[เด็กภูติหลงทางหัวแดง ตอนนี้กำลังหนีไปที่เขตย่านการค้าชั้น 1F ขอให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ไปดักรอได้เลย~ ออน~]
“มันอยู่ตรงนั้นไง!
“แวกกก!! อย่าใช้วิธีขี้โกงอย่างการนั่งสบายใจเฉิบในห้อง แล้วบอกตำแหน่งจากกล้องวงจรปิดแบบนี้เซ่! ไอภูติหัวขาวขี้โกงงงงง!! ”
[ไม่ได้โกงซักหน่อย~ ออน~ ว่าแต่เป็นภูติที่พูดจาไม่มีหางเสียงเลยนะ ออน~ ไร้มารยาท ออน~]
ผมกำลังบินประท้วงใส่กล้องวงจรปิดที่อยู่บนเพดาน
เจ้าวัตถุทรงกลมพวกนั้น มันกำลังหมุนเลนต์ไล่ตามติดตัวผมมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่ส่วนชั้นบนของยานแล้ว
ทำตัวเหมือนเป็นสตอล์กเกอร์ที่น่ารังเกียจเลยละ
“ยอมให้จับเสียดี ๆ เถอะเจ้าภูติน้อยจอมซน~”
“มามะ มากับพวกพี่ ๆ แล้วเดียวจะมีขนมให้ด้วยนะ~”
พวกเจ้าหน้าที่ ที่วิ่งไล่ตามมา ต่างดัดเสียงสูงพร้อมกับยื่นลูกกวาดชูหราออกมาให้เห็นชัด ๆ
ยุคสมัยนี้แล้วยังจะคิดใช้ขนมหลอกเด็กล่อกันอยู่อีกอย่างงั้นหรือ?
“ให้ตายเถอะ ผมไม่ใช่เด็กหลงทางสักหน่อย! ”
“เด็กหลงทางทุกคนก็ชอบพูดแบบนี้กันทั้งนั้น”
“ก็บอกว่าไม่ใช่เด็กยังไง! ”
ผมตะโกนอย่างโมโห แล้วใช้พลังภูติสร้างไอเย็นขึ้นมาในอากาศ เพื่อกลั่นไอน้ำในอากาศให้เป็นหยาดน้ำแข็งจับตัวเกาะเป็นผิวแผ่นบางบนพื้นกระเบื้องทางเดิน
“เหวอ!?! ”
“ระวังพื้นลื่น! ”
พวกยามเผ่ามนุษย์นกจำนวนสองคนต่างลื่นไถลพร้อมกัน
พวกเขาพยายามใช้กรงเล็บที่ธรรมชาติมอบให้ จิกมันลงไปบนพื้นกระเบื้องหินอันสวยงามอย่างสุดความสามารถ
แต่ดูเหมือนว่าพนักงานทำความสะอาดจะตั้งใจลงเงาจนเกิดจำเป็น เลยทำให้กรงเล็บของพวกเขาไม่อาจที่จะหยุดตัวเองได้อย่างที่ใจคิด
*โครม! *
เกิดเสียงแห่งความวินาศสันตะโรดังขึ้นมาจากทางร้านขายเสื้อผ้าที่ฝั่งซ้ายมือ
แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องไปใส่ใจเลย~
“เผ่นก่อนละนะ~”
ว่าแล้วก็ได้เวลาหายตัวไปในเงามืดก่อนละนะ!
ฟิ้ววว—–!
***10 นาที ต่อมา***
“ท่ามกลางความมืดมิด ย่อมมีแสงสว่าง”
ผมกำลังพูดอยู่ตัวคนเดียวในความมืด
“ทุกสถานการณ์ ย่อมมีทางออก”
ผมหันซ้ายขวาเพื่อมองหาแสง
ทว่าสิ่งที่เจอกลับมีแต่ทางเดินมืดสลัว ที่มีเพียงแต่แสงไฟสีแดงจางบางตา
“หากไม่ไร้ซึ่งความหวัง หนทางย่อมเปิดออกเป็นแน่แท้—”
ผมพูดกับตัวเองเช่นนั้น แล้วบินต่อไปอย่างช้า ๆ ในความมืด
***30 นาที ต่อมา***
“หากไม่ไร้ซึ่งความหวัง… หนทางย่อมเปิดออก—”
***50 นาที ต่อมา***
“หากไม่ไร้ซึ่งความหวัง…”
***อีก 1 ชั่วโมง ต่อ ต่อมา***
“ไม่มีความหวัง…—”
โอเค…
ตกลงตอนนี้ตรูอยู่ที่ส่วนไหนของยานกันแน่ฟะ?
