***วันที่ 6 เกอเนริบส์ ปีประวัติศาสตร์ที่ 126***
เวลา 41:00 น. ทวีปป่าหิน-ร็อค ฟอร์เรส
*ฟูมววววววววววววววว!*
สิ่งนี้มันคืออะไร?
“เหวอ!? จะชน— จะชนเข้ากับภูเขาแล้ว!”
“พะ– พอเถอะลาพิส! เธอจะเอายานมาซิ่งท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่ได้!”
เจ้าวัตถุลอยได้ตัวนี้มันคืออะไรกัน?
ทำไมมันถึง—
*พึบ!*
“แม่จ้าว! เธอเล่นดับเครื่อง แล้วเปลี่ยนการถ่ายโอนพลังงานไปที่ปีกขวา เพื่อตียานดริฟโค้งเลยเว้ยเฮ้ย!”
“แล้วจะบรรยายให้เธอไปทำซากเพื่ออะไรกันยะยัยแมรี่!? ”
—ทำไมมันถึงได้ [สนุก] และ [ตื่นเต้น] ได้เยี่ยงนี้กันค่ะ!
ฉัน ลาพิส กำลังควบคุมยานทั้งลำด้วยความรู้สึกของการรับรู้ที่ว่าง
มือที่สัมผัสแท่งคริสตัลกำลังตอบรับกับความคิดของฉัน จนเสมือนหนึ่งว่ามือได้กลายเป็นเส้นประสาท เชื่อมต่อให้ยานกับฉันเป็นรวมหนึ่งเดียวกัน
ละทิ้งจิตสัมผัสแห่งร่างกาย แล้วหลอมรวมจนกลายเป็นยานลำมหึมาที่ตัวเองไม่เคยได้สัมผัสรับรู้สึกมาก่อน
ฉันรู้สึกว่าตัวเองใหญ่โต จนโลกทั้งใบนั้นคับแคบลง
ฉันกำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาของตัวเองเคลื่อนไหว
เร็ว รุนแรง และดุดันยิ่งกว่าใคร
ฉัน— คือยานโลมายักษ์
ฉัน— คือความเร็ว!
ภาพแห่งการรับรู้ที่ว่างด้วยคลื่นวิญญาณ กำลังนำภาพของแท่งภูเขาสูงเข้าสู่ภาพแห่งจินตนาภาพภายในสมอง
แท่งภูเขาหินเหล่านั้น ล้วนแต่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 100 เมตร มีความหนาไม่ต่ำกว่า 20 เมตร อีกทั้งยังเรียงตัวหนาทึบบดบังเส้นทาง ราวกับเป็นป่าไผ่อันดำมืดที่ไร้แสงสว่างจะส่องลอดลงมากระทบพื้นดินได้
“แวกกก! คราวนี้ไม่มีทางหลบพ้นแน่!”
“เสียงจากระบบ— จากการคำนวณพลังงานบาเรีย และความแข็งของยาน หากว่าชนต่อเนื่องเกิน 3 ครั้ง ตัวยานจะเกิดความเสียหายได้ ดิฉันขอแนะนำให้ไต่ระดับความสูงให้พ้นยอดเขตป่าหินค่ะ”
“ละ— ลาพิส! เราไม่อยากให้ยานลำใหม่ต้องมาพังตั้งแต่วันแรก! เพราะฉะนั้นได้โปรดเชื่อคำแนะนำของระบบเถอะนะ!”
จะให้ฉันบังคับเชิดยานหนีของที่ดูน่าสนุกไปอย่างงั้นหรือค่ะ?
ไม่มีทางค่ะ!
ไม่มีความจำเป็นต้องลดความเร็ว หรือเชิดยานให้บินสูงเหนือยอดความสูงของป่าภูเขาหินค่ะ!
ฉันจะบังคับยานผ่านป่าหินไปด้วยความเร็วสูงสุดของยานลำนี้ให้ดูเองค่ะ!
ชีวิตมันต้องพุ่งชนค่ะ!
