เพราะดวงตามืดบอด หูหนวก เลยสัมผัสทุกสิ่งด้วยการจับตัวตนของพื้นที่ว่าง ผ่านทางแรงสั่นสะเทือนจากอากาศด้วยผิวหนัง
อีกสิ่งคือการรับรู้ด้วยกระแสคลื่นวิญญาณที่วนเวียน
ด้วยความที่โลกในปัจจุบัน คือภายในตัวตนที่ถูกสร้างเทียมจากพลังงานวิญญาณ ในสายตาของฉัน โลกทั้งใบในเวลานี้จึงเต็มไปด้วยกระแสวิญญาณ
หากให้อธิบาย คงเหมือนกับกำลังอยู่ในโลกของข้อมูล มองเห็นตัวเลขนับร้อยที่กำลังคำนวณกันอย่างแข็งขัน เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทุกสรรพสิ่งให้มันออกมาเป็นรูปร่างในการรับรู้แจ้งการคงอยู่ของตัวตนและอัตตา
“ลาพิสไปตรงจุดข้างหน้า!”
ด้วยคำสั่งของเอโซ ฉันจึงกำลังมุ่งหน้าผ่านโลกแห่งข้อมูลที่ว่า เพื่อมุ่งไปหากลุ่มของลูกศิษย์ คุณฑาทิม กับคุณออน
ส่วนเสาศิลาที่พุ่งเล็งโจมตีใส่เข้ามานั้น นับว่าหลบง่ายยิ่งกว่าวิ่งผ่านกระแสน้ำฝนเสียอีก
“…”
กระแสวิญญาณกำลังเปลี่ยนทิศ
เหมือนศัตรูจะรู้แล้วว่าถ้าโจมตีใส่ฉันต่อไปคงเสียพลังงานเปล่า เลยบังคับให้มันไหลไปรวมกันตรงจุดที่พวกคุณออนรวมตัวกันอยู่
แถมดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับหนึ่งในลูกน้องคนสุดท้ายของศัตรูอีกด้วย
“!”
ต้องรีบค่ะ
ไม่งั้นได้มีคนตาย
ว่าแล้วฉันจึงเร่งความเร็วขึ้นอีกนิด
เปลี่ยนจังหวะหายใจให้เข้ากับจังหวะการเต้นของร่างกายและวิญญาณ
พุ่งทะยานไปตามเส้นทางอันคดเคี้ยวที่ซ้อนเรียงทับ แล้วไปหยุดตรงเป้าหมายภายในหนึ่งวินาที
*เปรี๊ยง!*
แล้วส่งลูกแตะ ถีบทำลายเสาศิลาที่กำลังจะพุ่งแทงใส่คุณออนจากทางด้านหลังเป็นของฝาก
“คุณลาพิส!”
“ท่านอาจารย์เจ้าค่ะ!”
“โอว! คะ— คุณลาพิส ครับ!”
“ลูกพี่! ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมามัวม่อสาวนะครับ!”
*ปึ่ง!*
เกิดเสียงคล้ายกับอะไรสักอย่างที่ถูกอัดกระแทก
เงาของมังกรจำนวนสี่ตัว กำลังถูกวัตถุที่คล้ายแส้ ฟาดกระแทกจนตัวพลิกกลิ้งถลาไปจนสุดขอบพื้นศิลา
มังกรของฑาทิมรีบใช้กรงเล็บตะกรุย กระพือปีกอย่างรุนแรง เพื่อไม่ยอมให้ตัวเองร่วงตกลงไป
พร้อมกันนั้น พวกมันได้สะสมก๊าสปริมาณมากเอาไปที่กระพุงปาก แล้วพ่นเป็นลมหายใจสีทองแผดเผาออกมาเบื้องหน้า
เปลวไฟนั้นลุกโชนและร้อนแรงจนสัมผัสได้ผ่านทางผิวหนัง
แต่ทว่าศัตรูที่มีรูปร่างของเผ่ายักษ์ได้กระโดดหลบมันอย่างง่ายดาย ด้วยการใช้เส้นผมยึดโยงไปหยั่งพื้นศิลาที่ซ้อนตัวลอยเหนือพื้นที่ขึ้นไป
“เส้นผมยืดเป็นแส้ แถมยังใช้ยึดพื้น เพดานแทนแขนขาได้อีก?! นะ— นั่นใช่เบอร์รี่ที่พวกเรารู้จักจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย!? ”
“ฑาทิม! ตกลงนั่นคือคุณเบอร์รี่? หรือคุณเชอร์รี่ที่เป็นพี่สาวของคุณเบอร์รี่กันแน่!”
