ตึก ตึก ตึก
เสียงกรงเล็บเท้าวิ่งกระทบผิวศิลาดังเสนาะหูก้องไปทั่วบริเวณ
กระโดดหลบเสาศิลาที่โจมตี มุ่งหน้าตรงผ่านเส้นทางอันคดเคี้ยวแสนซับซ้อนช่วนยุ่งเหยิงเพื่อดำลึกลงไปในพื้นที่ชั้นล่างสุดของเส้นทางศิลา
*กึง—*
ได้ยินเสียงต่อสู้ดังมาจากส่วนของชั้นล่าง
“อย่ามาทำร้ายเจ้าหนูดำกับเจ้าออกไซด์ของหนูนะ!”
“กรรร!”
“ปี้!”
*กึง–!*
เสียงของยัยกระเป๋าเงินสีแดงขาว
เมื่อมาถึงที่หมาย ก็พบว่ามันเป็นพื้นที่ศิลารูปแบบที่เป็นลานโล่ง ไม่ใช่เป็นสะพานทางเดินแคบ ๆ แบบที่ผ่านมา
พื้นที่ตรงนั้นมีร่างที่บาดเจ็บของเจ้ามังกรเกล็ดสีน้ำตาลอ่อน ที่ดูเหมือนว่ากำลังพยายามใช้ร่างกายของตัวเองทับมังกรเกล็ดสีดำเอาไว้
ส่วนเจ้ามังกรที่มีเกล็ดสีดำ กำลังพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการทับของผู้เป็นแม่
มันพ่นไฟออกไปในที่ว่างอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ และคำรามอย่างโกรธแค้นใส่ผนังศิลาที่ล้อมอยู่รอบด้านของพื้นที่โล่งแห่งนั้น
หึ…
กำลังพยายามปกป้องลูกน้อยที่บ้าบิ่นของตัวเองเอาไว้เต็มที่เลยสินะ?
ส่วนยัยกระเป๋าเงินสีแดงขาวเองก็พยายามน่าดู
ห่างออกไปไม่ไกลคือยัยกระเป๋าเงิน ที่กำลังกระโดดถีบใส่ศิลาจำนวนมากที่กำลังพุ่งเข้าใส่
ทั้งที่ศิลาพวกนี้ถือเป็นวัตถุจากโลกแดนคนตายที่มีความแข็งสูง แต่เธอคนนี้กลับสามารถใช้กรงเล็บขา บีบพวกมันให้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ด้วยพลังกายเพียงอย่างเดียว
ทั้งที่ปกติต้องใช้พลังวิญญาณเข้ามาเสริมเพื่อสลายพันธะ ทำให้ตัววัตถุอ่อนรูปลงมาก่อนแท้ ๆ
“หน่อย! แข็งเป็นบ้าเลย! หินพวกนี้มันคืออะไรของมันกันเนี่ย!?!”
แต่ถ้าสังเกตุให้ดี จะเห็นได้ว่าทั่วกรงเล็บขาของเธอนั้นกำลังเต็มไปด้วยเลือด
ถึงจะเป็นพวกผ่าเหล่าผ่ากอที่ถูกเผ่าพันธุ์พิเศษที่เจ็ดดัดแปลงร่างกายไป แต่ใช่ว่าจะถึงขั้นไร้เทียมทานเสียทีเดียว
อ๊ะ…? ไม่ใช่เวลาจะมานั่งวิเคราะห์อะไรแบบนี้สักหน่อย
ฉันรีบเข้าไปเสริมทัพของยัยกระเป๋าเงิน
กางปีกสีเหลืองออก แล้วเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบเคียว
เข้าฟันศิลาหินที่กำลังแทรกผ่านพื้นศิลาขึ้นมา เกี่ยวถอนออกมาทั้งผืนเหมือนกับการเกี่ยวต้นข้าวในทุ่งนา
เสร็จแล้วเปลี่ยนปีกอีกข้าง ให้เป็นใบดาบ
ใช้มันแทงลงพื้นศิลาของลานกว้าง ทำลายจุดรวมพลังก่อนที่มันจะเปลี่ยนรูปเป็นอะไรสักอย่างที่ดูน่ากลัว
ถ้าให้เดาจากลักษณะของการรวมตัว คิดว่ามันคงตั้งใจจะเปลี่ยนทั้งพื้นที่ลาน ให้กลายเป็นหนามศิลาฟันเลื่อยคล้ายกับเครื่องบดเนื้อ
แอบน่ากลัวเหมือนกันแฮะ…
“เอโซ!”
