“ขบวนการ 5 สี ที่มี 6 คน [เพาเวอร์-โซล เรลเจอร์] ! กลับมาแล้วค่ะ!!”
“ระวังเจ้าค่ะ!”
กระต่ายสาวขนสีดำที่สวมชุดนักฆ่า กำลังใช้พลังขาอันทรงพลัง กระโดดจากอัฒจันทร์หนึ่ง สู่อีกอัฒจันทร์หนึ่งด้วยความเร็วสูง
มือทั้งสองสะบัดลง ขว้างปามีดเลเซอร์ไปในที่ว่างอากาศ
พร้อมกันนั้น ได้เกิดแสงปะทะ แล้วตามมาด้วยการจุติของระเบิดขึ้น ณ จุดที่ดูเหมือนไร้ซึ่งวัตถุอันใด
*กีส –*
มันเป็นฝีมือของเบลเซบับ
อสูรกายรูปร่างคล้ายแมลงวัลตัวนั้นได้พ่นสารเหนียวออกมาจากทางปลายหางแหลมของมัน
มันยิงออกมาจากม่านฝุ่นควันที่ลอยคลุ้ง เล็งใส่เด็กน้อยผมสีขาวน่ารักจำนวนสี่คนที่ตะโกนออกมาเสียงดังอย่างไม่รู้จักอันตราย
ถึงจะถูกหุ้มด้วยม่านบาเรียหนาจากการคุ้มกันของเทวทูตภูติผมสีแดงที่กำลังบินลอยอยู่บนฟ้า แต่ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นเพราะถูกกระต่ายสาวขนสีดำป้องกันเอาไว้ คงได้มีกระดูกหักไปสองสามท่อนเป็นแน่
“เอ๊!? คุณ ควอตซ์–? ไม่ใช่ว่า—”
“ข้าน้อยมิใช่คนที่กล้าทิ้งศิษย์ร่วมสำนักให้ไปเผชิญหน้าศึกใหญ่คนเดียวได้เจ้าค่ะ!”
ตำรวจหนุ่มสากลทำท่าจะอ้าปากยิงคำถามกระต่ายสาวที่ปรากฏตัวใจกลางสนามรบ
แต่เขากลับถูกกระต่ายสาวคนนั้นตัดบทไปเสียก่อน
*ฮุม!*
เมื่อเห็นว่าเบลเซบับโจมตีพลาดพลั้ง เทนงุจึงเปลี่ยนเป้าหมาย จากที่ตั้งใจจะเล็งไปทางภูติสาวซึ่งกำลังเตรียมการทำลายเขตพื้นที่มิติแยก ไปเป็นทางเด็กสาวตัวน้อยทั้งสี่คนแทน
พวกมันรู้— ว่าเด็กสาวผมสีขาวที่น่ารักราวนางฟ้าตรงนั้น คือบุคคลสำคัญของเหล่าสามสาวนักบวชที่เป็นเป้าหมายของเจ้านายที่แท้จริงของพวกมัน
การเล็งเป้าไปที่จุดอ่อน ย่อมทำให้ศัตรูสูญเสียความเยือกเย็นและสมาธิ
มันละทิ้งคู่ต่อสู้สาวแวมไพร์กับมนุษย์สัตว์-แมว ที่กำลังบินเตรียมตั้งท่าอยู่ตรงหน้า แล้วกางปีกสีดำ บินทะยานฉีกหนีไปอีกทิศด้วยความเร็วสูง
เป้าหมายของมัน คือเด็กสาวผมสีขาวทั้งสี่คนที่ดูไร้พิษภัยด้านล่าง
มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดฝัน จึงไม่มีใครหยุดมันได้ทันเวลา
“เอ๊ะ!? เอ๊!!”
“ทำไมเล็งมาแต่ทางพวกเราละ!”
“แง!”
