***วันที่ 6 เกอเนริบส์ ปีประวัติศาสตร์ที่ 126***
เวลา 9:00 น. ทวีปป่าหิน-ร็อค ฟอร์เรส
สำหรับดาวดวงนี้แล้ว เวลา 10:00 น. ยังถือว่าเป็นเวลาเช้ามืดที่ทุกคนยังต้องหลับนอนกันอยู่
แต่สำหรับเผ่ายักษ์ที่ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ ต้องตื่นตัวทุกเวลาว่าจะมีสัตว์ร้ายมาบุกโจมตี เลยทำให้การตื่นนอนผิดเวลาไม่ใช่ปัญหาอะไรมากมายเท่าไหรนัก
ถึงจะไม่มีปัญหากับการตื่นนอนผิดเวลา แต่ข้าก็ไม่อายเผ่ายักษ์คนอื่น ที่จะแสดงสีหน้าอ่อนแออย่างการหาวง่วงนอนออกมาให้เห็น
เพราะข้านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรทางสายเลือดกับไอตระกูลบ้า ๆ นี้มาตั้งแต่แรก ใยจะต้องคอยระแวงรักษาหน้าตามารยาทเพื่อแบกชื่อของตระกูลกันด้วยเล่า?
“… ไม่อยากกลับมาที่นี่เลยให้ตายสิ อยากนอนอยู่ที่โรงแรมของตัวเอง แล้วเอาเวลาไปจีบสามสาวผู้น่ารักมากกว่า”
ข้า— กำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปเยี่ยมคุณยายพรุน
มันคือสาเหตุหลัก ที่ทำให้ข้าต้องกลับมาเหยียบที่ทวีปบ้านเกิดของตัวเองอีกครั้ง
ไม่อย่างงั้นใครมันจะอยากกลับมาที่นี่อีกกัน?
[พรุน] คือนามของหนึ่งในนักสำรวจเผ่ายักษ์ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นสายเลือดของผู้กล้า [แครอท] กับ [บานา]
เธอเป็นแม่ของข้าเอง
แต่ไม่ใช่แม่ทางสายเลือด
ตัวข้านั้นไม่รู้ว่าใครคือพ่อแม่แท้จริง เพราะถูกทิ้งมาตั้งแต่เด็ก
ส่วนคุณยายพรุนไม่ได้แต่งงาน เลยเก็บข้ามาเลี้ยงจากถังขยะ
ข้าเองก็ไม่รู้ว่ายายแกเห็นข้ามีดีอะไรถึงเก็บมาเลี้ยง
สงสัยคงหวังอยากจะให้ข้าสืบทอดวิชาของท่านละมั้ง?
เอาจริงถ้ามันมีแค่นั้น ข้าก็ไม่ได้นึกรังเกียจที่จะสืบทอดวิชากับนามของตระกูลที่โด่งดังหรอก
แต่เป็นเพราะไอตระกูลบ้านี่มีพี่น้องเยอะ แยกย่อยออกมาตั้ง 20 สาขาตระกูล เลยทำให้ข้าต้องแบกรับการถูกดูแคลนมาตั้งแต่เล็ก
เหตุผลก็ง่าย ๆ แค่ว่าเพราะตัวข้าไม่ใช่สายเลือดของตระกูล
คนที่ดีกับข้า มีแค่คุณยายพรุนคนเดียวเท่านั้น
“…ไม่อยากจะผ่านประตูนี้”
ระหว่างที่ข้ากำลังคิดเรื่อยเปื่อย ขาของข้าก็พามาถึงที่หน้าประตูไม้บานใหญ่ไปแล้ว
