— มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้สิ… การทำนายของผม… เออ… นั่นไง! มันคือความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไงละ ที่เป็นเหตุอาเพศ! ผมไม่ได้ทำนายผิดสักหน่อยจริงไหม? วะ ฮะ ฮะ…. ”
ทำเป็นพูดกลบเกลือนเชียวนะเจ้านี่
“ฮะ ฮะ ฮะ… พะ— พวกเราไปชมวิวพร้อมจิบกาแฟกันต่อเถอะ!! อีกไม่นานน่าจะถึงที่หมายแล้วไม่ใช่หรือ? จริงปะ! ”
ว่าแล้วยัยหัวแดงก็รีบบินไปจองมุมสวย เพื่อเตรียมนั่งชมวิวบนริมทางเดินในทันที
ให้ตายเถอะยัยนี่…
เราหันหน้าออกไปมองวิวอวกาศด้วยจิตใจที่เหนื่อยหน่าย
พระจันทร์ทั้งสามดวงที่เรียงตัวกันนี่สวยดีแท้
ทวีปเทวภูมิบนผิวโลกที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านใต้ยานไป มันก็ช่างสวยงามไม่แพ้กัน
สมกับเป็นดาวที่พวกเราสามคนช่วยกันหา แล้วสร้างให้มีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ
“…”
เดียวก่อน
ทำไมยานลำนี้ถึงเคลื่อนตัวผ่านทวีปที่เป็นที่หมายลงจอดไปกันได้ละเฮ้ย?
***ในเวลาเดียวกัน***
ผู้หญิงคนนั้นน่ากลัวเป็นบ้าเลยค่ะ…
โชคดีที่ดูเหมือนว่าเพื่อน ๆ ของเธอจะมาช่วยหยุดเอาไว้ก่อน เลยทำให้หนูรอดจากการถูกทำให้แปดเปื้อนมาได้
“… ~บรื๊อ~! ”
ขนาดเพียงแค่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังทำให้กลัวตัวสั่นไม่หายเลย
รีบ ๆ กลับไปประจำตำแหน่งเดิมตามคำสั่งดีกว่า—
พอคิดได้ดังนี้ ฉันเลยรีบปลีกตัวออกจากฝูงชน แล้วมุ่งหน้าลงไปที่ชั้นใต้ดินของยาน
ผ่านส่วนที่เสียงดังคับคั่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้คนคอยสูดแย่งอากาศอย่างน่าอึดอัด
ผ่านระบบประตูบานสีขาวเก่า ๆ โทรม ๆ บานใหญ่ที่ถูกแฮ๊กจนพรุน เพื่อเข้าสู่เขตหวงห้าม
เดินไปตามเส้นทางที่มืดสลั่วที่มีเพียงแค่แสงไฟสีแดงส่องสว่าง จนกระทั้งมาหยุดลงตรงหน้าห้องเครื่อง
“เหม็น? ”
ดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นศพเหม็นเน่าลอยออกมาจากห้อง…
แย่ละสิ
ถ้ากลิ่นโชยออกมาแบบนี้ เวลามีใครเดินผ่าน คงได้เกิดความสงสัยขึ้นมาแน่นอน
มาคิดดูอีกที ทำไมพวกเขาถึงไม่คิดจัดการกับศพพวกนี้กันเลยนะ?
ขนาดเด็กอย่างฉันยังคิดได้เลย ว่าถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ มันจะมีปัญหาเอาได้
อีกอย่าง ถึงจะเป็นศพคนชั่ว แต่พวกเราก็ควรที่จะจัดการเก็บศพ เพื่อเป็นการให้ความเคารพกับผู้ตายหรือเปล่า?
หรือว่าธรรมเนียมของคนดาวดวงนี้จะไม่มีเรื่องแบบนั้น?
“เข้าไปจัดการศพดีกว่า”
ว่าแล้วฉันก็เปิดประตูเข้าไปข้างในห้อง พร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดที่หยิบมาจากห้องน้ำใกล้ ๆ
สิ่งแรกที่ได้สัมผัสทันทีที่เปิดประตู คือกลิ่นเหม็นเน่ากับลมแอร์ที่เปิดให้เย็น จนสภาพของห้องนี้แทบจะกลายเป็นเขตขั้วโลกเหนือ
หนาว!
