การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 441
บทที่ 441 – เป็นพี่ไม่ใช่เหรอ..?
ร่างของคนทั้งหกคนก้าวข้ามผ่านวัฏจักรแห่งสรรพสิ่ง.. เมื่อคนทั้งหกลืมตาขึ้นก็พลันพบว่าตัวเองมาอยู่ในห้องเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ห้องแห่งนี้เป็นห้องนั่งเล่น ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา แม้จะมีทิวทัศน์ที่แปลกตา แถมยังมีทีวีที่เปิดอยู่พร้อมรายการทีวี
แต่ไม่มีใครทั้งหกที่ตกใจเลย ไม่สิ มีเวโรเน่อยู่คนหนึ่งที่สับสนว่าที่แห่งนี้คือที่ไหนกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างหรือของตกแต่ง
ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แต่ทีวีที่เปิดอยู่ก็ยังไม่รู้จัก เธอไม่สามารถสัมผัสได้ถึงเวทมนตร์อะไรเลย
กล่าวคือไม่ใช่เวทมนตร์หรืออาร์ติแฟ็คอะไร แล้วมันคืออะไรล่ะ? .. แต่แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนไม่ได้สังเกตเรื่องนั้น
เพราะทุกคนหันไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟา.. ยังมีเด็กผู้หญิงอีกคนที่กำลังมีปากเสียงกับผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโซฟา
โดยเนื้อหาที่พูดคุย ก็เป็นเรื่องที่พี่สาวมักจะพาพี่ชายไปอยู่ด้วยกันตลอดจนพี่ชายไม่มีเวลามาหาเธอเลย
แต่พอทั้งหกคนจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น.. คนทั้งสองคนก็เงียบลง แน่นอนว่าสองคนนี้คือเอลน่ากับลูเซียพี่สาวและน้องสาวของเลทิเซีย
เอลน่าไม่เท่าไหร่ แต่ลูเซียเห็นคนทั้งหกคนปรากฏขึ้นเธอก็อึ้งก่อนตอนแรก เพราะจู่ๆ ก็มีเหมือนคนปรากฏตัวขึ้น
เป็นธรรมดาที่เธอจะรู้สึกสับสน.. พอดวงตาของเลทิเซียประสบกับสายตาของลูเซีย.. ดวงตาของเลทิเซียก็เผยความสั่นสะท้านออกมา..
ร่างของเธอเคลื่อนที่ทะลุผ่านความว่างเปล่าเข้าไปใกล้ลูเซียโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่มือทั้งสองข้างจะโอบกอดร่างของลูเซียเอาไว้
ผ่านหน้าของเอลน่าไปโดยไม่เหลียวมองเธอแม้แต่น้อย.. เอลน่าที่เห็นแบบนั้นเธอก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย.. ไม่มีใครรู้ตัวว่าเธอในตอนนี้ได้ถอนหายใจออกมาเบาๆ ..
“อ๊ะ.. ทำอะไรเนี่ย แล้วเธอเป็นใค- ความรู้สึกแบบนี้.. พี่เหรอ? ไม่สิ แต่เธอเป็นผู้หญิงนี่น่า.. แล้วก็พี่ก็ไปทำงานไม่ใช่เหรอ เอ๋.. เอ๋??”
มีคำถามมากมายในหัวของลูเซีย เลทิเซียแปลกประหลาดใจเล็กน้อย.. เธอรู้ว่าต้องเจอลูเซียที่นี่ และรู้ว่าลูเซียจะเจอกับเธอที่นี่
และรู้ว่าเธอคือพี่ของตัวเองในที่แห่งนี้เช่นกัน เพราะจากคำพูดก่อนที่ลูเซียจะตายก่อนหน้านี้.. เลทิเซียก็รู้แล้วว่า
ลูเซียรู้ว่าเลทิเซียในร่างผู้หญิงนี้คือ.. เรน..พี่ชายของตัวเอง แต่ไม่คิดว่าที่ลูเซียรู้เรื่องนี้จะเกิดจากการที่เธอกอดลูเซียเพียงเท่านั้น
แต่เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่าง..