“ข้าไม่รู้ว้อย! ข้ารู้แค่ว่าเจ้าเบอร์รี่มันเป็นผู้ชาย และเป็นลูกคนเดียวที่ไม่มีพี่สาว! แต่ดูยังไงยัยนี่มันก็คือเจ้าเบอร์รี่ที่ติดนมเอาไว้ชัด ๆ ! ตกลงมันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ฟะ!”
“ไม่อยากจะเชื่อปากคนที่ความจำสั้น ระดับที่เคยเจอคุณควอตซ์มาก่อน ยังจำไม่ได้เลยวุ้ย! ”
” ฮะ? ข้าเคยเจอแม่กระต่ายสาวมาก่อน? ”
” ก็ตอนที่ทวีปแห่งความแห้งแล้งไงเล่า!”
“อันตรายเจ้าค่ะ!”
คุณลูกศิษย์กรีดร้องลั่น แล้วปามีดเลเซอร์ พร้อมกับออกตัววิ่งไปในเวลาเดียวกับที่พวกคุณออน กับคุณฑาทิมกำลังเถียงกัน
มีดเลเซอร์ที่ปาไปอย่างแม่นยำนั้น วิ่งตัดใจกลางแส้ที่กำลังพุ่งตรงสวนเข้ามา
*เปรี๊ยะ!*
แส้ที่พุ่งเข้าโจมตีได้แตกสลายไปพร้อมกับเสียงที่คล้ายกับกระแสไฟฟ้าลั่น
ร่างกระต่ายสาวเหลือแค่เงาทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง แล้วไปปรากฏตัวที่ด้านหลังของศัตรู
เวลาเดียวกัน ฉันเองก็วิ่งผ่านด้านข้างของคู่ต่อสู้ แล้วกระทืบเท้าใส่พื้นศิลาที่อยู่ด้านหลัง โจมตีใส่จุดที่คลื่นแสงสีขาวที่กำลังมารวมตัวกัน ซึ่งไม่อาจมองเห็นได้ด้วยดวงตา
พื้นศิลาถูกกดจนแตกร้าว แล้วยุบลงไปตามแรงปะทะของฝ่าเท้าที่ฉันกระทืบลงไป
เวลาเดียวกัน ปลายมีดของกระต่ายสาวที่อยู่ด้านหลัง กำลังจะพุ่งเข้าเฉือนหลอดลมของศัตรู
“อย่านะครับคุณควอตซ์!”
“เฮ้ย! อย่าฆ่าลูกน้องของข้า!”
แต่คุณออนกับคุณฑาทิมรีบตะโกนห้ามเอาไว้
คุณลูกศิษต์รีบหยุดมือตัวเอง แล้วเปลี่ยนเป็นใช้ขาถีบใส่จากทางด้านหลัง
เวลาเดียวกัน เส้นผมที่ยืดยาวของศัตรู ได้แผ่ขยายออก รับลูกถีบนั้นเอาไว้
รับ— แล้วเข้ารัดขาของคุณลูกศิษย์เอาไว้อย่างเหนียวแน่น
“!!”
สัมผัสได้ถึงคลื่นวิญญาณที่กำลังตื่นตระหนกของคุณลูกศิษย์
เพราะศัตรูกำลังจะจับเธอทุ่มใส่ปลายหอกศิลาแหลมที่กำลังผุดยื่นขึ้นมาจากด้านบน
“หยุด!”
