“แฮก… แฮก…”
ลูกครึ่งเผ่ามนุษย์แมวคนหนึ่งกำลังวิ่งอย่างหมดเรี่ยวแรงไปตามถนนด้วยหน้าตาที่สิ้นหวัง
ด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว อีกทั้งการแต่งตัวที่สวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้า และกลิ่นเหม็นอับเปรี๊ยวของเลือด จึงทำให้ผู้คนที่กำลังเดินสวนทางเธอ ต่างพร้อมใจกันถอยออกห่าง
สีหน้าที่แสดงปรากฏของพวกเขา สามารถบ่งบอกได้ถึงความรังเกียจที่มีต่อสตรีเผ่ามนุษย์แมวผู้นี้
แต่ทว่าเธอกลับไม่ได้มีท่าที หรือแสดงความใส่ใจต่อสายตาที่ไม่พอใจซึ่งกำลังทอดมองตรงมาทางเธอ
“แฮก… แผนการแก้แค้นของฉัน… พังหมด…”
เธอเอาแต่บ่นด้วยเสียงที่แผ่วเบากับตัวเอง แล้วเดินต่อไปด้วยร่างกายที่กำลังกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
สายตาที่กำลังจะดับแสง ทำได้เพียงแต่เฝ้ามองเส้นทางเพื่อจะนำตัวเองไปให้ถึงสถานที่พำนัก
ในตอนนั้นเองที่มีภาพของเจ้าหน้าที่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศกำลังสะท้อนขึ้นมาบนนัยตาสีฟ้าของเธอ
ที่ด้านหลังของเจ้าหน้าที่คนนั้น มีชาวบ้านที่ไม่รู้จักกำลังจูงลูกสาว พร้อมกับชี้นิ้วซ้ายมาทางเธอ ราวกับกำลังร้องเรียนบางสิ่ง
ไม่แปลก…
ถ้าไม่มีคนไปแจ้งตำรวจ ทั้งที่เธออยู่ในสภาพอาบเลือดตรงขาซ้ายนี่สิถึงจะแปลก
*ตู้ม!*
เธอรีบกระโดดลงทะเลที่ติดอยู่กับสะพานทางเชื่อมเกาะแทบจะในทันที
ปล่อยให้ร่างกายจมดิ่งลงไป
จมดิ่งลงไปพร้อมกับความเสียใจที่ไม่อาจสังหารผู้ที่ฆ่าบิดากับมารดาของตัวเอง
ทั้งหมดเป็นเพราะความผิดของมัน
“เพราะเจ้าออน… คนเดียวเลย… ทั้งสมัยก่อนและปัจจุบัน เพราะมันคนเดียว…”
เธอ โรโยตี้ กำลังร่ำไห้ให้กับโชคชะตาอันโหดร้ายของตัวเอง—
***
ในอดีต
ในช่วงเวลาที่เธอยังเป็นเด็กตัวเล็กที่แสนจะบริสุทธิ์
ในช่วงเวลานั้น เธอเคยมีคนรักคนหนึ่ง
“นี่ โรโยตี้ เรามาเล่นกันเถอะ!”
“อืม!”
เขาคนนั้นเป็นเด็กผู้ชายผมสีน้ำตาล ที่มีดวงตาน่ารักและซื่อไร้เดียงสา
เธอชอบนิสัยที่แสนจะซื่อตรงของชายคนนั้น
“ไว้พรุ่งนี้มาเล่นกันอีกนะ!”
“อะ— อื่ม!”