“ใช่แล้ว.. แต่จะพูดให้ถูกฉันคือเจ้าเรนนั่นในอนาคตน่ะ.. เดี๋ยวเธอก็จะได้อยู่กับฉันในร่างนี้เหมือนกัน.. ไม่ต้องห่วง”
“เอ๋ นี่มันเรื่องอะไรน่ะ?”
“ในอนาคต.. สักวัน.. เธอจะตื่นขึ้นมาในโลกที่แปลกประหลาด.. และโลกนั้นจะมีฉันในร่างนี้ยืนรอเธออยู่ เธอก็แค่ถามฉันในตอนนั้นก็พอ ถ้าเป็นเธอฉันคงไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้วล่ะ”
เลทิเซียพูดขึ้น ลูเซียยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ แต่กอดเมื่อสักครู่นี่เป็นกอดของพี่ชายเธออย่างแน่นอน
จากสัญชาตญาณของเธอที่แอบเข้าไปนอนกอดพี่ชายแทบทุกคืนละนะ.. ในตอนนั้นเองหลังจากที่เงียบมาสักพัก..
เอลน่าก็ดีดนิ้วหนึ่งครั้งพร้อมกับพูดขึ้น
“นั่นน่ะ.. เป็นเรนไม่ผิดแน่นอน.. ลูเซีย”
เธอพูดแบบนั้นเสร็จ.. ร่างกายของเลทิเซียกับวิญญาณของเธอก็ราวกับแยกออกจากกัน ก่อนจะสะท้อนให้เห็นภาพวิญญาณที่ไม่คงที่
ซึ่งพอสายตาของลูเซียมองเห็นวิญญาณนี้ แม้มันจะไม่ได้มีรูปร่างที่ชัดเจน แต่ใครที่รู้จักกับเลทิเซียในรูปแบบไหน ก็จะมองเห็นวิญญาณเป็นแบบนั้น
ซึ่งวิญญาณเลทิเซียที่ลูเซียมองเห็นคือเรน.. แม้ลูเซียจะไม่ชอบหน้าพี่สาวเอลน่าสักเท่าไหร่ แต่ในความจริงทั้งสองพี่น้องยังสนิทกันมาก
บางทีถึงแม้วันนี้จะทะเลาะกัน.. แต่ในเย็นนี้ก็คงกลับมาคืนดีกันได้นั่นแหละ นั่นแหละคือความสัมพันธ์ของพวกเธอ..
ดังนั้นเมื่อเอลน่ายืนยัน.. แล้วลูเซียจึงเชื่อโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว …
เลทิเซียที่เห็นแบบนั้นเธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย.. เธอเองก็เป็นแบบลูเซียนั่นแหละ ไม่ว่าพี่จะพูดอะไรเธอก็จะเชื่อ.. เชื่อและเชื่อ
เลทิเซียหันหน้าไปหาเอลน่าพร้อมกับพูดขึ้น..
“ลูเซีย.. อย่าไปเชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนี้ให้มากนัก.. เพราะอีกไม่นานเธอก็คงหนีจากพวกเราไปอยู่กับพวกเราคนใหม่แล้วล่ะ เธอตามหาแค่ความสุขของตัวเองเท่านั้นแหละ”
น้ำเสียงของเลทิเซียนั้นแม้จะไม่ใช่เสียงที่เหมือนกับเรน แต่ทว่า.. แต่ทั้งที่เป็นแบบนั้นสำหรับลูเซียมันไม่ต่างกัน..
ทว่าในตอนนี้.. ในยามนี้เสียงที่เลทิเซียพูดกับเอลน่าต่างไปจากพี่ชายที่ลูเซียรู้จัก.. เพราะเมื่อเช้าพี่ชายคนนั้นยังคุยแบบสนิทชิดเชื้อกับพี่สาวอยู่เลยแท้ๆ
แล้วทำไมตอนนี้เสียงมันถึงต่างกันมากขนาดนี้ แถมตอนนี้ฝนก็ยังตกหนักมาเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย
ทำให้น้ำเสียงของเลทิเซียราวกับเป็นเสียงของฟ้าผ่า เอลน่าที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็กัดริมฝีปากเบาๆ ..
