“นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกับข้า? แล้วพวกเธอคือใคร? ”
“สวัสดีค่ะ! หนูชื่อเปอร์ไซต์! ก่อนอื่นต้องขอโทษแทนเจ้าดำด้วยค่ะ! แต่มันไม่ผิดนะ! มันแค่กินของผิดสำแดงเข้าไป แล้วจากนั้นก็~ วูฮู!! แล้วก็ บู้มมมม! พอรู้ตัวอีกที ก็มีคนแปลก ๆ มาบอกว่ามันถูกฆ่าไปแล้ว! แต่หนูไม่เชื่อ! เจ้าดำต้องยังอยู่ข้างในนั้นแน่! เพราะฉะนั้นหนูเลยบินตามมันมากับเจ้าออกไซต์ พี่ยักษ์เองดูแกร่งไม่เบา มาช่วยหนูตบเจ้าดำให้มันตื่นจากฝันกันเถอะค่ะ!”
พูดเองเออเอง ตรูจับต้นชนปลายไม่ถูกเฟ้ย!
ว่าแต่ชื่อ [เปอร์ไซต์] นี่ออกจะคุ้น ๆ หูอยู่แฮะ
เพราะเป็นชื่อเดียวกับเผ่ามนุษย์นกในตำนาน ที่ว่ากันว่ามีเสียงสวรรค์ระดับใช้ยุติสงครามโลกได้
“…”
ถึงจะไม่รู้จักและไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน แต่ในเมื่อมีเป้าหมายที่จะหยุดเจ้ามังกรบ้าเหมือนกัน งั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปคิดอะไรอีก
มาร่วมมือกันตบมันให้หัวคว่ำจมดินกันดีกว่า!
“โอ๊ว! งั้นลุยกันเลย!”
“อืม~!”
*กรร!*
***
สายฟ้า—
เมฆสายฟ้ากำลังก่อตัวขึ้นรอบตัวของมังกรทมิฬ—
มังกรทมิฬกำลังหวาดกลัว
สัญชาตญาณมันกำลังกรีดร้อง ว่าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กตรงหน้า คือตัวอันตรายยิ่งกว่าสิ่งใด
*ฮูมมมมม!*
เสียงคำรามครั้งนี้ดังกึกก้องรุนแรงยิ่งกว่าครั้งใด ๆ
แผ่นดินจักแตกระแหง
อาคารรอบตัวจักถูกบดเป็นผุยผงดด้วยคลื่นเสียง
อณูที่แผ่ออกรอบครีบตามลำตัว ได้ผสานเข้ากับละอองพลังงานวิญญาณ กลายเป็นสายฟ้าที่ฉีกให้พื้นที่มิติแยกออก
พื้นที่ กำลังถูกฉีกกระชากให้เป็นเศษกระดาษ ขยายตัว แล้วถูกอัดรวมไหลขึ้นไปตามแผงครีบ ไปรวมกันตรงที่ปาก
“อย่าพ่นมันออกมานะโว๊ยยยย!”
เทพแห่งยักษาคำรามลั่น แล้วบินทะยานตรงไปทางมังกรทมิฬที่กำลังเตรียมจะพ่นลมหายใจมังกรออกมา
ปีกแห่งเปลวไฟ – ชุดแห่งเทพเจ้าที่ถูกจัดสรรมอบให้ ได้ตอบรับความคิดของคลื่นสมอง แล้วกระพือปีกไฟ สร้างคลื่นแรงโน้มถ่วงตรงข้าม นำพาให้เขาบินทะยานไปในแนวสามมิติอย่างไร้สิ่งต้านทาน
แสงไฟ และร่างกาย ได้ถูกทิ้งเป็นเงาเอาไว้เบื้องหลัง
*ฟูววม์!*
แต่ทว่าคราวนี้ฝ่ายมังกรทมิฬเป็นผู้ที่สามารถชิงลงมือได้ก่อน
เพราะพลังงานที่สะสมและรอคอยจะปล่อยออกจากปากของมันนั้น ได้ถูกสะสมและเข้าขัดขวางมามากเกินพอแล้ว
แสงสว่างได้เจิดจ้าออกจากปากของมันเป็นก้อนทรงกลม
ก้อนทรงกลมนั้นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงหนึ่งเมตร
หนึ่งเมตร กลายเป็นสิบเมตร
สิบเมตร กลายเป็นหนึ่งร้อยเมตร
เพียงไม่ถึงสามวินาที เจ้าลูกบอลที่ถูกปล่อยออกมานั้น ก็มีขนาดขยายใหญ่ขึ้นถึงหนึ่งกิโลเมตร และยังขยายตัวมากขึ้นในอันตราที่ทวีคูณนับหลายสิบเท่าตัวจนเกินจะคาดเดา
ลูกบอลขาวนั้นบดขยี้ทุกสิ่งที่มันสัมผัสให้สูญสลายหายไป
ไม่เหลือแม้แต่เถ้าทุลี
ไม่เหลือแม้อะตอม
ไม่เหลือแม้แต่ตัวตนและเศษซากของพลังงาน
เพราะถูกบดขยี้ไปแม้แต่ที่ว่าง อันเป็นมายาคติของสำนึกแห่งความเป็นจริง
“ (จงใช้ดาบเล่มนั้นฟันมันซะ) ”
ในเวลานั้นเองที่มีเสียงของเทพทั้งสามดังก้องขึ้นมาภายในหัวของบุรุษ ผู้ได้รับพลังแห่งเทพเจ้า
“ต่อให้ท่านเทพไม่พูด ข้าก็จะทำมันอยู่แล้ว!”
