“ตัวประกันของแกไม่มีอีกต่อไปแล้ว— ได้เวลา ของฮีโร่ปราบวายร้าย!”
“ปราบวายร้ายบ้านแกสิยะ! วายร้ายนะ คือเทพเจ้าผู้ชั่วร้ายอย่างพวกแกสามคนต่างหาก!”
ราชินีแบมซีกรีดร้อง แล้วแผ่ขยายไอวิญญาณออกมารอบตัวเอง
ถ้าในละครหรือหนัง คงเป็นฉากมองดูศัตรู รอให้เขาแปลงร่างเสร็จ
ฉันไม่โง่พอรอให้มันทำแบบนั้น
“ทุกคน โจมตี!”
“พวกพี่สาวสั่งการลงมาแล้ว ทุกคนโจมตีได้เลยค่ะ!”
“จะอะไรก็ไม่รู้ละ แต่เจ้านายตัวน้อยสั่งการมาแล้ว ทุกคนลุยโว๊ยย”
““โอ๊ววว!””
หึ— เจ้าพวกบ้า…
ทั้งที่ควรมีคำถามมากมาย แต่กลับไม่มีใครคิดจะปริปากถามให้เสียเวลา
เจ้าพวกบ้าที่ตามมาเพราะการเรียกรวมตัวของหนูไซต์ กำลังเริ่มกระจายยานบินออกไปโดยรอบ
ภายในหลุมที่มืดมิด ได้มีจุดประกายแสงขนาดเล็กจากพลังงานรังสีที่รวบรวมไปที่ปลายปากกระบอกปืน
รวมพลัง แล้วลั่นยิงออกไปเป็นเส้นแสงรอบทิศทาง 360 องศา รุมใส่ไปที่เป้าหมายเดียว ณ จุดที่ยัยแบมซีบินอยู่ใต้ความมืด
*เปรี๊ยะ!*
“อะไรกันนั่น!? ”
แต่ทว่ารังสีนับร้อยกลับวิ่งไหลไปตามโดมกระแสไฟฟ้า ที่เกิดขึ้นมาอย่างชั่วเสี้ยววินาที
แสงสว่างจากประกายไฟฟ้านั้น ได้ตกกระทบ เผยร่างของผู้ที่เข้ามาขวางทาง
มันผู้นั้นปรากฏตัวออกมาจากรอยแยกของมิติ
เพราะซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกของมิติมาตั้งแต่แรก เลยทำให้ไม่สามารถจับสมผัสตัวตนจากพื้นที่ว่างได้
มันเป็นร่างของสตรีเผ่ายักษ์ที่มีผิวสีเทา เขาสีดำ และมีผมสีฟ้ายาว
เธอสวมหน้ากากขาวครึ่งใบหน้าที่ดูน่าสยดสยอง และเผยอีกครึ่งใบหน้าที่มีดวงตาสีทองอันว่างเปล่าไร้จิตใจ
ภาพของคนที่ถูกวิญญาณร้ายสิงสู่
นี่ยังเหลือลูกน้องซุกเอาไว้อีกคนหรือเนี่ย…
“เฮ้ย! นั่นใช่เจ้าเบอร์รี่หรือเปล่า? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่? ทำไมถึงบินได้? แล้วทำไมถึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงแบบนั้นกัน!”
“คุณ เชอร์รี่ ไม่ใช่หรือครับ!”
เสียงของเจ้าฑาทิมกับเจ้าออนดังขึ้นมาพร้อมกัน
อ่าว?
รู้จักกันอย่างงั้นหรือ?