ความเฉยชานั้น.. ต่อให้เป็นลูเซียที่อยู่กับเรนมาตลอดเธอยังรู้สึกเสียใจ.. ไม่รู้สิ เมื่อวานลูเซียยังรู้สึกอยากจะให้พี่สาวหายไปแท้ๆ ..
แต่ทำไม.. ทำไมตอนนี้พอเธอมองเห็นความแตกแยกของพี่ชายและพี่สาวแบบนี้.. ทำไมหน้าอกเธอถึงได้รู้สึกปวดแบบนี้..
นี่มันคืออะไรกัน..
“เลทิเซีย..พี่น่ะ…”
เอลน่าเหมือนจะพูดบางอย่าง แต่เลทิเซียก็หันกลับมาหาลูเซียโดยไม่สนใจสิ่งที่เอลน่าอยากจะพูดเลยสักนิด
ในตอนนั้นเองระยะห่างระหว่างสองพี่น้องก็ราวกับยืดห่างออกไกลราวกับไร้ที่สิ้นสุด..
เลทิเซียรู้ว่าลูเซียคนนี้ไม่ใช่ลูเซียของตัวเธอเอง แต่เป็นของตัวเธอในอีกโลก แต่ถึงแบบนั้นไม่ว่าจะเป็นโลกไหนๆ สำหรับเลทิเซีย ลูเซียก็คือลูเซีย
เธอไม่อยากเห็นสีหน้าเจ็บปวดของลูเซียเหมือนกัน..
แต่ไม่ใช่สำหรับพี่สาว.. พี่สาวของเธอที่หนีจากเธอตลอดมา.. พอเลทิเซียจะพยายามช่วยเพื่อนคนสำคัญ..
พี่สาวก็มักจะหนีจากเธอ..และไปใช้ชีวิตในโลกใบใหม่กับพวกเลทิเซียในโลกใหม่แบบไม่มีที่สิ้นสุด..
แน่นอนว่าถ้าหากเลทิเซียพยายามจะฆ่าพี่สาวก็ต้องหนีมันเป็นเรื่องปกติดีที่จะเป็นแบบนั้น.. แต่ว่า.. แต่ว่าถ้าหากเปิดอกคุยก็อาจจะพอมีวิธีอื่นไม่ใช่เหรอ
แต่ทุกครั้งพี่เอลน่าก็จะตัดสินใจไปเริ่มใหม่กับพวกเธอคนใหม่ ในโลกใบใหม่.. และก็ทำแบบนี้ซ้ำไป ซ้ำมา..
ราวกับเธอต้องการจะมีความสุขเพียงคนเดียว.. แต่เลทิเซียกลับไม่เคยได้พบกับความสุขอีกเลย ปิดผนึกตนเองลงไปยังทะเลวิญญาณ..
แน่นอนว่าเลทิเซียไม่พูดว่าพี่สาวควรมีความสุขหรือเธอควรมีความสุข.. แต่เลทิเซียในตอนนี้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะยอมเสียสละพี่สาวเพื่อคนสำคัญอื่นๆ
ถ้าหากพี่ขัดขืน..ก็เป็นเรื่องธรรมดา.. แต่นั่น.. นั่นจะเป็นเรื่องธรรมดาก็ต่อเมื่อพวกเธอไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน
แต่เป็นศัตรูกันต่างหาก… ซึ่งพี่สาวก็หนีมาตลอด.. หนีมาตลอดและเสมอมา สำหรับเลทิเซียจึงถือว่าพี่สาวนั้น..
เป็นศัตรูไปด้วยเช่นกัน.. ศัตรูที่ขัดขวางความสุขของเธอกับคนสำคัญ..
อันที่จริงความคิดนี้เลทิเซียอาจจะดูเห็นแก่ตัวไปบ้าง.. แต่ตอนนี้จิตใจเธอแตกสลายไปจนหมดแล้ว
ไม่เหลืออะไรแล้ว.. แม้แต่เอลน่าตรงหน้า อีกไม่นานเธอก็จะหนีไปที่ไหนสักแห่ง เอลน่าในตอนนี้ก็เหมือนกับลูเซียในโลกนี้
อีกไม่นานเธอก็จะตายและหนีไปหาคนอื่น.. ไปหาเลทิเซียคนอื่นอีก ใช่ เอลน่าของเลทิเซียน่ะตายไปนานแล้ว..
