***วันที่ 6 เกอเนริบส์ ปีประวัติศาสตร์ที่ 126***
เวลา 13:00 น. ทวีปป่าหิน-ร็อค ฟอร์เรส
ณ ห้องพักหนึ่งในโรงแรม [พำนักพร้อมพัง ฑาทิม]
ภายในห้องไม้เก่า ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอับของไม้ และเต็มไปด้วยแมลงที่ทำรังไปทั่วตามซอกมุมของเปลือกไม้ที่แตกหัก
“เอโซ เธอตั้งใจจะออกเดินทาง ไปทางตอนเหนือของทวีปเมื่อไหรกัน? ”
“ขอเวลาอีกหนึ่งวัน เราตั้งใจว่าจะทำวิทยานิพนธ์หัวข้อ [หลักความเชื่อของผู้รังเกียจพระเจ้า กับ ทัศนะของผู้ที่เชื่อในพระเจ้า] ให้เสร็จภายในวันนี้ พวกเราจะได้ไปออกผจญภัยได้อย่างสบายใจ วันนี้เธอกับลาพิสเอาเวลาไปเตรียมตัวเดินทางไกลกันก่อนได้เลย— ฝากเช่ารถดี ๆ มาสักคันด้วย แน่นอนว่าไม่เอาระบบใช้สัตว์ลากเลื่อน”
“… แต่ว่าถ้าอิงตามการทำนายด้วยไพ่ทาโร่ของผม พวกเราควรรีบออกไปกันเช้าวันนี้เลย มิฉะนั้นจะพบกับเรื่องวุ่นวายนะเออ”
“ทำนายไพ่? แล้วต้องเช้าวันนี้ด้วย? คราวนี้จะเจอเรื่องวุ่นวายแบบไหนกันได้อีกเล่า? ”
เรารีบวางมือที่กำลังเทียนเขียนพิมพ์วิทยานิพนธ์ด้วยหน้าจออากาศ แล้วหันไปมองสหายตัวแสบที่ถือไพ่รูปอัศวินกะโหลกขี่ม้าขาวถือธงดำ [The Death]
“ไม่ใช่ว่าไพ่ใบนั้นมีความหมายถึงการจบสิ้นหรอกหรือยังไง? ”
“ไพ่พวกนี้มันสามารถตีความได้กว้างกว่าที่เห็น แต่ในกรณีนี้ [เซนส์] ในการทำนายของผมมันตีความได้ว่า [ให้พวกเราควรจบสิ่งที่กำลังทำเวลานี้ ตอนนี้ แล้วควรไปเริ่มสิ่งใหม่เดียวนี้เลย!] อะไรประมาณนี้นั่นแหละ”
จะบอกว่าให้ตัดจบ วิทยานิพนธ์ ปลอม ๆ ที่นั่งแต่งมั่วนิ่มฉบับนี้ แล้วรีบออกเดินทางจะดีกว่าสินะ?
มาคิดดูก็ดีเหมือนกันแฮะ
เพราะยังไงไอวิทยานิพนธ์ที่เขียนแบบมั่วนิ่มเล่มนี้ มันก็แค่เอาให้พอมีส่งให้คุณป้าไม่ด่า ว่าเอามาแต่เที่ยวเล่น ไม่ได้ทำภารกิจของวิหารแค่นั้นเอง
ยิ่งขี้เกียจทำอยู่ด้วย ตัดจบมันไปเลยดีกว่า
“ดี งั้นเดียวรีบเตรียมออกเดินทางกันตอนนี้เลย”
“อื่ม”
[ค่ะ]
ว่าแล้วพวกเราทั้งสามคนก็เริ่มเตรียมเก็บของลงกระเป๋า
แต่เนื่องจากห้องพักมันบัดซบมาก เลยทำให้เสื้อผ้าที่ถอดออกมาซัก แล้ววางตากเมื่อวาน ได้ถูกแมลงแทะกินไปหมดแล้ว
เออ เดียวนะ… ไม่ใช่แค่เสื้อที่ตากเอาไว้…
เสื้อผ้า… กระเป๋าหนัง… ของพวกนี้เอง… ก็โดนโดนแมลงแทะไปทั้งใบด้วยเหมือนกันหรือนี่?