“นี่ไม่ใช่เวลาจะมาทำเป็นดีใจนะเปอร์ไซต์”
ฉันรีบเปลี่ยนรูปแบบปีกตัวเอง เกร็งกล้ามเนื้อให้กลายเป็นขนปีกโล่
ตั้งมุมเอียงให้เหมาะเจาะกับมุมเฉียงปลายแหลมของเสาศิลาที่กำลังโจมตีเข้าใส่
เกิดเสียงเสียดสีกับความเจ็บปวดแสบร้อนเกิดขึ้นที่ปลายขนปีก
“หน่อย!”
ใช้จังหวะและมุมที่กำลังเปลี่ยนทิศทางกับแรงพุ่งตัวของมัน หักปลายเสาศิลาของมันเอง แล้วดันให้พุ่งเบี่ยงมุม 90 องศา กลายเป็นกำแพงขวางกั้นการโจมตีจากเสาศิลาลูกอื่น
“งั้นลุยพร้อมกันเลยค่ะ!”
ยัยกระเป๋าเงินว่าเช่นนั้น ก่อนจะกระโดดใช้ปลายกรงเล็บถีบใส่กำแพงศิลาที่ถูกหักครึ่ง
เธอกำลังพยายามดันมันกลับไป
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยัยนี่เริ่มเห็นคลื่นวิญญาณ หรือเป็นเพราะมีสัญชาตญาณที่แหลมคม แต่ทิศทางที่กำลังดันกลับไปนั้น คือทิศซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์รวมกระแสคลื่นวิญญาณในพื้นที่ส่วนล่างพอดี
“เยี่ยม!”
ฉันพูดกับตัวเอง แล้วเปลี่ยนปีกให้เป็นรูปแบบดาบ แล้ววิ่งเข้าไปแทงใส่จุดรวมคลื่นพลังงานที่กำลังก่อตัวอีกครั้ง
ยังคิดที่จะเปลี่ยนพื้นที่ลานนี้ให้เป็นลานประหารอยู่อีกเช่นนั้นหรือ?
ฝันไปเถอะ!
*ครื่น!*
เกิดเสียงถูลาก
เจ้าศิลาหินที่ถูกหักออกมาทั้งท่อน กำลังทำหน้าที่เป็นทั้งกำแพง และอาวุธที่พุ่งเข้าหาจุดอ่อนของศัตรู
ส่วนพื้นที่ด้านหลัง มีฉันคนนี้คอยป้องกันจากจุดบอดเอาไว้—
“กรร!”
เกิดเสียงร้องอย่างเจ็บปวดมาจากอีกฝั่ง
มาจากทางพวกมังกร
ถึงจะร้องอย่างเจ็บปวด แต่ยังได้ยินเสียงกระพือปีกดังอยู่
แสดงว่าคงแค่โดนในระดับรอดจากจุดตายมาได้
ให้ตายสิ ทางนี้กำลังจะเข้าไปใกล้จุดสังหารของศัตรูได้แล้ว อย่ามาเป็นตัวถ่วงสิยะ!
“ไอพวกมังกรโง่! จะปกป้องลูกตัวเองเพื่อให้เป็นเป้านึ่งทำไม! ไม่เห็นเรอะว่ามันอยากสู้! ปล่อยมัน แล้วมาตรงนี้ซะ! แล้วเราจะช่วยปกป้องให้!”
“กรร!”
“ปี้!”
พอได้ยินฉันด่า เจ้าตัวแม่ก็ดูตกใจจนเผลอปล่อยอ้อมกอดที่กำลังกอดลูกของมันเอาไว้
ส่วนตัวลูกนั้น มันรีบบินตรงมาทางพวกเรา แล้วเข้ามาดันกำแพงศิลาไปพร้อมกับยัยกระเป๋าเงินอย่างกล้าหาญ
แน่นอนว่ามันอยู่ในระยะที่ปีกของฉันปกป้องได้
“จะยอมแพ้ลูกของแกเรอะ? ”
“กรร!”