“เบอร์รี่ ได้สติสักทีสิวะ!”
คุณออนกับฑาทิมโจมตีผสาน
แสงรังสีจากปลายกระบอกปืนพุ่งตัดผ่านปลายเส้นผมที่กำลังรัดขา
พร้อมกันนั้น ชายร่างยักษ์ได้ใช้ดาบที่เต็มไปด้วยออร่าวิญญาณ ฟันอากาศ สร้างคลื่นดาบรังสีอันน่าเหลือเชื่อ ตัดทะลุพื้นศิลาที่อยู่ด้านบนจนแหวกเป็นรูกว้าง
“เฮ้ย!? พลังอะไรกันเนี่ย!!”
ดูเหมือนว่าคุณฑาทิมจะลืมไปแล้ว ว่าไอดาบเล่มนั้นมันเคยถูกพวกเราดัดแปลงให้กลายเป็นอาวุธระดับทวยเทพตั้งแต่ตอนครั้งเหตุการณ์มังกรทมิฬ
ถึงจะดูน่าหวาดเสียว แต่ดูเหมือนว่าทางฝั่งคุณลูกศิษย์จะยังรับมือกันไหว
ฉันเลยวิ่งล่วงหน้าออกไป ตรงไปทางกำแพงศิลาประหลาดที่ตั้งอยู่จุดปลายทางเดิน
เจ้ากำแพงประหลาดนั้น มันกำลังปกปิดบางอย่างเอาไว้
แต่ถึงจะปกปิดยังไงก็ไร้ค่าสำหรับฉัน ที่มองทุกอย่างด้วยคลื่นวิญญาณสัมผัส
จุดรวมพลังงานแรก มันตั้งอยู่หน้านี้เองค่ะ
“!!!”
ราวกับเป็นร่างกายของสิ่งมีชีวิต ที่รับรู้ได้ว่ามีเชื้อโรคภัยเยื้องเข้ามาหมายทำร้าย
พื้นศิลาทั้งบนและล่าง ต่างสั่นไหวอย่างรุนแรง แล้วผุดงอกเสาศิลาออกมานับร้อย
ทว่าเสาศิลารอบนี้ไม่ได้งอกขึ้นมาเป็นเสาโจมตี
หากแต่งอกออกมาเป็นสิ่งที่คล้ายกับแมลงตัวเล็ก ๆ จำนวนมาก
เป็นแมลงที่มีแต่ฟันแหลมคม พร้อมจะเข้าบด-เจาะทุกสิ่งที่มันบินผ่านให้กลายเป็นรูพรุนไป
“—!!”
ฉันรีบหยุดตัวเอง แล้วถีบตัวหนีออกมา
พร้อมกันนั้น ฝูงแมลงหนึ่งได้บินพุ่งมาจากด้านบน พลาดเป้าไปโดนส่วนพื้นตำแหน่งที่ฉันยืนอยู่เมื่อกี้ไปแทน
เกิดแรงสั่นคล้ายเครื่องขุดเจาะกระเทือนอากาศไปทั่ว ก่อนจะจบลงด้วยการเจาะพื้นศิลาให้กลายเป็นรูกว้าง
ถ้าโดนเจ้าพวกนั้นรุมกัด คงไม่น่าเหลือแม้แต่กระดูกค่ะ…
“ฑาทิม!”
“เออ รู้แล้ว! พวกแกไปช่วยสนับสนุนคุณลาพิสหน่อย! เดียวข้ารับมือกับเจ้าเบอร์รี่ พร้อมกับไอหน้าอ่อนกับคุณกระต่ายสุดน่ารักตรงนี้ให้เอง!”
