“ตอนนี้เวลา 10:20 น. อีกไม่ถึง 10 นาที งานแข่งจะเริ่มแล้วครับ ขอให้ทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อมด้วย!”
“B2 นายลืมคาร์เล็กเตอร์ของตัวเองไปหรือเปล่า!”
“อ๊ะ!? ขอโทษด้วยนะ B1 ที่ลืมถามความเห็นของนายไปก่อน!”
เสียงโฆษกเล่นมุขเห่ย ๆ ยังคงดังไม่หยุด
คิดว่าน่าจะพล่ามต่อไปจนกว่าเสียงปืนให้สัญญาณออกตัวจะดัง
ซึ่งสำหรับฉันแล้ว ตอนนี้สมาธิแทบจะไม่ได้อยู่ที่ในงานแข่งเลยแม้แต่น้อย
เพราะตอนนี้ดันมีเรื่องน่าสนใจกว่า มาปรากฎขึ้นในสนามแห่งนี้
เมื่อวันก่อน เจ้าหนุ่มออนมีส่งเมล์เตือนเรื่องเป้าหมายสังหารของพวกองค์กรวิปลาสที่ชื่อคาร์นิวอยมา
ในเมลล์บอกว่าพวกมันกำลังสงสัย ว่าพวกเราเป็นคนที่ฆ่าพรรคพวกของมัน เลยคิดจะมาเอาคืนด้วยการสังหารคนที่เป็นเหมือนแม่ของพวกเราอย่างป้าเทเรซ่าแทน
ช่างมันดิ
ยังไงชีวิตของป้าเทเรซ่าก็ไม่ต่างอะไรไปจากสัตว์เลี้ยงที่อายุขัยสั้นสำหรับพวกเรา ที่มีชีวิตยืนยาวมากกว่าหนึ่งพันปีอยู่แล้ว
ไม่มีความรู้สึกภาระผูกพันอะไรมากมายนักหรอก
“…”
พูดจริง ๆ นะว่าไม่รู้สึกผูกพันอะไรเลย
ดังนั้นประเด็นจึงตกไปที่ว่ามีเจ้าบ้ากลุ่มหนึ่ง เริ่มมองพวกเราสามคนเป็นศัตรู
ประกอบกับวันงานแข่งนี้ ที่เจ้าพวกบ้านั่น จะพกคริสตัลวิญญาณลอบเข้ามาในงานด้วย
เพราะคริสตัลสำหรับบรรจุวิญญาณมันแผ่ไอรังสีออกมาน้อย เลยทำให้ไม่รู้ตัวจนกระทั้งต้องเอาตัวเองมาอยู่ในรัศมีที่สัมผัสถึงมันได้
ไอเรื่องนี้แหละ ที่ทำให้เรารู้สึกแปลกใจ
เพราะคนที่จะเอาของแบบนี้เข้ามาที่โลกนี้ได้ มันคงมีแต่ตัววายร้ายหลัก ที่พวกเรากำลังตามล่าตามคำสั่งท่านยม
ตัวร้าย มันทั้งจับฑาทิมมาซ่อนตัวในเมืองนี้ แถว ๆ โกดังเก็บของใจกลางเมือง
แล้วยังที่สนามแข่งยังมีลอบนำคริสตัลวิญญาณเข้ามาปนภายในงานโดยพวกคาร์นิวอยอีก
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ศัตรูมันคงเริ่มเดาได้แล้วว่าพวกเราสามคน น่าจะเป็นเทพที่ลงมาจุติตามหามัน
อย่างว่า พวกเราเองดันทำอะไรโจ๋งครึ่มออกไป อย่างการตามติดเจ้าฑาทิมมาถึงที่นี่
เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก ศัตรูมันเลยเดามาในทิศทางที่ถูกต้องได้สำเร็จ
แต่ในทางกลับกัน ทางฉันเองพอจะเดาได้แล้ว ว่าใครคือศัตรูที่เป็นเทพ หรืออาจเป็นวิญญาณที่เคียดแค้นพวกเรา
ทุกอย่าง— มันเชื่อมโยงไปที่คาร์นิวอย
ผู้นำสูงสุดของมัน น่าจะเป็นตัวการหลัก
ผู้นำคาร์นิวอยมีหลายคน เลยทำให้ไม่รู้ว่าเป็นใคร
แต่ถ้าให้เดา คิดว่าคงไม่พ้นชายที่ชื่อ บาร์-ธา-ซ่าร์
แผนของมันที่จับตัวฑาทิม เพื่อล่อพวกเรามางับเหยื่อมันได้ผล
แต่ในทางกลับกัน สิ่งนี้เองก็เชื่อมโยงให้พวกเราไล่ตามมาถึงตัวการ
“…พอรู้ตัวจริง เลยคิดที่จะท้าชนตรง ๆ สินะ? ”
สงสัยงานนี้ได้มีทวีปจมสักสองสามทวีป
เฮ้! ท่านยม! ถ้าท่านกำลังดูอยู่จากโลกอีกฝั่ง! รบกวนช่วยเตรียมกองทัพเทพเจ้าเพื่อเอาไว้หน่อย!
