*ปรี๊ด~~~~ด!!!*
“ผู้เข้าแข่งเอโซ ผู้เข้าแข่งเปอร์ไซต์ ทั้งคู่ต่างเข้าเส้นชัยพร้อมกัน!”
“มองทันไหม B2!? ผู้เข้าชมละ? มีใครมองทันบ้าง!?!”
พวกโฆษกนี่ช่างหนวกหูเสียจริง
“ใครชนะกัน ใครชนะ!”
“ต้องเปอร์ไซต์สิ! เพราะว่าเธอน่ารัก!”
“ไอบ้า! ต้องสาวนกน้อยผมทองสิวะ! น่ารักเหมือนลูกเจี๊ยบเลย! เอโซต่างหากที่ชนะ!”
“เปอร์ไซต์! เปอร์ไซต์! เปอร์ไซต์!”
“เอโซ! เอโซ! เอโซ!”
ไอพวกหน้าม่อกองเชียร์เองก็หนวกหูไม่แพ้กัน
แต่ส่วนตัวแล้ว— ฉันไม่ได้รู้สึกเลวร้ายกับเสียงเฮลั่นที่กำลังมีให้กับตัวเองหรอกนะ
ว่ายังไง? ตอนนี้พวกแกกำลังชื่นชมฉันอยู่นะ?
พวกแกยังกล้ามีความคิดดูถูกนกที่มีปีกพิการอีกต่อไหม?
ว่ายังไง? ว่ายังไง? ว่ายังไง!
ฉันเริ่มพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกอย่างภาคภูมิใจ
ถึงจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองได้ที่สอง—
“ภาพนิ่งออกมาแล้วครับ— ผู้ที่เข้าเส้นชัยได้ก่อนคือ—- เปอร์ไซต์!”
ภาพนิ่งที่ถูกฉายขึ้นบนจออากาศ คือภาพในตอนที่พวกเราสองคนกำลังบินลอดผ่านห่วงสุดท้ายที่เป็นเส้นชัย
บนภาพนิ่งนั้น ฉันได้แพ้ยัยนกติดบัค เพราะปลายผมเรด้าสีทองของฉัน มันสั้นกว่าปลายเส้นผมเรด้าสีแดงของยัยนกติดบัคราวหนึ่งนิ้วชี้มนุษย์
“เฉือนชนะกันด้วยปลายเส้นผมเรด้าเนี่ยนะ…”
“เข้าก่อนก็คือเข้าก่อนละน่า B1!”
“สงสัยปีหน้าคงต้องเพิ่มกฏให้โกนหัวก่อนเข้าแข่งแล้วละแบบนี้”
เออ… ถ้าต้องให้โกนหัวก่อนเข้าแข่ง แบบนั้นรับรองว่าไม่มีใครเข้าร่วมแข่งแน่
“เปอร์ไซต์!”
“ผู้ชนะคือนกสีแดงขาว— เปอร์ไซต์!”
เสียงเรียกชื่อของยัยนกติดบัคเริ่มดังกระหึ่มไปทั่วสนาม
นี่ขนาดยัยนกติดบัคมันใช้วิชาวิญญาณไม่เป็น แต่ฉันยังแพ้
แต่ทว่า— ถึงจะแพ้ ฉันก็ไม่ได้รู้สึกแค้นเคืองหรือน้อยใจอะไรเลย
เพราะว่าเธอนั้นบินได้เร็วกว่าการใช้กำลังขาของฉันวิ่งเหินเวหาจริง ๆ
ฉันไม่ใช่พวกขี้แพ้ชวนตีหรอกนะ
“ถึงจะเป็นที่สอง แต่เอโซก็สุดยอดไม่แพ้กัน!”
“ขนาดโครงสร้างปีกที่ว่าแข็งแล้วยังหนักเป็นเหล็กยังบินได้ขนาดนี้! สุดยอด!”
“เอโซ! เอโซ! เอโซ!”
เราเริ่มหันไปมองดูรอบ ๆ ระหว่างที่พวกกองเชียร์กำลังส่งเสียงดัง
สหายสองคนยังคงเฝ้าระวังอยู่ปกติสุข โดยมีพวกเด็ก ๆ นั่งส่งเสียงดังอยู่อย่างปลอดภัยที่ข้างตัว พร้อมกับกระเป๋าเงินมีชีวิตของพวกเรา
ส่วนพวกคาร์นิวอย—
“อ๊า… ดูเหมือนว่าปีนี้จะมีคนเข้าเส้นชัยแค่ 2 คน ส่วนผู้เข้าแข่งที่เหลือ กลายเป็นนกย่างไปหมดตั้งแต่สนามแข่งแรกแล้วละ B1”
“ทั้งที่มีปีกที่สมบูรณ์แท้ ๆ ช่างน่าขายหน้าจริง ๆ ”
ตรงที่มุมของสนาม มีของที่กำลังส่งกลิ่นหอมลอยคลุ้งไปทั่วสนาม
นกย่างสด…
บรรดาผู้เข้าแข่งขันถูกย่างสดเหล่านั้น กำลังถูกทยอยขนลงมาจากยานสีขาวที่มีดวงตรากาชาดสีแดงประทับข้างลำตัวยาน
มีทั้งคนที่ดูเหมือนนกอีแรงค์ คนที่ดูคุ้น ๆ เหมือนไอพวกปากเสียที่เคยเจอ
อื่ม… สุดท้ายคือไม่มีใครรอดผ่านสนามแรกมาได้สักคน
แอบสะใจพิลึก
“เอโซ! เอโซ! เอโซ!”