คราวนี้มีตัวแม่บินเข้ามาร่วมวงด้วย
ดีมาก
ต้องแบบนี้สิ! ถ้าบินห่าง ๆ แล้วจะให้ฉันเข้าไปปกป้องพวกแกได้ยังไง?
“อีกนิดเดียว!”
“กรรรร!”
“ปี้!”
ด้วยการร่วมแรงของ 1 คน กับอีก 2 ตัว เลยทำให้กำแพงศิลาที่ต้านดันพลังกับการโจมตีของศัตรู รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ราวกับปลาที่แหวกว่ายผ่านสายน้ำ
เพียงพริบตาเดียวก็ไปถึงชิดขอบกำแพงศิลาได้สำเร็จ
“เสร็จฉันละ!”
โดยไม่รอช้า
ฉันรีบทุ่มสุดพลัง ใช้ปลายปีกสีทองแทงใส่กำแพงตรงหน้าในทันที
ปลายแสงสีทองแทงลึกฝั่งลงไปในกำแพงศิลา
ไร้รอยแตกแยกกระจาย รวมพลังทะลุลง ณ จุดเดียวอย่างไร้ซึ่งการสูญเปล่า
ทลายสิ้น— ซึ่งแหล่งพลังงานวิญญาณศัตรู
*– ครื่น!*
พื้นที่รอบตัวเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง
คลื่นรบกวนวิญญาณของศัตรูเริ่มเบาบาง ในขณะที่ทางเราเริ่มมีสัมผัสวิญญาณรอบกายชัดเจนขึ้น
แสงสว่างจากผนังฉับพลันจางบางลงจนความมืดปกคลุม
พอสัมผัสวิญญาณชัดเจนขึ้น เลยเริ่มพอที่จะจับพื้นที่ได้กว้างไกลมากขึ้น
ตรงพื้นที่ส่วนกลาง— ยังคงมีแสงสว่างของคลื่นวิญญาณเจิดจ้าจนแสบตา
แถมแสงนั้นยังกำลังเคลื่อนตัวหนีห่างออกจากจุดที่ลาพิสอยู่
อ่าว…
ยัยลาพิสทำไม่สำเร็จหรือเนี่ย?
“สงสัยเป็นเพราะมียัยลูกน้องตัวสุดท้ายมาขวาง… ต้องรีบไปช่วย! รีบไปกันเถอะสหายเปอร์ไซต์!”
“ค่ะ เออ… เมื่อกี้นี้เอโซเรียกฉันว่า [สหาย] อย่างงั้นหรือคะ? ”
“พะ— พูดมากน่า! ยัยกระเป๋าเงิน!”
“เอ๊~!? โหดร้ายอะ!”
***ณ พื้นที่ส่วนบนสุด***
“จับสัญญาณได้ถึงโลลิที่กำลังเดือดร้อน!”
แถมยังมีจำนวนมาก
ต่อให้ไม่ได้ต้องใช้คลื่นวิญญาณตรวจจับ ก็ยังรู้สึกได้ถึงเสียงกรีดร้องว่า “ช่วยด้วย~” “ช่วยด้วย~” แสนน่ารักของพวกเด็ก ๆ !
ผมกำลังบินไปตามรูที่เหมือนกับเป็นเขาวงกต
พื้นที่ส่วนบนตรงนี้ มันมีลักษณะคล้ายกับเป็นรังผึ้งอย่างน่าประหลาด
กำแพง เพดาน และพื้นศิลามีลักษณะชื้นแฉะไปด้วยน้ำทะเลที่ไหลมาตามโครงยึดของพื้นที่
รูพรุนที่เกิดจากการซ้อนทับอันซับซ้อนของโครงสร้างศิลา ได้ก่อให้เกิดเป็นโพรงจำนวนมากที่กระจายตัวไปทั่ว
ระหว่างทางที่บิน จะมีฝูงแมลงศิลาคอยออกมาต้อนรับเป็นระยะ
พวกมันส่งเสียงฟันเลื่อยดังอย่างน่ากลัว แต่ด้วยความรีบร้อนที่อยากได้ช่วยพวกเด็ก ๆ ฉันเลยทุ่มทุน สร้างม่านพลังงานวิญญาณ ผสานม่านพลังกระแสลมที่รุนแรงเป็นพิเศษ บินเข้าชนทำลายพวกมันไปตรง ๆ
“เพื่อหนู ๆ ตัวน้อยที่น่ารักกำลังเรียกร้องหาผม! ไม่มีใครมาหยุดผมได้! ย๊ากกกกก!”