ว่าแล้วฉันก็เริ่มสั่งการ ให้เร่งเครื่องสุดกำลัง วิ่งทะยานไปด้วยความเร็ว 10 มัค (12,250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
เปิดระบบเครื่องโน้มถ่วงที่ปีกขวา ดับเครื่องปีกซ้าย แล้วใช้ทรัสเตอร์บูสจุดระเบิดเพื่อเหวี่ยงยานให้ตีโค้งออก
กะมุมองศาให้ขนาดของยาน สามารถบินลอดผ่านช่องแคบเล็ก ๆ ระหว่างหุบเขาเข้าไป แล้วระเบิดทรัสเตอร์เพื่อบินเอียง 30 องศา กับแนวราบ ในการหลบภูเขาที่ตั้งอยู่ทิศทาง 12 นาฬิกา
บิดยานตีลังกา 90 องศา เพื่อใช้ระนาบแนวแคบสุดของท้องและหัวยาน วิ่งลอดผ่านช่องแคบขนานซึ่งกำลังลาดเอียงคับแคบลง
จากนั้นระเบิดพลังต้านโน้มถ่วงที่ปีกซ้ายกับขวา เพื่อเชิดยานขึ้นสูงซัก 40 องศา แล้วบินหลบส่วนจงอยเล็ก ๆ ของภูเขาที่ยื่นออกมาจากด้านข้าง
ปิดท้ายด้วยการระเบิดทรัสเตอร์ ปิดระบบสนามพลังของปีก ตียานดริฟให้วาดเป็นเส้นโค้งสวยงามไปตามแรงเฉื่อยที่มี
ยานโลมา กำลังวิ่งเป็นแนวโค้งสูง แล้วตกลงตามแรงโน้มถ่วงเป็นเส้นโค้งเฉี่ยงแนวพระจันทร์สวยงาม เพื่อวิ่งไปตามเส้นทางเปิดโล่งของแนวป่าหินที่กำลังตีเป็นถนนแนวโค้ง
เหล่ามังกรที่ทำรังล้วนต่างลืมตาตื่นอย่างตกใจให้กับผู้รุกราน
แรงลมที่เกิดจากยาน 10 มัควิ่งผ่าน ถึงกับเป่ารังของพวกมันให้วอดวายปลิวหายไปกับสายลม
ขอโทษด้วย แต่พอดีว่าของพี่มันแรง คงชะลอความเร็วให้ไม่ได้หรอกค่ะ~
ฉันต้องระวังไม่ให้ความเร็วตกลง และไม่ให้เพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้ตัวยานร่วงลงไป หรือลอยขึ้นสูง เพราะไม่เช่นนั้นตัวยานจะพุ่งเข้าชนกับภูเขาไม่ฝั่งใดก็ฝั่งหนึ่ง
พวกเรากำลังบินผ่านซุ้มป่าภูเขาที่แผ่ขยายปกคลุมทั้งซ้าย ขวา บน ล่าง จนเหลือเป็นแค่โพรงที่ทอดยาวออกไป
“น้ำตก!? ”
ที่ปลายทางของทางออก คือม่านน้ำตกที่กำลังซัดลงมาจากรอยแยกของภูเขา
ตัวยานของพวกเราได้วิ่งทะลุม่านน้ำตก เข้าสู่เขตป่าหินน้ำตกที่แสนน่ากลัว
มันคือแนวป่าหินสูงชัน ที่เต็มไปด้วยม่านน้ำตกมากมายที่เทลาดลงมาจากยอดเขา อีกทั้งยังเต็มไปด้วยหมอกควันปกคลุมบดบังปิดเส้นทาง
ด้วยสนามแม่เหล็กจากป่าหิน จึงทำให้ไม่อาจพึ่งระบบเรด้าได้
ด้วยความที่เป็นรังของมังกรสายพันธุ์น้ำ จึงทำให้เต็มไปด้วยอันตรายที่จะถูกโจมตี
ถ้าฉันลดความเร็วยาน น้องโลมาจะถูกมังกรโจมตีได้
ถ้าฉันจับสัมผัสผิด แยกม่านน้ำกับภูเขาออกจากกันผิดพลาด ตัวยานจะพุ่งชนเข้าใส่ภูเขาในทันที
พูดง่าย ๆ คือเป็นด่านที่การขับขียานยากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับเขตป่าหินปกติเมื่อกี้นี้
ดูท้าทายดีค่ะ!
“ระบบยานขอแนะนำ–”
*พึบ!*
ฉันยังคงเร่งความเร็วจนมิดด้ามด้วยความเร็ว 10 มัค
บินทะลุม่านน้ำตกฝั่งซ้าย เพราะฝั่งขวาคือตัวหลอกที่ด้านหลังเป็นกำแพงภูเขา
แล้วบังคับยานให้เชิดหัวขึ้นสูง บินเลียบไปกับม่านน้ำตกที่สอง ที่เป็นน้ำตกไหลย้อนบิดเกลียวเป็นก้นหอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ไต่ระดับความสูงขึ้นมาจนเทียมหมู่เมฆขาว ก่อนจะตีหัวยานออกขวาเพื่อหลบมังกรที่กำลังกระโจนข้ามยอดน้ำตก แล้วบินเลียบทะเลเมฆ หักเลี้ยวไปตามเส้นทางที่ยอดภูเขาสร้างขึ้น จนกระทั้งมาถึงแนวกำแพงสูงของภูเขาที่เรียงตัวต่อเนื่องทะลุเมฆขึ้นไปอีกที
แนวภูเขาสูงที่ทะลุเมฆขึ้นไปตรงหน้า มันคือตัวการหลักที่ทำให้เผ่ายักษ์ยังทำการสำรวจเขตทางตอนเหนือของทวีปไม่ได้
เพราะมันขวางเส้นทางบิน แล้วมันสูงไปถึงระดับชั้นบรรยากาศ อีกทั้งที่ยอดเขายังมีสนามพลังงานรังสีกับความร้อนรุนแรง ระดับที่สามารถฉีกยานอวกาศเป็นชิ้น ๆ ได้ เลยทำให้ไม่สามารถบุกเข้ามาจากทางอวกาศได้
ทางเข้าจึงมีเพียงหนึ่ง คือระดับพื้นดินที่เป็น [รู] ลึกลับ อันเนื่องจากฝีมือของใครสักคน ที่พวกเขาไม่มีใครรู้
แต่พวกเรารู้ว่า [รู] อันเป็นทางเข้าเพียงหนึ่งเดียวนั้น มันเกิดจากฝีมือใคร
เพราะพวกเราคือเทพผู้สร้างโลกใบนี้
คนที่สร้างรูนั้นขึ้นมา ก็คือมังกรในตำนานของเผ่ายักษ์ กับมนุษย์นกติดบัคตัวหนึ่งค่ะ
พวกมันแค่อยากได้บ้านดี ๆ ที่เงียบ ๆ ไม่ต้องมีใครมารบกวน มันเลยเลือกที่นี่เป็นบ้านของมัน
“เฮ้ย! เอาจริงดิ!? ลาพิสพาพวกเรามาถึงที่หมายได้ด้วย!? ”
“สุดยอด!”
