***วันที่ 6 เกอเนริบส์ ปีประวัติศาสตร์ที่ 126***
เวลา 20:20 น. ทวีปป่าหิน-ร็อค ฟอร์เรส
“ข้ากำลังอยู่ข้างใน แต่ละฝั่งสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง ทราบแล้วเปลี่ยน”
“รายงานจากกลุ่มหนูน้อยเรนเจอร์สีเงินผู้น่ารัก ”
“น่ารัก”
“เค้าว่าน่ารักละ~”
“ก็คนเกิดมาน่ารักจริง ๆ นี่นะ~”
“…รบกวนขอแต่เนื้อ ไม่เอาน้ำที”
“ได้ค่า~ เอาเป็นว่าพี่ชายฑาทิมไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องกล้องจับภาพ สัญญาณเตือนภัย หรืออะไรใด ๆ ทั้งสิ้นแล้ว เพราะตอนนี้ระบบทุกอย่างของตระกูลผู้กล้า ได้ตกอยู่ในการควบคุมของพวกเราแล้วค่ะ!”
“นี่ข้าพึ่งเข้ามาในเขตบ้านได้ไม่ถึงนาทีเลยนะ… เป็นเด็กที่น่ากลัวชะมัด”
ฉันกำลังนั่งฟังสิ่งที่เจ้าพวกตัวจิ๋วกับหัวหน้าคุยกันผ่านทางเครื่องสื่อสารเฉพาะของกลุ่ม
ดูท่าว่าทางฝั่งของหัวหน้าจะเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร
“ทางฝั่งเรนเจอร์ไม่มีปัญหาเช่นกันครับ”
ฉันรายงานสถานการณ์ให้หัวหน้าฟังด้วยน้ำเสียงของผู้ชาย แล้วหันไปมองหน้าทางเข้าของตระกูลที่โด่งดัง
ที่ตรงนั้น มีฝูงชนกำลังมาชุมนุมรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก
“ไอพวกมารร้ายที่บังอาจมาบุกรุกโลกใบนี้ พวกข้า! ขบวนการยักษาเรนเจอร์จะไม่ยอมแพ้ให้กับพวกสัตว์ประหลาดอย่างพวกแกเด็ดขาด!”
กลุ่มโอตาคุเรนเจอร์ห้าคน กำลังทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการจัดแสดงโชว์ใจกลางถนน พวกเขามาพร้อมกับแสงสีและเสียงที่ไม่รู้ว่าไปขนมาจากไหน
ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ แต่ยังมีเตรียมกระทั่งบทละครกับตัวร้ายมาเป็นอย่างดี จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเพียงแค่การแสดงของมือสมัครเล่น
พวกเขาสามารถเรียกเสียงหัวเราะ เสียงเชียร์จากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่อินไปกับบทบาทการแสดงได้อย่างน่าทึ่ง
ด้วยความสามารถในการแสดงระดับมืออาชีพยังอาย จึงทำให้พวกเขาสามารถเรียกฝูงชนมารวมตัวที่หน้าบ้านของเป้าหมายได้เป็นผลสำเร็จ
แต่จะดึงความสนใจของคนที่อยากดึงได้หรือไม่นั้น อันนี้ฉันเองก็ไม่อาจะรู้ได้เช่นกัน
“อย่างที่เห็นครับ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”
“รับทราบ งั้นข้าจะตัดการสื่อสารเดียวนี้ ขอให้ทุกคนโชคดี!”
เสียงตามสายได้เงียบลงพร้อมกับแสงไฟที่ดับลง
ฉันที่ทำเป็นนั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านพร้อมกับกลุ่มพวกพ้องอีกห้าคน จึงไม่มีอะไรทำนอกจากจับตามองดู
แต่ทว่าแทนที่สายตาของฉันจะมุ่งตรงไปที่การแสดงของพวกโอตาคุเรนเจอร์ มันกลับเบนเอียงลงไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ที่ถูกนำมาวางกางลงบนโต๊ะหิน
ปกติแล้วระบบคอมพิวเตอร์ของยุคนี้จะใช้เป็นกล่องดำขนาดเล็กแบบพกพา แล้วยิงภาพฉายทุกอย่างขึ้นไปบนอากาศ
แต่เนื่องจากยังมีกลุ่มคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว คอมพิวเตอร์รูปแบบที่มีจอภาพประกอบในตัวเครื่อง จึงยังมีความจำเป็นสำหรับพวกเขา
เพราะการฉายพากลงบนอากาศนั้น ไม่ว่าใคร ใครก็สามารถหันมามองเสือกได้ตลอดเวลานั่นละ
แถมไอสิ่งที่ฉันกำลังมองดูอยู่ในเวลานี้ มันยิ่งไม่สามารถให้ใครรู้ได้อีกด้วย
“ครับ คุณเดสตินี่ เดียวให้ผมพาไปส่งที่โรงแรมให้นะครับ”
“ขอบคุณมาก แต่ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก ผมมีงานอื่นที่อยากจะมอบหมายให้กับคุณ”
เพราะไอสิ่งที่ฉันกำลังดูอยู่ มันคือภาพฉายชีวิตประจำวันของคุณออน นายตำรวจหนุ่มเผ่ามนุษย์ผู้ที่หล่อ เท่ และน่ารักที่สุดในจักวาลแห่งนี้ค่ะ!