“เปอร์ไซต์! เปอร์ไซต์! เปอร์ไซต์!”
“เอโซ! เปอร์ไซต์!”
เสียงเชียร์ยังคงดังกระหึ่มคับก้องสนาม
ช่างน่าตลก
ในยุคสมัยที่ฉันยังไม่ได้เป็นเทพเจ้า
ตอนนั้นล้วนมีแต่คนดูถูกรังเกียจ
ต่อให้ฉันคิดค้นปีกเทียม หรืออุปกรณ์กับดัก รวมไปถึงพัฒนาหน้าไม้ที่ใช้เพื่อล่าสัตว์แค่ไหน ก็ไม่เคยได้รับคำชื่นชมใด ๆ กลับมา
ซ้ำมีแต่จะโดนดูถูกเพิ่ม
แต่ตอนนี้ทุกคนกลับกำลังชื่นชมฉัน
เผ่ามนุษย์นกกำลังชื่นชมส่งเสียงเชียร์ให้กับฉัน
ฉัน— กำลังได้รับการยอมรับจากเผ่าของตัวเอง—
มาคิดดูแล้วก็น่าขันดี
ฉันที่ได้ละทิ้งบ้านเกิด สร้างดาวดวงใหม่ พร้อมกับเอาวิญญาณของพวกคนบ้านเกิดมาจุติที่นี่ เพื่อหวังสร้างโลกที่โหดร้ายเป็นการแก้แค้น
ตอนแรกเราร่วมมือกับสหายทั้งสามคนสร้างโลกใบนี้เพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียว
แต่ทำไม— เจ้าพวกที่ถูกฉันแก้แค้นด้วยการหวังให้มาอยู่ในโลกที่โหดร้ายที่สุด กลับกลายเป็นได้รับการยอมรับจากกลุ่มคนเหล่านั้น
ช่างน่าขันเสียจริง
“ช่างน่าขันจริง ๆ … ทำเอารู้สึกผิดที่เอาพวกแกมาทำสงครามตอนช่วงสร้างโลกเลยแฮะ”
มันรู้สึกดีมากเลยละที่ได้รับการยอมรับจากคนอื่น นอกจากเพื่อนรักสามคน
รู้สึกดีมากเลยละ—
*แปะ* *แปะ* *แปะ*
เสียงตรบมือ…
มันเป็นเสียงตรบมือที่ดังกังวาลจนกลบเสียงอื่นของสนามจนมิด
ดังอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าคนที่ออกเสียงตรบมือนั้นไม่ได้ใช้อุปกรณ์ใด ๆ ช่วย นอกจากมือทั้งสองข้างของเขาเอง
“ช่างน่ายินดี ช่างน่ายินดี~ ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะอันดับหนึ่ง—”
ชายเผ่าปีศาจคนนั้น คือคนที่กุมลูกแก้วคริสตัลวิญญาณเอาไว้ในมือ
“ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะอันดับสอง—”
เขาพูดออกมาอย่างไม่สนใจสายตาของผู้คนทั้งสนามที่กำลังหันมามองไปทางเขาเป็นสายตาเดียวกัน
เขาไม่สนใจแม้แต่แววตาสงสัยของราชินีย์ที่กำลังจ้องมาทางเขาด้วยความงุนงง
“การแพ้ชนะครั้งนี้— ทำเอากระผมเริ่มเดาไม่ถูกเลย…”
อ่า…
พูดแบบนี้ แปลว่าไม่คิดที่จะปกปิดตัวตนต่อไปอีกแล้วสินะ?
สรุปคนที่เป็นตัวการก่อความวุ่นวาย จนทำให้สมดุลมิติระหว่างโลกคนเป็นกับคนตายผิดเพี้ยน ก็คือไอหมอนีจริง ๆ อย่างที่คิด?
ให้ตายเถอะ ถ้าคิดที่จะวางกับดักแล้วท้าชนพวกเราตรง ๆ ทำไมถึงไม่คิดทำตั้งแต่แรกกันยะ!
พวกเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามหาตัวมาตั้งนาน แล้วไปกระทืบให้จบ ๆ ไปตั้งแต่แรกเลย!