คุณเอโซกับคุณแมรี่กำลังทึ่งกับความสามารถในการขับขี่ยานของฉัน
แต่นี่ยังพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น
เพราะว่าฉันไม่คิดที่จะลดความเร็ว เพื่อลอยยานไปหารูที่ว่าอย่างเชื่องช้าหรอกค่ะ
ว่าแล้วฉันจึงหักหัวยานโลมาให้คว่ำลงใส่เมฆ แล้วทิ้งดิ่งลงมา ส่วนกับน้ำตกที่กำลังไหลขึ้นด้านบน
ระเบิดทรัสเตอร์และพึ่งพาพลังธรรมชาติ ด้วยการเสริมพลังจากสิ่งที่เรียกว่าแรงโน้มถ่วงของโลกให้ดึงตัวยานมันลงไปให้มีความเร็วเกิน 10 มัค
“แว๊กกกก! นี่คิดจะฆ่าตัวตายหรือยังไงลาพิส!”
“คะ– ความเร็ว แรงเหวี่ยง– ขนาดยานลำนี้มีระบบต้าน— มันโคลง— อุ๊บ!”
เหมือนจะมีคนเมายานไปแล้วหนึ่ง
แต่ของแค่นั้นมันหยุดฉันในเวลานี้ไม่ได้หรอกค่ะ!
[ฉัน] [คือ] [ความ] [เร็ว] !
11 มัค! 12 มัค! 13 มัค!
จังหวะนี้ค่ะ!
*ฟูมววววว!*
ฉันกะจังหวะสุดท้ายก่อนที่ยานจะโหม่งโลกแตก ให้มันเชิดหัวยานขึ้น แล้วเปิดระบบต้านแรงโน้มถ่วง พร้อม ระเบิดทรัสเตอร์ทั้งหมด และเร่งพลังงานบาเรียสุดกำลัง เพื่อชะลอแรงการตกลงของยานไปพร้อมกับป้องกันไม่ให้ตัวยานถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยแรงหยุดของตัวมันเอง
เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบยามราตรี ต่างรีบลืมตาตื่นแหงนหน้ามองดูเบื้องบน
ภาพของวัตถุโลมาขนาดยักษ์ กำลังทิ้งตัวลงมา ณ ใจกลางป่าหิน บนพื้นที่ลานเปิดโล่งขนาดใหญ่
สิ่งนั้นมันคืออะไร?
พวกมันไม่รู้
แต่ที่พวกมันรู้ คือพวกมันตายแน่!
พวกมันเริ่มวิ่งหนีแตกตื่นโกลาหล
สายน้ำเบื้องล่างที่ก้นพื้นโลกแตกซัดกระเซ็นออก
สายลมได้ระเบิดออกเป็นวงแหวน พร้อมกับฝุน ดิน หิน และทรายที่แตกออกเป็นวงรี
เจ้าสิ่งนั้นวิ่งผ่านคลื่นม่านอันโกลาหล แล้วหยุดตัวลงพร้อมเสียงระเบิดลมที่ดังก้องราวกับท้องฟ้าทั้งใบได้ถล่มลงมา
ทุกอย่าง— เริ่มสงบลง
เสียงของน้ำตกไหลสู่เบื้องบน เริ่มกลับมาดังเป็นเสียงแห่งป่าอีกคร่า
เหล่าสัตว์ป่าทุกตัวต่างหยุดตัวเอง แล้วมองปลาโลมายักษ์ที่สะท้อนแสงจันทร์อย่างงดงามไร้บาดแผล
มันหยุดลงจอดเหนือผิวดินในระยะ 10 เมตร ไม่ขาด ไม่เกิน เพียงพอต่อการให้วางขายานยืนหยัดได้อย่างน่าอัศจรรย์
ลงจอด ตรงหน้าของ [รู] บนกำแพงภูเขาหิน ที่ดูเหมือนกับถูกสัตว์ยักษ์เจาะเข้าไปอย่างพอดิบพอดีราวกับจับวาง
สามสาวแห่งวิหารเทพทั้งสาม ได้มาถึงที่หมาย ณ เขตทางตอนเหนือสุดของทวีปป่าหินแล้ว
MANGA DISCUSSION