พอรู้ตัวอีกที เธอก็ตกหลุมรักชายคนนั้นไปเสียแล้ว
โรโยตี้กับออน-เอ็ซท เป็นเพื่อนสมัยเด็กบ้านใกล้เรือนเคียง
พ่อกับแม่ของพวกเขา ต่างเป็นนักการเมืองให้กับเขตปกครองของเผ่ามนุษย์บนทวีปออโรร่า
ถึงจะอยู่กันต่างพรรคต่างขั้ว แต่หากให้ไปถามเพื่อนบ้านคนไหน พวกเขาต่างมีแต่จะตอบพร้อมใจกันว่าบ้านสองหลังนี้สนิทฉันท์มิตร ราวกับเป็นครอบครัวร่วมสายเลือดเดียวกัน
แรกเริ่มทำเพียงแค่อยากทำความรู้จัก
อยากรู้— อยากรู้มากกว่านี้ จึงสืบลึกลงไป
ลึก— จนค้นพบความจริง
ว่าพ่อของเพื่อนรัก คือนักการเมืองที่ทำการค้าสีดำ อีกทั้งยังใช้เส้นสายของตัวเองในทางมิชอบ
ไม่เพียงแค่ประพฤติมิชอบ หากแต่ยังมีหลักฐานบ่งชี้มากมายว่าเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังสังหารคู่แข่งทางการเมืองทั้งหลาย
รวมไปถึงรู้แผนการร้าย ที่พ่อของเพื่อนเธอ— พ่อของ ออน-เอ็ซท ปราถนาจะทำให้ครอบครัวของเธอไม่อาจอยู่ในสังคมของเผ่ามนุษย์ได้อีก
เธอรู้เรื่องราวทั้งหมด เพราะใช้สถานะตัวตนที่เป็นเพื่อน แอบลอบเข้าไปในห้องทำงานของพ่อเขา จนได้เห็นข้อมูลบันทึกเหล่ากับตาของตัวเอง
ทำไม—
ทำไมพ่อของออนที่ดูเป็นคนซื่อตรงถึงกล้าทำเรื่องแบบนี้—
แล้วเธอละ? ออน? เธอเองก็มีนิสัยเหมือนอย่างพ่อของเธอหรือเปล่า
ผู้ที่ไม่เคยสัมผัสถึงความชั่วร้าย อาจมองโลกผิดเพี้ยนเพียงแค่ให้ประจักความเป็นจริงอันชั่วร้าย
เด็กน้อยได้กลายเป็นกระดาษสีดำอย่างสุดโต่ง เพราะถูกย้อมในขณะที่กระดาษนั้นยังขาวบริสุทธิ์
เธอ— ที่เวลานั้นที่ยังเด็ก ไม่อาจรู้สึกเชื่อใจสหายที่เป็นรักแรกของเธอได้อีกต่อไป
เพราะใกล้ชิดจึงสนิทสนม
เพราะสนิทสนมจึงเกิดเป็นความรัก
ยิ่งรัก ยิ่งค้นหา
ยิ่งค้นหา ยิ่งหน้ามืดตาบอด
รักสุดหัวใจ ฉับพลันสะท้อนกลับเป็นความเกลียดชังที่หยั่งรากลึกสุดจะวัดได้
เธอ โรโยตี้ จึงได้วางแผน—
ลอบเข้าไปในบ้าน ทำหลักฐานปลอม เพื่อให้ตำรวจมาสืบจนเจอหลักฐานการทุจริตที่เป็นของจริง
เธอทำสำเร็จ
พ่อของเพื่อนถูกจับเข้าคุก ทรัพย์ถูกอายัด แล้วครอบครัวของเพื่อนรักก็หายตัวไปตลอดกาล
เธอ— ไม่ได้เจอกับเพื่อนสมัยเด็กที่เป็นรักแรกของเธออีกต่อไป
ถึงกระนั้นเธอเองก็ไม่ได้คิดที่อยากจะกลับไปตามหาเขา
เพราะเธอได้ตัดทิ้งรักแรกและความรู้สึกไป ตั้งแต่ที่ความรักได้กลายเป็นความเกลียดชังไปแล้ว
หลังจากนั้น
โรโยตี้ได้เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ บนฐานของความรู้สึกที่ไม่อยากจะไว้ใจใครอีก
เธอคนนั้น ยิ่งโต ยิ่งรู้จักด้านมืดของโลก