“ว่าใครคือ [เทพเจ้า] นะครับ”
แต่มันน่าคิดอยู่อย่าง…
จะ [ง่าย] ไปหรือเปล่า?
ในตอนนั้นเองที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวบางอย่างจากฝั่งคนดู
ฉันเห็นเจ้าออน กับกลุ่มคนน่าสงสัยที่กระจายตัวไปรอบสนามแข่ง กำลังเคลื่อนไหวเข้าล้อมกรอบชายเผ่าปีศาจคนนั้น
เจ้าบ้ามนุษย์หนุ่มซื่อบื้อนั่น— เดียวก็ได้ตายกันพอดีหรอก!
“หยุด! กระผมคือเจ้าหน้าที่ออน! ขอใช้อำนาจของตำรวจสากลในการจับกุม [แวนเจอร์] ผู้ต้องสงสัย–”
“คุณออน คุณควรจะลั่นปืนยิง มากกว่าพล่ามพูดมากนะครับ”
*เพล๊ง*
เกิดเสียงคล้ายกระจกแก้วแตกดังแทรกขึ้นมาในจังหวะที่เจ้าออนลุกขึ้นมาเล็งปืนใส่อีกฝ่าย
บรรยากาศของพื้นที่กำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
คริสตัลบรรจุวิญญาณทั้งสามลูก ซึ่งซ่อนอยู่กับพรรคพวกของเขาบนอัฒจันทร์คนดูสองลูก และอีกหนึ่งตรงเจ้าอีแรงค์ย่างที่นอนเดี้ยงบริเวณยานกาชาด กำลังมีกลุ่มควันวิญญาณลอยคลุ้งออกมา
“แอะ? หนาว? ”
“ทำไมอากาศถึง— หนาว? ”
คนที่มองไม่เห็นวิญญาณ ย่อมไม่รู้ว่าความหนาวเหล่านั้น เกิดจากพลังงานวิญญาณที่กำลังดูดกลืนพลังงานความร้อนในชั้นอากาศ เพื่อเอาไปสร้างร่างกายเสมือนให้เกิดขึ้นบนพื้นที่มิติคนเป็น
“เอ๊ะ? เอ๊!? เดียวก่อนสิ ทำไมลูกแก้วถึงแตกตอนนี้? ไม่ใช่ว่า– บาร์-ธา-ซ่าร์! ทำไมข้าถึง— หนาว— ขยับไม่—”
” ออน–? บาร์-ธา-ซ่าร์-? นี่พวกคุณ—”
ขนาดมังกรทมิฬยังสิ้นท่าทำให้คลั่งในการถูกพลังงานวิญญาณเข้มข้นเข้าบงการ แล้วกับคนธรรมดาอย่างพวกมันจะเหลือนะหรือ?
คนหนึ่งร่างกายเริ่มขยายใหญ่โต มวลเปลือกแข็งหุ้มกายดูกล้าแกร่ง แขนขาแมลงอันแหลมคมงอกเงยเพิ่มนับพัน อีกทั้งเขี้ยวยังยื่นยาวออกมากว่าสองเท่าตัว
ก้นปล่องใหญ่โต แล้วยังมีปีกงอกจากใจกลางหลัง
ราวกับเป็นอวตารของเทพผู้ถูกขับจากสวรรค์
[เบเอลเซบูล] หรือ [เบลเซบับ]
อีกคนผิวหนังเริ่มพลัดขน
รูปร่างฉับพลันแปรเปลี่ยน เนื้อแขนเดียวงอก เดียวหด เปลี่ยนรูปทั้งโครงกระดูกกับร่างกาย และเผ่าพันธุ์
เดียวเป็นมนุษย์
เดียวเป็นยักษ์
บางคราเป็นภูติ
แล้วสับเปลี่ยนกลับเป็นเสือ
ราวกับเป็นสัตว์ปีศาจในตำนาน ผู้ซึ่งมีตบะมากพอแปลงกายเป็นผู้ใด ๆ ที่ได้เคยกินลงท้องไป
[เสือสมิง]
อีกคนขนกายเริ่มกลายเป็นสีแดง
มีมือของมนุษย์งอกแทรกคู่กับปีกที่กำลังกลายเป็นขนสีขาว
ปลายนิ้วมือทั้งห้าถูกหุ้มด้วยขนนกสีดำจนดูคล้ายพัด
ร่างเสมือนหนึ่งนกปีศาจตำนาน
[เท็นงุ]
จุดจบของพวกคนเขลา
ถูกชักจูงด้วยความละโมบอันวิปริต
หลอกใช้เพื่อก่อความวุ่นวายบนโลก
หลังสิ้นคุณค่า จักทอดทิ้ง บงการให้เหลือแต่ซากร่างกายที่ถูกสิงสู่ มิอาจใช้วิญญาณหรืออัตตาตัวเองสั่งการได้
สิ้นอิสระภาพในวาระสุดท้ายเช่นนี้ไป
MANGA DISCUSSION