การเสียสละเอลน่าเพื่อชีวิตของเลทิเซียทุกคนดีขึ้นมันผิดตรงไหน.. เธอก็เป็นมนุษย์.. เธอก็แค่อยากจะได้ความสุขเท่านั้น..
ถ้าหากเอลน่าเป็นพี่จริง ไม่ใช่ว่าเธอต้องยอมเสียสละเพื่อน้องเหรอ..
เป็นพี่ไม่ใช่เหรอ..?
ตรรกะในตัวของเลทิเซียมันบิดเบี้ยวไปมากกว่าครึ่ง บางทีเธอในตอนนี้สภาพคงไม่ต่างจากคนบ้าคนหนึ่งก็ว่าได้..
เอลน่าเองก็รู้ความคิดของเลทิเซียดี.. เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ อีกครั้ง..
เลทิเซียหันไปคุยกับลูเซีย..
“ลูเซีย..ฟังพี่นะ.. วิ่งออกไปจากที่นี่.. ไปให้ไกล..พอกลับมาทุกอย่างจะจบลง.. แม้หลังจากนี้ไม่ว่าจะพี่หรือเธอจะต้องเจ็บปวดแต่ก็อย่ายอมแพ้นะ..”
“แล้วก็ตัวฉันน่ะ.. มันอ่อนแอ.. ถ้าหากพี่สาว ‘ตาย’ ไป.. มันคงจะร้องไห้ฟูมฟาย.. เพราะงั้นแหละนะลูเซีย”
“อย่าลืมมอบความรักให้ฉันมากนะ.. มอบความรักให้กับฉันตามที่เธอต้องการเลย”
เลทิเซียพูดขึ้นด้วยความห่วงใย.. แต่พอเลทิเซียพูดแบบนั้นลูเซียก็รู้ทันทีว่าเลทิเซียจะทำอะไรเธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง
“พี่…”
“มีอะไรเหรอ..”
“พี่จะ..ฆ่า…พี่เอลน่า…เหรอ..”
“ใช่แล้ว.. ทำไมเหรอ”
สายตาของลูเซียจ้องไปที่ดวงตาอันว่างเปล่าของเลทิเซีย ดวงตาของเลทิเซียตอนนี้แตกต่างจากเลทิเซียที่กอดเธอแล้ว
ภายในดวงตานั้นของเธอไม่เหลือใครอยู่แล้ว.. ไม่เลย.. แม้แต่ตัวของลูเซียที่ยืนอยู่ตรงนี้สำหรับเลทิเซียยังเป็นแค่..น้องสาวของเจ้าคนที่เธอพึ่งผลักตกจากดาดฟ้า
“ไม่..ได้นะ..”
ปกติลูเซียมักจะไม่เคยขัดคำพูดของพี่ชายสักครั้ง.. เพราะเธอนั้นเชื่อใจของพี่ชายสุดหัวใจ.. แต่ทว่า.. ทว่า..
เอลน่าคือครอบครัวนะ.. หากขาดใครสักคนไป.. ขาดใครสักคนไป..
เลทิเซีย..ที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้น..
“ไม่ได้? เธอพูดถึงอะไรลูเซีย..? เมื่อหลายวันก่อนเธอยังอยากให้พี่เอลน่าหายไปเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อคำพูดนั้นดังขึ้น.. ลูเซียก็ดวงตาแข็งค้าง.. เลทิเซียเดินมาจับไหลทั้งสองข้างของเธอพร้อมกับกล่าวด้วยความห่วงใย
“ฟังพี่นะลูเซีย.. เธอน่ะแค่มอบความรักให้คนขี้เหงาแบบพี่ก็พอ มอบให้เยอะ.. มอบให้มันจนกว่า….เธอจะพอใจเลย”
ดวงตาของเลทิเซียจ้องลึกไปในดวงตาของลูเซียราวกับจะกลืนกินเธอ.. เอลน่าเองก็ไม่กล้าขยับอะไร.. อาจจะเพราะเธอก็ดันรู้สึกผิดที่ทำให้เลทิเซียต้องเจอความเจ็บปวดมากมายเหล่านั้น
ท้ายที่สุดคนนอกอย่างเอลเน่ก็ทนไม่ไหว เธอเดินมาจับไหล่เลทิเซียแล้วก็ดึงออกมา..
