***วันที่ 55 เกอเนรับส์ ปี 126 เวลา 41:00 น.***
“งั้นราตรีสวัสดิ์ ขอบคุณสำหรับการคุ้มกันในวันนี้นะครับ คุณออน”
“ครับ ยินดีที่ได้รับใช้ครับ คุณเดสตินีย์”
ผมอำลากับเจ้านายในโรงแรมทรงรังนกที่สร้างด้วยท่อนไม้แห่งหนึ่ง
หลังจากโค้งตัวอำลาอย่างพอเป็นพิธีเสร็จ ก็รีบแยกกับเขาที่ห้องโถงใหญ่
ผมเดินไปตามทางเดินที่หรูหราโดยไม่สนใจสิ่งประดับประดาอันพิถีพิถันที่ถูกสร้างขึ้น แล้วมุ่งตรงไปที่ห้องของตัวเอง
เปิดประตู- ปิดประตู- แล้วเริ่มทำการตรวจสอบรอบตัวเองอย่างหวาดระแวง
ทั้งแง้มบานหน้าต่าง ดูตามร่องของผ้าม่าน ตรวจสอบแม้แต่พื้นที่ใต้โต๊ะ
ไม่มีหุ่นสังเกตุการณ์ ไม่มีกล้องวงจรแอบซ่อน
ถ้าจะมีที่อาจรอดสายตาไปได้ คงมีแต่เครื่องสอดแนมประเภทนาโนแมชชีนที่ตรวจจับยาก
แต่เจ้าหุ่นสอดแนมนาโนที่ผมมักเจอบ้าง ไม่เจอบ้าง ช่วงนี้มันได้หายไปตั้งได้หลังจากเกิดเหตุสังหารลาฟาเซียไปแล้ว
ทำไมกันนะ…?
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมามัวกังวลกับเรื่องนั้น
ตอนนี้ ผมต้องรีบใช้โอกาสที่ไม่มีใครสังเกตุการณ์ ส่งข่าวให้กับหัวหน้า เพื่อให้รู้ความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม กับภาพบันทึกหลักฐานคำสั่งเตรียมก่อการร้ายของพวกคาร์นิวอย
ถึงจะยังไม่ชัดเจนดีพอ เพราะตัวการใหญ่มันสวมหน้ากากที่มีเครื่องดัดเสียง แต่ภาพบันทึกที่เก็บมาได้สด ๆ จากการประชุม อาจจะมีประโยชน์ต่อหัวหน้าในการค้นหาตัวจริงของชายที่ชื่อ บาร์-ธา-ซาร์
จะรออยู่ใย รีบกดโทรไปหาหัวหน้าได้แล้ว!
*ตรู๊ด~ กึ๊ก!*
“หัวหน้าโนเนม นี่ผมออนพูด ขอโทษที่ต้องโทรมากลางดึกเช่นนี้ แต่ผมมีเรื่องเร่งด่วนจะแจ้งให้ทราบครับ”
ไม่มีสัญญาณแทรกขัด ดังนั้นไม่น่าจะมีใครกำลังดักฟังสาย
“ว่ามา ข้อมูลในการประชุมมีอะไรบ้าง? ”
น้ำเสียงอีกฝั่งของสาย บอกให้ผมรู้ว่าหัวหน้าคาดการเอาไว้อยู่แล้ว ว่าผมกำลังจะโทรไปหา
เป็นคนที่หูผีจมูกมดจนน่ากลัวชะมัด…
ผมเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดที่เจอในวันนี้ พร้อมกับส่งข้อมูลภาพเคลื่อนไหวและเสียงในการอธิบายไปด้วยกัน