“โดนแทะไม่มีเหลือ…”
[ของฉันโดนเช่นกัน ตอนนี้เหลือแค่ขวดใส่วิญญาณเปล่าเท่านั้นค่ะ]
ไอโรงแรมซังกะบ๊วยเอ๊ย…
ขอพังมันก่อนออกไป จะได้ไหมเนี่ย?
“พอพูดถึงขวดบรรจุวิญญาณแล้ว จะว่าไป ไม่เห็นเอโซพูดถึงการสอบสวนไอเจ้าวิญญาณมดที่จับมาเลยแฮะ ตอนนี้เธอคนนั้นอยู่ที่ไหนแล้วอย่างงั้นหรือ? ”
“เออใช่! ลืมบอกไปเสียสนิท เราส่งตัวมันให้ท่านยมไปแล้ว เพราะว่าได้ทำการสวบสวนไปแล้วนะ”
“ทำไปตอนไหนกันเนี่ย!? ”
“เมื่อคืนที่ผ่านมา ตอนที่พวกเธอสองคนหลับปุ๋ยกันนั่นละ เพราะคิดว่าจากนี้คงวุ่นวายตลอดอีก เดียวไม่มีเวลาสอบสวนแน่ เลยทำพิธีสอบสวนให้มันจบ ๆ ไปเลย”
โลกนี้นะมีด้วยกัน 48 ชั่วโมงต่อวัน
ถึงจะบอกว่าเวลานอนของคนโลกนี้ได้ถูกปรับตัวให้นอน 12 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่สำหรับเราแล้ว ขอได้นอนแค่ 6 ชั่วโมงมันก็เพียงพอแล้ว
เพราะตาสว่าง เลยทำการใช้อุปกรณ์ทางโลกวิญญาณที่ได้คืนมาจากยัยแมรี่ มาทำการสวบสวนวิญญาณของเจ้ามนุษย์มดผู้หลงผิดคนนั้น
“แล้วได้ความว่ายังไงบ้าง? เป็นเทพ? หรือปีศาจ? หรือสัตว์วิญญาณระดับเทพ? ที่มาป่วนโลกของพวกเรา? ”
“ไม่รู้ เจ้าตัวไม่รู้ว่าใครเป็นคนสอนวิธีใช้วิชาเทพให้กับมัน มันรู้แค่ว่าเป็น [ผู้หญิง] และมี [ปีกค้างคาว] เท่านั้น”
คิดว่ามันไม่ได้โกหก
เพราะเราใช้วิธีสะกดจิตวิญญาณ หลอกให้มันได้เห็น ในสิ่งที่อยากเห็นที่สุดในชีวิต ปลอมตัวเป็นคนที่มันเชื่อใจมากที่สุดอย่างราชินีแฟตที่สอง เพื่อหลอกถามข้อมูลจากมันมา
“ [ผู้หญิง] และมี [ปีกค้างคาว] …!!!”
“เป็นอะไรของเธอ ทำไมทำตาโตแบบนั้น? มีสะกิดใจอะไรอย่างงั้นหรือเปล่า? ”
“—ปะ! เปล่า!! แค่ว่าถูกแมลงกัดเข้าที่ก้นนะ! ฮะ ฮะ ฮะ!!”
“? ”
อะไรของยัยแมรี่?
เรายังคงมองไปทางแมรี่ในระหว่างที่ทำการฉีกกระเป๋าหนังเน่า ๆ ออก เพื่อรวบรวมของที่ยังใช้ได้ มารวมใส่ในถุงพลาสติกไปแทน
ถ้ารู้ว่าจะถูกแมลงแทะแบบนี้ สู้ลงทุนซื้อกระเป๋า [ไร้รูป] มาใช้ดีกว่า
กระเป๋า [ไร้รูป] คือกระเป๋าที่เกิดจากการใช้เมล็ดทรายนาโนประกอบเป็นพันธะขึ้นรูปกระเป๋าใส่ของ
มันสามารถเซ็ตติ้งให้เมล็ดทรายนาโนเชื่อมเป็นโมเลกุล เลียนแบบให้เป็นพันธะของพลาสติก หนัง เหล็ก หรือวัสดุใด ๆ ที่มันสามารถจะเลียนแบบได้ ให้กลายเป็นกระเป๋าเทียมที่มีรูปทรงดั่งใจปราถนาของผู้ถือ
มันเป็นที่นิยมมาก
ปัญหาเดียวขอฃกระเป๋าใบนี้คือ ราคาที่โคตรจะแพงแบบไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด…
“ถึงจะแพง แต่มีใช้งานได้นาน ๆ …ตัดสินใจแล้ว ไหน ๆ กระเป๋าก็เน่าไปละ ไปหาซื้อใบใหม่กันดีกว่าพวกเรา!”