*ฉั่ว!*
เกิดเสียงตัดขาดชิ้นเนื้อดังขึ้น
ขนปีกสีเหลืองที่กำลังรัดมวลกล้ามเนื้อจนแข็งตัวกลายเป็นใบดาบสีทอง ได้วาดเป็นวงเสี้ยวพระจัทร์ เข้าฟันแขนข้างที่กำลังจะเหวี่ยงพัดขนนกของเทนงุจากทางด้านข้าง
ฝ่ายเทนงุจักยอมยกแขนขวาที่ถูกฟันทิ้งให้สตรีสีทอง แล้วตีปีกสีดำ ม้วนตัวด้วยร่างอันใหญ่โต
สร้างพายุทอนาโดขึ้นรอบตัว พลักไสผู้โจมตีสีทองให้กระเด็นถอยห่างออกไป
จังหวะนั้น นักสู้สีทองเมมรีฝีปากแน่น พร้อมกับคล้ายกล้ามปีก แล้วแผ่นขนให้ขยายตัวออกกว้างจนดูเหมือนกับโล่ที่หนาทึบ
โล่ขนปีกสีท้องนั้นเข้าปกคลุมร่างน้อย ๆ ของเธอจนมิด ไปพร้อมกับที่กระเด็นออกไปกระแทกใส่พื้นสนามอย่างรุนแรง
“ท่านอาจารย์!”
กระต่ายดำร้องเสียงตกใจดังลั่น
ในระหว่างที่ตนลังเลว่าควรเข้าไปช่วย ก็ได้มีวัตถุหนึ่งเคลื่อนตัวบินตัดสนาม
ท่ามกลางควันที่ลอยคลุ้ง มีเสียงแลกประยุทธดังขึ้นตัดผ่านขึ้นเหนือกลุ่มฝุ่นควันนั้น
มนุษย์สัตว์ขนสีฟ้า กับเสือสมิงที่ใช้ร่างอวตารแห่งชีวิตนับร้อย กำลังห้ำหั่นแลกหมัดกันอย่างรุนแรง
ยามเมื่อฝ่ายสตรีสีฟ้าปล่อยหมัดขวา อีกฝ่ายได้เปลี่ยนร่างเป็นเผ่ายักษ์ ใช้ประโยชน์จากมวลร่างกายที่ใหญ่โตกว่ารับแรงปะทะ
ยามเมื่อฝ่ายสตรีสีฟ้ารัวลูกถีบความเร็วสูง ศัตรูเปลี่ยนร่างเป็นเผ่าภูติที่ตัวเล็กจ๊อย หลบเลี่ยงทุกการโจมตีด้วยขนาดกายที่พริ้วบาง
เวลาเดียวกัน กลุ่มตำรวจจากลานคนดูที่กระจายไปทั่วสนาม ได้เริ่มยิงแสงรังสีรอบสอง
แสงรังสีได้ถูกยิงกระจายไปทั่ว เล็งเป้าไปที่ปีศาจทั้งสามตัวซึ่งกำลังปะทะกับเหล่าสตรี
แสงรังสีเหล่านั้นได้พุ่งตรงขวางเส้นทาง ราวกับจะตั้งเป็นขอบข่ายกำแพง ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เด็กน้อยผมสีขาว กับภูติผมสีแดง ที่กำลังถูกเล็ง
“ถึงจะไม่รู้ว่าพวกคุณกำลังวางแผนอะไร แต่คีย์สำคัญในการเอาชนะคงเป็นภูติผมแดงตรงนั้นสินะคะ? ”
แวมไพร์สาวที่กระโดดเข้าร่วมการต่อสู้ ได้เผยรอยยิ้ม แล้วร่ายสองมือที่ขาวนวลไปในอากาศ
เปลี่ยนมวลสสารบนมิติ สร้างมวลสสารมืดในลักษณะของฝูงค้างคาวออกมา
ฝูงค้างคาวนั้นมีจำนวนมากจนอาจมีนับล้าน
พวกมันมันบินวนรอบตัวเธอ ก่อนจะทยอยบินออกไปวนล้อมกรอบสตรีภูติผมสีแดงตามการร่ายรำของปลายเล็บสีแดงสด
แวมไพร์ที่ควบคุมฝูงค้างคาวเทียมสีดำ
เป็นภาพที่สมดั่งฉายา [ราชินีแวมไพร์] อย่างแท้จริง
“พวกแกไปช่วยดูแลเด็กพวกนั้นทีซิ? ”
“รับทราบ! มาเลยเจ้าวานาดิไนต์!”