เนื้อหาทั้งหมดกินเวลามากกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งมีครบทุกอย่าง ตั้งแต่แผนการร้ายที่จะเตรียมป่วนในงานแข่งเจ้าเวหา ด้วยวัตถุคริสตัลทรงกลมประหลาด
เนื่องจากผมเป็นพวกที่มีดวงตาเห็นผี เลยรู้ได้ในทันทีว่าไอวัตถุทรงกลมนั้นมันบรรจุอะไรเอาไว้ข้างใน
ไอก้อนพวกนั้นนะ มันไม่ใช่ระเบิดหรอก แต่เป็นวัตถุที่แผ่ไอชั่วร้าย คล้ายกับไอกล่องของขวัญต้องสาปที่เพื่อนสมัยเด็กเอามาใช้เตรียมสังหารในวันเปิดร้านใหม่ของลาฟาเซีย
แต่จะให้อธิบายเรื่องผีสางออกไปให้กับคนที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ฟัง มันคงดูเหมือนไอบ้า ผมเลยแจ้งไปว่ามันเป็นวัตถุประหลาด ที่น่าจะใช้เพื่อดึงดูดสัตว์ประหลาดอันตรายให้เข้ามาใกล้ไปแทน
แล้วก็แจ้งเรื่องแผนการในอนาคต ที่พวกมันอาจจะไปจับตัวนักบวชสูงสุด เทเรซ่า ของวิหารเทพทั้งสาม เพราะเดากันว่าพวกคุณลาพิส เป็นกลุ่มคนที่เป็นต้นเหตุของความตายในกลุ่มของพวกมัน
“…คุณออน คุณนี่เก่งไม่เลว ที่ได้รับความไว้วางใจจากหนึ่งในผู้นำองค์กร ในระดับที่ยอมให้เข้าไปฟังประชุมเรื่องสำคัญแบบนี้ได้ ขนาด ดิไลออน ทำหน้าที่ลอบสังเกตุก่อนคุณตั้งหลายปี ยังเรียกความเชื่อใจจากองค์กรไม่ได้ถึงระดับนี้เลย”
“ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณที่พวกเขาประมาท มายืนคุยกันข้างนอกด้วยครับ”
“เรื่องนี้เองก็ต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน เพราะจากประสบการณ์ทำงานหลายร้อยปีของผม ผมไม่คิดว่าคนที่มีสมองระดับอย่าง บาร์-ธา-ซ่าร์ จะมาพลาดอะไรแบบนี้”
“หลายร้อยปี? ”
“อ๊ะ? แค่พูดเล่นนะ”
แต่น้ำเสียงของหัวหน้าฟังดูไม่ได้ล้อเล่นเลยสักนิด
หัวหน้าเป็นเผ่ามนุษย์ที่ไม่น่าจะมีอายุเกิน 100 ปี ได้หรอก…
คนที่จะมีเกินอายุขัยเฉลียได้ขนาดนั้น ถ้าไม่ถูกเผ่าพิเศษดัดแปลงร่างกายอย่าง [โฮป] ที่เป็นเจ้าขององค์กรหน่วยสำรวจเอกชน หรือเป็นลูกครึ่งพวกเผ่าอายุยืนยาว คงไม่มีทางเป็นไปได้…
หรือว่าหัวหน้าของตัวรวจสากล จะ— ไม่ใช่มนุษย์ปกติ?
เป็นมนุษย์ดัดแปลงอย่างงั้นหรือ?
“นี่คงไม่ได้คิดอะไรอย่าง [หัวหน้าไม่ใช่มนุษย์] อยู่หรอกใช่ไหม? ”
หูผีจมูกมดของจริง!