พวกลูกน้องของคุณฑาทิมกับมังกรของเขาเริ่มกระหน่ำการโจมตีด้วยทุกอย่างที่พวกเขามี ใส่ฝูงแมลงศิลา
ทั้งฉมวกระเบิดจากยานกระทิง
ทั้งอาวุธรังสี
ลมหายใจมังกร
แต่อาวุธของพวกเขา ไม่สามารถหยุดฝูงแมลงที่กำลังยินไล่ล่าฉันได้เลย
“ไม่ได้ผลสักอย่าง!”
“มะ– แม้แต่การรวมพลังยักษาเรนเจอร์ของพวกเรายังสะกิดมันไม่ได้!”
“จะบอกว่าไอแมลงพวกนี้มันแข็งยิ่งกว่าพวกหุ่นยนต์นาโนสังหารอีกอย่างงั้นเรอะ!”
“พวกมันคือตัวอะไรกันเนี่ย!?!”
*กรรรร!*
มันได้ผลอยู่นะคะ
ถึงไอร่างกายศิลานี้จะแข็ง แต่ระเบิดหรืออาวุธรังสียังพอจะทำลายกระเทาะผิวนอกได้อยู่ค่ะ
แต่ความที่ว่าทุกอณูของเปลือกศิลามันมีวิญญาณของศัตรูสิงสู่ เลยเป็นไปได้ยากที่ฆ่าพวกมัน
ทำลายไป เดียวพวกมันก็คืนสภาพขึ้นมาใหม่ค่ะ เลยทำให้เห็นเป็นว่าไม่สามารถทำอะไรมันได้
จะทำลายมัน มีแต่ต้องทำลายไปที่จุดรวมคลื่นพลังงานวิญญาณที่กำลังสั่งการมันอยู่
นั่นคือกำแพงศิลาตรงหน้า
แต่เป็นเพราะฉันมีแต่วิชาต่อสู้ระยะใกล้ วิชาโจมตีระยะไกลอย่างพวกคลื่นหมัดกับลูกถีบอัดอากาศก็ไม่ได้มีแรงทำลายมากพอจะเจาะเกราะพวกนี้ไหว
จะใช้วิชาวิญญาณตอนนี้เลย– ฉันยังมองว่าเร็วไปที่จะรีบนำมาใช้กับพวกลูกน้องปลายแถว
เลยทำให้ยังหาโอกาสสวนกลับไม่เจอค่ะ
อยากชี้เป้าให้พวกลูกน้องของคุณฑาทิมโจมตีไปที่กำแพง เพื่อเปิดเส้นทางให้กับฉัน
เวลาแบบนี้ทำเอาอยากให้ตัวเองมีเส้นเสียง ที่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ง่าย ๆ จัง
เพราะศัตรูมันไม่ปล่อยโอกาส ให้ฉันได้มีเวลาใช้บอร์ทเขียนสื่อความหมายกับคนอื่น
ใช้บอร์ทสื่อความหมาย…
จริงด้วยสิ
มันยังมีวิธีใช้ปากกากับบอร์ทข้อความแบบนี้อยู่ไม่ใช่หรือคะ?
*ฉึก!*
ในเมื่อไม่มีเวลาให้เขียน ก็ปาใส่แม่มเลยค่ะ
ปากกากับบอร์ทตัวโปรดของฉัน ได้ถูกปาทิ้งออกไปอย่างไม่สนใจใยดีใส่กำแพงศิลา
วัตถุสองสิ่งนั้นปักคานิ่งอยู่ตรงผิวศิลา แบบชนิดฝังลึกเข้าไปในเนื้อราวหนึ่งเซนติเมตรจากผิวนอก
“เอ๊ะ? ทำไมถึง—”
“หรือว่าอยากจะให้พวกเราโจมตีใส่ตรงนั้น? ”
*กรรร!*
ถึงจะดูเป็นกลุ่มสมองกล้าม แต่อย่างน้อยก็มีเซ้นต์ด้านการต่อสู้ใช้ได้ค่ะ
สิ่งที่ฉันอยากจะสื่อ ได้ส่งไปถึงพวกเขา
กลุ่มลูกน้องของคุณฑาทิมเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายโจมตี ไปที่ผนังศิลาหยาบกร้านที่ดูไม่มีอะไร
เปลวไฟ
ห่ากระสุนรังสี
ฉมวกระเบิด
สรรพศาสตราวุธถูกโหมกระหน่ำใส่อย่างบ้าคลั่ง
เวลาเดียวกัน ทิศทางการเคลื่อนที่ของฝูงแมลงเริ่มเปลี่ยนไป
พวกมันเลิกที่จะไล่ตามฉัน แล้วพากับบินเลี้ยวกลับเข้าไปตั้งเป็นกำแพงขวางกั้นการโจมตีเอาไว้
เสร็จฉันค่ะ!