“ได้เลยเจ้า ซุนไกท์!”
โนอาร์
หุ่นยนต์โบราณผู้อ้างตนว่าเป็นเทพเจ้าของเผ่ามนุษย์สัตว์
เมื่อสั่งการลูกน้องของตัวเองเสร็จสิ้น เธอได้รีบออกตัวบุกโจมตีในทันที
เป้าหมายของเธอคือปีศาจเสือสมิง ที่กำลังหันหลังให้
ท่ามกลางการแลกหมัดวิชายุทธระดับเหนือโลกตรงใจกลางอากาศ
หมัดของโนอาร์ได้พุ่งสวนกระแสพายุแห่งการโจมตีนั้นเข้าไป
หุ้มหมัดด้วยกระแสไฟฟ้าที่ขับให้ไหลผ่านออกมา สร้างเป็นวังวนพายุสายฟ้าอันน่ากลัว แล้วกระแทกใส่ไปที่ใจกลางหลังของเสือสมิงเต็มแรง
“โฮก!”
เสือสมิงที่กำลังอยู่ในร่างของเผ่ายักษ์ ถึงกับคืนร่างมนุษย์สัตว์-เสือ แล้วกระเด็นตกลงไปที่ใจกลางฝุ่นดินหนาบนพื้น
ตำแหน่งนั้น คือจุดที่นักรบสีทองกำลังนอนคลุกฝุ่นอยู่
“ดีเลย จะได้ไม่ต้องวิ่งตามให้เหนื่อย—”
นักรบสีทองที่สภาพเนื้อตัวเปื้อนฝุ่น และเต็มไปด้วยรอยแผล กำลังลุกขึ้นยืนในสภาพที่ราวกับบาดแผลเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บ
ทั้งที่ความจริงเจ็บปวดไปทั้งกล้ามเนื้อจากการแข่งขัน อีกทั้งมีกระดูกหักแท้ ๆ
“—เรานะ กำลังรู้สึกหงุดหงิดที่สุด!”
เธอคำรามด้วยโทสะ
ทั้งโกรธที่บังอาจวางกับดักระดับกดพลังของเธอเอาไว้
ทั้งเกลียดที่บังอาจทำให้เธอบาดเจ็บ
แต่ไม่ว่าจะเป็นโทสะจากเรื่องใด ๆ ก็ไม่เท่าเรื่องที่พวกมันบังอาจไปเล็งโจมตีใส่พวกเด็กใต้การดูแลของเธอ
เป็นความโกรธระดับเดียวกับของแม่นก ที่หวงแหนนกตัวน้อยของตัวเองเช่นนั้น
*ฉัว!*
*พลั๊ก!*
*บึ๊ก!*
นักบวชสีฟ้า นักบวชสีเหลือง และ หนึ่งมือแมว
มันกลายเป็นวงสหะบาทา สามรุมหนึ่ง แทบจะในทันที
จากบนท้องฟ้าสองคน และภาคพื้นดินหนึ่งคน
โดยเฉพาะการโจมตีจากแม่สาวสีทอง ที่เป็นการโจมตีชนิดคมดาบ เล็งเป้าไปที่คอหอยหวังสังหารในดาบเดียว
*โฮกกก!*
เสือสมิงคำรามลั่น
มันคำรามอย่างเจ็บปวดออกมาในจังหวะที่เกิดการโจมตีเข้ามาจากทั้งสามทิศทาง
แต่ไม่ใช่การคำรามเพราะเจ็บปวดจากการโดนโรมรัน
แต่เป็นความเจ็บปวดจากการที่รางกายกำลังเปลี่ยนแปลงโครงกระดูกกับรูปร่างกายอย่างฉับพลัน
หัวจักงอกออกมานับสิบเศียร
แขนงอกเงยออกมานับพัน
ขางอกเพิ่มยึดโยงฐานให้ยืนมั่น
หากว่าการแปลงร่างเพียงร่างเดียวมิอาจพอต่อกรศัตรูที่มากกว่า ก็รวมเอาทุกร่างชีวิตที่เคยกินออกมาในคราเดียวเสีย
“เฮ้ย!”