เราเดินนำพรรคพวกออกจากห้องพัก
เดินตรงไปตามระเบียงไม้ผุ ๆ ที่ส่งเสียงไม้แตกดังลั่นน่ากลัว เพื่อตรงไปทางห้องโถงต้อนรับ
ไม่จำเป็นต้องทิ้งข้อความอำลาให้กับเจ้าหื่นสองตัวหรือใคร แล้วรีบทำเรื่องคืนกุญแจ เพื่อเผ่นออกไปจากที่นี่ดีกว่า
“คุณลาพิส!!!”
—ดูเหมือนว่าจะออกไปช้าอยู่ก้าวหนึ่งแฮะ
เจ้ายักษ์หน้าม้อกำลังวิ่งส่งเสียงดังตรงมาทางพวกเราด้วยความเร็วสูง จากฝั่งทางเข้าโรงแรมที่ใช้ผ้าคลุมสีแดงแขวนแทนบานประตู
มันวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วประหนึ่งเป็นวัวคลั่ง ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนพื้นอาคารจนเกิดแรงสั่นไปทั้งหลัง มุ่งตรงไปหาลาพิสด้วยท่าอ้าแขนสองข้างออก
“ขออึบที!”
*โครม!*
ใบหน้าของเจ้ายักษ์กำลังยุบเหมือนลูกบอลที่ถูกนักแตะมืออาชีพถีบใส่
เริ่มจากที่ลาพิสยกเท้าขวาสูงทำมุม 180 องศา กับขาซ้ายที่หยั่นลงบนพื้น แล้วหมุนตัวควงเป็นสว่าน เพื่อกระโดดถีบออกไปเป็นหัวฉมวกเหล็กที่ถูกยิงจากปากกระบอกปืน
ปลายเท้าอันสวยงามของเธอ ได้จมลึกผ่านดั้งจมูกของเจ้าฑาทิม จนดวงตาทั้งสองข้างของเขาถล่นออกมาให้เห็น
น้ำลาย เหงื่อ และเลือด เริ่มสาดกระเด็นกระจายไปทั่วในอากาศ ก่อนจะถูกส่งปลิวไปตามแรงถีบ ลอยละล่องข้ามเค้าเตอร์ลังไม้รับรองแขก แล้วจบลงด้วยการกระแทกเข้ากับผนังอาคารเต็มแรง
ตัวอาคารสั่นสะเทือน พร้อมกับที่มีฝุ่นและซากแมลงตายจำนวนมาก ร่วงหล่นลงมาทับเจ้ายักษ์หน้าโง่จนมิดไม่เห็นหัว
สมควรโดน…
ว่าแต่ไอเจ้าหมอนี่มันกินอะไรผิดสำแดงมาตั้งแต่เช้าหรือเปล่าหว่า?
ถึงรู้ว่าบ้า แต่ไม่คิดว่าจะอาการหนักได้ถึงขนาดนี้
แถมแขนขวาของมันยังหักด้วย สภาพคล้ายกับไปหาเรื่องใครมาก่อน
แล้วที่ข้างนอกโรงแรม— ยังมีจิตของเจ้าหนู 4 คน กำลังแอบยืนมองมาทางนี้อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่อีกกลุ่มหนึ่ง
รู้สึกได้ถึงเงาเมฆแห่งความโกลาหลที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมา…
“รีบออกไปกันดีกว่า”
การทำนายของยัยแมรี่นี่แม่นอย่างน่ากลัวจริง ๆ แฮะ
***
“เออ… ไม่ทราบว่ายังมีชีวิตอยู่ไหมครับ? ”
“ลาพิสสสส!”
