***
ยามเมื่อสัตว์ร้ายบุกจู่โจม ย้อมโลกทั้งใบให้ตกอยู่ใต้ความมืด
กลุ่มฮีโร่สาวทั้ง 6 คน จักได้ถือกำเนิดขึ้น
ขบวนการ 5 สี [เพาเวอร์-โซล เรลเจอร์] !
ให้เสียง ภาษา และบทบรรยายโดย [ไซน์ อมร่า] สาวน้อยเผ่าคนแคระผู้น่ารักเองค่ะ~
***
“พะ— พายุสงบลงแล้ว? ”
“สัตว์ร้ายถูกฆ่าไปแล้วหรือ? ”
“ไม่! มันยังอยู่!”
“แล้วทำไมพายุถึง? ”
“ทุกคนดูตรงนั้น! มีคนกำลังยืนอยู่บนยอดของอาคารลอยฟ้าที่สูงที่สุด!”
“พะ— พวกเขาคือ —!?!”
ณ ยอดตึกลอยฟ้าทรงไข่ที่สูงที่สุด มีสตรีผู้งดงามยืนอยู่บนยอดของอาคารทั้งสิ้น 6 คน
สตรีทั้ง 6 คนนั้นกำลังยืนประชันหน้ากับอีกายักษ์ โดยไร้ซึ่งท่าที่หวั่นเกรงหรือแสดงความหวาดกลัวออกมาให้เห็น
“ไม่รู้ว่าแกเป็นสัตว์ประเภทไหน แต่ที่นี่คือเมืองที่ฉันได้เติบโตมา คงไม่อาจปล่อยให้แกทำลายไปมากกว่านี้ได้หรอก”
ไม่มีใครที่ไม่รู้จักหน้าตาของสตรีผมเกลียวผมสีเงินผู้งดงามที่กำลังเอยวาจาด้วยริมฝีปากอันอวบอิ่ม
ราชินีแวมไพร์ [แวม แวม ชาร์สเซอร์]
“เหวอ–!?! เอโซ! ลาพิส!? มาตามจับผมถึงนี่เลยเรอะ!!”
“ใจเย็นก่อนยัยบ้า! พวกเรามาช่วยเธอต่างหากเล่า!”
[เพื่อน— ไม่ทิ้งกันค่ะ (^▽^) ]
ส่วนผู้หญิงสามสี เหลือง แดง น้ำเงิน ที่กำลังพูดคุยอย่างเป็นกันเองตรงยอดอาคารอีกหลัง คือนักบวชชื่อดังที่เป็นของคู่บ้านคู่เมืองคริสตัล
นักบวชสามแสบ [เอโซ คอมพาวด์] [แมรี่โกลด์ ซินเนียร์] [ลาพิส ลาซูลีล]
“ฉันสัมผัสได้— รู้สึกถึงมันได้— แมรี่! สิ่งที่ฉันต้องการ มันอยู่ข้างในตัวเจ้ากาตัวนี้ใช่ไหม!”
“เอะ– เอ๊? เสียงนี้มันของโนอาร์? นี่ปีนขึ้นมาตรงนี้ด้วยหรือเนี่ย? แต่– ใช่! สิ่งที่เธอต้องการ มันอยู่ข้างในเจ้ากาตัวนั้น!”
ส่วนคนที่กำลังตะโกนอย่างหัวเสียเมื่อกี้ คือสตรีเผ่าแมวผู้มีทั้งความงาม และความสง่าอันศักดิ์สิทธิ์ ดุจเป็นเทพเจ้า
เทพเจ้ามีชีวิตของเผ่ามนุษย์สัตว์ [โนอาร์]
“ชิ— ข้าน้อยพลาดท่าทำเธอหลุดมือไปเสียได้ เพราะการมาของเจ้าอีกาบ้าตัวนี้แท้ ๆ เลย เจ้าค่ะ”
ที่บนยอดอาคารอีกหลัง ยังมีสตรีอีกหนึ่งคนที่ยืนประจันหน้าท้าอสูรกายร่วมกับ 5 คน แรก
เธอเป็นสาวเผ่ากระต่าย ผู้มีขนสีดำทั้งตัว และมีปลายใบหูสีขาว
ถึงจะไร้ชื่อเสียงเรียงนาม แต่ฝีมือของเธอนั้นมิอาจดูถูกได้
ลอบเร้นในเงามืด ลงมือสังหารในยามราตรี
ไม่มีใคร ที่จะเหมาะกับบท [แบล็คเรนเจอร์] ได้ดีไปกว่าเธอคนนี้
แม่ค้ากระต่ายสาวผู้มากไปด้วยความลึกลับ [ทัวร์มาลีเนต ควอตซ์]
นี่คือขบวนการ 5 สี ที่มี 6 คน [เพาเวอร์-โซล เรลเจอร์] !