“… พักเรื่องล้อเล่นเอาไว้แค่นี้ก่อน ผมเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซึ่งจากไฟล์ข้อมูลภาพที่ถ่ายมาได้ ผมคิดว่าคงถึงเวลาที่พวกเรา ตำรวจสากลควรจะเริ่มเคลื่อนไหวระดับสูงสุด”
“เคลื่อนไหวอย่างงั้นหรือครับ? ”
“ใช่ พวกเราจะออกหมายจับในวันแข่งจ้าวเวหา”
“วันแข่งจ้าวเวหาอย่างงั้นหรือครับ? ”
“ใช่ ถึงพวกเรายังไม่รู้ตัวจริงของชายที่ชื่อ บาร์-ธา-ซาร์ แต่ถ้าตามข้อมูลของคุณออนถูกต้อง ชายคนนั้นจะต้องเข้าร่วมชมในงานนี้ พร้อมกับพรรคพวกของมันจริงไหม? ถ้าจะจับมัน ก็ต้องบุกจับตอนที่มันกำลังจะลงมือทำความผิดไปพร้อมกับพรรคพวกของมันเนี่ยแหละ กรณีนี้ต่อให้ไม่รู้ถึงตัวจริงหรือไม่ มันก็ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว และไม่มีวันหาช่องโหว่ของกฏหมายเถื่อดิ้นหลุดได้อีก”
พอได้ฟังแผนการของหัวหน้าแล้ว ผมก็ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาในทันที
“หัวหน้า… ถ้าใช้แผนนี้ บางทีคนที่เข้าร่วมงานอาจจะโดนลูกหลง… ไหนบอกว่าจะไม่ยอมให้มีคนนอกโดนผลกระทบไม่ใช่หรือครับ? ”
“เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะยังดีกว่าออกหมายจับก่อนวันงาน แล้วสุดท้ายเหลือเจ้า บาร์-ธา-ซาร์ ที่แสบที่สุดลอยนวลต่อไป ไม่ต้องห่วง ผมจะระดมมือหนึ่งทั้งหมดของตำรวจสากลให้ไปในวันงานวันนั้น เพื่อลดความเสียหายให้น้อยที่สุด”
“… รับทราบครับ”
สงสัยงานแข่งจ้าวเวหาคงได้ล่มกลางคันหนึ่งร้อยเปอร์เซ็น
คงต้องไปเตือนคุณควอตซ์ ว่าไม่ควรร่วมชมงานแข่ง แล้วพาเด็ก ๆ หนีไปให้ไกลที่สุดจากที่นี่ซะ
“แล้วจะให้ผมทำอะไรบ้างครับ? ”
“ทำหน้าที่ตามติดเดสตินี่ย์ต่อไป ถ้ามีความเคลื่อนไหวแปลก ๆ หรือมีการซ้อนแผนหลอกพวกเราเกิดขึ้น ให้รีบแจ้งมาทางผมด้วย โดยเฉพาะกับ บาร์-ธา-ซาร์ ถ้าเห็นว่ามีอะไรที่แปลกไปเกี่ยวกับเขาแม้แต่ปลายเส้นผมเปลี่ยนสี ก็ให้แจ้งมาทางนี้ด้วยเช่นกัน”
“รับทราบครับ”
*ตรูด—*
สายถูกวางแทบจะในทันทีที่คุยจบ
รู้สึกเหนื่อย…
วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยจริง ๆ …
กี่โมงแล้วเนี่ย…
42:00 น.?
เวลาแบบนี้จะให้โทรไปหาคุณควอตซ์กับคุณแมรี่คงเป็นการรบกวนอย่างมาก
แถมอีกตั้งหลายวัน กว่าที่จะถึงวันแข่งจ้าวเวหา
งั้นตอนนี้ทำแค่ส่งเมล์เตือนไปก่อนแล้วกัน
ของคุณควอตซ์ แจ้งเรื่อง—
จะให้พูดว่าเดียวมีการก่อการร้ายก็คงไม่เหมาะ…
แต่คุณควอตซ์เชื่อเรื่องผีสาง วิญญาณร้าย งั้นบอกไปตรง ๆ เลยแล้วกัน ว่าวันงานอาจจะมีผีบุก ให้รีบพาเด็ก หนีไป
ส่วนของกลุ่มคุณลาพิส—
เคยแลกเบอร์โทรกับเมล์ติดต่อกับคุณเอโซเอาไว้ในครั้งล่าสุดที่เจอกัน
แถมจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ถึงไม่เคยถามหรือบอกกันตรง ๆ แต่คิดว่าพวกเธอน่าจะเดาสถานะจริงของผมได้ ว่าผมกำลังทำหน้าที่อะไรอยู่
งั้นส่งเป็นเมล์แจ้งไปเลย ว่าคุณเทเรซ่ากำลังตกเป็นเป้าของกลุ่มคนบ้า
“…”
ไม่ไหว ๆ
ผมนี่แย่เรื่องการตั้งคำปริศนาชะมัด
ถ้าเมล์เกิดถูกศัตรูดักข้อมูลเข้าละก็ มีหวังผมได้คอขาดแน่
แต่… เหนื่อย! ขี้เกียจคิดแต่งคำพูดมากแล้ว! ส่ง ๆ มันไปเลยนี่แหละ!