ภาพของชายที่ฉันหลงรัก กำลังถูกฉายบนจอภาพด้วยความคมชัดระดับ Full HD ที่สามารถมองเห็นได้ลึกไปถึงระดับรูขุมขน
ถ่ายทำด้วยหุ่นยนต์แมลงนาโนชนิดพิเศษของกองทัพ ที่ถูกพัฒนามาอย่างดีเพื่อไม่ให้มีอุปกรณ์ใด ๆ จับตัวได้
แน่นอนว่าของแบบนี้ฉันยอมทุมเงินชนิดแบบหมดหน้าตัก เพื่อหาซื้อมาจากตลาดมืดของโลกค่ะ
นี่คือสาเหตุ ที่เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันบอกให้หัวหน้ารีบกลับไปที่โรงแรม
เพราะฉันรู้ว่าเขาอยู่ที่เมืองนี้
นี่คือสาเหตุ ที่ทำให้ฉันสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของเขาได้ทุกเวลา รวมไปถึงกระทั้งเวลาที่เขาอาบน้ำ
ต้องบอกว่าหุ่นของชายคนนี้เป็นชิ้นงานที่ดีมากเลยทีเดียวค่ะ
หุ หุ หุ~
ซูด~
“งานใหม่อย่างงั้นหรือครับ? ”
“ใช่ และผมคิดว่ามันถึงเวลาอันสมควร ที่ผมคิดว่าคุณสามารถรับงานเช่นนี้ได้”
หนุ่มหล่อผมสีน้ำตาลของฉัน กำลังคุยกันอย่างเป็นกันเองกับเผ่ามนุษย์มดที่สวมสูทสีเทา
ดูจากสถานที่แล้ว คิดว่าคงเป็นลานจัดเลี้ยงขององราชาดูเรียนที่ III ที่ตั้งอยู่ไปไม่ไกลจากแถวนี้
“มันคืองานอะไรหรือครับ? ”
“มันคืองานแบบนี้—”
ชายเผ่ามนุษย์มดคนนั้นกำลังส่งอะไรบางอย่างให้กับผู้ชายของฉัน
คงไม่ใช่จดหมายรักหรอกนะ…
เพราะถ้าเป็นจดหมายรัก ฉันนี่ละจะรีบวิ่งไปฆ่าเจ้ามดทิ้งในทันที ตอนนี้เลย
ต้องรีบสั่งให้หุ่นยนต์นาโนของเราซูมภาพขึ้นมาหน่อย
ไหน— ดูซิ— เนื้อมันคืออะไรกัน?
[บาร์-ธา-ซ่าร์] ? [เอลเดอร์เบอร์รี่] ? ขอแรงคนให้ไปสังหารมังกรเพื่อเอามาทำเป็นเนื้อกินในงานฉลองของคาร์นิวอยรอบหน้า?
เพื่อเป็นการทดสอบความจงรักภักดี จงทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ?
วันนี้ทางเราได้จัดสถานที่ ที่เป็นใจให้กับเจ้าแล้ว?
เออ… ไอเนื้อหาที่ชวนดูอันตรายนี้มันคืออะไรกัน…?