เพราะเอาแต่บินหนีเพลิน พอรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่บนทางเดินที่ดูวังเวงนี้ไปเสียแล้ว
“เอาเถอะ เดียวก็เจอทางออกเองนั่นแหละ~”
คิดวางั้นนะ
ผมบินต่อไปเรื่อย ๆ อยางไร้ทิศทาง
ในตอนนั้นเองที่ผมเหลือบไปเห็นบางอย่าง
บนทางเดินที่มืดสลัวนี้ มีประตูห้องปรากฏอยู่บานหนึ่ง
ประตูบานนั้นถูกติดป้ายเอาไว้ว่า [ห้องเครื่อง]
แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแตะตามันไม่ใช่การมีอยู่ของประตูห้อง
แต่เป็น [วิญญาณ] จำนวนมากที่กำลังบินวนเวียนรวมตัวอยู่หน้าประตูมากกว่า
มีทั้งวิญญาณของเผ่ามนุษย์นก เผ่าภูติ และเผ่ามนุษย์ มารวมตัวกันอย่างวุ่นวายที่หน้าประตูห้อง
พวกมันบินทะลุผนังห้องเข้าไปข้างใน สลับกับบินเวียนออกมา
ทำอะไรของพวกมันเนี่ย?
เจ้าวิญญาณพวกนี้กำลังเล่นไล่จับกันอยู่หรือยังไง?
แล้วทำไมถึงมีวิญญาณหลงมาปรากฏตัวที่บนยานอวกาศแบบนี้กันได้?
ผมลองบินเข้าไปใกล้ พร้อมกับเตรียมที่จะใช้พลังวิญญาณ เพื่อจับพวกมันมากลืนกิน แล้วส่งมันไปที่โลกหน้า
แต่ทว่าในตอนที่กำลังจะใช้สองมือเตรียมชำระล้างพวกมันนั้น—
“ตรงนี้ ห้ามผ่านนะคะ คุณพี่สาวภูติ”
ก็มีเสียงเล็ก ๆ น่ารักคล้ายลูกแมวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาหยุดผมเอาไว้เสียก่อน
ท่ามกลางฝูงวิญญาณขาว มีเด็กผู้หญิงยืนอยู่คนหนึ่ง
เธอมีผมสีเงิน ดวงตาสีเงิน ตัวเล็กสูงไม่ถึงหนึ่งเมตร อีกทั้งยังมีร่างกายผอมบาง ผิวซีดเผือก
ชุดที่เธอสวมใส่นั้นมีสีดำ กลัดเข็มสีทองทรงสี่เหลี่ยมด้านเท่าติดเอาไว้อยู่บนปกเสื้อ
“นี่! ไม่ได้ยินที่พูดหรือยังไงค่ะ ว่าห้ามผ่านห้องนี้ค่ะ! ”
น้ำเสียงของเธอนั้น แทบจะทำให้ผมคนนี้รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงมาใจกลางหน้าอก
นะ– น่ารัก…!?!
เป็นเด็กที่โคตรน่ารัก!
“น่ารักสุด ๆ! นี่มันนางฟ้าชัด ๆ!! ”
“ฮืม!? แอะ!?! เดียวก่อนสิ!? ทำไมพี่สาวภูติถึงน้ำลายหกแบบนั้นกันเนี่ย!?! ไม่นะ! อย่าเข้ามาใกล้นะ!! ”
หน้าตาของเธอดูหวาดผวาเป็นอย่างมาก
ขนาดใบหน้าที่หวาดผวาก็ยังน่ารัก!
โอ๊ยยย!! จะทนไม่ไหวแล้วนะ!
กำลังหลงทาง?
ช่างหัวมันไปสิ!
ต้องรีบชำระวิญญาณตรงหน้า?
ก็ช่างหัวมันไปสิ!
ต้องรีบไปเตือนกัปตันเรื่องคำทำนาย?
นี่ก็ช่างหัวมันเช่นกัน!
ผมนะเป็นพวกที่ชอบสิ่งมีชีวิตน่ารัก ๆ มากเลยละรู้หรือเปล่า?
แล้วตอนนี้ ที่ตรงหน้าก็มีสิ่งมีชีวิตตัวน้อยสุดน่ารักยืนอยู่คนหนึ่ง แล้วจะไม่ให้ผมเข้าไป กอด-ฟัด-รัด เหวี่ยงได้ยังไงกัน!
