การถือกำเนิดเส้นทางผู้เหนือกาลจักรลำดับที่หนึ่ง - ตอนที่ 13 'ควีน'
บทที่ 13 – ‘ควีน’
“เอ้ะ..?”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ว่องไวของมิวแล้วทั้งคาเอะและหญิงสาวชื่อ ‘เอริเนีย’ ต่างพากันตกใจและสับสนกับท่าทางของเธอ
ทำให้ทั้งสองได้หันไปมองหน้ามิวที่มองไปยังเอริเนียอย่างระแวดระวังอย่างเห็นได้ชัดอยู่ แถมถ้าคาเอะฟังไม่ผิด..
เมื่อกี้เธอพูดว่า.. ‘ทำไมเธอถึง..?’ นั่นหมายความว่ามิวรู้จักกับเอริเนียงั้นเหรอ.. แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คาเอะยิ่งรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้
เพราะเด็กคนนี้….
“พี่รู้จักกับเธอเหรอ?”
ถึงจะคิดว่าไม่ใช่แน่ๆ แต่คาเอะก็ยังถามออกไปแบบนั้น และอาจจะเพราะคำถามของคาเอะเลยดึงให้มิวที่ตั้งท่าระแวดระวังกลับมาได้
“เอ่อ..”
มิวเห็นภาพทุกอย่างเบื้องหน้าชัดเจนขึ้น.. เธอหันไปมอง ‘เอริเนีย’ พอมองดีๆ แล้วทั้งคู่หน้าตาไม่เหมือนกันเท่าไหร่
นอกจากสีตากับสีผม และบรรยากาศรอบตัว.. เพราะเด็กคนนี้มีอายุไล่เลี่ยกับคาโอรุหรือมิวเลยก็ว่าได้
ซึ่งดูอายุน้อยกว่า ‘เอริเนีย’ ที่มิวรู้จักอีกด้วย อีกอย่างพอมาลองคิดดูดีๆ ผู้หญิงคนนั้นก่อนที่สติของมิวจะถูกผนึกไป
เธอก็เห็นว่าเธอน่าจะเสียชีวิตเพราะใช้ท่าผนึกใส่มิวไปแล้ว.. เมื่อคิดได้แบบนั้นแล้วมิวถึงได้ถอนหายใจออกมา
อย่างไรก็ตามความกลัวหรือความสับสนเมื่อครู่มันก็เกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณเช่นเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่มิวจะสามารถกลับมาตั้งสติได้แทบจะทันที
เพราะเดิมทีแล้วสำหรับมิว ‘เอริเนีย’ คนนั้นในอดีตก็ไม่ต่างจากคนที่น่าสงสารคนหนึ่งเท่านั้นนั่นเอง
“เปล่าหรอก.. ไม่มีอะไร”
มิวส่ายหน้าตอบกลับมานั่งที่เดิม แน่นอนว่าแม้คาเอะจะสงสัยกับพฤติกรรมของมิว แต่เธอก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจเท่านั้น
ทางฝั่งของเอริเนียเองก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน อันที่จริงเธอดูเหมือนเป็นหุ่นยนต์เสียมากกว่าด้วยซ้ำ
เธอยืนอยู่แบบนั้นไม่ขยับไม่เขยื้อน.. ไม่ได้แนะนำตัวหรือพูดอะไรออกมาเลย
“อย่างที่บอกเด็กคนนี้.. เอริเนีย คือลูกบุญธรรมของฉันเองค่ะพี่”
“ลูกบุญธรรม..?”
“ใช่.. ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดสักเท่าไหร่ แต่เด็กคนนี้เธอเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในเหตุการณ์ ‘Border out’ (บอร์เดอร์ เอาท์) ครั้งแรกน่ะค่ะ”
“….”