อุณหภูมิห้องเท่าไหรกัน— 5 องศาเซลเซียส!?!
แต่ระบบแอร์มันตั้งเอาไว้อยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส เองไม่ใช่เรอะ?
แล้วทำไมมันถึงหนาวขนาดนี้กันเนี่ย!?
ตัวระบบเกิดความเสียหายหรือยังไงกัน?
และถ้ามันหนาวขนาดนี้ ทำไมศพถึงเน่าเร็วขนาดนี้กันเนี่ย?
ฉันคิดอย่างหัวเสีย หลังจากที่ได้เห็นตัวเลขจากแฝงวงจรที่ติดตรงข้างประตูฝั่งข้างใน
ในเวลาเดียวกัน ฉันก็เริ่มจัดแจงขนศพพวกคนชั่วทั้งหมดห้าชีวิตที่ถูกทิ้งเอาไว้ มาวางกองรวมเข้าด้วยกันที่บริเวณหน้าประตู
นะ– หนักงะ!
แถมสภาพศพยังน่าขยะแขยงอีกด้วย!
นี่ยังดีนะ ที่เคยผ่านการฝึกวิธีจัดการเก็บศพมาจากผู้มีพระคุณ เลยทำให้ฉันพอที่จะรับสภาพกับศพอันน่าขยะแขยงของพวกเขาได้ โดยไม่อ้วกหรือสลบไปเสียก่อน
งานต่อไปคือการทำความสะอาดพื้น การขจัดกลิ่น และการทำลายร่องรอยต่าง ๆ
ส่วนศพนั้น สามารถใช้ม่านชนิดพิเศษขององค์กรมากรองควัน กลิ่น และป้องกันความร้อน มากางคลุมเพื่อจุดไฟเผาพวกเขาได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเครื่องหรืออุปกรณ์ใด ๆ มาตรวจจับความผิดปกติที่เกิดขึ้นในห้องนี้
ฉันจัดการกางม่านตาข่ายชนิดพิเศษมาคลุมศพ แล้วเริ่มจุดไฟเผาพวกเขา
แต่เนื่องจากม่านมันมีขนาดพอที่จะจุได้ทีละคน เลยทำให้เสียเวลาทำลายศพไปพอสมควรเลยละ
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่พวกฉันต้องเอาชีวิตของพวกคุณ แต่ผู้มีพระคุณบอกว่ามันเป็นการเสียสละที่จำเป็น เพราะฉะนั้น อย่ามาเคียดแค้นต่อกันเลยนะคะ…”
ฉันเริ่มอวยพรส่งพวกเขาด้วยความรู้สึกเวทนา ที่พวกเขายอมเดินในเส้นทางของคนชั่ว จนต้องมาจบชีวิตแบบนี้—
*ก๊อง*
“ใครนะ! ”
ฉันรีบหันหน้าไปทางต้นเสียง
มันเป็นเสียงที่คล้ายกับมวลอากาศกำลังถูกอัดกระแทกอยู่ในท่อลมอย่างรุนแรง
ใช่ ท่อลม—
*ก๊อง**ก๊อง**ก๊อง*
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่อยู่ ๆ ท่อลมจำนวนมากที่กระจายตัวอยู่ในห้องเครื่องนี้ พวกมันกำลังเริ่มส่งเสียงดังสะท้อนไปมากันเองอย่างต่อเนื่อง
แถมมันยังสั่นอย่างรุนแรงอีกด้วย
ไม่เพียงแค่เสียงลมตีที่ผิดปกติ
แม้แต่อากาศภายในห้อง มันยังรู้สึกหนาวยะเยือกมากขึ้น ทั้งที่ตัวแสดงเลขอุณหภูมิยังแสดงอยู่ที่ 5 องศาเซลเซียส เท่าเดิม
กะ— เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?
คะ— คงไม่ใช่ผะ– ผะ— ผะ— [ผี] หลอกใช่ไหม?
ยะ— ยุคนี้แล้ว— ผะ— ผีนะ— มะ—- ไม่มีอยู่จริงหรอก—
*ก๊อง*!!!