อีกอย่าง ถ้าศัตรูมันจะดักข้อมูลเราจริง เราควรจะคอขาดไปตั้งนานแล้วหรือเปล่า?
ผมกดส่งข้อความออกไป แล้วล้มตัวลงบนเตียงนุ่ม ๆ ในทันที
ล้มตัวลงบนเตียง แล้วปล่อยตัวตามสบายไปกับเตียงเปล ที่ถูกออกแบบราวกับเป็นรังนกน้อยบนยอดไม้
นอน— อย่างผ่อนคลายราวกับเป็นลูกนกน้อยในรัง
***ในเวลาเดียวกัน***
ณ โรงแรมอีกแห่งภายในเมืองหลวงบนยอดไม้
ห้องที่ถูกปิดม่านจนทึบ ไม่มีแม้แต่เงาของแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาภายในห้อง
“อีกกาดำ เหยื่อที่จับมาเป็นยังไงบ้าง? ”
“จะฆ่าข้าก็ฆ่าเลยสิวะ! — แต่คิดอีกที อย่าฆ่าข้าเลย ช่วยปล่อยข้าออกไปที!!!!”
“ตามเสียงตะโกนที่ได้ยินนั่นแหละครับท่าน บาร์-ธา-ซาร์ แข็งแรงมากจนหนวกหูเลยครับ”
ข้ากำลังโทรถามลูกน้องผู้ภักดี ถึงสถานการณ์ของ [เหยื่อ] ที่ให้จับมา
[เหยื่อ] เพื่อล่อให้ตัวจริงของเทพเจ้าผู้สร้างโลกใบนี้มาปรากฏตัว
“จับตาดูต่อไป ถ้าพบผู้ตามมาช่วยเหลือ ให้เข้าต่อสู้และจับตัวมาให้ข้าซะ”
“ตามบัญชาครับ”
ไม่ตั้งคำถาม ไม่มีความสงสัยในคำสั่ง
สมกับที่เป็นอีกาดำ
ข้าวางสายแล้วเริ่มรินไวท์เพื่อเตรียมดื่มต่ออย่างมีความสุข
ถ้าอีกาดำสามารถเอาชนะคนที่ตามมาช่วยเหลือได้ คน ๆ นั้นคงไม่ใช่เทพ
แต่ถ้าอีกาดำแพ้ ตอนนั้นแหละ ที่ข้าจะรู้ว่าไอคนนั้นคือเทพเจ้า
แต่ก็อาจจะมีความเป็นไปได้อื่น ๆ ที่เทพเจ้าอาจทิ้งเหยื่อที่ข้าวางล่อ แล้วหาทางไล่สืบสาวมาถึงตัวข้าแทน
ดังนั้น ข้าเลยจงใจใช้โอกาสนี้ งานนี้ เหวี่ยงแห่ไปรอบด้านเพื่อเตรียมการควานหาตัวเทพเจ้าผู้สร้างโลก
หุ หุ หุ~
ใครกัน ที่เป็นเทพเจ้าตัวจริง?
จะมาในรูปแบบของคนจากตำรวจสากลหรือเปล่า?
หรือว่าเป็นผู้ที่อ้างตัวเป็นเทพเจ้าเผ่ามนุษย์สัตว์อย่างโนอาร์?
หรือจะเป็นนักบวชแปลก ๆ ที่มีประวัติลึกลับอย่าง กลุ่มนักบวชทั้งสาม?