ประตูไม้ผุ ๆ สีดำอายุกว่าหนึ่งร้อยปีที่ยึดตัวบานติดกับกำแพงหินสูงเรียงยาวต่อเนื่องไปตลอดถนนคนเดินซ้ายกับขวา มันคือทางเข้าสู่ขุมนรกสำหรับข้า
ตัวที่ดินอยู่ติดกับพื้นที่ใจกลางเมืองอันแสนวุ่นวาย ใกล้กับพื้นที่ปราสาทขนาดใหญ่ของ กษัตริย์แห่งยักษา [ดูเรียนที่ III] และอยู่ติดกับพื้นที่ของขุนนางเผ่ายักษ์คนอื่นที่มีทั้งหมดร่วมสิบคน
หลังรั้วหินนี้ไป คือพื้นที่ดินขนาดใหญ่ ซึ่งกินพื้นที่กว้างมากกว่าสนามฟุตบอลถึง 20 เท่า
มันมีตั้งแต่ลานฝึกวิชายุทธ บ้านของตระกูลสาขา ไร่สวนส่วนตัว รวมไปถึงสวนภูเขาหินที่ใช้เลี้ยงมังกร
ถึงแม้ว่าตัวบ้านหลักจะสร้างจากไม้ กระดูกสัตว์ แล้วเอาหนังสัตว์มาขึงแขวนผนังตามธรรมเนียมโบราณของเผ่ายักษ์ แต่ก็ไม่ได้ดูโทรมหรือยากจน แต่กลับคงกลิ่นอายโบราณที่ดูน่าเกรงขาม จนแลดูเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมือง
สำหรับเผ่าอื่นมาเห็นคงมีตีมึนว่านี่คือบ้านคนหรือสวนสาธารณะ? แต่สำหรับเผ่ายักษ์แล้ว การมีพื้นที่ดินกว้างจนสามารถปลูกป่าและภูเขาในพื้นที่บ้านของตัวเอง เพื่อให้มังกรได้มีพื้นที่ขยับตัว มันคือเครื่องหมายแสดงฐานะว่าร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีเลยเชียวละ
เผ่ายักษ์นะ ไม่ค่อยยึดติดกับความสวยหรูของตัวอาคารกันมากนักหรอก
*กรู~!!? *
“เสียงนี้… เจ้า [ลี่] ของท่านยายพรุน? ฉิบหายแล้ว ต้องรีบหนี—”
*กรวม*
หนีไม่ทันวะ…
โลกทั้งใบของข้ากำลังถูกปิดไฟ
สัมผัสผิวหนังเต็มไปด้วยน้ำลายกับผิวลิ้นสาก ๆ เหม็น ๆ
เสื้อยืดสีขาวตัวเก่งที่สวมมา เริ่มกลายสภาพเป็นผ้ายุ่ย ๆ เพราะไอสิ่งอันไม่พึงประสงค์ที่ว่า
*กุ~ ♫ กรู~ ♪*
ไม่ต้องมาทำเสียงออดอ้อนเลยนะเอ็ง…
“เออ! ข้ารู้แล้วว่าเอ็งดีใจ! แต่ยังไงช่วยปล่อยลิ้นที่กำลังเลียข้าทั้งตัวออกไปก่อนจะได้ไหม!!”
*กุ กี้~♫*
ข้าถูกเจ้ามังกรโง่ของคุณยายพาข้ามผ่านรั้วหินเข้ามาในเขตของตระกูล ด้วยการใช้ลิ้นพันทั้งตัวพาเข้ามา
ส่วนหัวของเจ้ามังกรโง่ตัวที่ว่า กำลังนอนราบอยู่ในระดับพื้น เพื่อให้สายตาและใบหน้าตรงกับระดับสายตาของข้า
*กรู้~*
“เออ ๆ รู้แล้ว! จะให้ข้าลูบหัวใช่ไหมละ!”
