บทที่ 440 – จนกว่า.. จะถึงจุดสิ้นสุด..
“เป้าหมายฉันในช่วงเวลานี้เสร็จลุล่วงแล้ว.. ทำให้ไอ้ตัวน่าขยะแขยงนั่นเป็นขี้ขลาดยิ่งกว่าเดิม… พอเป็นแบบนั้นมันก็จะคอยดูคนสำคัญที่มันไม่รู้ตัวตายลงไปช้าๆ กว่าจะรู้ตัวทุกอย่างก็หายไปหมดแล้ว.. แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าหากฉันฆ่าพี่ได้ เจ้าน่าขยะแขยงนั่นก็จะมีวิธีชุบชีวิตคนสำคัญเหมือนกัน เพราะงั้นพี่.. ช่วยตายให้ฉันหน่อยจะได้ไหม?”
“ไอ้ตัวน่าขยะแขยงอะไรกัน… เรน..ก็คือเธอเหมือนกันนะ…”
เอลน่า.. แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาอย่างช่วยไม่ได้.. เพราะว่าคนที่เลทิเซียเกลียดนักเกลียดหนานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวของเลทิเซียเอง
ใช่แล้ว.. ทุกอย่างมันเกิดขึ้นมาจากฝีมือของเลทิเซียเอง ไม่ว่าจะเป็นนิสัยขี้ขลาดของเลทิเซีย หรือเป็นนิสัยระแวงทุกอย่าง
เลทิเซียคือคนที่ทำมันขึ้นมาเอง ในโลกอื่นที่ไม่มีตัวแปรอย่างพวกอเล็กเซีย บางทีเลทิเซียคงไม่รู้เรื่องราวขนาดเลทิเซียในโลกนี้
แต่ถึงแบบนั้น เลทิเซียทุกคนก็ต่างทำแบบนี้กันหมด เพราะหวังว่าเมื่อฆ่าพี่เอลน่าสำเร็จ เรนในโลกนี้จะได้มีนิสัยขี้ระแวง
จริงอยู่ที่นิสัยแบบนั้นมันเป็นปมด้อยของพวกเลทิเซียทั้งหมด แต่ทว่าหากไม่มีนิสัยแบบนั้น บางทีเลทิเซียอาจจะไม่ตระหนักรู้ถึงเรื่องราวทุกอย่าง
ว่าสิ่งไหนกันแน่ที่สำคัญกับตัวเอง ดังนั้นเลทิเซียจึงต้องทำให้ตัวเองในอดีตต้องกลายเป็นคนขี้ระแวงนั่นเอง
กล่าวคือเด็กผู้หญิงเมื่อตอนนั้นที่เลทิเซียเจอไม่ใช่ใครอื่นอีกนอกจาก ตัวของเลทิเซียเอง.. อันที่จริงบางทีเลทิเซียในตอนนั้นก็คงไม่รู้สึกตัว
ตอนที่เลทิเซียนึกถึงความทรงจำนี้ที่ถูกพี่สาวลบทิ้งออกไปก็ตาม แต่ตอนนั้น ตอนที่เลทิเซียนึกเรื่องราวเหล่านี้ออกนั้น
มันเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงสาดสะท้อนลงมายังบนพื้น ที่มีเลือดของเลทิเซียไหลไปทั่วพื้น และภาพสะท้อนอยู่ภายใต้โลหิตของเลทิเซียเอง
ก็คือใบหน้าของตัวเลทิเซียเอง มันเลยทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวในวันนี้ขึ้นมาได้ ใช่แล้ว.. แม้เลทิเซียจะลืมไปแล้ว
แต่เพราะเธอหวาดกลัวคำว่าเพื่อน เธอหวาดกลัวสิ่งนั้น.. แต่เธอหวาดกลัวทำไมล่ะ.. พอเห็นหน้าตัวของเธอเองซึ่งแน่นอนว่านั่นคือใบหน้าของเลทิเซีย
ที่ย้อนเวลามาเพื่อทำให้เธอเป็นคนขี้ระแวงนั่นเอง [1]
กล่าวคือ.. โลกอื่นๆ ก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเอง ซึ่งเลทิเซียโลกนี้สามารถสังเกตเห็นสิ่งนี้ได้
เพราะมีตัวแปรอย่างพวกอเล็กเซีย.. อีกอย่างเลทิเซียในโลกอื่นคงไม่รู้ว่าพี่เอลน่าจะหนีไปโลกอื่นตั้งแต่แรก
พวกเลทิเซียโลกอื่นคิดว่าตัวเองฆ่าพี่สำเร็จ แต่เมื่อคำสาปไม่หายไป.. พวกเลทิเซียในโลกอื่นจึงเลือกได้แต่ผนึกตัวตนของตัวเองลงไปในทะเลแห่งวิญญาณ
สถานที่ที่เลทิเซียเคยเห็นมาก่อน.. ที่เธอเคยเห็นตัวของเธอหลับสนิทนอนกอดเข่าอยู่ภายในทะเลวิญญาณนั้น..