เธอได้รู้ว่าแม้แต่พ่อแม่ของตัวเอง ก็ไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่เธอเข้าใจในวัยเด็ก
แต่เพราะเป็นพ่อแม่ของตัวเอง เธอจึงยอมรับความชั่วร้ายของผู้ให้กำเนิดตัวเองโดยสมัครใจ
เธอได้เห็นโลกผ่านสายตาในมุมมองของโลกสีดำ
ได้เห็นการหักหลัก เห็นมิติของ ความโลภ เอาแต่ใจ เอาตัวรอด บนบรรทัดฐานแห่งสันดานชีวิต
กระดาษที่ดำ ได้ดำแปดเปื้อนจนไม่อาจมีวันกลับมาขาวสะอาดได้อีกต่อไป
***
*บุ๋ง!!*
ราวกับตื่นขึ้นมาจากความฝัน
ผู้หญิงที่กระโดดลงไปในน้ำ ได้เผลอสำลักน้ำก้อนใหญ่ออกมาจากปากของตัวเอง
สองมือรีบตะกายควานหาแสงสว่างข้างหน้า เพื่อว่ายให้ผุดขึ้นสู่ผิวน้ำ
ปากอ้าเปิดกว้างสุดกำลัง สูบอากาศเข้าปอดเพื่อต่อชีวิตที่ใกล้ดับ
“แฮก! แฮก! นึกว่าจะตาย… ไปแล้ว… ไม่น่าเลย… ไม่น่าลงมือคนเดียวเลย…”
เธอพูดกับตัวเองราวกับคนที่เป็นบ้าเพราะความสิ้นหวัง
“คุณพ่อ… คุณแม่… ถึงพวกท่านจะไม่ใช่คนดี… แต่พวกท่านทำเพื่อชีวิตของฉัน… ฉันต้องแก้แค้น…”
เธอพูดเช่นนั้น แล้วมองไปที่ร้านค้าทรงไข่ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ร้านที่ควรจะดูเหมือนร้านใหม่ตรงนั้น ได้มีสภาพเป็นเศษซาก และเต็มไปด้วยฝูงชนที่เข้ามารุม
“ทั้งที่พยายามสืบจนเจอเบาะแสของคนร้าย… ดันโง่ทำพลาดเองเสียได้… ถ้าออนไม่เข้ามาขวางละก็… ถ้าพ่อค้าคนนั้นไม่ได้หลอกให้เราซื้อกล่องบ้า ๆ นั้นมา…”
เธอพูดกับตัวเองอย่างเจ็บแค้น
เธอไม่คิดเลยว่าเพื่อนสมัยเด็กที่เกือบลืมใบหน้าไปแล้ว จะกลับมาหลอกหลอนและทำให้แผนการทั้งหมดของตัวเองต้องพัง
“แผนของฉัน พังหมด…”
แผนการของโรโยตี้…
โรโยตี้
เธอมีความสามารถในการสืบสวนและแกะรอยที่เก่งกาจ จากประสบการณ์ในการช่วยคุณพ่อของเธอสืบข้อมูลจากคู่แข่งทางการเมืองมาตลอดชีวิต
ในตอนที่เธอรู้ข่าวว่าพ่อแม่ถูกสังหาร เธอก็เริ่มที่จะลงมือสืบหาคนร้ายในทันที
แรกเริ่ม เจอแค่ร่องรอยว่าเป็นเผ่าภูติ
สืบย้อนรอยกลับไปตามเส้นทาง จนไปจบลงที่ชื่อของร้านภูติโภชนา กับการโอนเงินสูงอย่างผิดธรรมชาติจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง
ราวกับเป็นค่าจ้างลอบสังหารใครสักคน…
ใช่— โรโยตี้ใช้ข้อมูลที่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดเหล่านี้ ฟันธงว่า [ลาฟาเซีย] คือตัวการที่สั่งสังหารพ่อแม่ของเธอ
มันอาจดูบ้า เพราะถ้าฆ่าคนผิด นั่นอาจเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต
แต่โรโยตี้นั้นไม่สนใจเรื่องเหล่านั้นหรอก
เธอไม่สนใจ
เพราะโลกนี้มันเต็มไปด้วยความชั่วร้ายกับความเข้าใจผิดอยู่แล้ว ใยจะต้องไปสนใจความถูกต้องด้วยเล่า?