“เหวอ!? ไอบ้าฑาทิม! นี่ผม! ออน!”
“… อ่าว? ไม่ใช่ลาพิสนี่? ”
รู้สึกราวกับสมองได้ถูกถอดปลั๊กออกไปช่วงหนึ่ง
พอได้สติกลับมา กลับกลายเป็นเจ้ามนุษย์ผมสีน้ำตาลตัวจ๊อยมายืนแทนที่สาวงามซะงั้น
“เรียนแจ้งท่านเจ้าของ ผู้พักที่ชื่อลาพิสได้ทำการยื่นคืนกุญแจออกไปเมื่อตอน 40 นาที ที่แล้วนี้เองครับ”
“… น่าเสียดายแฮะ”
ข้าโบกมือให้กับหุ่นต้อนรับทรงไข่ขึ้นสนิมที่หันมาพูดกับข้า ก่อนจะกลับไปมองซ้าย และมองขวา
แขกที่มาพักโรงแรมของข้ายังคงร้างเช่นเคย
ต่อให้ตั้งราคาถูกที่สุดในเมือง ก็ไม่มีใครคิดจะมาพักที่โรงแรมเน่า ๆ แบบนี้
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
เพราะหลังจากนี้ ข้า— จะลงมือทำเรื่องที่ชั่วร้ายที่สุด ในฐานะ [ขยะ] แห่งวงการเผ่ายักษ์แล้ว
“ไอเจ้าหน้าอ่อน ว่าแต่แกคิดจะพักถึงวันไหน? ”
“ไม่รู้เหมือนกัน คงจนกว่าเจ้านายของผมจะทำธุระเสร็จละมั้ง? ”
“งั้นข้าขอแนะนำให้เจ้าหาที่พักใหม่ได้ เพราะข้ากะจะปิดโรงแรมวันนี้”
“เฮ้ย? ”
“เดียวของ ๆ แก ข้าจะให้หุ่นโทรม ๆ ของโรงแรมข้า ขนเอาไปวางกองหน้าทางเข้าให้ ที่เหลือ จัดการต่อเองนะ”
“เฮ้ยยย!? ”
“มัวแต่ร้อง [เฮ้ย] อยู่ได้? รีบไสตูดออกไปจากโรงแรมของข้าได้แล้วไอหน้าอ่อน!”
“แว๊ก!? ”
ข้าใช้มืออันใหญ่โตคว้าเสื้อเจ้าหน้าอ่อน แล้วโยนออกผ่านผ้าม่านไปเหมือนเป็นลูกบอล
เผ่ามนุษย์นี่ตัวเบาชะมัด
“เอาละ! ไอพวกขี้เกียจ! ข้าขอเรียกประชุมด่วน! จงรีบมารวมตัวที่ห้องโถงหลักภายใน 5 นาที! ปฏิบัติ!!”
*…*
*ตึ—…*
*ตึง! ตึง! ตึง!*
เยี่ยม มากันได้เร็วสมกับเป็นลูกน้องของข้า
บางคนสภาพเหมือนเพิ่งลุกมาจากที่นอน
บางคนมาในสภาพเปิดครึ่งตูดเพราะรีบวิ่งออกมาจากส้วม
บางคนมาทั้งผ้าขนหนูอาบน้ำเลยวุ้ย
ส่วนพวกกลุ่มโอตาคุเรนเจอร์นี่ไม่ต้องพูดถึง มากันในสภาพกำลังหมักสีผมตัวเองทั้งแบบนั้น
เหม็นกลิ่นน้ำยาฉิบ!
จะมีก็แค่ไอเจ้าเบอร์รี่คนเดียว ที่มาในสภาพแต่งตัวเนียบเรียบร้อย
ว่าแต่ทำไมถึงต้องทำหน้าตาไม่พอใจขนาดนั้นใส่ข้ากันด้วยหว่า?
แล้วทำไมถึงต้องหันไปมองตรงทางเข้าแบบไม่หันหน้าไปทางอื่น เหมือนกับกำลังคาดหวังว่าจะมีใครสักคนเข้ามาแบบนั้น?