แบบนี้มันต้อง—
“ขอทานละนะคะ!!! ”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!?! ”
***
สวัสดีค่ะ
ฉันคือเด็กสาวเผ่าคนแคระที่ยังไม่มีชื่อค่ะ
ปกติมักจะถูกคนในองค์กรเรียกว่า [หมายเลข 0]
“อย่าลืมนะ พวกเราจะเริ่มปฏิบัติการตอนที่พระจันทร์สามดวงเรียงซ้อนทับ หรือในอีกราวสามชั่วโมงข้างหน้า”
“ครับ! ”
“แล้วก็… เธอ [หมายเลข 0] เด็กสาวเผ่าคนแคระตรงนั้น ฝากเจ้าดูแลห้องเครื่องตรงนี้ที อย่าให้ใครผ่านเข้ามาเจอศพพวกนี้เชียว”
“ค่ะ! ด้วยนามของ [ซิงเคไนต์] หัวหน้ากลุ่ม [คาร์นิวอย] สาขาเผ่ามนุษย์สัตว์ ที่เก็บฉันมาเลี้ยงดู จะไม่ยอมให้ใครผ่านเข้ามาได้อย่างเด็ดขาดค่ะ! ”
“เยี่ยม ข้าคาดหวังในตัวเจ้าเป็นอย่างมาก ถ้างานนี้สำเร็จ ข้าจะเอาคุณงามความดีของเจ้าไปบอกต่อให้กับหัวหน้าเอง”
“ขอบคุณมาก ฉันจะพยายามค่ะ! ”
นี่คือเหตุการณ์เล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะได้รับหน้าที่ให้มาเฝ้าห้องนี้ค่ะ
ฉันคือเด็กสาวเผ่าคนแคระที่เกิดมาอย่างผิดปกติ
เกิดมามีผิวเผือก อีกทั้งยังมีมวลกล้ามเนื้อที่น้อยกว่ามาตรฐาน จนทำให้มีเรี่ยวแรงต่ำกว่ามาตรฐานของเผ่าไปโดยปริยาย
ไม่เคยได้รับชื่อใด ๆ จากพ่อกับแม่เพราะเป็นความอับอายของตระกูล สุดท้ายจึงถูกนำมาทิ้งบนดาวของเพื่อนบ้านตั้งแต่อายุได้เพียงแค่ 2 ขวบ
“เราจะพาเจ้าไปเที่ยวดาวที่ชื่อว่าไดม่อนกัน”
พูดแบบนั้นแล้วหลอกพามาทิ้งอย่างไม่ใยดี
คุณพ่อ… คุณแม่…
ฉันทำอะไรผิดไปอย่างงั้นหรือคะ?
ทำไมถึงต้องมาทิ้งกันแบบนี้ด้วยคะ?
แต่ในโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่บ้าง
มันเป็นโชคดีของฉัน ที่ท่านผู้นั้นเก็บฉันที่ไม่มีใครต้องการมาเลี้ยงดู
พอฉันเติบโตจนมีอายุได้ราว 10 ปี ในที่สุด ฉันก็ได้รับการยอมรับให้มาทำงานชิ้นแรกขององค์กรที่เขาดูแลอยู่
นี่คือภารกิจแรกของฉัน
ภารกิจทำลายองค์ผู้ชั่วร้ายที่ผูกขาดตลาดเทคโนโลยีของโลกใบนี้เอาไว้ค่ะ!
มันคือภารกิจกู้โลกค่ะ!
ท่านผู้นั้นช่างเต็มไปด้วยเมตตาอันเปี่ยมล้น
เขายอมให้มือตัวเองแปดเปื้อนความชั่วร้าย เพื่อขจัดความชั่วร้ายที่เลวยิ่งกว่าให้หมดไปจากโลกใบนี้
ถึงดาวดวงนี้จะไม่ใช่ดาวบ้านเกิดของฉัน แต่ฉันจะต่อสู้เพื่อผู้มีพระคุณที่ยังยอมรับในตัวของฉันค่ะ
“ตรงนี้ห้ามผ่านค่ะคุณพี่สาวภูติ”
ดังนั้นฉันจะทำตามหน้าที่ ที่ได้รับมา ฉันจะไม่ยอมให้ใครผ่านตรงนี้ไปได้อย่างเด็ดขาด!
แต่ทว่า—
“ขอทานละนะ!!! ”
เจออีแบบนี้ ฉันก็ไปต่อไม่ถูกเหมือนกันนั่นละคะ!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!?! ใครก็ได้! ช่วยด้วยค่าาาาาา!! ”
ฉันกำลังสับเกียร์หมาวิ่งหนีภูติหัวแดงที่มีดวงตาเป็นรูปหัวใจ
เพื่อให้สามารถหนีพ้นจากยัยหื่นน่ากลัว ฉันเลยตัดสินใจวิ่งกลับไปในเขตการค้าของยาน
วิ่งผ่านเส้นทางที่ซับซ้อนราวเป็นเขาวงกต แล้วตัดผ่านอุโมงค์แรงโน้มถ่วง เพื่อส่งตัวเองลอยขึ้นไปชั้นบน
เพียงพริบตาเดียว ฉันก็มาปรากฏตัวท่ามกลางฝูงคนจำนวนมากแล้ว
“ลาก่อนค่ะยัยภูติหื่น”
ฉันกล่าวอำลาโดยที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางตามฉันได้ทันอีกต่อไป
ความสามารถในการวิ่งเลาะฝูงชน คือหนึ่งในความสามารถที่ฉันภาคภูมิใจ
เพราะในช่วงที่ถูกทิ้งใหม่ ๆ ก่อนจะมาเจอกับท่าน ซิงเคไนต์ ฉันต้องใช้ขาคู่นี้ในการลักขโมย และเอาตัวรอดเรื่อยมานั่นเอง
ไม่มีใครในโลกนี้ ที่สามารถวิ่งตาม—
“หึ หึ หึ คิดว่าจะหนีผมทันอย่างงั้นหรือเจ้าหนูน้อย~”
— เสียงใคร?