“งั้นฝากพวกแกจัดการกับเจ้าลูกสมุนตัวนั้นให้ที”
ฉันตะโกนออกคำสั่ง แล้วให้ลาพิสบังคับยานเข้าประชิดตัวเจ้าแบนซี
เวลาเดียวกันเจ้าหน้ากากขาวก็ยื่นแขนตรงออกมา
มันกรีดร้องโหยหวน เปร่งวาจาที่ฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วแผ่เส้นใยสีดำแทรกตัวออกมาในที่ว่าง
[จับให้แน่นค่ะ]
ลาพิสรีบโยนป้ายข้อความมาทางพวกเรา แล้วบึ่งยานหลบเส้นสีดำที่กำลังแผ่พุ่งเข้าใส่
ยานโลมาได้แทรกตัวผ่านเส้นใยนับร้อยที่ราวกับมีชีวิต
เคลื่อนไหวผ่านอสรพิษที่ฉกเข้าใส่ หมายผ่านแนวป้องกันเข้าไปหาเจ้านายของมัน
เวลาเดียวกัน ได้มีแสงรังสียิงเฉิดฉายไล่ตามหลัง
เหล่ากองยานกำลังเสริม เริ่มกระหน่ำยิงคลื่นพลังรังสีเข้าต่อต้าน
เล็งเป้าใส่จุดชีพจรวิญญาณของศัตรู ทำลายรูปลักษณ์เทียมที่ก่อตัวขึ้นด้วยพลังงานวิญญาณอย่างแม่นยำ
พอใช้สัมผัสวิญญาณมอง เลยรู้ว่าเป็นฝีมือของพวกหนูไซน์ เจ้าพ่อบ้าน กับยัยลูกศิษย์
ไซน์ได้ส่ง นาดี้ โอบีเดี้ยน แคนนี่ พวกพี่น้องของเธอกระจายไปตามยานแต่ละลำ แล้วส่งข้อมูลให้พวกเธอประสานงานในการชี้เป้าโจมตี
เจ้าพ่อบ้านกับยัยลูกศิษย์คอยชี้เป้าให้เจ้าฑาทิมทั้งที่ไม่ค่อยถูกกัน
ส่วนยัยกระเป๋าเงินมันสู้ไม่เป็น เลยไปช่วยในแง่ควบคุมพวกตัวประกันที่จับมัดเอาไว้อยู่ กับพวกแก๊งป่วนเมือง ภูติสีชาด ที่มีเกือบ 300 คน ของยัยแมรี่
ไม่คิดเลยว่าแก๊งของยัยแมรี่ที่สร้างมาขายขำช่วงนั้น จะมามีประโยชน์เอาเวลานี้
ส่วนยัยกระเป๋าเงินเห็นบอกว่าจะสร้างบุญคุณให้ได้สินะ?
ได้ ฉันจะสำนึกบุญคุณให้ทีหลังอย่างเหมาะสมเอง
“…เติบโตกันขึ้นเยอะ”
น่าประทับใจ
รู้สึกประทับใจ— ราวกับได้มองดูลูกของตัวเองเติบโต
มีความสุข
เป็นความรู้สึกสุขใจยิ่งกว่าเวลามองดูสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำทำสงคราม
มันมีความสุขจริง ๆ
“ดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์น่า!”
หยุดไม่ทันแฮะ
ก่อนที่พวกเราจะได้ทันเข้าประชิด เจ้าแบมซี่ก็แปลงร่างเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว
สตรีปีศาจกรีดร้องลั่น
ร่างกายของมันเริ่มส่องแสง พร้อมกับกรีดเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เพราะพลังงานวิญญาณที่มากเกินจะทนทานไหว
ใช้พลังงานที่ว่า บิดเบือนโครงสร้างระดับมิติ แล้วดึงเอาสสารถจากโลกแดนคนตายเข้ามาสู่มิติคนเป็น
ร่างกายของมันกำลังถูกบางอย่างห่อหุ้มเอาไว้
ร่างของหญิงสาวที่งดงามกำลังถูกทดแทนด้วยอะไรบางอย่าง ที่ดูคล้ายกับเป็นผิวเกล็ดศิลาสีแดง
เจ้าผิวเกล็ดศิลานั้นงอกเข้าปกคลุมไปทั่วร่างกายของเธอ จนเห็นคล้ายกับเป็นรูปปั้นหินตนหนึ่ง
รูปปั้นหินตนนั้นเริ่มแตกแขนง พอกพู ขยายตัวออกโดยมีเธอเป็นศูนย์กลาง
สิ่งที่แตกแขนงนั้นช่างดูคล้ายกับเสาศิลา
เสาศิลาจำนวนมากได้พุ่งเสียบทะลุฝั่งลงไปในผนังของอุโมงโดยรอบ แทรกตัวลึกเข้าไปในกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
สายน้ำที่แตกซานกระเซ็น ได้ไหลย้อยเป็นทางไปตามเสาหิน เติมเต็มผิวศิลาให้ชุ่มช่ำไปด้วยหยาดน้ำ ราวกับเป็นเลือดที่กำลังหล่อเลี้ยงผิวกาย
ต้นหญ้าใบสีขาวได้งอกเงยขึ้นบนผิวศิลา
พวกมันเริ่มเรื่องแสง จนกลายเป็นแสงสว่างสีขาวที่เจิดจ้า ทำให้อุโมงค์อันมืดมิดส่องสว่างราวกับมีพระอาติย์มาส่องประกายมอบแสง
พอรู้ตัวอีกที พื้นที่อุโมงค์แห่งนี้ก็กลายเป็นดินแดนที่มีแผ่นดินยืนให้เหยียบย่ำ ด้วยผิวศิลาที่โยงใยไปทั่วอุโมงค์ราวกับเป็นรากแขนงจากต้นไม้ใหญ่
แผ่นดินที่ว่านั้น เข้าปิดกั้นเส้นทางหนี และปิดล้อมขังพวกเราทั้งหมดเอาไว้ข้างในตัวของมันเอง
“นี่มัน—”
“ยินดีต้อนรับสู่ร่างกายของเรา!”