แปลกคนแฮะ
“หัวหน้า… ที่เรียกมารวมตัวกันเวลานี้ มีเรื่องอะไรหรือครับ… ห้าว~”
“หิว…”
“อยากนอน…”
แต่ละคน…
สมกับที่เป็นลูกน้องที่ข้าภาคภูมิใจจริง ๆ ให้ดิ้นตายเถอะ
“พวกเอ็งแต่ละคน! ที่ข้าเรียกมารวมตัวกันเวลานี้ เพราะว่าข้ามีเรื่องสำคัญจะประกาศ! จงตั้งใจฟังซะ”
มันคือเรื่องใหญ่
“ข้า— กำลังตั้งใจที่จะไปทำเรื่องที่เลวร้ายบางอย่าง”
เพราะว่ามันจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตในหลังจากนี้ของแต่ละคน
“งานต่อจากนี้ไม่เกี่ยวกับบริษัท ไม่เกี่ยวกับทุกคน แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า”
ข้าไม่อยากลากไอเจ้าพวกนี้ดำดิ่งลงเหวไปพร้อมกับข้า
“ดังนั้นแล้ว ข้าจึงให้สิทธิ์พวกแกทุกคนได้ติดสินใจ ว่าจะยังติดตามข้าต่อมาอีกหรือไม่? ”
แต่เพราะข้ามันอ่อนแอ ข้าเลยไม่อยากไปทำเรื่องแบบนี้ตัวคนเดียว
“งานต่อไป ข้า— ตั้งใจที่จะไปลักพาตัวมังกร [ลี่] มังกรสุดรักของยายพรุนออกมา”
“ออ งานลักพาตัวมังกรนี่เอง ไอเราก็นึกว่าอะไร— เฮ้ย!? เดียวก่อนนะครับ! เอาจริงหรือหัวหน้า? นั่นนะ มันตระกูลขุนนางใหญ่เลยนะครับ? ถ้าพลาดขึ้นมาที คงไม่ใช่แค่ติดคุกหัวโตแน่”
“ข้าเอาจริง ถึงได้บอกไง ว่าถ้าอยากจะไปจากข้า ตอนนี้คือโอกาสสุดท้ายแล้ว”
ข้าอยากได้พวกมันมาช่วยข้า ทำเรื่องที่พวก [ขยะ] จะทำกัน
แต่ถึงอย่างงั้น ข้าก็ไม่คิดที่จะห้ามพวกมัน ถ้าพวกมันไม่คิดที่จะช่วยข้า
ไม่รั้งผู้ที่จะไป และไม่ห้ามผู้ที่จะมา นั่นละคือตัวข้า
“…”
ณ เวลานั้น ทุกคนในห้องโถงล้วนแต่นิ่งเงียบไม่เคลื่อนไหว แล้วหันมาจ้องมองข้าเป็นสายตาเดียว
หลายคนแสดงสีหน้าตกใจ
หลายคนมองมาทางข้าแบบไม่เชื่อในคำพูด
บางคนขยี้ตา ขยี้หู แล้วตบหน้าตัวเองเพื่อทดสอบว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
พอแน่ใจว่าไม่ใช่ความฝัน พวกมันก็เริ่มหันหลัง พากันเดินหนีออกจากห้องโถงไปกันหมด
เจ็บจีดขึ้นมาถึงตรงหน้าอกเลยวุ้ย
ถึงจะมีคิดเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าคงไม่มีใครบ้าพอมาทำเรื่องแบบนี้ แต่พอเจอเข้ากับตัว มันก็ยังรู้สึกเจ็บจีดขึ้นมาที่หัวใจของตัวเอง
ข้า— คงต้องลงมือทำงานนี้ด้วยตัวคนเดียวแล้ว…
“เฮ้อ…”
“ถอดหายใจทำไมกันคุณฑาทิม? ”
“หืม? ”
ข้ารีบหันกลับไปมองทางเสียงนั้น
ยังมีลูกน้องของข้ายืนอยู่คนหนึ่ง
มันคือเจ้าคนที่หน้าหวานคล้ายผู้หญิง ยักษาผู้มีผมสีฟ้า เขาสีดำ ผิวสีเทา [เบอร์รี่]
“นี่เจ้า—”
“คุณหัวหน้าฑาทิมคือคนที่ยอมรับผมเข้ามาในทีมโดยไม่คิดเกี่ยงเรื่องขนาดตัวของผม แล้วจะให้ผมทิ้งคุณฑาทิมไปได้ยังไงครับ? ”
“ดูเหมือนว่าหัวหน้าจะร้องไห้ด้วย? นี่คงไม่ได้คิดว่าพวกเราทิ้งหัวหน้าไปหรอกใช่ไหม? พวกเราก็แค่กลับไปแต่งตัวให้เรียบร้อยเท่านั้นเองครับ”
“ใช่ ๆ หัวหน้ากำลังลำบาก จะให้ทิ้งไปได้ยังไงเล่า? ”
“อ๊ะ!? พวกแก!!”