“เหวอ! ”
ฉันตกใจจนกระโดดตัวลอย
อยู่ ๆ ก็เกิดเสียงลมกระแทกอย่างรุนแรงจากท่อที่อยู่ข้างหลัง
แต่พอปิดตาเงียหูฟัง มันก็ไม่มีเสียงดังอะไรอีกแล้ว
แต่ความเย็นเอง ก็เริ่มรู้สึกว่ากำลังกลับมาเข้าสู่สภาวะปกติอย่างที่มันควรจะเป็น
คงเป็นปัญหาที่ระบบทำความเย็นรวนมากกว่า
ใช่ ใช่! มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ!!
ฉันนะไม่เชื่อเรื่องผีสางหรอก
แต่เอาเป็นว่าฉันจะไม่ขออยู่ที่ห้องนี้นานมากไปกว่านี้—
“ถึงหมายเลข 0”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! ”
“จะตะโกนทำบ้าอะไรของเธอกันหมายเลข 0! เดียวก็เอาไปฟ้องท่านผู้นั้นเสียเลยหรอก”
“ค่ะ… คุณหัวหน้ากลุ่ม!?! ขะ– ขอโทษด้วยค่ะ! อย่าเอาเรื่องนี้ไปฟ้องท่านเลยนะคะ! ”
ก็เล่นติดต่อเข้ามาแบบไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนก่อน แล้วจะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไงกัน
ที่สำคัญ อย่าเอาไปบอกท่าน ซิงเคไนต์ เลยได้โปรดเถอะ
ฉันยังไม่อยากถูกเขาคนนั้นเกลียด!
“เอาเถอะ เห็นแก่ความดีที่เธอช่วยดึงความสนใจของพวก รปภ. เอาไว้ จะทำเป็นมองข้ามให้ก็ได้ แต่วันหลังช่วยกรุณาอย่าทำอะไรที่มันนอกเหนือไปจากที่สั่งเอาไว้จะได้ไหม? ”
“ดึงความสนใจ? ”
“ก็ที่เธอวุ่นวายกับภูติที่มีผมสีแดงเมื่อกี้ไง? เพราะได้เธอช่วยดึงความสนใจพวก รปภ. ยานอย่างไม่คาดฝัน เลยทำให้ทางเราสามารถลอบโจมตีห้องนักบินได้สะดวกขึ้น ตอนนี้ยานทั้งลำตกอยู่ใต้การควบคุมของพวกเราไปแล้วละ”
มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือเนี่ย…
แบบนี้ต้องฉวยโอกาส!
“ปะ— เป็นไงละคะ! เห็นฝีมือของฉันหรือยังล่า~ ว่าแต่แผนการต่อจากนี้คืออะไรคะ? ”
“ใครมันจะบอกเนื้อหาทั้งหมดให้เด็กอย่างเธอรู้กัน เธอนะไม่จำเป็นต้องเฝ้าห้องเครื่องตรงนั้นแล้วละ รีบมารวมตัวกับพวกเราที่ห้องนักบินข้างบนได้แล้ว”
เพราะว่าฉันยังเด็ก พวกเขาเลยไม่ยอมพูดถึงรายละเอียดของแผนการให้ฉันรู้
กว่าที่พวกเขาจะไว้ใจยอมบอกรายละเอียดของแผนการทั้งหมดให้ฉันรู้ มันยังคงอีกยาวไกลนั่นละนะ~
“ค่า~”
ฉันตอบรับหัวหน้าด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมสุข ก่อนจะเริ่มเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดคืนในที่ ๆ ของมัน แล้วลาจากพื้นที่ชั้นล่างนี้ขึ้นไปข้างบน
ในตอนนั้น ฉันไม่ได้สังเกตุหรือฟังเสียงเลยแม้แต่น้อย
ว่าตรงท่อส่งอากาศของยานที่ติดตั้งไปตามฝ้าเพดานนั้น ยังคงมีเสียงลมตีเบา ๆ ไล่ตามติดเส้นทางที่ฉันเดินผ่าน…
MANGA DISCUSSION