ข้าเริ่มเอามือลูบลงบนผิวที่เรียบและเย็นสบายของมัน
มังกร [สายพันธุ์น้ำ] ชนิดไม่มีปีก และเป็นสายพันธุ์พิเศษ ชื่อ [ลี่] ตัวยาว 50 เมตร ใหญ่ 6 เมตร เกล็ดสีน้ำเงินอมฟ้าสวยงาม มีพู่ขนสีน้ำเงินใจกลางลำตัวยาวตลอดแนว เขี้ยวยาว
มันเป็นมังกรของคุณยายที่มีอายุร่วม 102 ปี เห็นว่าเลี้ยงดูมันตั้งแต่ยังตัวยาวแค่หนึ่งเมตรจนโตมาได้ถึงขนาดนี้
*กรู~♪ กรู~♪*
“เด็กดีนะเด็กดี~ ว่าแต่ทำไมเอ็งถึงติดข้าจังวะ? ทั้งที่คนในตระกูลคนอื่นไม่เห็นจะยอมให้ลูบหัวแบบนี้ด้วย มันลำบากข้านะรู้ไหม? ”
การลูบหัวมังกรมันมีความหมายที่ลึกซึ้งมากสำหรับเผ่ายักษ์
มังกรเป็นเสมือนคู่หูของนักรบ
ยิ่งมังกรที่มีอายุขัยยืนยาวได้ถึง 300-1000 ปี ก็ยิ่งมีความสำคัญมากต่อพวกเขา เพราะมันจะกลายเป็นเสมือนตราประจำตำแหน่งของตระกูลนั้น ๆ ไป
อีกอย่าง มังกรไม่ใช่สัตว์ที่โง่ แต่เป็นสัตว์ที่ฉลาด
มันรู้ว่าใครที่มันควรยอมก้มหัวรับใช้ให้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะทำให้มังกรสักตัวมาติดแจได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเลี้ยงมันมาตั้งแต่ออกจากไข่
แถมไอตัวนี้ยังเป็นมังกร [ลี่] มังกรของคุณยายพรุน เลยยิ่งมีความสำคัญกว่ามังกรตัวอื่นของตระกูล
เพราะผู้นำตระกูลผู้สืบสายเลือดของผู้กล้าเผ่ายักษ์ในตำนานคนปัจจุบัน ก็คือคุณยายลี่เนี่ยแหละ
ส่วนมังกรรุ่นแรกของผู้กล้าแครอทกับบานา เห็นว่าพวกมันพากันบินกลับสู่ป่าไปตั้งแต่ที่พวกเขาหมดอายุขัยไปตั้งนานนมมาแล้ว
ดังนั้นเจ้าลี่เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของมังกรผู้นำตระกูลผู้กล้าไปโดยปริยาย
การที่เจ้าลี่มันมาติดข้าที่ไม่ใช่สายเลือดตรง มันเลยทำให้ข้าถูกเขม่นจากคนในตระกูลมากเลย รู้บ้างไหมเจ้ามังกรโง่!
“แต่บ่นปัญหานี้กับแกไปก็คงไม่รู้เรื่องหรอกมั้งเจ้าลี่? ”
*ปิ? *
ไม่ต้องมาทำเป็นจ้องตาใสแบบเด็ก ๆ เลยนะเอ็ง…
พอคิดถึงปัญหาที่จะเจอต่อจากนี้แล้ว ข้าก็เริ่มครางออกมาเบา ๆ
ข้าหยุดมือที่ลูบหัวเจ้าลี่ แล้วเดินตัดทางเดินหินของพื้นที่สวนเข้าไปข้างใน
แสงจันทร์ ได้สะท้อนส่องให้เห็นภูเขาหิน และสวนน้ำที่ถูกปลูกภายในเรียงรายสองข้างทาง
มีมังกรจำนวนมากกำลังหลับนอน กระจายไปตามมุมต่าง ๆ
บนที่ราบมี [สายพันธุ์ที่ราบ] มังกรที่มีความสูงเฉลี่ยห้าเมตร มีเกล็ดสีเขียว มีแขนขาและปีกที่กว้างใหญ่ มีรูปร่างขาที่เหมาะกับการถีบสปริงออกตัว เป็นสายพันธุ์ที่วิ่งเร็วที่สุด
ตามภูเขามี [สายพันธุ์ภูเขา] พวกมันมีความสูงเฉลี่ยที่ห้าเมตรเช่นกัน แต่มีเกล็ดสีน้ำตาล มีแขนขาและปีกกว้างใหญ่ เจ้าพวกสายพันธุ์นี้จะมีโครงสร้างปีกที่แข็งแกร่ง เลยทำให้พวกมันเหมาะกับการบินมากที่สุด จากทุกสายพันธุ์ที่มี
ไม่มี [สายพันธุ์น้ำ] ตัวอื่นในตระกูลนี้นอกจากเจ้าลี่