ฑาทิมไม่เคยคิดสงสัยในพลังลึกลับที่ได้รับมา
เขาจับดาบควายสีดำอันเป็นดาบบรรพบุรษ ของตระกูลผู้กล้ายักษาด้วยสองมือจนมั่น
ดาบ— ที่ถูกเทพเจ้าแอบดัดแปลงด้วยวิชาเทพ ได้จัดสำแดงเดชพลังแห่งเทพเจ้า
อักขระอักษรภาษาแห่งดินแดนเทพที่ไม่รู้ว่าถูกจารึก ณ เวลาไหน กำลังเรื่องแสงทอประกาย
ดาบดำ— กำลังตอบสนองต่อความปราถนาผู้ใช้ ที่อยากจะฟาดฟันความโกลาหลตรงหน้าให้ดาวดิ้น
แปลงพลังงานของผู้ใช้ ให้กลายเป็นพลังงานรังสี
ดูดเศษเสี้ยวแห่งพลังงานวิญญาณ ผสานตัวก่อเกิดเป็นคลื่นดาบ
พลัง— กำลังแผ่ขยายออกเป็นดาบแสงเล่มยาวที่เกินจินตนาการ
ดาบดำ ได้กลายเป็นดาบแสงเงิน
ความยาวของมันนั้น กินพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของเมือง
“ฮ่ะ!”
ฟาดฟัน ตัดดาบขนานเส้นขอบฟ้า ผ่าแยกผืนฟ้ากับแผ่นดินในหนึ่งเพลงดาบสามัญที่ไร้นาม
แสงดาบที่ปะทะคลื่นพลังงานทรงกลม มิได้ผ่าแยกให้ก้อนพลังงานวิญญาณแยกออกเป็นสองส่วน
หากแต่ดาบแสงได้แตกกระจายตัวออก กลายเป็นกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านไปทั่วบอลพลังที่กำลังขยายพอง
โต
เส้นพลังงานแสงสีเงินจากดาบ กำลังวิ่งตัดเป็นรูปตาข่ายยักษ์หุ้มบอลเพลิงสีขาวโพล้น
*พรึบ!*
พลังงานวิญญาณสองฝั่งได้ผสานพลัง หักลบกลับคือสมดุล แล้วสลายหายไปพร้อมกับดูดเส้นมิติเวลาให้บิดผันผวน
รูหนอน ได้ถูกสร้างขึ้นมาบนพื้นที่ปะทะอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เวลานั้นเอง ที่สตรีลึกลับเผ่ามนุษย์นกได้กางปีก แล้วบินลอดผ่านรูหนอนเข้าไปพร้อมกับมังกรของเธอ
พุ่งผ่านพื้นที่บิดผันแปร แล้วไปปรากฏตรงหน้าของมังกรทมิฬ พร้อมกับกระหน่ำกรงเล็บใส่เกล็ดสีดำของมัน
เธอซัดรัวกรงเล็บ ประทับเป็นรอยกีบนก จนเกล็ดที่แม้แต่ระเบิด หรือหัวกระสุนปืนใหญ่เจาะเกราะยังทำลายไม่ได้ ยังต้องถึงกับพบชะตาที่ต้องแตกร้าว
“ถอดเกล็ดค่า~!”