และพวกเธอทั้ง 6 ก็กำลังจะร่วมมือสำแดงพลังของซุปเปอร์ฮีโร่ จัดการกับเจ้าอสูรกายให้ดาวดิ้นใน ณ บัดนี้!
“โนอาร์! อย่าคิดหนีเชียวเจ้าค่ะ!”
“โง่ทำหลุดมือเองแล้วยังจะมาตามทวงถึงนี่อีก! ดื้อด้านจริง! จะทำอะไรก็ไม่รู้ละ แต่ดูสถานการณ์ก่อนสิยะยัยกระต่าย!”
“เอโซ! เธอพูดแบบนั้น คงกะหลอกให้ผมตายใจ แล้วคิดจะจับผมส่งท่านยมใช่ไหมละ! ผมไม่โง่โดนหลอกหรอก!”
“โดนพูดแบบนี้แล้วเจ็บหัวใจจี๊ดเลยแฮะ… เชื่อใจกันบ้างหน่อยสิยะยัยแมรี่!”
เริ่มกัดกันเองแล้วซะอย่างงั้น…
*กา*
สัตว์ยักษ์กำลังรู้สึกรำคาญใจ
พอคิดว่าขับไล่ปลาวาฬยักษ์ไปได้ ก็มีแมลงวันตัวเล็ก ๆ อีก 6 ตัวมาส่งเสียงดังหนวกหูอยู่ตรงหน้า
แล้วยังมีอาคารขนาดใหญ่มากมาย ตั้งเรียงรายไปทั่วจนทำให้รู้สึกแกะกะ
ช่างน่ารำคาญ!
*กาาาาาาาาา!*
ปีกสีดำกำลังกระพือขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่ว่าจะมองดูอีกกี่ครั้ง ก็รู้สึกว่าปีกของมันช่างใหญ่โตนัก
การกระพือปีกของมัน ช่างให้ความรู้สึกราวกับมีเทพเจ้าที่มองไม่เห็น กำลังนำผ้าขนาดใหญ่มาคลุมปิดโลกทั้งใบเอาไว้
สายลมจักเริ่มผันผวน ลมพายุอันไร้เมตตาเริ่มก่อตัว
เป้าหมาย— มีเพียงแต่การบดขยี้ทุกสิ่งให้ดาวดิ้นสิ้น
บดขยี้— ด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างไปจากมนุษย์ ที่เอานิ้วบดขยี้แมลงตัวเล็ก ๆ เพียงแค่เพราะรำคาญใจเท่านั้น
“ใครมันจะยอมให้พัดเอาทั้งเมืองปลิวไปกันได้เล่า!”
ราชินีแห่งแวมไพร์กรีดเสียงอย่างไม่สบอารมณ์
เธอกางปีกค้างคาวโผบินทะยาน พร้อมกับที่เขาบนหัวเริ่มส่องแสงประกาย
คลื่นพลังงานได้แผ่ขยายออกรอบตัว สร้างสสารขาวและดำออกมาจากที่ว่างอากาศ
สสารอวกาศที่มีแรงดึงดูดและแรงปลดปล่อยยิ่งยวดแห่งอวกาศ จักถูกสร้างขึ้นในรูปลักษณะของเงาค้างคาวสีขาวกับสีดำ
ฝูงค้างคาวขาวและดำนั้นได้โบยบินออกมา แล้วโถมโจมตีใส่ปีกทั้งสองข้างของอีกายักษ์ เสมือนเป็นฝูงปิรันย่าที่เข้าขย้ำชิ้นเนื้ออันโอชะ
*ฉัวะ!*
เพียงพริบตา ทั้งมิติที่ว่างกับปีกของอีกา จักถูกฉีกขาดออกครึ่งพร้อมกันราวกับเป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษ
แต่ทว่าอีกาตัวนั้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะบาดเจ็บอะไร
ปีกที่ควรขาด ได้เริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาปะติดคืนกลับเข้าร่างกาย ดั่งเป็นเพียงแค่ของเหลวหรือภาพมายา ที่ไม่อาจตัดขาดออกจากกันได้
“เหมือนปีกแกจะมีขนาดเล็กลงเล็กน้อยราวหนึ่งเซนติเมตร… นี่ขนาดใช้สสารดำ-ขาวยังไม่ได้ผลอีก แกเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย? ”
*กา!*
เจ้ากายักษ์คำรามขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงคำรามนั้นดังสะท้านไปทั่วหล้า จนแม้แต่วงแหวนลอยตัวของอาคารลอยฟ้า ยังถึงกับมีรอยปริแตกก่อตัวขึ้นมาให้เห็น
“เหวอ!”