บอร์เดอร์เอาท์.. เหตุการณ์ที่ร้ายแรงน้อยกว่าบอร์เดอร์เบรค.. อย่างที่รู้กันดีว่าถ้าประตูบอร์เดอร์แตกโลกอีกใบจะปรากฏขึ้น
และพุ่งชนเข้ากับโลกเรา เมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างจะถูกทำลายล้างไปจนหมดสิ้น.. แต่บอร์เดอร์เอาท์เป็นสัญญาณแรกของบอร์เดอร์เบรค
เมื่อเคลียร์บอร์เดอร์ไม่ได้ในระยะเวลาหนึ่งแล้วก็จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งสิ่งที่ตามมานั้นหาใช่แค่ปีศาจ อสูรหรือมอนสเตอร์เท่านั้น
แม้ความจริงที่ว่าสิ่งที่กล่าวมาน่ากลัวก็จริง.. แต่ยังพอสามารถกำจัดหรือจัดการได้ แต่จะมีบางอย่างที่จัดการไม่ได้หลุดออกมาเมื่อบอร์เดอร์เอาท์ด้วย
นั่นก็คือ ‘ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ’
เจ้าสิ่งนี้ก็คล้ายกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรารู้จักเช่นว่า.. พายุฝนตกฟ้าคะนองอะไรทำนองนั้น แต่เรื่องพวกนี้มีคำอธิบายที่เป็นหลักความจริง
แต่ ‘ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ’ นั่นไม่มี.. บางทีก็ฝนอาจจะตกลงมาเป็นไฟ บางทีแผ่นดินก็สั่นไหวโดยไม่ได้อยู่ใกล้ทะเล
และปรากฏการณ์ที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมาก็คือเมื่อปี 2015 ปีที่บอร์เดอร์ปรากฏครั้งแรก.. ภัยเหนือธรรมชาติที่คร่าชีวิตคน..ทั้งเมืองไป
และมีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว.. แม้ในข่าวจะไม่ระบุว่าใครรอด แต่ถ้าเอาตามที่คาเอะบอกก็คงจะเป็นเด็กคนนี้
มิวถึงกับพึมพำในใจ
“คนที่ชื่อเอริเนียนี่จะมีดวงแบบนี้กันทุกคนเลยหรือไงกันละนิ”
คาเอะพูดต่อว่า
“และเพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นจิตใจของเธอก็บอบช้ำจนมีอาการแพนิค.. สุดท้ายไม่รู้ว่าผ่านไปยังไงเธอก็.. เป็นอย่างที่พี่เห็น”
มิวพยักหน้า.. ไม่พูดไม่จาสินะ แต่ว่ามิวมีความรู้สึกประหลาดอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือบรรยากาศรอบตัวของเด็กคนนี้ไม่เหมือนบรรยากาศของคนที่เศร้าจากการสูญเสียเท่าไหร่
บรรยากาศของเด็กคนนี้มันเหมือนกับ ‘เอริเนีย’ คนนั้นในอดีตมากกว่า ซึ่งเอริเนียคนนั้นก็ไม่เคยมีความรู้สึกสูญเสียเพราะสิ่งที่เธอพบก็คือการถูกทำร้ายมากกว่า
อย่างไรก็ตามมิวไม่ใช่นักจิตวิทยาหรือนักอ่านบรรยากาศ เธอแค่รู้ว่ามันเหมือนกับ ‘เอริเนีย’ ที่เป็นผู้กล้าเท่านั้น
เธอจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าเข้าใจนั่นเอง คาเอะก็ยังคงอธิบายต่อไป
“เนื่องจากเธอไม่มีใครเหลืออยู่เลย ตอนแรกบอร์เดอร์ไลน์จะเป็นคนดูแลเธอนั่นแหละ แต่ฉันคิดว่าเด็กคนนี้เธอควรจะมีชีวิตที่ดีกว่าการเป็นเครื่องจักรให้องค์กร เพราะเธอเจออะไรมามากแล้วน่ะค่ะ”
“หืม.. ถ้างั้นเธอให้เด็กคนนี้มาอยู่กับฉันทำไมล่ะถ้างั้น ..?”