ถึงจะมีกฏห้ามแทรกแทรง แต่นี่น่าจะกลายเป็นชนวนระดับทำให้มิติคนเป็นกับคนตายเสียสมดุลได้!
พวกเรา– สามคนที่เป็นแค่ร่างเนื้อ อาจพลาดท่า! อย่าลืมเตรียมแผนสำรองด้วยละท่านยม!
หวังว่าจะกำลังมองดูอยู่นะ!!
“5”
เสียงปืนสัญญาณออกตัวกำลังจะดังขึ้นในเวลาอันใกล้
“4”
มัวแต่ให้ความสนใจกับอย่างอื่น จนถึงเวลาแข่งแล้วหรือ?
“3”
อย่าพึ่งรีบร้อนตัวแสดงท่าทีเป็นศัตรู เพราะอีกฝ่ายเองก็กำลังรอดูเชิงอยู่เช่นกัน
“2”
ตอนนี้— มาเล่นตามเกมส์กันก่อนดีกว่า
“1”
ฉันหันไปมองสหายกับพวกเด็ก ๆ ที่ตามมาเชียร์เสียงดังจากฝั่งคนดู ที่อยู่ทิศตรงข้ามกับพวกคาร์นิวอย
เด็ก ๆ ผู้น่ารักผมขาวกำลังยิ้มส่งเสียงดัง
ส่วนสหายอีกสองคนพยักหน้าให้เป็นเชิงสัญญาณ ว่าพร้อมรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดในทุกรูปแบบ
*ปั่ง!*
“ขอออกตัวไปก่อนน้า~!!”
พริบตาที่เสียงยิงปืนดัง ราวกับมีดาวตกสีแดงแรงสามเท่า พุ่งผ่านแหวกผู้เข้าแข่งที่กำลังทำท่ากางปีกโบยบิน
ฝูงบินล้วนต่างแตกกระเจิง จำยอมต้องหลีกทางให้กับดาวตกสีแดง
เพราะถ้าไม่หลบ คงได้กลายสภาพเป็นนกปีกหักไปในทันทีแน่
“ขอโทษด้วยค่า~ แต่หนูต้องชนะงานนี้ให้ได้ เพื่อเงินรางวัลค่าซ่อมยานค่ะ!”
ผู้แข่งขันที่มีขนสีแดงสลับสีขาวคนนั้นสวมเสื้อกล้ามตัวบางที่เปิดหัวไหล สวมผ้าปิดปากที่เปิดจมูกให้หายใจ กับสวมแว่นตาดำเพื่อปิดบังใบหน้า
ถึงจะพยายามปลอมตัวยังไง แต่ดูก็รู้ว่าผู้เข้าแข่งคนนี้คือยัยนกติดบัค ที่มังกรของเธอพึ่งทำลายยานของเราพังไป…
“ดูนั่นสิ B1! ผู้เข้าแข่งสีแดงคนนั้นออกตัวเร็วสุด ๆ ไปเลย!”