เพียงไม่นานนัก ผมก็มาถึงจุดที่พวกหนูไซต์รวมตัวกันอยู่ได้สำเร็จ
“ผม! ฮีโร่สีแดง– เรดเรนเจอร์มาช่วยแล้ว!”
“ลูกพี่หญิงแมรี่!”
“พี่สาวค่ะ!”
“แง! รอดตายแล้ว! นาดี้ แคนนี่!”
“เห็นแล้วละ โอบีเดี้ยน!”
“รอด…ไช— โย~” (เสียงโทนเดียว)
“กว่าจะเสด็จมาได้นะ… เนี๊ยว…”
“จะต้อง สร้างบุญคุญได้ให้…”
“ฆ่า!”
“เพื่อเทพเจ้าของพวกเรา!”
“แว๊กกก! อย่ากัด! มันเจ็บ!”
เออ…
ทำไมมันดูวุ่นวายแปลก ๆ ?
ตรงหน้าคือความวุ่นวาย
ดูเหมือนว่าพวกเด็ก ๆ ร่างโคลนกับป้าเทเรซ่าที่เคยถูกจับมัด จะฟื้นสติ และกลับมาอาละวาดกันอีกครั้ง
พวก ชี กับ ชาง แล้วก็ลูกน้องนับหลายร้อยคนของพวกเธอที่ฉันเคยไป NTR กลุ่มมาตั้งเป็นแก๊ง [ภูติสีชาติ] ,โนอาร์ ,โรโยตี้, แล้วยังพวกเด็ก ๆ ไซต์ นาดี้ แคนนี่ โอบีเดี้ยน เลยต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว เพื่อไล่จับพวกเด็กน้อยที่กำลังวิ่งพล่านไปทั่วลาน
ถึงฝ่ายร่างโคลนจะไม่มีอาวุธ แต่ยังมีปากให้กัด
พวกแก๊งสีชาตต่างร้องโอดครวญเพราะปากกัดตีนถีบเล็ก ๆ จากพวกเด็ก ๆ
ไม่มีเสาศิลาโจมตี ไม่มีฝูงแมลงศิลารบกวน
ดูแล้ว— แทบจะไร้ซึ่งอันตรายใด ๆ ในพื้นที่นี้
“…ทุกอย่างปกติดี”
““ปกติ**องสิ!!!””
ขอเซ็นเซอร์คำหยาบคายเพื่อความสุภาพ~
“สวัสดีพวกเด็ก ๆ กับคุณเทเรซ่า~”
“เสียงนี้มัน– ท่านเทพลาพิส!”
“ท่านเทพแมรี่!”
“ท่านเทพเอโซ!”
เสียงของยัยแบมซีดังขึ้น
พวกเด็ก ๆ กับคุณป้าเทเรซ่าได้หันไปขานรับเสียงที่ว่าด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
ดวงตาของพวกเธอเริ่มคลอเป้าด้วยน้ำตา ราวกับคนที่กำลังอิ่มเอบ ถูกเติมเต็มจิตใจอันมืดมนด้วยเสียงจากสวรรค์
“พวกที่อยู่ตรงหน้าคือศัตรูของข้า แด่สาวกที่ซื่อสัตย์ของข้า— จงฆ่ามันซะ!”
เสียงของตัวปลอม ได้ออกคำสั่งที่โหดร้ายกลับมาเช่นนั้น
ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมพื้นที่ตรงนี้ถึงไม่ค่อยมีการโจมตีจากศิลา
“…ผมจะทำยังไงกันดีเนี่ย? ”
เพราะมัน— ตั้งใจที่จะให้เด็กกับป้า มาเป็นคู่ต่อสู้นั่นเอง
MANGA DISCUSSION