ตัวตนของเธอมากมายนับอนันต์นั้นได้ฝากความหวังมาไว้ที่ เลทิเซียคนถัดไปเพราะพวกเธอเหล่านั้นไม่สามารถตามหาพี่เอลน่าได้แล้วนั่นเอง
กล่าวคือที่เลทิเซียเห็นเมื่อตอนนั้น ไม่ใช่อะไรอื่น แต่เป็นตัวเธอในโลกอื่นๆ ที่ได้เจอทางตันพวกเธอยอมเสียสละที่จะช่วยเพื่อนๆ ในโลกพวกเธอ
และเลือกฝากฝังทุกอย่างไว้กับเลทิเซียคนถัดไป หวังว่าเธอจะสามารถฆ่าพี่ได้นั่นเอง [2]
และเลทิเซียคนนี้ก็มีตัวแปรอื่นอย่างอเล็กเซียนั่นเอง…
เอาล่ะ.. เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรกันแล้วใช่ไหม?
โลกใบนี้.. จะขอเรียกว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงว่าโลกใบใหญ่..
โลกใบใหญ่แห่งนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘World line’ อยู่.. ซึ่งหากถามว่ามันคืออะไร เวิล์ดไลน์ ก็คือโลกใบใหญ่ที่มีโชคชะตาที่แน่นอน
กล่าวคือเลทิเซียในทุกๆ โลกกำลังติดลูปออยู่นั้น เพราะมีสิ่งที่เรียกว่าเวิล์ดไลน์นี้อยู่.. หากให้นิยามเพื่อเข้าใจง่าย
เราจะเรียกเวิลด์ไลน์อื่นๆ ว่า เวิลด์ไลน์อัลฟ่า.. เวิลด์ไลน์อัลฟ่ามีเลทิเซียอยู่เช่นกัน เวิลด์ไลน์นั้นจะมีเลทิเซียที่พยายามจะฆ่าพี่แต่ไม่สำเร็จ
เธอจึงฝากความหวังไว้กับเวิลด์ไลน์เบต้า เวิลด์ไลน์ถัดไป.. และเวิลด์ไลน์เบต้าก็จะทำไม่สำเร็จแบบเวิลด์ไลน์อัลฟ่า เวิลด์ไลน์เบต้าก็จะฝากความหวังไว้ที่เวิลด์ไลน์ถัดไป
มันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั่นแหละคือเวิลด์ไลน์ของโลกใบใหญ่.. ทุกสิ่งทุกอย่างในแต่ละเวิลด์ไลน์เป็นสิ่งที่กำหนดมาไว้แล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเวิลด์ไลน์ไม่มีความเป็นไปได้
ในแต่ละเวิลด์ไลน์นั้นจะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘Time line’ อีกทีหนึ่งเหมือนกัน ไทม์ไลน์ก็ตามชื่อเลยคือเส้นเวลา..