*กรรร!*
เธอวิ่งไต่ไปรอบตัวของมังกรทมิฬด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง
ทุบเกล็ดจนร้าว แล้วถูกมังกรอีกตัวที่บินไล่ตามติดหลัง ใช้กรงเล็บอันแหลมคมของมัน ตะกรุยเกล็ดที่แตกร้าวนั้นให้หลุดลอกออก จนดูเหมือนกับเป็นรถไถที่กำลังถอนต้นข้าวออกจากนาแปลง
ผิวเนื้อสด ๆ ที่กำลังเต้นเร้าไปด้วยเส้นเลือดและกล้ามเนื้อ ได้ถูกเผยให้เห็นออกมาเป็นครั้งแรก
*ฮุม!*
มังกรทมิฬไม่คิดจะให้ใครมาถอดเกล็ดมันเล่น
มันได้เรียนรู้จากการต่อสู้กับวีรสตรีพรุนแล้ว ว่าการรับมือกับพวกตัวเล็กที่น่ารำคาญ ไม่ยอมให้พวกมันไต่ร่างกายต้องควรทำยังไง
มือมังกรนั้นสั้น จึงไม่อาจใช้ไล่ตบได้ทัน
จะให้บิดตัวกลิ้งไปตามพื้น ก็ดูจะไม่ดี เพราะน้ำหนักตัวจะไปกดทำลายปีกของตัวเอง
ดังนั้นมันจึงคำราม
คำรามพร้อมกับเร่งพลังงานให้ครีบบนหลังเริ่มรวบรวมคลื่นพลังงาน แผ่ไอกระแสไฟฟ้าและพลังงานวิญญาณออกมา
เพียงไม่นาน ทั่วทั้งร่างกายของมันก็ถูกหุ้มไปด้วยคลื่นกระแสไฟฟ้าแรงสูง ที่สามารถฉีกทำลายได้แม้แต่ที่ว่างมิติ
“เหวอ!”
*กี้!? ”
สตรีนกกับมังกรรีบดีดตัวหลบออกมาดั่งเป็นเส้นแสง
แต่มังกรทมิฬได้รอจังหวะนั้น ฟาดหางขนาดใหญ่เข้าใส่
หางที่ฟาดใส่เธอ แทบไม่ต่างอะไรไปจากภูเขาทั้งลูกที่กำลังถล่มลงมาทับใส่
*เปรี๊ยง!*
ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงหมัดปะทะรุนแรงดังกังวาล
เปลวไฟขนาดสี่เมตร พุ่งปะทะใส่หางนั้น จนเกิดคลื่นระเบิดปัดเป่าทุกสิ่งรอบกายให้ปลิวกระเด็นหาย
หมัดที่หุ้มด้วยเปลวไฟขาวของเทพแห่งยักษา ได้หักล้างซึ่งแรงปะทะทั้งหมดที่มังกรทมิฬทุ่มกำลังฟาดหางเข้ามา
“โอ๊ว!”
ฑาทิมไม่หยุดเพียงแค่หยุดหาง
เขากำลังคลายกำปั้น แล้วใช้มือทั้งสองกางเป็นกรงเล็ง ใช้แรงทั้งหมดที่มี จิกลงไปในเนื้อส่วนหางของมังกรทมิฬ
“โอ๊วววว!”
เขากำลังคิดที่จะเหวี่ยงมัน
สิ่งที่ตัวเล็กกว่าถึง 50 เท่า จะสามารถเหวี่ยงมันได้เช่นนั้นหรือ?
ถ้าตามสามัญสำนึกคงเป็นไปไม่ได้
แต่ฑาทิม ณ เวลานี้ เขาได้อยู่เหนือเกินสามัญสำนึกไปแล้ว
“โอ๊วววววววววววววววววววววววววว!”
*ฮูมมมมมม!*
มังกรทมิฬกำลังถูกเหวี่ยง
มันกำลังถูกเหวี่ยงเป็นวงกลมเหนือพื้นที่เมืองต่อหน้าเผ่ายักษ์ทุกคน
*กร!*
เพื่อต่อต้าน มังกรทมิฬจึงพ่นลมหายใจที่สามารถลบได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แผดเผาใส่ร่างเล็ก ๆ ที่เกาะอยู่ตรงหางของมัน
เปลวไฟแห่งวิญญาณนั้นรุนแรง
ต่อให้ฑาทิมสวมเกราะแห่งเทพเจ้า ก็ไม่อาจรอดปลอดภัยจากเปลวไฟนี้ไปได้
เขาควรที่จะหยุด แล้วหลบออกมา
“โอ๊วววว!”
แต่ทว่าฑาทิมมันบ้า
เขาไม่คิดหลบหรือหยุดที่จะเหวี่ยง
เขาคิดที่จะแลกด้วยชีวิต เพื่อปิดฉากการต่อสู้ ไม่ให้มันยืดเยื้อหรือเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้
เปลวไฟขาวที่หุ้มร่างกายของฑาทิม กำลังลบเปลวไฟที่ก่อตัวเป็นปีกของเขาให้หายไป
ลบปีก แล้วไล่ไปตามเกราะเปลวไฟที่หุ้มกาย จนเผยส่วนที่เป็นชิ้นเนื้อผ้าเก่าขาดวิ่นดั้งเดิม อันเป็นชุดที่เขาใส่ลุยออกมา
ผิวหนังที่เป็นเนื้อแท้จริง กำลังมอดไหม้
เขารู้สึกได้ถึงความร้อน และกำลังจะด้านชาเพราะเซลล์เนื้อที่ตายลงไป
“โอ๊วววววววววว!”