“จริงด้วย B2! ไหน— ผู้เข้าแข่งคนนี้เหมือนจะลงทะเบียนในชื่อ— เปอร์ไซต์? ชื่อเดียวกับวีรสตรีมนุษย์นกในตำนานคนนั้นด้วยละ B1!”
มันก็คนเดียวกันนั่นแหละไอพวกสมองนก!
เพราะมัวแต่ให้ความสนใจอย่างอื่นมาตลอด เลยลืมที่จะตรวจเช็คตำแหน่งของยัยนี่ไปเลย
สรุป— ที่ยัยนกติดบัคหนีหายตัว ก็เพื่อพยายามหาเงินมาซ่อมยานที่ทำพังไปนี่เอง
ช่างเป็นคนที่ซื่อบริสุทธิ์จนไม่น่าเชื่อว่ามีอายุชีวิตเกิน 100 ปี แล้วจริง
เอาเถอะ
งั้นงานนี้เราคงไม่ต้องแข่งจริงจังมากก็ได้มั้ง?
เพราะคงไม่มีไอบ้าตัวไหนเอาชนะยัยนกติดบัคได้หรอก
“อ่าว~ นั่นแม่สาวนกที่บินไม่ได้นี่~ เข้าร่วมงานแข่งกับเขาจริง ๆ ด้วยแฮะ”
“คนเขาเริ่มออกบินกันไปหมดแล้ว ถ้าไม่รีบ เดียวจะแพ้เอาได้น้า~”
“แต่เธอบินไม่ได้นี่? จะสู้เก่งแค่ไหนก็ไม่รู้ละ แต่ช่างไม่รู้จักประมาณตัวเสียจริง ไอพวกนกปีกง่อย ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
เราหันไปตามเสียงของไอพวกนกปากเสียสามตัวที่พึ่งจะบินผ่านไป
“…”
เกือบลืมไปแล้วว่ายังมีอีกเหตุผลที่เรามาร่วมแข่งงานนี้
นั่นก็เพื่อแสดงให้เผ่ามนุษย์นกทุกคนได้รับรู้ ว่าไอความหยิ่งทรนงของปีกที่บินได้ มันเป็นแค่เรื่องโง่ ๆ ของเผ่ามนุษย์นกเท่านั้น!
ฉันไม่สนพวกปากเสีย แล้วยืนรอจนกระทั้งทุกคนออกตัวบินไปจนหมด
มันมีสาเหตุ ที่ฉันต้องยืนรออยู่ที่จุดเริ่มต้นแบบนี้
เพราะไม่งั้น ถ้าฉันออกตัวด้วยวิธีการของฉัน มันจะทำให้ทุกคนใกล้ตัวต้องตายกันหมด
“B1! ปีนี้ผู้เข้าแข่งก็ยังคงคึกคักเหมือนอย่างเคยเลย”
“ต้องบินวนรอบทวีปหนึ่งรอบ— (ถึงจะไม่ใช่รอบจริงก็เถอะนะ) — ในสภาพช่วงเปลี่ยนฤดูของเดือน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบินเอาชนะธรรมชาติของทวีปแห่งนี้ได้ใช่ไหม B2”
“ใช่แล้ว B1 เพราะนอกจากต้องบินผ่านธรรมชาติอันโหดร้าย ยังจะต้องบินไปตามเส้นทางบังคับ ผ่านวงแหวนลอยอากาศที่วางเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ด้วย ถ้าไม่บินไปตามเส้นทางที่กำหนด หรือบินผ่านครบทุกวง ต่อให้มาถึงเส้นชัย ก็ไม่ชนะงานแข่งนี้ได้หรอก”
“คิดว่าปีนี้จะมีคนชนะไหม B2? ”
“ไม่รู้สิ อาจจะมีก็ได้น้า~ แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้มีคนตกรอบไปแล้วหนึ่งคนด้วยละ”