เริ่มชักจะรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเสียแล้วสิ…
จากที่ฉันสืบประวัติของเขามา และตามข่าว รวมไปถึงเส้นทางการเดินทางของเขาในอดีตก่อนที่จะรู้จักกัน มันเลยทำให้ฉันพอจะคาดเดาได้ว่าอาชีพที่แท้จริงของเขา คือตำรวจสากล ที่กำลังทำหน้าที่สืบสวนโฉมหน้าที่แท้จริงของชมรมคนกินเนื้อ คาร์นิวอย
เท่าที่ฉันรู้ ชมรมคนกินเนื้อ คาร์นิวอย คือชมรมรวมคนชอบกินอาหาร
พวกเขามักมีจัดงานลิ้มรสชาติอาหารที่แปลกใหม่กันบ่อย ๆ
แต่มันมีข่าวลือซุบซิบตามหน้าเว็ปอยู่ ว่าคนขององค์กรนี้บางส่วน มีไปแอบกินเนื้อที่ผิดกฏหมายกัน
แน่นอนว่าตอนแรกฉันไม่เชื่อข่าวอะไรแบบนั้นหรอก จนกระทั้งได้ตามติดชีวิตของเขา เลยทำให้ได้รู้ว่ามันมีคนโรคจิตเช่นนั้นอยู่บนโลกใบนี้จริง
“…รับทราบ กระผมจะรับหน้าที่นี้ และแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีที่กระผมมีต่อท่านให้ดูครับ ว่ากระผมมิได้เป็นอย่างที่อีกาดำแจ้งเอาไว้”
“เยี่ยม! ผมเองก็หวังว่าคุณจะเป็นคนของทางฝั่งนี้เช่นกัน!”
คุณออนมีออกอาการถอนหน้าสีไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบปรับอารมณ์เพื่อรับคำขอที่ดูชั่วร้ายนี้มา
แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่ทันสังเกตุเห็นถึงอาการผิดปกติตรงนั้นของเขาหรอก ถ้าไม่ใช่เป็นฉันที่ตามติดดูชีวิตของเขามาตลอด 48 ชม.
คุณออน… ดูท่าจะเจองานที่ต้องทำให้เขาลำบากใจเข้าให้เสียแล้วสิ…
เขาเป็นคนที่จิตใจดีงามประดุจเป็นพระแม่ไกอาของพวกเรา มันคงยากสำหรับเขา ที่จะต้องฝืนใจไปฆ่ามังกรที่ไม่มีความผิด—
“…”
เดียวก่อน… มังกรอย่างงั้นหรือ?
จะว่าไป คนที่เป็นอริกับหัวหน้าเองก็มีชื่อว่า [เอลเดอร์เบอร์รี่] เสียด้วยสิ
เอลเดอร์เบอร์รี่ มังกร เป้าหมายของคุณออน อาหาร…
ไม่จริง! อย่าบอกนะว่าเป้าหมายของคุณออนก็คือมังกรที่หัวหน้าตั้งใจจะเข้าไปลักพาตัวออกมาตอนนี้!?
ในระหว่างที่ฉันกำลังตกใจ ตำแหน่งของคุณออนก็เริ่มเคลื่อนไหว
เขากำลังวิ่งตัดถนนออกมาจากลานจัดเลี้ยง แล้วมุ่งตรงมาทางตำแหน่งที่พวกหัวหน้ากำลังลอบบุกเข้าไปข้างใน
เดียวสิ! นี่จะบอกว่าเขากำลังจะเริ่มงานตอนนี้เลย?!
แย่แล้ว! ถ้าพวกเขาเจอกันเข้า มีหวังได้เป็นเรื่องวุ่นวายแน่!
ฉัน— ต้องรีบเตือนหัวหน้าให้เร่งมือลักพาตัวเดี่ยวนี้เลย!
***
ราบรื่น…
ราบรื่นอย่างน่าตกใจ…
“หัวหน้า เออ… ปกติเวลานี้ทุกคนในตระกูลจะเข้านอนกันหมดแล้วหรือครับ? คือมันจะเงียบเกินไปหรือเปล่าครับเนี่ย? ”
“ข้า… คือปกติมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้”
เพราะช่วงเวลานี้ อย่างน้อยก็ควรจะมีคนรับใช้เดินไปมาคอยให้อาหารมังกร จับพวกมันมาเช็ดเกล็ดตามตัวให้สะอาด
แต่นี่ขนาดแม้แต่คนรับใช้หรือมังกรตัวหลักเอง ก็ยังไม่มีปรากฏตัวให้เห็น
ที่เห็น ๆ ตรงข้างล่าง มีเพียงแค่ยามเฝ้าบ้านแก่ ๆ ไม่กี่คนที่กำลังนั่งหลับ กับมังกรวัยแรกรุ่นที่เอาแต่นอนกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นหญ้าเท่านั้น
เพราะมีคนเหลือน้อย เลยทำให้ตัวเขตของบ้านแทบจะมืดสนิท ไร้เงาของชีวิตจนแทบจะกลายเป็นบ้านร้างไปแทน
“หัวหน้า มีข้อความติดต่อมาจากเบอร์รี่ครับ”
“ว่ามา”
“นี่เบอร์รี่พูด หัวหน้า รีบลงมือให้เร็วที่สุด! เวลาเหลือน้อยแล้ว! เพราะมีตัวอันตรายกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ครับ”
“ตัวอันตราย? ใคร? เจ้าบ้า [เอลเดอร์เบอร์รี่] อย่างงั้น— ข้าเข้าใจแล้ว!”