โดยปกติพวกสายพันธุ์น้ำจะมีขนาดตัวสูงเฉลี่ยห้าเมตร ยาวได้ตั้งแต่ 10 เมตร ไปจนถึงหลายกิโลเมตร ไม่มีปีก ไม่มีแขนและขา บินบนฟ้าไม่ได้ มีเกล็ดสีฟ้า เป็นสายพันธุ์ที่ชอบอาศัยตามแหล่งน้ำเป็นหลัก
พอเห็นมังกรสายพันธุ์ต่าง ๆ กำลังนอนหลับอย่างสบายใจ ข้าก็เริ่มคิดถึงมังกรของตัวเองขึ้นมา
เจ้านัมเบอร์ 1, 2, 3, 4…
มังกรทั้งสี่ตัวของข้า พวกมันเป็น [สายพันธุ์ภูเขา] ทั้งหมด
ข้านะ เลี้ยงดูพวกมันตั้งแต่ตอนออกจากไข่เลยละ
พวกมันเกิดที่สวนในตระกูลของผู้กล้า แครอท & บานา แห่งนี้
แต่เป็นเพราะพวกมันเกิดมามีปีกที่เล็กกว่าพี่น้องตัวอื่น ๆ ของมัน เลยทำให้พวกมันทั้งสี่ตัวถูกแกล้งจากทั้งฝูงเป็นประจำ
ข้าเลยเก็บพวกมันมาเลี้ยง
มังกรที่ถูกขับออกจากฝูง กับชายที่ไม่เป็นที่ยอมรับของตระกูล
มันก็เข้ากันดีแล้วละนะ
“ว่าแต่คิดถูกแฮะที่มาเวลานี้ ทั้งมังกร ทั้งคน นอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องเลยว่าข้ามาเยี่ยมคุณยายพรุน”
สาเหตุที่ข้ามาเวลาเช้ามืดแบบนี้ ก็เพราะจะได้เลี่ยงไม่เจอหน้าใคร
โดยเฉพาะกับไอบ้าที่ชื่อ [เอลเดอร์เบอร์รี่]
[เอลเดอร์เบอร์รี่]
มันคือไอบ้าที่มีอายุ 45 ปี สูง 480 เซนติเมตร มีผิวสีเลือดหมู ดวงตาสีทองคมราวใบมีด ผมสีม่วงทรงหยักศก
เป็นไอบ้าที่ได้รับผลโหวตจากในตระกูลทั้ง 20 สาขาว่าเหมาะจะให้เป็นผู้นำตระกูลคนถัดไป
แต่เป็นเพราะมันไม่ได้รับการยอมรับจากพวกมังกร โดยเฉพาะกับเจ้าลี่ที่เป็นจ่าฝูงมังกรในตระกูลเรา เลยทำให้ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากท่านยาย
เพราะแบบนี้ เลยทำให้ข้าที่เป็นที่ถูกใจและเข้าได้ดีกับมังกรทุกตัวเป็นพิเศษ ถูกมองว่าเป็นอุปสรรค จนถูกแกล้งมาตั้งแต่เด็ก
คนอื่นเองก็ไม่คิดที่จะห้ามมันไม่ให้แกล้งข้า เพราะมองว่าข้าไม่ใช่สายเลือดตรง
ขอบ่นซ้ำแล้วซ้ำอีกถึงสองรอบในตอนเดียว…
ว่าข้า— เกลียดไอสายเลือดของตระกูลผู้กล้านี้ที่สุด!!
“ถึงบ้านของยายพรุนได้เสียที ทำไมถึงต้องปลูกบ้านไกลจากทางเข้าขนาดนี้กันด้วยฟะ? แถมยังแยกจากอาคารหลักมาแบบนี้อีก”
ข้ากำลังยืนอยู่ตรงหน้าบ้านกระดูกที่ถูกขึงเอาไว้ด้วยหนังของเบฮีมอธ
มันเป็นบ้านที่เล็กมาก มีขนาดพื้นที่ทั้งหมดเพียง 150 ตารางเมตร เรียกว่าสำหรับเผ่ายักษ์แล้ว มันก็คือกระท่อมยาจกดี ๆ นี่เอง
แต่เหมือนว่าคุณยายพรุนจะชอบอะไรแบบนี้ เลยทำให้ไม่มีใครกล้าจะมาวิจารณ์การเลือกที่อยู่ของนางกัน
ข้ายืนมองอาคารที่แสนคิดถึงอยู่ในความทรงจำสมัยก่อน ก่อนจะเริ่มรวบรวมความกล้า เดินผ่านม่านประตูเข้าไปข้างใน
“ยายพรุน ข้ามา—”
“เจ้าเด็กโง่! หายหัวไปนานตั้งหลายปี กว่าจะยอมกลับมาเยี่ยมได้ ต้องรอให้ยายแก่คนนี้ส่งจดหมายไปบอกว่า [ใกล้ตายแล้ว] ถึงจะค่อยโผล่หัวกลับมาเนี่ยนะ!? ”
เสียงดังเต็มสองรูหูเลยว้อย!