“ตัวบ้าอะไรกันยะ!”
[ขี้โกงค่ะ ಠ_ಠ]
สามสาวรีบหยุดการโจมตี แล้วกระโดดหนีออกมาในจังหวะก่อนจะถึงตัว
เพราะหากฝืนโจมตี คงโดนมือและดวงตาที่มีจำนวนมากกว่า โจมตีสวนกลับ หรือไม่ก็ถูกจับยึดตรึงร่างกายจนไม่อาจขยับไปไหน
ซึ่งพวกเธอตัดสินใจได้ถูก
ในจังหวะพอดีกับที่กำลังถอยออกมาตั้งหลัก ได้มีคลื่นโซนิกรุนแรงวิ่งตัดผ่านหน้าไป
คลื่นโซนิกนั้นตัดพื้นสนามแข่งจนเกิดเป็นรอยบาก คว้านเอาเนื้อไม้ที่เป็นผิวแข็งของต้นไม้ลอยฟ้าออกมาจนเป็นคลองขุดขึ้นใหม่
ที่ปลายทางของคลืนโซนิก คือตัวอัฒจันทร์ฝั่งที่พวกตำรวจสากลกำลังรวมตัว
“หลบเร็ว!”
มนุษย์หนุ่มออนรีบออกตัวกระโดดหนีก่อนใคร
เหล่าตำรวจสากลต่างกระโดดหนีตายออกมา
แต่ทว่ามีถึงครึ่งหนึ่ง ที่ไม่อาจตอบสนองทันการโจมตีที่ไม่คาดคิด และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้
*ปร๊าง!*
เกิดเสียงกระแทกดังกึกก้องสนาม
อัฒจันทร์ไม้ที่บรรทุกคนดูนับแสนแตกกระจายไปถึงครึ่งหนึ่ง
เศษไม้ปลิวว่อนไปทั่วพร้อมกับร่างและชิ้นส่วนของคนดูที่กระเด็นไปคนละทิศ
เพียงพริบตา การโจมตีนั้นก็ทำให้ผู้คนเสียชีวิต และสูญหายไปนับหมื่นคน
*กีสสส!*
ร่างของเบลเซบับได้ผุดบินกลับขึ้นมา
มันบินลอยต่ำไปอยู่เคียงข้างร่างของเสือสมิงทางขวา
เทนงูที่บินบนฟ้า ได้บินลอยต่ำลงมายืนคู่ข้างซ้าย พร้อมกับงอกแขนข้างที่ขาดกลับคืนมา
ส่วนฝั่งนักบวชสาวเองก็เริ่มยืนตั้งหลักใหม่
ตรงกลางคือนักบวชผมทอง
ฝั่งซ้ายคือนักบวชผมสีฟ้า
ด้านขวาคือโนอาร์
ในกลุ่มฝุ่นควัน มีกระต่ายขนสีดำซ่อนตัวรอจังหวะ
บนฟ้ามีนักบวชผมแดง กับราชินีแวมไพร์ที่กำลังล้อมกรอบด้วยฝูงค้างคาว
นอกจากนี้ยังมีมนุษย์หนุ่มออน เป็นตาเหยี่ยวสนับสนุนจากฝั่งนอกสนาม
ถึงจำนวนจะเป็นต่อ—
*ฮูมมมมมมม!*
—กระนั้น ก็ไม่ได้ดูจะได้เปรียบเหล่าอสูรวิญญาณทั้งสามตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย—
“อย่าลืมฉันไปสิค่ะ!”
ถ้าหากว่าไม่ลืมคุณนกติดบัคคนนี้ไปคนนี้อะนะ
MANGA DISCUSSION