“เหวอ!? อย่าตะโกนเสียงดังแบบนี้สิครับหัวหน้า!”
“อ๊ะ? ขอโทษที”
ข้ารู้แล้วว่าทำไมวันนี้ถึงมีคนอยู่ในบ้านน้อย
บางที— เจ้า [เอลเดอร์เบอร์รี่] คงพาคนในบ้านออกไปกินเลี้ยงที่ไหนสักแห่งชัวป๊าบ
แล้วตอนนี้มันก็กำลังจะกลับมา เลยเป็นที่มาของคำเตือนของคนดูต้นทางอย่างเจ้าเบอร์รี่
ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับมัน
“เยี่ยมมาก! เจ้าพวกบ้าของคนในตระกูลกำลังจะกลับเข้ามาในบ้านสินะ? ”
“เอ๊ะ? เออ…? คือ…? ”
“บอกให้พวกทีมเรนเจอร์ทำยังไงก็ได้ ถ่วงเวลา อย่าให้พวกมันเข้ามาในเขตตัวบ้านให้นานที่สุด! ส่วนข้าจะรีบบินไปหามังกรลี่เดียวนี้ รับรอง ไม่ถึงนาที เสร็จ! ตัดสายละ!”
“เออ ไม่ใช่ครับ ผมว่าหัวหน้าเข้าใจผิด—”
ไม่จำเป็นต้องคุยต่อให้มากเรื่อง
เพราะตอนนี้รู้แล้วว่าแทบไม่มีคนเหลืออยู่ในบ้านเลย
ดังนั้น ข้าจึงไม่มีความจำเป็นต้องบินอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีกต่อไป!
“ไปเลย หมายเลขหนึ่งถึงสี่ ไปหาอดีตจ่าฝูงของพวกแกกัน!”
*กรรรร!*
ข้าบินทะยานไปอย่างรวดเร็วประดุจเป็นสายลม ตรงไปที่ทะเลสาบของสวน
ที่ตรงนั้น มีร่างมังกรกำลังสะท้อนแสงจันทร์เป็นเงาวงกลมอยู่เหนือบ่อน้ำ
มังกรที่มีลำตัวยาวถึง 60 เมตร กำลังนอนลอยอยู่ที่ผิวของทะเลสาบอย่างสบายใจ
*ปี้? *
เจ้ามังกรที่โตแต่ตัว แต่สมองยังเป็นทารกตัวนั้น ได้ลืมตาตื่นก่อนที่ข้าจะได้ทันส่งเสียงปลุ๊ก
ได้กลิ่นของข้าก่อนอย่างงั้นหรือ?
นี่ข้าว่าข้าอาบน้ำมาสะอาดดีแล้วนะ?
มันแหงนหน้าสูงขึ้นมาพร้อมกับสร้างกระแสคลื่นเบา ๆ ทำลายผิวกระจกธรรมชาติให้พร่ามัว
*เปาาาา~ *
มันส่งเสียงคำรามเบา ๆ อย่างดีใจทันทีที่เห็นข้า
แต่ข้าไม่มีเวลาจะมาลูบหัวหรือเล่นกับมัน เลยรีบชักหน้าดุ แล้วนำมือแตะไปที่ปากของตัวเอง
*ปิ? *
มันเงียบในทันที แล้วเอียงคออย่างน่ารักมาทางข้า
“ข้าจะพาเจ้าออกไปเดินเล่นสักพัก ว่ายังไง? สนใจหรือเปล่า? ข้าขอยายพรุนมาแล้ว”
*ปี้? *
มันยังคงแหงนหน้ามองมาทางข้าอย่างสงสัย ก่อนจะหันหัวไปในทิศที่กระทอมของยายพรุนตั้งเอาไว้
ไม่เชื่อคำพูดที่ชวนน่าสงสัยในทันที…
สมกับที่เป็นมังกรของคุณยาย ฉลาดไม่เลวแฮะ
แต่มันทำให้ข้าลำบากรู้ไหม?