ว่าแต่คุณยายก็ดูแข็งแรงดีนี่หว่า?
ณ กระท่อมไม้ขนาดเล็ก มียายแก่คนหนึ่งกำลังลุกขึ้นยืนอยู่ตรงหน้า
เธอมีดวงตาสีเทา ผิวกายสีเขียวอ่อน เขาคู่สีแดง ผมสีม่วงตัดสั้น
ถึงร่างกายจะผอมบางลงไปมากจากครั้งล่าสุดที่เจอ ก่อนที่ข้าจะหนีออกจากตระกูลไปทำงาน แต่ยายแกก็ยังคงดูแข็งแรงดี
“มา เดียวจะหยิบเค้กสไลม์พิศวงให้! รีบนั่งลงซะ!”
“เออ…. ครับ? ”
แกเดินไปที่ตู้เย็นข้างเตียง แล้วเปิดหยิบเอาเค้กสไลม์พิศวงออกมาวางลงบนโต๊ะหินที่อยู่ใจกลางห้อง
เนื่องจากมันชิ้นใหญ่มาก แกเลยหยิบดาบควายสีดำที่วางพิงผนังใกล้ ๆ มาตัดแยกเป็น 8 ส่วนให้
เออ… ยาย… ไอดาบเล่มนั้นเหมือนจะเคยได้ยินเล่ามา ว่าเป็นดาบที่ได้รับมาจากท่าน บานา กับ แครอท เลยไม่ใช่หรือครับ?
“… ก็ดูแข็งแรงดีนี่ยาย? ”
“ใครว่าแข็งแรงกัน? เดียวนี้วิ่งรอบเมือง 1,000 รอบไม่ไหวแล้ว ร่างกายมันล้าไปหมดแล้วละ”
เออ… ยาย… ขนาดข้าเองแค่วิ่งรอบเมือง 1 รอบยังไม่ไหวเลยนะ…
สรุปนี่ยายส่งจดหมายหลอกให้ข้ากลับมาเยี่ยมสินะ? สินะ!
อายุขัยเฉลี่ยของเผ่ายักษ์คือประมาณ 90 ปี
แต่ยายพรุนมีอายุยืนกว่าชาวบ้านจนเกินมาตรฐาน
เห็นว่าปีนี้มีอายุปาเข้าไป 122 ปี ไปแล้ว
เคยได้ยินมาว่าร่างกายของยายพรุนมีเผ่า [โพแคริโอต] ที่เป็นเผ่าพิเศษอาศัยอยู่ เลยทำให้มีอายุยืนมากกว่าชาวบ้าน
อย่างยายนะ ตายยากอยู่แล้วละ
“ให้ตายเถอะ ถ้ายังไม่ป่วย ก็อย่าส่งอะไรแบบนี้มาหาสิยาย! คนมันตกใจนะรู้ไหม!? ”
“ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วแกจะโผล่หัวกลับมาที่นี่อย่างงั้นเรอะ? เอาเถอะ อย่างน้อยยายคนนี้ก็ดีใจนะ ว่าเจ้ายอมกลับมาเยี่ยมเพราะเรื่องโกหกแบบนี้”
“…”
ถึงข้าจะเลว เมาแล้วชอบม่อสาว แต่ข้าก็ยังรักยายอยู่นะ
เจอจดหมายส่งมาว่า “ใกล้ตายแล้ว” แล้วจะให้ข้านั่งทอดไข่ไม่กลับมาเยี่ยมได้ยังไงเล่า?