เป็นเส้นเวลาที่ขนานกันไปอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด สมมุติว่า มีทางเลือกอยู่สองทางว่า เลทิเซียจะฆ่าพี่หรือเลือกที่จะไม่ฆ่า?
เช่นเลทิเซียเลือกที่จะไม่ฆ่า.. ไทม์ไลน์ก็จะแตกแขนงออกเป็นสองเส้นเวลาคู่ขนานอื่นให้มีสองเส้นเวลาที่
เส้นเวลาหนึ่งเลทิเซียเลือกที่จะไม่ฆ่า ก็จะมีอีกเส้นเวลาที่ปรากฏขึ้นเหมือนกันว่าเลทิเซียเลือกที่จะฆ่านั่นเอง
และความเป็นไปได้เหล่านี้ไม่ว่าจะ Yes หรือ No ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่กำหนดมาไว้ ถูกขีดเขียนไว้แต่แรกโดย ‘World line’ แล้วนั่นเอง
จริงๆ ภายในไทม์ไลน์แต่ละไทม์ไลน์นั้นยังมีเรื่องที่ลึกลงไปอีกหลายระดับ.. แต่ถ้าจะให้อธิบายใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงไม่เพียงพอ
แต่ก็อย่างที่อธิบายไปเบื้องต้น และเวิลด์ไลน์โลกที่เลทิเซียคนปัจจุบัน หรือเลทิเซียตัวเอกของเราดำรงอยู่นั้นมันแตกต่างจากเลทิเซียคนอื่นๆ
ที่อยู่ในเวิลด์ไลน์อื่น เพราะในคราวนี้เลทิเซียมีพวกอเล็กเซีย.. อย่างที่กล่าวไปในตอนแรก ตัวตนของพวกเธอเหล่านี้ล้วนหลุดออกจากตรรกะทั่วไปของต้นกำเนิดที่แท้จริง
ทำให้พวกเธออยู่เหนือกว่าเวิลด์ไลน์ ทำให้ตัวตนพวกเธอมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีเธอในโลกคู่ขนานอื่นๆ นั่นเอง
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เลทิเซียตัวเอกของเราคราวนี้แตกต่างจากเลทิเซียคนอื่นนั่นเอง
และด้วยสิ่งที่เรียกว่า.. กุญแจแห่งเซฟิรอธ นี้มันจะทำให้ลูปนรกที่ไร้จุดจบของเลทิเซียจะสิ้นสุดลง
เพราะในตอนนี้.. ตอนที่เลทิเซียหลอมรวมพลังกับกุญแจแห่งเซฟิรอธนั้นมันทำให้เธอได้เข้าใจโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น
รวมถึง.. เข้าใจสิ่งที่เรียกว่า ‘เซฟิรอธ’ โลกสุดท้ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งกล่าวได้เลยว่าตลอดทั่วสรรพสิ่งทุกหนแห่งเธอเป็นคนแรกที่เข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่า โลกสุดท้าย (Last World)
เลทิเซียกะพริบตาหนึ่งครั้ง โลกตรงหน้าก็ไหลผ่านและแปรเปลี่ยนอีกครั้ง พอลืมตาอีกครั้งเธอก็ปรากฏขึ้นในสถานที่แห่งหนึ่ง
มือของเธอยังคงจับกับมือของเวโรเน่ไม่เคยเปลี่ยนมาตั้งแต่แรก ราวกับว่าเธอไม่ได้หายไปไหน..
ทุกคนยังอยู่ครบ โรส อเล็กเซีย เอลเน่และเทพผู้สร้างริวคุง.. ในขณะที่เคลื่อนย้ายข้ามกาลเวลาไปหา ‘ปัจจุบัน’ ของพี่สาวเธอ
เลทิเซียก็เห็นทุกอย่าง เห็นความบ้าคลั่งของลูเซีย ว่าลูเซียเป็นคนฆ่าตัวเธอเอง แต่เรื่องแบบนั้นเธอรู้ตั้งแต่ที่ได้รับกุญแจแห่งเซฟิรอธแล้ว
เธอเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้..