เอายังไงดี? ไม่อยากใช้กำลังบังคับพามันออกมาเสียด้วยสิ
หรือว่าจะลองใช้วิธีนี้ดูก่อนดี?
“ถ้าตามข้ามาตอนนี้ ข้ามีอาหารมังกรอร่อย ๆ เตรียมรอทำให้กินด้วยนะ”
*ปี้!*
มันพุ่งขึ้นมาเลียใบหน้าของข้า และตอบตกลงแทบจะในทันที
แค่เอาขนมมาล่อเนี่ยนะ?
ตกลงอย่างว่าง่ายเลยเว้ยเฮ้ย?
ข้าขอถอนคำพูด
ไอมังกรนี้โง่ฉิบหายเลยครับคุณยายพรุน
***เวลา 20:40 น. ***
ผมกำลังวิ่งตรงไปที่บ้านของตระกูลขุนนางเผ่ายักษ์ที่มีชื่อเสียงโดงดังในฐานะผู้สืบสายเลือดของผู้กล้าในตำนาน
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง จึงทำให้สองขาที่กำลังวิ่งไปคู่นี้ รู้สึกหนักอึ้งราวกับมีลูกตุ้มมาถ่วงน้ำหนักเอาไว้ ไม่ให้วิ่งต่อไปได้อย่างที่ใจต้องการ
“ (วิ่งสิ… นี่คือภารกิจเพื่อความถูกต้อง) ”
ผมเคยทำใจเอาไว้แล้ว ว่าเรื่องอะไรเช่นนี้จะต้องมีเจอเข้าสักวัน
ภารกิจการสังหารคนที่ถูกต้อง เพื่อแสดงหลักฐานถึงความจริงใจในการเข้าองค์กรคาร์นิวอย
ถ้าผมไม่ทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ คงไม่ต้องสืบต่อว่าอนาคตจะมีชะตากรรมเช่นใดรอคอยอยู่
ผม— จำเป็นต้องทำมัน
“ (… มันใช่สิ่งที่ถูกต้องจริง ๆ นะหรือ? ถึงอีกฝ่ายจะไม่ใช่เผ่าที่มีภูมิปัญญา แต่ก็เป็นมังกร เพื่อนที่ดีที่สุดของพวกเผ่ายักษ์) ”
ไม่…! มันก็แค่สัตว์!
ผมไม่ใช่พวกที่กินแต่ผักเสียหน่อย ใยเล่าจะต้องมารู้สึกผิดกับการฆ่าสัตว์ตัวหนึ่งเพื่อเอาไปทำเป็นเนื้อกินกันด้วย?
“…”
ขาที่กำลังวิ่ง กลับเริ่มเคลื่อนไหวช้าลงไปตามจังหวะ
เสียงหายใจเริ่มเบาบางช้าลง
จนกระทั้งผมหยุดเคลื่อนไหว ยืนนิ่งอยู่ตัวคนเดียวท่ามกลางแสงไฟถนนที่ส่องสว่างจากข้างทาง ซ้ายและขวา
เสียงลมพัดโบก นำพาจิตใจให้เงียบสงบครุ่นคิด
นี่ผมกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรมอยู่จริง ๆ ใช่หรือไม่?
ฆ่าสิ่งมีชีวิตเพื่อในนามที่ถูกต้อง?
ความถูกต้องที่ได้มาจากการฆ่าที่ไม่ใช่เพื่อการเอาตัวรอด มันคือเรื่องที่ถูกต้อง?
*ผัวะ!*
ผมต่อยหน้าตัวเองเข้าที่แก้มขวาอย่างรุนแรง เพื่อเรียกสติให้กลับมา
นี่ไม่ใช่ความยุติธรรมในแบบฉบับของผม!
ผมจะไม่ฆ่าคนที่ไม่ผิดโดยอ้างชื่อของความยุติธรรมเป็นอันขาด
หากผู้ถืออำนาจทางกฏหมายกระทำตัวเยี่ยงนั้นแล้ว แล้วมันจะต่างอะไรไปจากบ้านป่าเมืองเถื่อนที่ไร้กฏหมายกันเล่า?
คิดสิ! คิด! มันต้องมีทางอื่นสักทางสิ!