“โอ๊ย! หูของข้าน้อย!”
“น่ารำคาญไอนกบ้านี่จริง! แมรี่ ควอตซ์ แล้วโนอาร์ ฉันรู้ว่าพวกเธอมีอะไรบางอย่างที่ต้องเคลียร์กันระหว่างพวกเธอสามคน แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาจะมาทะเลาะกันเองนะยะ! หยุดทะเลาะ แล้วมาร่วมมือกันจัดการเจ้านกบ้าตัวนี้ก่อน!”
เยลโล่แห่งเรนเจอร์กำลังเข้ายุติความขัดแย้งของคนในทีม
“ส่วนเธอ! ยัยเผ่าปีศาจตรงนั้น! ได้ข่าวว่าเธอเก่งนักเก่งหนาสินะ? การจะฆ่าไอกาตัวนั้น มันใช้วิชาธรรมดาทั่วไปไม่ได้หรอก จงเบิ่งตาดูเราซะ เพราะมันต้องใช้สิ่งนี้!”
“หืม? เอ๊ะ? เธอคือ— นักบวชที่เป็นลูกศิษย์ของเทเรซ่า? ”
เยลโล่แห่งเรนเจอร์เริ่มตั้งตัวเป็นหัวหน้าทีม ออกคำสั่งแม้แต่ผู้นำทวีปอย่างไม่เกรงกลัวตำแหน่งราชินีแห่งแวมไพร์
ใช่แล้ว คือที่เหมาะจะเป็นหัวหน้าทีมแห่ง [เพาเวอร์-โซล เรลเจอร์] ก็คือ [เยลโล่] ผู้นี้
“…”
ไม่ใช่ว่าปกติคนที่เป็นเรด ต้องเป็นหัวหน้าหรอกหรือคะ?
หลังจากแน่ใจว่าทุกสายตาของทีมกำลังจับจ้องมาทางเธอ เยลโล่แห่งเรนเจอร์ก็เริ่มกระโดดทะยานขึ้นสูงเหนือท้องฟ้ากว้าง
ใช้กรงเล็บและพลังกล้ามเนื้อขาที่ภาคภูมิใจ เหยียบย่างวิ่งไปในอากาศราวกับวิ่งอยู่บนแผ่นดิน
*กา? *
อีกกายักษ์กำลังมองดูแมลงสีเหลืองที่กำลังพุ่งเข้าหามาจากทางด้านหน้า
ช่างน่ารำคาญนัก…!
มันหุบปากของตัวเอง แล้วเหวี่ยงหัว ใช้คมปากที่มีขนาดความหนามากกว่า 10 เมตร หวดใส่ร่างของแมลงสีเหลืองตัวนั้น
“กระจอกน่า!”
เยลโล่แห่งเรนเจอร์ไม่คิดที่จะหลบ
เธอเกร็งปีกอันผิดปกติของตัวเองข้างขวาให้แข็งกร้าวเป็นดั่งโล่ แล้วใช้มันรับคมปากที่เหวี่ยงมาจากทางขวาของเธอ
ใช้โล่ปีกสีทองที่มีความเว้าโค้ง เบี่ยงตัวเอียง 60 องศากับเส้นขอบฟ้า พลักแรงเวกเตอร์ที่ปะทะให้ไหลผ่านออกไปในอากาศ แล้วลอดผ่านข้างใต้ลำตัวของเธอไป
ผิวระหว่างโล่ปีกกับคมปากปะทะ ได้เสียดสีกันและกัน จนเห็นเป็นแสงไฟลุกสีแดงที่เลื่อนไหลผ่าน
ไฟที่ลุกโชนนั้น กำลังไหลไปตามความยาวของจงอยปาก พุ่งเข้าหาดวงตาของอีกายักษ์
“ตาบอดไปซะ!”
เธอเกร็งปีกซ้ายให้แข็งกลายเป็นเคียวยมฑูต หุ้มมันด้วยพลังงานวิญญาณ แล้วแทงใส่เป้าตาของอีกายักษ์
ใช้ปลายแหลมแทงลึกเข้าไปในกายวิญญาณ ก่อนจะใช้ผิวหนังรอบดวงตาเป็นที่ยืน กระโดดบิดตัวรอบ 360 องศา แล้ว [บิด-ควัก] เอาดวงตาทั้งลูกออกมาจากเบ้าตาของมัน
*กาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!&&%%!!”