เสียงราชินีแบมซีดังกึกก้องไปทั่ว
นี่คือการสร้างร่างกายทิพย์ แบบชนิดเข้าปกคลุมพื้นที่
พูดง่าย ๆ คือมันสร้างให้ตัวเองเป็นยักษ์ศิลา แล้วบังคับกลืนพวกเราเข้าไปข้างในร่างกายของมัน
จับมาต่อสู้ในพื้นที่ ที่มันได้เปรียบ
การจะทำแบบนี้ได้ จำเป็นต้องใช้พลังงานวิญญาณอย่างมหาศาล แล้วยังต้องเข้าใจถึงธรรมชาติในการใช้วิชาของเทพเจ้าระดับสูง
ถึงจะบอกว่าหนีมาได้จากที่คุมขังของยัยโง่แมรี่ในช่วงที่อยู่มิติโลกคนตาย แต่มันไปครูพักลักจำวิชาพวกนี้มาจากที่ไหนกันเนี่ย?
แต่ไม่เป็นไร
ถึงจะดูเสียเปรียบ แต่ไอการใช้วิชานี้เพื่อขังศัตรู มันมีจุดอ่อนร้ายแรงอยู่
หนึ่งคือใช้พลังงานเพื่อคงรูปที่สูงเกินความจำเป็น
สองคือเพียงแค่บุกไปทำลายชีพจรวิญญาณ ที่ทำให้คงรูปลักษณ์ซึ่งกระจายตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ ได้ ร่างกายขนาดใหญ่นี้ก็จะแตกสลายหายไป
แถมมันยังจะเกิดคลื่นพลังงานสะท้อนกลับสู่ตัวผู้ใช้อย่างรุนแรงเองอีกด้วย
“โฮโลมิกุไลฟ์ ช่วยส่งข้อความวิธีทำลายพื้นที่บ้า ๆ นี่ ให้กับพวกหนูไซน์ที”
[รับทราบ]
ตอนนั้นเองที่พื้นที่โดยรอบเริ่มสั่นไหว
ฉับพลันผิวศิลาได้กลายเป็นหอกแหลมพุ่งแทงใส่ยานของพวกเรา
ลาพิสพยายามขับบินหลบเต็มกำลัง
แต่การโจมตีนั้นพุ่งมาจากรอบทิศทาง ชนิดไม่มีทางหลบเลี่ยงไปได้
“เปิดม่านบาเรียเต็มกำลัง!”
ถูกโจมตีอย่างเข้าอย่างจัง—
เราใช้สองปีกเกาะตัวยานเอาไว้อย่างสุดชีวิต
ได้ยินเสียงหวูดร้องเตือนภัยฉุกเฉินของยานดังลั่น ไปพร้อมกับแรงสั่นของตัวยานที่กำลังล้มกลิ้งไปมา
อาการเมายานที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายใต้กระเพาะที่เริ่มปั่นป่วน
*แกร๊ก—*
อาการเมายานมีอย่างต่อเนื่องไปจนกระทั้งสิ้นเสียงหมุนตลบ
ยานได้นิ่งสนิทพร้อมกับเสียงเตือนภัยที่เงียบหาย
“โฮโลมิกุไลฟ์ รายงานสภาพของยานมาทีซิ”
[—]
ไม่มีการตอบกลับมา
อย่าบอกนะว่า…
พอตั้งสติแล้วลุกขึ้นมายืนดูสภาพรอบตัวเอง—
ผิวยานแตก
เพดานแยกเปิดออกจนมองเห็นพื้นที่ข้างนอกด้วยดวงตาของตัวเอง
เห็นสารเหลวที่เป็นหัวใจเลี้ยงพลังงานของยานไหลเทกระจายเป็นจุด ๆ
มีเสียงไฟฟ้าลัดวงจรให้ได้ยินไม่ขาดสาย
บางส่วนของยานมีแท่งศิลาแดงเสียบทะลุคาทิ้งเอาไว้เป็นอนุสรณ์ให้เจ็บปวดใจ
ยานโลมาน้อยของพวกเรา
[บ้าน] หลังแรกของฉัน…
“โฮโลมิกุไลฟ์ ตอบด้วย”
[—]
รวมไปถึงระบบยาน โฮโลมิกุไลฟ์ ที่อยู่กับพวกเรามานาน
ทุกอย่าง— ได้ถูกทำลายหมดสิ้นไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
MANGA DISCUSSION