พวกลูกน้องที่คิดว่าหันหลังหนีกลับออกไป กำลังเริ่มทยอยกลับเข้ามาภายในห้องด้วยชุดหนังคนงานสีน้ำตาลที่พร้อมออกลุย
“อย่าลืมพวกเรา ทีมเรนเจอร์แห่งหน่วยยักษาฑาทิมไปสิ!”
“หัวหน้าคือคนที่รับพวกบ้าอย่างพวกเรามาเข้าทีม ต่อให้หัวหน้าเป็นไอพวกบ้าแค่ไหน แต่หัวหน้าก็เป็นคนดี คงมีเหตุผลจริง ๆ สินะครับ ที่ต้องทำเรื่องแบบนี้”
“พวกเราเคยผ่านนรกอย่างคฤหาสน์ผีสิงมาด้วยกันแล้ว กะอีแค่เสี่ยงถูกตำรวจจับคงไม่เท่าไหรหรอก~ แค่นี้จิ๊บ ๆ หัวหน้ามีแผนการยังไง รีบบอกมาได้เลยครับ พวกเราพร้อมที่จะลุยแล้วครับ!”
“ข้า— ถ้าพลาดคือติดคุกเลยนะเฟ้ย!”
“พวกเรารู้!”
“อาจหมดอนาคตได้เลยนะเฟ้ย!”
“อนาคตของพวกเรามันจบไปตั้งนานแล้วครับ! ชีวิตใหม่ กับงานใหม่ที่ได้มาทำตอนนี้เป็นเพราะหัวหน้าฑาทิมยอมรับพวกเราเข้ามา! ชีวิตของพวกเราคือของคุณฑาทิมครับ!”
นี่พวกเจ้า—
เจ้าพวกลูกน้องที่ไม่ได้ความเหลือแดนทั้งหลาย
ทั้งเจ้าพวกโอตาคุขบวนการเรนเจอร์
แล้วยังเจ้ายักษ์หัวฟ้าที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม
ไม่มีใครที่คิดจะหนีไปจากข้าเลยสักคนเดียว
ข้า—
ข้าภูมิใจมาก ที่ชีวิตนี้ได้มาพบเจอกับพวกแก!
“—ดีเลย! งั้นพวกแก! จงตามข้ามา! พวกเรา! จะทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน และจารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์เผ่ายักษ์ด้วยกัน!! นั่นคือ การลักพาตัวมังกรของตระกูลผู้สืบสายเลือดของผู้กล้า!! ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มต้นกันเลย!!”
“โอ๊ววววววววว!”
ข้ากับลูกน้องอีก 40 ชีวิต พร้อมที่จะกลายเป็น [ขยะ] ของสังคมกันแล้ว
เป็น [ขยะ] เพื่อช่วยชีวิตของสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของคุณยายพรุน
“ฟังดูน่าสนุก! ขอพวกเราร่วมวงด้วยสิค่ะคุณพี่ยักษ์ฑาทิม!”
[ขยะ] ของสังคม ที่มีข้า กับลูกน้อง 40 ชีวิต และเด็กอีก 4 คนในการร่วมขบวนการ!
“…”
เห้ย? ไอเด็กพวกนี้ยังไม่กลับบ้านไปกันอีกเรอะ!?
MANGA DISCUSSION