แล้วไอความรู้สึกเย็น ๆ ที่หยดลงบนหัวนี่มันคืออะไรกัน?
ฉันลองหันหน้ามองขึ้นฟ้า
*ติง*
หยาดน้ำเย็น ๆ เม็ดหนึ่งได้หยดลงบนผิวหน้าของฉัน
มันคือใบหน้า—
เป็นใบหน้าของภูติสาวหัวสีแดงสดเฉกเช่นเอาเลือดมาอาบลงบนใบหน้า
มีดวงตาเบิกโพล่งกลวงโบ๋วราวกับไม่มีลูกตาดำ
ปากของเธอฉีกยิ้มจนแทบถึงใบหู
ที่ริมฝีปากของเธอนั้น มันเต็มไปด้วยสารเหลวอันน่าขยะแขยงที่กำลังเออล้นออกมาจากริมฝีปากของเธอ
เจ้าสิ่งที่น่าสยดสยองนั้นกำลังจับจ้องมาทางฉันอย่างหื่นกระหาย โดยไม่มีทีท่าว่าจะละสายตาไปจากฉันได้
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!?! ”
ฉันรีบวิ่งตรงไปที่ลิฟท์โดยสาร มุดลอดผ่านฝูงชนด้วยความเร็วเท่าที่ฉันจะทำได้—
“จะไปชั้นไหนค่ะคุณหนูน้อย? ”
“ชั้นบนสุด! ด่วนเลย! ”
“เดียวก่อนค่ะคุณลูกค้า จะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ!?! ”
ฉันไม่สนใจลูกค้าคนอื่นที่กำลังต่อคิวขึ้นลิฟท์โดยสาร แล้วกดปุ่มปิดประตูในทัน
ประตูลิฟท์กำลังจะปิดตัวลง โดยที่ไม่มีวี่แววของยัยภูติหัวแดงที่ไล่ตามมา
ฉันรอดแล้ว—
*ตึง! *
“…เสียงอะไร? ”
ฉันหันไปมองดูประตูลิฟท์ที่กดปิด
ประตูบานหนาทึบที่สร้างจากวัสดุสุดแข็ง กำลังถูกอะไรสักอย่างทุบอยู่…
*ตึง! **ตึง! **ตึง! **ตึง! *
เสียงทุบประตูนั้นดังรัวมากขึ้นอย่างน่าตกใจ
*เปรี๊ยง! *
“กรี๊ดดดดดดดด!?! นี่มันอะไรกัน!! ”
“สัตว์ประหลาดบุกอย่างงั้นเรอะ!! ”
“แจ้ง รปภ.! รีบแจ้ง รปภ. เร็ว!!! ”
เสียงทุบสุดท้ายที่ทำเอาประตูลิฟท์บานหนายุบตัวมากกว่าครึ่งเมตร ทำให้ผู้คนในลิฟท์ต่างกรีดร้องตื่นตกใจ
แต่ทว่าทั้งที่ภายในลิฟท์มีเสียงดังกึกก้องถึงเพียงนี้ ฉันกลับได้ยินเพียงแต่เสียงหัวใจเต้นของตัวเอง
ตุ๊บ…
ตุ๊บ…
ตุ๊บ… … .. .
นั่นมันตัวบ้าอะไร—
*ผัวะะะ!! *
เกิดเสียงคล้ายอะไรสักอย่างถูกเปิดออก ดังมาจากทางด้านบนของตัวลิฟท์
แสงไฟที่ส่องทอดตัวเข้ามาข้างในตัวลิฟท์นั้น กำลังวาดปรากฏเป็นรูปร่างของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีปีกคล้ายแมลงปอ
“…”
ฉันค่อย ๆ กลับหลังหัน แล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปดูด้วยความหวาดกลัว
“จับ~ ตัว~ได้~ แล้ว~”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! ”
MANGA DISCUSSION