เป็นครั้งแรกที่มันร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด
แต่อีกาตัวนี้ไม่ใช่กระสอบทรายตัวใหญ่ที่จะยอมปล่อยให้ใครมาเล่นงานตามใจชอบ
มันกัดฟันทนความเจ็บปวดตรงลูกตาขวา แล้วฟาดปีกซ้ายใส่แมลงสีเหลืองที่กำลังลอยตัวอยู่เหนือกลางอากาศ
ด้วยขนาดและแรงลมที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของปีกขนาดใหญ่ จึงทำให้เยลโล่ไม่อาจหลบการโจมตีนี้ได้ทัน
ด้วยความสูงขนาดนี้ หากว่าถูกมวลสารขนาดใหญ่ตบหัวทิ่มลงพื้นโลก คงตายคาที่อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เยลโล่แห่งเรนเจอร์กลับมิได้แสดงสีหน้าหวั่นกลัวออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อยนิด
เพราะว่าเธอนั้นมั่นใจ
มั่นใจในตัวสหายของเธอ ว่าจะเข้ามาช่วยปกป้องในจังหวะที่ตัวเองไม่อาจหลบอันตรายนั้นพ้นไปได้
[ฮึบ–!]
“แค่ป้ายออกเสียง ไม่ต้องถึงกับเอามาเขียนแขวนแสดงให้เห็นก็ได้มั้งลาพิส? ”
บลูกับเรดกำลังตามมาจากด้านหลังของเยลโล่
พวกเธอทั้งสองคนเคลื่อนตัวผ่านด้านข้างซ้ายและขวาของสหายไปด้านหน้า เข้าประจันหน้ากับคลื่นกำแพงสีดำที่กำลังโถมเข้าใส่
ปีกของภูติหัวแดงกำลังเรื่องเป็นแสงสีขาว
เพียงเสี้ยววินาที มวลอากาศรอบตัวเธอได้ถูกแทรกแทรง เปลี่ยนรูปกลายเป็นก้อนอากาศที่ถูกอัดจนแข็ง
มวลอากาศที่แข็งดั่งเป็นก้อนเหล็กนับพัน ได้ถูกปลดปล่อยให้พุ่งตรงออกไปใส่คลื่นกำแพงสีดำ จนเกิดเป็นวงอากาศที่กระแทกจากจุดปะทะ ขยายตัวออกเป็นวงกว้างไกล
เสียงปะทะของทั้งสอง ได้ดังกึกก้องไปทั่วเมือง
การเคลื่อนตัวของปีกอีกกา ได้หยุดชะงักลงไปชั่วขณะจากการถูกหักล้างแรงที่กำลังสะบัดปีกข้างนั้น
ในเวลาพร้อมกัน เรียวขาของนักบวชหัวฟ้ากำลังร่วงตกใส่จากด้านบน
เธอใช้โอกาสที่สหายภูติสร้างก้อนอากาศ ใช้มันเป็นฐานเหยียบ แล้วส่งตัวเองขึ้นสูงเหนือทุกคน แล้วทิ้งตัวลงมาจากประดุจเป็นก้อนอุกกาบาต
ขาถูกหุ้มด้วยขั้วของพลังงานวิญญาณ— แล้วถูกสับลงมาจากที่สูงราวกับเป็นกิโยติน
*กร๊อบ!*
ได้เกิดเสียงอะไรบางอย่างคล้ายกระดูกหัก ดังขึ้นมาจาก ณ จุดปลายเท้าที่กระแทกลงบนข้อปีกบน
กายวิญญาณส่วนปีกของอีกกา กำลังถูกทำให้เสียรูปร่างจากการปะทะนั้น
“ขอปีกข้างซ้ายนี้ไปละนะ”
ปีกเคียวสีทองกำลังวาดเป็นเส้นโค้งพระจันทร์เสี้ยวลงบนข้อปีกที่เชื่อมระหว่างร่างกาย
มันเป็นการโจมตีที่ต่อเนื่อง
เป็นการโจมตีที่ถูกเคลื่อนไหวเตรียมการลงดาบล่วงหน้า ตั้งแต่การโจมตีของสหายตัวเองได้เริ่มโจมตี
เป็นการการโจมตีที่แสดงความเชื่อใจต่อเพื่อนร่วมทีม ว่าจะไม่มีใครทำพลาด จนเกิดเป็นการประสานโจมตีสามจังหวะที่สมบูรณ์แบบได้อย่างน่าทึ่ง
*ฉับ!*
ปีกยักษ์สีดำข้างซ้ายขนาด 265 เมตร กำลังขาดออกจากร่างกายของอีกา
ท้องฟ้าที่ถูกบดบังกำลังเกิดรอยฉีกแยกขาดเป็นสองฝั่ง
แสง ได้กลับมาสาดแสงอีกครั้ง
หิมะ ได้ถูกโปรยปรายลงมาอีกครั้ง
สามนักบวชแห่งวิหาร ได้มอบท้องฟ้ากลับคืนมาสู่เมืองในอีกครั้ง
MANGA DISCUSSION