“ท่านอาจารย์ ศัตรูกำลังวิ่งไปทางท่านอาจารย์ค่ะ!”
*เปรี๊ยง!*
เกิดเสียงกระแทกดังขึ้นพร้อมกับเวลาเดียวที่ฉันพุ่งตัวกระโดดถีบออกไปเป็นลูกปืนใหญ่
เวลานั้นได้เกิดหลุมขนาดยักษ์ขึ้นบนพื้นสองจุดจากแรงพุ่งตัว
หนึ่งคือจุดที่ฉันยืน อีกหนึ่งคือจุดที่ศัตรูกำลังสู้อยู่กับพวกคุณออน
สองร่างเงาต่างพุ่งเข้าปะทะใส่กำแพงศิลา
หนึ่งขากับเส้นผมนับล้านพุ่งเป้าไปที่กำแพงพร้อมกัน
–หืม?
ไม่ได้เล็งมาทางฉันอย่างงั้นหรือคะ?
*แกร๊ก—*
เกิดเสียงคล้ายกับกำแพงปูนที่ถูกลูกตุ้มยักษ์อัดใส่
ผิวศิลาด้านนอกกำลังระเบิดกระจายออกมา เผยให้เห็นถึงแสงอันเจิดจ้าจากคลื่นกระแสวิญญาณที่ซ่อนอยู่ข้างใน
มันเป็นวัตถุที่ดูคล้ายกับก้อนคริสตัลสีรุ้งทรงกลม ขนาดเท่ากำปั้น
เจ้าวัตถุที่ควรจมปลายเท้าของฉัน กำลังถูกปกป้องโดยเส้นผมสำนวนมากของศัตรู
“เอามันกลับมาให้ข้า!”
เกิดเสียงดังกังวาลไปทั่วพื้นที่ ระหว่างที่เศษศิลากำลังแตกกระจายร้าวออกมา
ฉันรีบหมุนตัวแตะใส่ศัตรูที่กำลังยืนติดอยู่ในระยะใกล้
ปลายขาของฉันเร็วกว่าการเคลื่อนไหวของเส้นผมศัตรู
มันถูกถีบตรงเข้าชายซี่โครงเข้าเต็ม ๆ
เกิดเสียงคล้ายโครงเหล็กที่ถูกบิดงอดังลั่น ก่อจะส่งร่างของมันปลิวลอยขึ้นฟ้า
ทว่ามันใช้เส้นผมที่กางออกมา กระจายยึดไปทั่วบริเวณเพื่อหยุดร่างเอาไว้ ไม่ให้ไปเข้ากระแทกกับศิลาที่อยู่ด้านหลัง
จะรออยู่ใย รีบซ้ำสิคะ?
*ครื่น!*
แต่ดันเกิดเสียงคล้ายแผ่นดินเคลื่อนดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
พื้นยืนโดยรอบกำลังเกิดการเปลี่ยนรูปอีกครั้ง จนทำให้ที่ยืนเริ่มไม่มั่นคง
“บอกว่าให้รีบเอามันกลับมาให้ข้า!”
—ทำลายไม่สำเร็จ…
พอแรงสั่นจากพื้นหยุดลง สัมผัสเงาของศัตรูก็หนีห่างออกไปไกลเสียแล้วค่ะ
ช่างน่าขายหน้านัก…
MANGA DISCUSSION