อีกอย่าง เป็นเพราะความฝันบ้า ๆ จากตอนทำภารกิจปราบปีศาจหมอกนั่นด้วย เลยยิ่งทำให้ข้ากลัวลึก ๆ ในใจว่าคุณยายพรุนกำลังใกล้จะตายเข้าให้จริง ๆ
“เอาเถอะ ที่เรียกกลับมานี่ มันเป็นเพราะว่ามีเรื่องอยากสำคัญอยากจะคุยด้วยนั่นแหละ”
“ถ้าเป็นเรื่องที่อยากจะให้ข้าเป็นผู้นำตระกูล ข้าขอ—”
“แกนะ ไม่จำเป็นต้องมาแบกรับของ ๆ ยายหรอกนะ”
“—ข้าขอปฏิเสธ… ว่ายังไงนะยาย? ”
คุณยายพรุนเริ่มรินชาที่เข้ากับเค้กสไลม์ลงแก้วดินเผา ก่อนจะหยิมมันมาดื่มให้ชุ่มคอ แล้วพูดกับข้าต่อ
“แกนะ ไม่จำเป็นต้องมาแบกรับของ ๆ ยายหรอก ยายเองก็พึ่งจะมาคิดได้ตอนที่แกหนีออกไปทำงานข้างนอกนั่นแหละ”
หมายความว่ายังไง…
“แกคงรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า และรู้สึกผิดที่ทำให้ยายต้องขายหน้าเพราะไม่สามารถทำให้คนอื่นในตระกูลยอมรับได้สินะ? นั่นมันไม่เกี่ยวเลย ไม่จำเป็นด้วย ที่ยายเก็บแกมาเลี้ยง ก็เพราะยายอยากเลี้ยงเด็ก อยากมีลูกมีหลานมอบความสุขให้กับตัวเอง ไม่ใช่ว่าอยากให้แกมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลบ้าบออะไรนี้หรอก แกไม่จำเป็นต้องมาติดมาก ว่าตัวเองจะต้องมาแบกรับชื่อของยายเลยสักนิด”
“ยาย…”
ข้า… คือชายที่ถูกยายพรุน ลูกสาวของวีรบุรุษและวีรสตรีเผ่ายักษ์ในตำนาน รับมาดูแลเลี้ยงดู
ยายนะทั้งฝึกและสั่งสอนข้า ให้ความรักกับข้า เพราะหวังจะให้ข้ามารับสืบทอดตระกูลต่อจากนาง
แต่เป็นเพราะว่าข้ามันบ้า และไม่ใช่สายเลือดที่แท้จริง เลยถูกคนอื่นในตระกูลไม่ให้การยอมรับ
การที่ข้าถูกดูถูกมาตลอด มันทำให้ชื่อเสียงของยายพรุนเสื่อมเสียไปด้วย ข้าเลยเลือกที่จะหนีออกมา
ข้าคิดแบบนั้นมาตลอด
มันไม่ใช่… ว่าเรื่องราวเป็นแบบนี้นะหรอกหรือยาย?
“ที่อยากเจอแก ก็เพราะแค่อยากจะมาพูดเรื่องนี้เท่านั้น เอาละ จงกินเค้กให้หมด แล้วก็ออกไปใช้ชีวิตต่อได้แล้ว รีบไป ก่อนที่จะมีไอบ้าตัวไหนตื่นมาทำลายช่วงเวลาดี ๆ นี้ของยายซะ”
“…ครับ”
หลังจากนั้นราว 60 นาที ข้าก็มีพูดคุยต่อกับยายอีกเล็กน้อย ก่อนจะกอดอำลา แล้วเดินกลับออกไป
เวลา 10:45 น.
ยังคงเช้ามืดอยู่
ข้าเริ่มเห็นคนรับใช้ออกมาเดินเตรียมอาหาร รดน้ำ และให้อาหารพวกมังกรกันแล้ว
พวกมังกรบางตัวเองก็มีตื่นมาเดินกางปีกเล่นแล้วเช่นกัน
มีบางตัวคำรามเบา ๆ เรียกหาข้าด้วย ข้าก็เลยโบกรับมันพอเป็นพิธี
เวลา 11:00 น.
*แกร๊ก*
เสียงเปิดประตูไม้ดัง พร้อมกับปิดสนิทลงหลังจากที่เดินข้ามผ่านออกมา
ข้า— ได้ก้าวผ่านออกมาจากตระกูลที่แสนจะชิงชังนี้แล้ว
แต่ภายในใจกลับรู้สึกมีอะไรสักอย่างยึดติดเอาไว้อยู่ข้างในแทน
ไม่จำเป็นต้องแบบรับหรือรู้สึกผิดอย่างงั้นหรือ…
“…ท่านยาย ทำไมไม่พูดให้เร็วกว่านี้กัน? ”
ถ้าท่านยายพูดเร็วกว่านี้ ข้าก็คงจะ—
“เมื่อกี้นี้ใครเป็นคนเปิดประตู? ”
เสียงทุ้มต่ำแบบนี้— ไอเจ้า [เอลเดอร์เบอร์รี่] นี่หว่า!?