พวกโฆษกหัวเราะร่วน แล้วขึ้นภาพของฉันที่กำลังยืนอยู่ใจกลางลานออกตัว
บนใจกลางลานกว้างนั้น ตอนนี้เหลือเพียงแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น
“ทุกคนคงไม่มีใครไม่รู้จักนักบวชชื่อดังที่ตกเป็นข่าวคนนี้ [เอโซ คอมพาวด์] ถึงเธอจะเก่งระดับล้มไคจูได้ แต่พวกเรามีข่าวทราบมาว่าเธอคือมนุษย์นกที่มีปีกพิการล่า~ (ลากเสียงยาว) ”
“ปีกพิการอย่างงั้นหรือ B1? ”
“ใช่สิ B2 ปีกของเธอมีโครงสร้างประหลาดที่ทำให้แข็ง และโครงสร้างเพียนไปจากปกติ เลยทำให้ไม่สามารถสร้างแรงกระพือเพื่อยกตัวลอยเหมือนคนอื่น ๆ ได้ ช่างน่าสงสารจาง~”
“ถ้ารู้ตัวว่าพิการปีก แล้วจะมาแข่งงานนี้ทำไมกันนะ B1? ”
“นั่นสิ B2~”
ไม่ต้องสนใจโฆษกที่กำลังเริ่มปากหมา แล้วตั้งสมาธิไปที่กำลังกาย ใจ และวิญญาณ
ขับดันพลังงานวิญญาณ แปลงมันให้กลายเป็นสนามพลังหุ้มกาย
ร่างกายมิอาจเปลี่ยนแปลงได้ หากแต่พลังงานนั้นยังคงเปลี่ยนรูปแบบอยู่
ใช้มันเสริมโครงสร้างภายนอก แล้วทำฐานที่ยืนให้มั่นคง เพื่อเตรียมตัวบินทะยาน
บินทะยาน— ออกไปดั่งจรวดที่บินออกจากฐานยิง
***
ณ วินาทีนั้น โลกทั้งใบจักดูสงบลง
เสียงพูดคุยที่ดูหมิ่นเหยียดหยามจากเพื่อนร่วมเผ่า ฉับพลันสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณอันแรงกล้าของมนุษย์นกสาวตัวน้อยสีทอง ที่มิอาจบินได้
สายลมอันบ้าคลั่ง ถึงกลับยอมสงบลงให้ ณ เวลานั้น
เสียง ฉับพลันเงียบงันไม่เกิดการเคลื่อนไหว
เหลือแต่เพียงเสียงแห่งสายลม
ดวงตาของมนุษย์นกสาว สะท้อนเพียงแต่ภาพเวิ้งว้างของอากาศยามเช้ามืดที่ไร้หมู่ดาว
มองเพียงแต่ความเวิ้งว้าง บนมิติจิตภาพอันไร้ขอบเขต
เคลื่อนไหวพลังงานแห่งวิญญาณลงสู่ผ่าเท้า
สะสมพลังที่ไม่อาจมองเห็นถึงจุดวิกฤติ
*บรึ้ม!*
ใช้ขา กับพลังงานอันน่าทึ่งนั้น บินทะยานออกไป ดั่งเป็นจรวด
แผ่นดินจักยุบตัวลงลึกกว่าห้าสิบเมตร เกิดเป็นหลุมบ่อกว้างราวกับมีอุกกาบาตร่วงหล่น
กางปีกสีทองที่แข็งกร้าวออกกว้าง โผมันจนเห็นเป็นปีกเหล็กกล้าสีทองคำที่ลากเป็นเส้นทะยานตัดผ่านที่ว่าง ดั่งเป็นแสงสว่างจากดาวตกที่กำลังบินข้ามขอบฟ้า
ผู้คนล้วนยืนอ้าปากค้าง—
มนุษย์นกที่พวกตนดูแคลน ได้พุ่งบินออกไปด้วยแรงถีบ ขึ้นแซงนำเป็นอันดับหนึ่งของฝูงไปในเพียงเสี้ยวพริบตาเท่านั้น
MANGA DISCUSSION