ถ้าฆ่าคนผิด เดียวค่อยไปหาตัวการร้ายตัวจริงก็จบเรื่องจริงไหม?
แผนการสังหารของโรโยตี้จึงเริ่มขึ้นนับจากตอนนั้น
เธอทำตั้งแต่เตรียมยาพิษ ยานอนหลับ ลูกดอก และสิ่งของต่าง ๆ
จนกระทั้งเธอได้ไปพบกับกลุ่มนักบวชแห่งวิหารเทพทั้งสามโดยบังเอิญในวันที่ 40
นักบวชแห่งวิหารเทพทั้งสาม ที่มีความสามารถระดับสังหารสัตว์ระดับไคจูลงได้
ถ้าสร้างหนี้บุญคุญเอาไว้ น่าจะเอามาใช้ประโยชน์ในแผนการลอบสังหารได้หรือเปล่า?
ด้วยความคิดเช่นนั้น เธอจึงเริ่มที่จะสร้างบุญคุญกับเหล่าสามสาว
อ้างตัวเป็นแฟนคลับ แล้วเสนอตัวเองเป็นเงินถุงเลี้ยงพวกเธอ
ไม่ใครที่รักเงินยูนิต จริงไหมละ?
แต่ทว่าเป็นเพราะระยะเวลาในการสร้างความสัมผัสนั้นช่างสั้นนัก ในขณะที่วันเริ่มแผนลอบสังหารเข้ามาใกล้
ด้วยความที่สร้างหนี้บุญคุณระดับสนิทนับเป็นครอบครัวไม่ทัน เธอจึงเลือกที่จะใช้แผนลงมือด้วยตัวเอง
“ฉันพลาด…ไม่เอาแล้ว… งานฆ่าคนไม่ใช่งานของฉันเลย… ตลอดมาเอาแต่สืบกับล่อลวงจิตใจคน… งานนี้มันเกินมือเกินไป… ไปหาพวกเรนเจอร์… ได้เวลา… ใช้ประโยชน์จากหนี้บุญคุญ…”
สตรีลูกครึ่งคนนี้กำลังหลังชนฝา
ถึงสร้างหนี้บุญคุณระดับสนิทนับเป็นครอบครัวไม่ได้ แต่เธอคนนี้ที่ไปไม่ออกแล้ว
เธอกำลังโหยหาที่พึ่ง เหมือนกับเป็นลูกแมวที่ไร้บ้านต้องการหาแหล่งพักพิงเช่นนั้น
ด้วยเหตุนี้เธอจึงเริ่มว่ายไปกับกระแสคลื่นทะเล เพื่อพาตัวเองไปให้ถึงฝั่งของเกาะท่าอากาศยานอวกาศ
แผนการลอบฆ่าจะต้องดำเนินต่อไป
ฉันจะแก้แค้นพ่อแม่ของฉัน
น้ำทะเลจะช่วยชำระเลือด
ร่องรอยของเธอจะเลือนหายไปกับสายน้ำ
ไม่มีใครเห็นใบหน้าของฉันนอกจากเขาคนนั้นที่อยู่ในระยะใกล้
จะไม่มีใครควานหาคนร้ายที่แท้จริงถูก
ดังนั้นแล้ว
รายชื่อของผู้ที่ต้องถูกฆ่า คราวนี้จะไม่ใช่มีแค่หนึ่งแต่เป็นสองคน
หนึ่งคือลาฟาเซีย
กับอีกคนคือ—
ออน-เอ็ซท
พยานเพียงหนึ่งเดียวที่รู้จักเธอ
MANGA DISCUSSION