หรือไม่แน่– อาจจะเป็นใครคนอื่น ที่อาจตามมาเอาตัวเจ้ายักษ์นั่นกลับไป
ข้าเริ่มจิบไวท์ลงคอ แล้วนึกย้อนไปทบทวนแผนการโง่ ๆ ทั้งหมดของตัวเอง
ข้าไม่สนหรอกว่าใครในองค์กรจะตาย
เพราะอย่างแผนการล่าสุด ข้าก็จงใจสร้างสถานการณ์เพื่อให้ข้อมูลรั่วไหล ต่อหน้าสายลับตำรวจสากลคนนั้น
นี่ยังคิดเลย ว่าวันงานจริง เราตั้งใจจะเปิดเผยหน้าตาตัวจริงของตัวเองด้วย
เพราะมันถึงเวลาอันสมควร ที่ข้าจะต้องชนกับเทพเจ้าที่มาปรากฏตัวบนโลกนี้ตรง ๆ แล้ว
ข้าไม่มีความจำเป็นจะต้องปกปิด หรือเล่นบทบาทสองตัวละครอีกต่อไป
แล้วแผนของข้า มันจะไม่เป็นอันตรายต่อท่านราชินีที่รักยิ่งของข้าหรอกหรือ?
เพราะข้าได้ดึงนางมาชมงาน เพื่อเป็นข้ออ้างในการดึงตัวน่าสงสัยอีกคนอย่าง [โนอาร์] มาอยู่ในงาน จ้าวเวหา
คำตอบนั้นคือ— ไม่มีทางจะเกิดอันตรายต่อท่านราชินีได้
เพราะผีที่ถูกใช้ในงานนี้ คือพวกที่ถูกข้าฝึกมาแล้ว
มันจะไม่ทำร้ายท่านราชินีผู้ไร้เดียงสาของข้าเด็ดขาด
ทุกอย่าง– กำลังเป็นไปตามแผนการ
ตั้งแต่วันที่ข้า “ฝัน” ถึง [นาง] ผู้นั้นในสมัยเด็ก ข้าก็เริ่มเฝ้าหาแต่ตัวจริงเทพผู้สร้างโลก
ค้นหา แล้วปราถนาที่จะฆ่า เพื่อให้คนที่เหมาะสมอย่างท่านราชินีแวมไพร์ ขึ้นเป็นเทพเจ้าของโลกใบนี้แทน
คำถามคือใครเป็นเทพเจ้า?
ข้าควรใช้วิธีไหน เพื่อล่อให้เทพเจ้าออกมา?
วิธีที่ง่ายที่สุด คงเป็นการป่วนโลกที่พวกเขาสร้างขึ้น
การที่ข้าสร้างองค์กรผิดกฎหมายอย่างคาร์นิวอยขึ้นมา ก็เพื่อการนั้น
ใช้องค์กรที่บิดเบี้ยว สร้างสถานการณ์อันวุ่นวายและเหมาะสม เพื่อทำพิธีเรียกวิญญาณร้าย ก่อความวุ่นวายบนโลกอย่างผิดเพี้ยน
ตอนนี้ ความโกลาหลได้ถูกบ่มจนได้ที่
งานแข่งครั้งนี้ ข้าได้จัดเตรียมเวทีทุกอย่างเอาไว้แล้ว
แผนการหลอกใช้องค์กร เพื่อล่อคนของตำรวจสากล
แผนการใช้นามของท่านราชินี เพื่อเชิญตัวโนอาร์มาดูงานแข่งเจ้าเวหา
แถมยังมีกรณีนักบวชทั้งสาม ที่มาอยู่บนทวีปนี้
เรื่องบังเอิญนั้นไม่มีอยู่จริง
ข้าว่านักบวชทั้งสาม8oนั้น คงไล่ตามเจ้าอีกาดำมาเพื่อช่วยเหยื่อที่ข้าวางล่อเอาไว้นั่นแหละ
แต่อาจจะมองได้ว่าเป็นการตามมาเพื่อช่วยเพื่อนก็เป็นได้?
“ชางฟังดูโกลาหล~”
ข้ายกแก้วไวท์ขึ้นมาดื่มอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม
ยิ้ม แล้วดื่มให้สารเหลวอุ่น ๆ นั้นไหลผ่านลงคอ
ขอมอบความวุ่นวาย แด่– เทพทั้งสามผู้ชั่วร้าย—
MANGA DISCUSSION