*แกว๊ก!*
“ชู่! เงียบ ๆ หน่อยสิเจ้าลี่! เดียวก็มีทีคนได้ยินกันพอดี!”
เสียงอะไรคุ้น ๆ หู…
ผมแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า
ท่ามกลางหมู่แสงดาว มีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว
ถึงจะดูยากเพราะเหมือนถูกอะไรสักอย่างหุ้มเอาไว้ด้วยสีดำ แต่เพราะแสงจันทร์ที่ตกกระทบ เลยทำให้พอจะมองออก ว่ามีบางอย่างกำลังบินอยู่
มันเป็นภาพของมังกรสี่หัวเกล็ดสีน้ำตาล ที่กำลังแขวนผ้าห่อสีดำขนาดใหญ่ ช่วยกันนำมันบินตัดเมืองไปในทิศตะวันตก
“หัวหน้าฑาทิมนั่นแหละที่เสียงดังยิ่งกว่าใครเลยครับ!”
“แล้วจะเอยชื่อของข้าออกไปทำไมวะไอพวกโง่!”
ไอฑาทิม…
มันทำอะไรของมันกันวะนั่น?
*ปี้!*
“เหวอ! อย่าโผล่หัวออกมาจากห่อเองแบบนี้สิวะเจ้าลี่!”
“มันคงหายใจลำบากละมั้งครับหัวหน้า? ลองเจาะรูหายใจให้มันสักหน่อยน่าจะดีขึ้นอยู่นะครับ”
แล้วไอตัวที่กำลังโผล่หัวออกมาจากห่อผ้า ที่มีเกล็ดสีเงิน ๆ ตัวนั้น— มันคือมังกรเป้าหมายที่ผมจำเป็นจะต้องไปล่าไม่ใช่หรือ?
“…”
เรื่องจริงดิ!?
จะมัวรออะไรอยู่ รีบวิ่งตามไปสิเจ้าออน! เป้าหมายของแกกำลังจะหนีไปแล้วนะเออ!
“เดียว—”
เดียวก่อนสิเจ้าออน…
นี่มันโอกาสดีเลยไม่ใช่หรือ?
ถึงไม่รู้ว่าเจ้าบ้าฑาทิมมันกำลังทำอะไร แต่ไม่ใช่ว่าการกระทำแบบนั้น มันไม่ต่างอะไรจากการลักขโมยเลยไม่ใช่หรือ?
บางที— ผมอาจจะเอาเรื่องนี้ไปทำข้อตกลงกับมันได้อยู่
ใช่แล้ว— ไม่เห็นจำเป็นจะต้องฆ่าเป้าที่ได้รับมาเลยนี่?
คำสั่งที่พวกมันต้องการคือ [เนื้อมังกรสายพันธุ์วารี]
แค่ทำให้เป้าหมายหายไป แล้วไปหารับซื้อเนื้อมังกรที่ขายอย่างถูกกฏหมายตามท้องตลาดแทน มันก็ได้ไม่ใช่หรือ?
เงิน? ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด
เพราะเดียวไปไถเอาจากเจ้าฑาทิมก่อนได้อยู่
ยังไงการลักขโมยของชาวบ้านมันก็คือความผิดอยู่แล้ว
อีกอย่าง ผมยังรู้สึกหมั่นไส้ที่มันบังอาจพยายามลวนลามคุณลาพิสอยู่ด้วย
ลักขโมยกับพยายามลวนลามชาวบ้านสินะ~
ใช้เรื่องนี้เอาไปขู่มันดีกว่า~
ไม่มีใครตาย ไม่มีมังกรเลี้ยงตัวไหนต้องมารับเคราะห์ นอกจากเจ้าฑาทิมคนเดียว
นี่ละคือทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้
วะ ฮะ ฮะ ฮะ!
ว่าแล้วก็หยิบมือถือขึ้นถ่ายรูปสักใบ
อ่าว… ระบบรวน?
แล้วทำไมมารวนอะไรเวลานี้กันเนี่ย!?
เชี่ย! สุดท้ายก็ต้องวิ่งตามไปอยู่ดีเรอะ!?
“ว่ายังไง ข้าเจาะรูให้แล้ว หายใจคล่องขึ้นหรือยัง? ”
*ปี~*
เสียงของไอบ้าฑาทิมกำลังห่างออกไปไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ
เดียวก่อน! อย่าพึ่งบินไปเร็วแบบนี้สิ! รอผมก่อนนนนน!!!
MANGA DISCUSSION