“จริงสิ.. ต้องทำให้เรสต้าคิดว่าฉันมาจากโลกของเทพธิดาแห่งพิภพ”
ต่อให้ลูเซียจะเป็นคนฆ่าเลทิเซียจริง แต่ในตอนนี้เลทิเซียไม่ได้สนใจเรื่องนั้น และยังไงซะความลับนั้นก็จะไม่มีใครรู้นอกจากเลทิเซียกับลูเซีย
ถึงแม้เลวี่จะแอบรู้ไปแล้วก็ตามเถอะนะ.. แต่เลทิเซียก็หลับตาลงโยนเหตุผลการตายของตัวเองให้เรสต้า
และทำให้เรสต้าเข้าใจเป็นตุเป็นตะไปเองว่าเป็นการตายแบบไหน ยังไม่พอเลทิเซียยังยื่นมือไปควบคุมความคิดบางอย่างของเรสต้า
ให้เรสต้ามอบทักษะนับไม่ถ้วนให้เธอทั้งหมด เพราะหากไม่ทำแบบนั้น ลูกบาศก์สีดำจะไม่ได้มีพลังแข็งแกร่งเพียงพอที่จะชุบชีวิตทุกคนได้
ก่อนที่เลทิเซียจะฆ่าเทพธิดาแห่งพิภพทิ้ง..
ถูกต้องแล้วคนที่ทำให้เรื่องราวทุกอย่างมันเกิดขึ้นคือตัวของเธอเองนั่นแหละ.. ลูปมรณะ ลูปอันแสนทรมาน.. เลทิเซียเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง
แต่นั่นก็เป็นเพราะเธอต้องทำ หากไม่ทำตัวเธอในโลกใบใหม่ก็จะไม่ได้เจอกับพวกพ้องคนสำคัญ.. ยังไงซะเมื่อเธอฆ่าพี่สำเร็จแล้ว
ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองนั่นล่ะ.. หากพี่หนีไปได้จริง เลทิเซียเพียงโยนกุญแจเซฟิรอธให้ตัวเองคนถัดไปก็พอแล้วล่ะ..
จนกว่า… จะฆ่าพี่ได้…
จนกว่า.. จะถึงจุดสิ้นสุด..
เธอต้องบังคับให้ตัวเองเจ็บปวดทรมานอย่างที่สุดก่อน
ไม่งั้น ถ้าเป็นเธอ.. ถ้าเป็นเลทิเซีย เธอคงไม่กล้าแน่.. ไม่กล้าที่จะฆ่าพี่เอลน่าน่ะ
…………..
[1] บทก่อนหน้ามันจะไปเชื่อมต่อกับบทที่ 91 เลทิเซียเห็นใบหน้าตัวเองที่สะท้อนจากโลหิตจากแสงจันทร์.. ซึ่งผมแอบใบ้ไว้แล้วอะนะว่า เลทิเซียนั่นแหละคือคนที่ทำตัวเองให้เป็นแบบนี้
[2] จากบทที่ 100 เลทิเซียมองเห็นตัวเองนอนกอดเข่า.. นั่นคือฉากจบของเรื่อง.. หากเลทิเซียไม่มีพวก อเล็กเซีย อะนะ.. เอาง่ายๆ คือเลทิเซียที่มีนับอนันต์คือเลทิเซียที่ฆ่าพี่ตัวเองไม่สำเร็จเลยเลือกที่จะฝากความหวังไว้กับเลทิเซียคนถัดไปนั่นแหละ
[เดี๋ยวผมจะเขียนตอนพิเศษให้สักตอนว่า ระหว่างโลกที่มีพวกอเล็กเซียกับไม่มีมันแตกต่างกันยังไง จะมีพ้อยแยกที่ชัดเจนอยู่ด้วยนะ – ผู้เขียน]
MANGA DISCUSSION