มิวถามออกไปแบบนั้น แน่นอนว่ามิวรู้ดีว่าตัวเองที่อยู่ในสถานการณ์นี้การได้เข้าไปในหอคอยหรือในบอร์เดอร์ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ต้องเกิดในสักวัน
อีกอย่างมันก็เป็นทางเดียวในการหาเงินของเธอด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวของคาเอะเองก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีเช่นกัน
แต่การที่ให้เด็กที่ตัวเองต้องการอยู่อย่างสงบ ไปกับคนที่ต้องเข้าสู่สนามรบนี่คิดยังไงมันก็แปลกไม่ใช่เหรอ
“เอ่อ.. เรื่องนั้น…”
คาเอะดูลังเลเล็กน้อย.. เพราะในตอนนี้เธอยังไม่รู้จักมิวมากขนาดนั้น จึงไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ควรเล่าขนาดนั้นไหม
เพราะสิ่งที่เธอต้องการคือมันขัดกับความต้องการของบอร์เดอร์ไลน์อีกด้วย หากมิวเป็นสายลับขององค์กรขึ้นมาเรื่องทุกอย่างอาจจะแย่กว่าเดิม
แต่ทว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ คาเอะเองก็อยากได้ความร่วมมือกับมิวเช่นกัน เพราะคาเอะคิดว่ามิวต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ
อย่างน้อยก็ควรจะเก่งกว่าองค์หญิงหรือองค์ชายหลายคนแน่ๆ ซึ่งการที่จะให้เอริเนียไปด้วยกันกับคนคนนี้มันจะต้องดีกว่าแน่ๆ
ทั้งการที่คนคนนี้จะทำนับจากนี้..หรือการที่อยู่ด้วยกันกับคนดังมันจะเป็นเกราะป้องกันให้เด็กคนนี้ได้ด้วย
อันที่จริงหากคิดดู ทุกอย่างที่ว่ามาทั้งหมดไม่ว่าจะปั้นมิวให้ดัง หรือสร้างกิลด์นักผจญภัยกับมิว ทุกอย่างเหมือนทำมาให้มิวไปอยู่ด้วยกันกับเอริเนีย แล้วทำให้เอริเนียปลอดภัยขึ้นด้วยซ้ำ
แต่หากเธอไม่พูดอะไรในเวลานี้.. มันมีแต่จะสร้างความคลางแคลงใจให้อีกฝ่ายเท่านั้นแหละ ดังนั้นสำหรับคาเอะตอนนี้จึงมีทางเลือกเพียงแค่สองอย่างคือ..
พูดไปหากอีกฝ่ายไม่ใช่สายลับของบอร์เดอร์ไลน์ก็คือรุ่ง ถ้าใช่ก็คือความมั่งคั่งของเธอหายหมด กับปฏิเสธ.. ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน
แต่อาจจะไม่ได้ความไว้วางใจจากมิวเช่นกัน .. แต่แน่นอนว่าแผนที่เธอวางไว้ก็เพื่อการนี้ เธอเองก็คิดไว้แล้วว่ามิวอาจจะถามคำถามแบบนี้
เพราะงั้นเธอถึงได้ถามเรื่องของมิวจากลูกสาวตัวเองค่อนข้างเยอะ.. และโอกาสที่มิวจะเป็นสายลับนั้นมีน้อยมากกว่า 3 ใน 10
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เต็มสิบ.. คาเอะกัดริมฝีปาก เธอตัดสินใจตั้งแต่ที่จะเริ่มแผนนี้แล้ว ตัดสินใจตั้งแต่ที่เธอได้เจอคนที่ ‘รับการโจมตีขององค์หญิงไร้เสียงได้’ แล้ว
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“คือว่าอันที่จริง.. ความเข้ากันได้กับแร่พิเศษของเด็กคนนี้คือ.. สิบค่ะ”
“พูดแบบนี้พี่อาจจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ เพราะมันเป็นศัพท์เฉพาะในองค์กรบอร์เดอร์ไลน์.. จะพูดให้เข้าใจง่ายๆ เลยก็คือ”
“ความเข้ากันได้กับแร่ของพวกองค์หญิงหรือองค์ชายอยู่ที่ประมาณ 7-8 ค่ะ มีแค่ไม่กี่คนที่มีความเข้ากันได้ถึงระดับ 9 และระดับ 10 นั้นแทบไม่เคยมีอยู่จริง”
“ซึ่งพูดอีกอย่างหนึ่งง่ายๆ เลยนะคะ ขอแค่เธอใช้อารยธรรมบางอย่างได้เธอก็สามารถมีเนมเป็นองค์หญิงได้ค่ะ”
“ในกรณีที่เป็น ‘อารยธรรมบางอย่าง’ นะคะ.. แต่ถ้าเป็นอารยธรรมที่ทรงพลังแบบอารยธรรมที่พวกองค์หญิงองค์ชายใช้”
“เด็กคนนี้…”
“คาดว่าคงจะเป็น.. ‘ผู้สืบทอดราชบัลลังก์’ ไม่ก็ ‘ควีน’ เลยค่ะ”
เมื่อสิ้นสุดคำนั้นท้องฟ้าเหนือบ้านของคาเอะแทบจะมืดครึ้มลงแทบจะทันที ราวกับว่าเพียงแค่พูดถึงนิยามของ ‘เนม’ ในระดับ ‘ควีน’ แท้ๆ!!