ข้ารีบวิ่งไปให้ห่างจากบานประตูให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
“เออ…ค่ะ? สงสัยว่าลมจะพัดนะคะท่าน? ”
“ลมอย่างงั้นหรือ? ”
ดูเหมือนว่าพวกคนรับใช้จะอยู่ฝ่ายท่านยาย คงรู้มาก่อนแล้วว่าข้าจะมา เลยยอมช่วยปิดเอาไว้ให้
ต้องขอบคุณพวกเธอมากจริง ๆ
เพราะถ้าต้องเจอกับไอเจ้าบ้านี่ สงสัยว่าเดียวได้เกิดเรื่องอีกแน่
แล้วคนที่จะถูกยำจนเละ ก็คือข้าเองนี่แหละ
เพราะไอบ้านี่ดันเสือกสู้เก่งกว่าข้าเกือบร้อยเท่าตัวได้
ข้ารอฟังเสียงฝีเท้าให้หายไปไกล จึงเริ่มกล้าที่จะขยับตัว
คงไม่ได้อยู่แถวประตู—
“สวัสดี นี่ผมเอง เอลเดอร์เบอร์รี่”
ยังอยู่แถว ๆ นี้เว้ย…
“คุณ บาร์-ธา-ซ่าร์ พอดีว่าผมอยากได้สินค้าใหม่ แต่ไม่มีคนใช้งาน เลยอยากจะรบกวนหน่อยนะครับ”
บาร์-ธา-ซ่าร์?
ชื่อไม่เห็นคุ้น นี่เขาคุยกับใครอยู่เนี่ย?
“ครับผม สินค้าชิ้นนี้ผมรับประกันความสดใหม่ได้เลยครับ แถมเป็นของหายากด้วย— ปัญหาส่วนตัวของผม? นั่นสินะครับ พอดีว่าถ้ากำจัดเจ้านี่ออกไปได้ ทางผมจะได้รับประโยชน์กลับมามากเลยทีเดียว แล้วองค์กรเราเองก็จะได้รับประโยชน์นี้ด้วยอย่างแน่นอน ดังนั้น ผมขอตัว [อีกาดำ] มาใช้งานหน่อยจะได้หรือเปล่าครับ? ”
อีกาดำ?
ใครกันอีกละนั่น?
“ส่งอีกาดำไปทำภารกิจไม่ได้? แต่จะส่งคนอื่นมาแทน? ผมไม่อยากจะเสี่ยงหรอกนะครับ! นี่มันเรื่องสำคัญมากสำหรับผมเลยนะครับคุณ บาร์-ธา-ซ่าร์! ผมต้องทำมันก่อนวันที่ 30 ของเดือนนี้ ก่อนงานเทศกาล [ประชันกำลังแห่งยักษา] ! เพื่อที่จะเป็นใบเปิดทางให้กับผมนะครับ!”
งานเทศกาล [ประชันกำลังแห่งยักษา] ?
ไองานประยุทธ์ของเผ่ายักษ์ที่วัดหาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่า ต่อหน้าเทพเจ้าไกอาอันนั้นนะหรือ?
แล้วที่ว่าเป็นใบเปิดทางนี่ หมายถึงใบเปิดทางอะไรกัน?
“— โอเค ได้ครับ ถ้าเป็นแบบนี้ผมไม่มีปัญหาครับ ขอบคุณมากครับคุณ บาร์-ธา-ซ่าร์ ที่ยอมช่วยเหลือหัวหน้าสาขาเผ่ายักษ์อย่างผม บุญคุณนี้ผมจะตอบแทนให้อย่างแน่นอนครับ”
ฟังดูไม่น่าจะใช้เรื่องที่ดีเท่าไหรแฮะ…
“ครับ ๆ แต่ยังไงก็อย่าลืมนะครับ ว่าเป้าหมายในการล่าครั้งนี้ คือมังกรวารีระดับพิเศษของคุณยายของผม [มังกรวารี ลี่] เลยเชียวนะครับ รบกวนขอคนที่มีฝีมือพอจะรับงาน [ล่า] ในครั้งนี้ด้วยนะครับ”
MANGA DISCUSSION