“พอได้แล้ว.. เลทิเซีย.. ตั้งแต่มาถึงที่นี่.. เธอก็ดูขาดความเยือกเย็นในตอนแรกไปนะ”
เลทิเซียที่ถูกขัดเธอก็ปล่อยมือออกจากไหล่ทั้งสองข้างลูเซีย.. เธอล้มไปด้านหลังมองเลทิเซียด้วยความสับสนเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจวิ่งออกจากบ้านไป
ท่ามกลางสายฝนนั้นน้ำตาของลูเซียยังคงไหลออกมาไม่หยุด.. [1]
……….
[คำอธิบายเสริม]
เผื่อคนงงพ้อยของตอนนี้ ผมจะอธิบายโดยละเอียดนะ (เพราะมันต้องใช้การตีความในระดับหนึ่ง เพื่อความไม่งงกับการกระทำตัวละครผมเลยอธิบายเพิ่มให้)
อย่างแรกเลทิเซียเนี่ยจะมองว่าเป็นพี่ต้องเสียสละเพื่อน้อง แต่เมื่อพี่เลือกที่จะขัดขืนก็หมายความว่าเธอทำสิ่งที่ถูก แต่ถ้าว่าแบบนั้นก็ต้องใช้ตรรกะเป็นศัตรู.. ใช่มันเห็นแก่ตัวมาก.. นั่นแหละสภาพเลทิเซียในยามนี้
อย่างที่สอง ลูเซียทำไมดูเป็นคนรักครอบครัว รักพี่จัง..?
ตรงนี้คือเนื้อเรื่องก่อนที่นางจะฟิวส์ขาด เผลอฆ่าพี่ห่างจากตอนนั้นหลายปีพอสมควร.. เพราะงั้นนางในตอนนี้ยังไม่จิตขนาดนั้น แค่เป็นโรคซึมเศร้าขั้นร้ายแรงแค่นั้นนั่นเอง.. คืออารมณ์อยากให้เอลน่าหายไปมันก็แค่อารมณ์ชั่วครู่ เพราะอย่างที่ผมบอกว่าถึงจะทะเลาะกันแต่ทั้งคู่ก็สนิทกันมาก
อย่างที่สาม สุดท้าย
สาเหตุที่ทำให้ลูเซียยันแตกคือเพราะเลทิเซีย คำพูดของเลทิเซียมันกระตุ้นให้ลูเซียมอบความรักให้พี่ชายมากๆ .. เพื่อที่จะได้ทำให้ลูเซียเผลอฆ่าตัวเองนั่นแหละ เลทิเซียจงใจพูดให้ลูเซียคิดว่ามีแค่เธอที่มอบความรักให้พี่ชายได้ มอบความรักให้มันเยอะๆ .. แม้ตอนนี้จะไม่มีอะไรมาก แต่เมื่ออารมณ์ด้านลบเธอถูกกระตุ้นแรงๆ เข้า ยามนั้นตัวของลูเซียจะขาดสติยั้งคิด คิดแค่ว่า พี่มีแค่เธอก็พอ.. ต้องมีเธอเท่านั้น เพราะพวกเราคือครอบครัว ก็จะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับตอนที่เลวี่เข้าไปอ่านความทรงจำลูเซียนั้นนั่นแหละ..
สรุปคือ.. คนที่ชักจูงให้ลูเซียยันแตกนั่นแหละครับ..
เป็นไงล่ะเลทิเซียตอนนี้คือ.. แบบสตงสตินางไปหมดแล้วอ่ะ
[1] อยู่ในบทพิเศษ [4]