ถึงร่างกายจะไหม้ แต่จิตวิญญาณของเขาจะไม่มีวันมอดดับ
เขายังคงเหวี่ยงเจ้ามังกรทมิฬต่อไป
เหวี่ยงจนร่างอันใหญ่โตของมังกรทมิฬเห็นเป็นเส้นสีดำ
เหวี่ยงจนแผลจากเกล็ดที่ถูกถอดออก เริ่มฉีกออกขยายตัวกว้างมากขึ้น
เหวี่ยงจนปีกอันกล้าแกร่งของมันหักแหลกเหลว เพราะแรงเหวี่ยงปะทะ
เหวี่ยงจนกระดูกหาง สันหลัง ข้อต่อ เริ่มมีเสียงคล้ายเคลื่อนหลุดจากข้อเบ้าภายใน
เหวี่ยง— แล้วจับโยนขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้าง
*ฮูมมมม!*
มังกรทมิฬยังไม่สิ้นท่า
ทั้งที่บาดเจ็บมากจนไม่อาจรักษาตัวเองได้ทันการ มันก็ยังดึงสติ แล้วละทิ้งความเจ็บปวดทั้งหมด เพื่อเค้นพลังไปกลั่นลมหายใจเปลวเพลิงออกมา
มันสูดลมหายใจด้วยปอดอันทรงพลัง
สูดพลังงานในอากาศทุกอย่าง
สูดแม้แต่สัตว์วิญญาณที่กำลังอาละวาดอยู่บนพื้น
สูบวิญญาณ— เข้าไปทุกตัว
ไฟฟ้าในอากาศกำลังถูกรวบรวม พร้อมกับที่วิญญาณถูกขับดัน
เมื่อรวบรวมถึงจุดวิกฤติ สิ่งนั้นจักถูกพ่นทิ้งดิ่งลงสู่ผืนโลกา
เสาแสงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเท่าครึ่งหนึ่งของเมือง ได้ถูกยิงออกมา
มันแผดเผาอากาศและฉีกที่ว่าง หมายจะทำลายศัตรูของมันให้ดาวดิ้น ไปพร้อมกับเจาะผืนโลกให้กลายเป็นรูกว้าง
“ข้าไม่ยอมหรอก!”
ในเวลาเดียวกัน เทพแห่งยักษาได้รีดเค้นพลังที่เหมือนเป็นน้ำหยดสุดท้ายออกมา
เขาบินขึ้นท้องฟ้าด้วยปีกไฟที่อ่อนแสงและเรี่ยวแรง
ฑาทิมไม่รู้ว่าพลังงานวิญญาณมันทำงานยังไง เพราะเขาไม่เคยฝึกมันมาก่อน
แต่เขามีความมั่นใจ
มีความเชื่อมั่นในพลังลึกลับที่ได้รับมา
มันไม่มีเหตุผลใด ๆ มารองรับ และดูเป็นการกระทำที่โง่เขลา
แต่เขาก็ยังเชื่อมั่น—
เชื่อมั่นว่าดาบ และพลังแห่งเทพที่กำลังลุกโชนนี้ จะทำให้เขาสามารถตัดได้ทุกสิ่งที่เขาอยากจะตัดมัน
“โอ๊วววว! ไปเลยยยย!!”
ฑาทิมเค้นเสียง แล้วเหวี่ยงดาบแสงในมือออกไป
ดาบ— ได้ตอบสนองความปราถนาที่อยากจะตัดทุกสิ่ง
ตอบรับให้ดึงพลังงานวิญญาณที่เขามีออกไปใช้เป็นพลังงานของดาบ
ข้าขอมอบทุกอย่าง
มอบแม้แต่ไฟชีวิต
มอบแม้แต่จิตวิญญาณ
จงเอามันไปใช้เสีย จิตวิญญาณแห่งยักษาของข้า จักไม่มีวันพ่ายให้กับสิ่งใด!
*ฉับ!*
ดาบของฑาทิมถูกฟันออกไป
ภาพทุกอย่างได้ถูกหยุดนิ่ง
สิ่งแรกที่ถูกตัดออก คือเสาแสงแห่งเปลวไฟที่ขาดครึ่ง
ต่อมาคือเมฆาขาวที่ถูกตัดครึ่ง
อากาศและท้องฟ้า
ชั้นบรรยากาศ
ตัดผ่านทุกสิ่ง ทะลุไปถึงพื้นที่อวกาศอันเวิ้งว้าง
ตัดทุกอย่าง— ไปพร้อมกับร่างของมังกรทมิฬที่ขาดกลางออกจากกัน
MANGA DISCUSSION