บทที่ 392 – การสืบทอดเจตจำนง
หลังจากที่ทั้งสี่ออกมาก็หาที่เหมาะๆ ในการสนทนากันไม่มีใครแอบฟังหรือดักฟังได้.. ส่วนเนลเพราะหนังท้องตึงหนังตาเลยหย่อน
เธอหลับไปนานแล้ว.. และเมื่อทั้งสามคนนั่งลงเลทิเซียเป็นคนที่ชิงถามก่อนทันที เธอหันไปทางคนสวมฮู้ดสีขาวที่ไม่ใช่ไอรีน
“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ เวโรเน่ไม่ใช่ว่าเธอต้องอยู่กับพ่อเธอเหรอ?”
เลทิเซียพูดอย่างตรงไปตรงมา… ยังไงซะสำหรับเวโรเน่แล้วเลทิเซียเห็นความปรารถนาสูงสุดของเธอมาแล้ว
และหากเธอมาอยู่ในที่ที่เป็นแดนปีศาจนี้.. ก็หมายความว่าเธอได้เลือกที่จะละทิ้งความสุขเหล่านั้นของตัวเองแล้วงั้นเหรอ
อีกอย่างในแดนปีศาจนี้เต็มไปด้วยศัตรูคู่อาฆาตของมนุษย์ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหากถูกจับได้พวกเธอไม่มีทางรอดกลับไปอย่างแน่นอน
หรือก็คือเวโรเน่พาตัวเองมาเสี่ยงภัยอันตรายนั่นเอง..
สำหรับเด็กที่ชื่อเวโรเน่ เลทิเซียมีความรู้สึกดีด้วยค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเธอเป็นคนที่มีจิตใจดีและใสซื่อบริสุทธิ์
สำหรับเลทิเซียแล้วบางทีการที่เธอได้เห็นอะไรแบบนี้มันอาจจะทำให้เธอรู้สึกอยากจะให้มีความสุขของตัวเองบ้างโดยไม่รู้ตัว
เพราะเธอรู้ว่าความสุขนั้นมักจะสลายหายไปได้โดยง่าย หากสามารถไขว่คว้ามันมาได้ก็ต้องพยายามให้ถึงที่สุด….
ดังนั้นเวโรเน่ที่พบเจอความสุขแล้ว… เธอไม่เข้าใจว่าทำไม…?
เวโรเน่ที่ได้ยินคำว่า ‘พ่อ’ ดวงตาของเธอก็ก้มต่ำลงเล็กน้อย เวโรเน่ค่อยๆ เปิดฮู้ดออกมา เธอในตอนนี้ดูดีกว่าแต่ก่อนไม่น้อย
แม้ยังสวมผ้าปิดหน้าเอาไว้เหมือนเดิม แต่ว่าลักษณะความเป็นกุลสตรีนั้นเด่นชัดกว่าเดิมมาก เรียกได้ว่าเธอในตอนนี้ไม่มีกลิ่นอายของความจนเหมือนเดิมเลย
นี่ไม่ใช่ว่าเธอเป็นวัวลืมเท้าแต่อย่างใด.. แต่เป็นเพราะว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอถูกฝึก ถูกขัดเกลาเพื่อที่จะเป็นผู้ดี
ด้วยฝีมือของแม่ไอรีน.. ไม่สิ แม่ของเธอด้วยนั่นแหละ..
พอเลทิเซียสังเกตเห็นสีหน้าของเวโรเน่ที่ดูเจ็บปวดเธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย.. เวโรเน่พยายามจะตอบอะไรบางอย่าง..
“ท่านพ่อน่ะ…”
แต่ว่าไอรีนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับหันไปหาเลทิเซีย..
“ท่านอาร์ชพ่อบุญธรรมของเธอเสียชีวิตแล้ว”
“ห้ะ เป็นไปไม่ได้!”
เลทิเซียแทบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้.. ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้นี่น่า
เลทิเซียไม่ใช่คนธรรมดาเธอมีทักษะอำนวยความสะดวกสบายมากมายหลายล้านทักษะ เพียงมองปราดเดียวเลทิเซียก็รู้หมดทุกอย่าง
รู้ทุกโรคภัยไข้เจ็บของพ่อเวโรเน่ รู้ด้วยว่าเขาจะตายในเร็ววัน แต่เลทิเซียแค่ไม่ได้สนใจเท่านั้นเอง เพราะเธอคิดว่าไม่ว่าจะเป็นพ่อของเวโรเน่หรืออะไรก็ตามแต่
เธอไม่ควรไปแทรกแซง… จนกระทั่งตอนที่เลทิเซียได้เห็นความปรารถนาของเวโรเน่ละนะ.. ความปรารถนาอันเรียบง่ายของเวโรเน่นั้น
มันทำให้เลทิเซียคิดว่าหากปล่อยให้บิดาของเวโรเน่ตายไป ความปรารถนาของเธอก็จะหายไป เลทิเซียไม่ต้องการแบบนั้น
แถมท้ายที่สุดเลทิเซียยังเห็นว่าพ่อของเวโรเน่นั้นเป็นห่วงเป็นใยตัวเวโรเน่ขนาดไหน.. ในตอนนั้น ตอนที่เลทิเซียจะจากไป
เธอจึงหันกลับมามองเวโรเน่.. ไม่ใช่แค่นั้นเธอยังมองไปที่บิดาของเธอด้วย เพียงแค่ทองปราดเดียวโรคภัยไข้เจ็บของเขาล้วนถูกรักษาให้หายไปจนหมดสิ้น
ใช่แล้ว เลทิเซียเป็นคนลบโรคภัยไข้เจ็บของบิดาเวโรเน่ แต่กลับไม่สามารถหยุดยั้งความตายได้..
หรือว่าจะเป็นจุดที่เวลากำหนดมาไว้แล้ว.. ไม่สิ หากเป็นแบบนั้นทำไมภาพสะท้อนของเทพผู้สร้างไม่ปรากฏตัวออกมาล่ะ
“ท่าทางแบบนั้น… แสดงว่าคนที่รักษาโรคของพ่อเวโรเน่ให้ก็คือเจ้าสินะ”
“หมายความว่าไง?”
ไอรีนที่เห็นท่าทางของเลทิเซียเธอก็พอเดาบางอย่างได้และพูดขึ้น.. นี่ทำให้เลทิเซียสับสนเล็กน้อย
แต่ไอรีนก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดบัง ถึงแม้จะสงสัยว่าทำไมเลทิเซียถึงต้องพยายามจะฆ่ามนุษย์ไปด้วยในตอนนั้น
ถ้าหากเธอเป็นมิตรของฝั่งมนุษย์.. แต่ไอรีนในตอนนี้ได้เดินทางในแดนปีศาจ เธอได้เห็นความเศร้า ความเจ็บปวด ความทรมาน
ปีศาจนั้นก็ไม่ต่างจากมนุษย์เลย พวกเขาก็เคยถูกรุกราน เคยถูกทำร้าย เคยเสียใจ.. ดังนั้นอคติที่เธอมีต่อปีศาจจึงถูกบั่นทอนลงไปเยอะพอสมควร
อีกทั้งเมื่อรู้ว่าเลทิเซียเหมือนจะเป็น ‘จอมมาร’ แล้วแต่กลับฆ่าเผ่าปีศาจด้วยกันนี่ แสดงให้เห็นว่า.. บางทีเธอคนนี้อาจจะไม่สนเรื่องพรรค์นั้นจริงๆ ก็ได้
ดังนั้นอคติที่เคยตั้งไว้ก็ถูกลดทอนแล้วบางส่วน.. เธอกล่าวอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น..
หลังจากที่พ่อของเวโรเน่ร่างกายทรุดลงกะทันหัน เขาก็ได้บอกกับไอรีนว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นโรคบางอย่างที่จะต้องตายอบ่างแน่นอน
และแน่นอนว่าไอรีนก็พยายามจะหาวิธีช่วยสุดชีวิต.. แต่ไม่ว่าจะตรวจยังไงก็ไม่สามารถตรวจพบโรคผิดปกติดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย
ใช่ เหมือนกับว่าโรคนั้นไม่มีมาตั้งแต่แรก… แต่อาร์ชยังยืนยันคำเดิมว่าตัวเองเป็นโรคนี้จริงๆ .. หลักฐานที่ชัดเจนคือร่างกายที่ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วนี้
ทว่าไอรีนกลับไม่พบโรคอะไร.. ทำให้เธอตัดสินใจที่จะไปถามมารดาของตัวเอง.. มารดาของเธอเหมือนคนที่รู้ทุกอย่าง
เธออธิบายว่านั่นแหละคือ ‘การสืบทอดเจตจำนง’ การสืบทอดเจตจำนงไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกอันแรงกล้าหรือพลัง
แต่เป็นทุกสิ่งอย่างรวมถึงชีวิต ส่งมอบเจตจำนงของรุ่นตัวเองฝากฝังไว้กับรุ่นถัดไป.. เวโรเน่ที่ได้รับสืบทอดพลังจากบิดาตัวเองมา
เลยส่งผลให้ไม่นานอาร์ชก็จะต้องตายในที่สุด หรือก็คือสาเหตุหลักไม่ได้มีเพียงแค่โรคประจำตัว
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าร่างกายเขาทรุดลงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้นั่นเอง เพราะนี่ไม่เกี่ยวกับโรค แต่เป็นการสืบทอดเจตจำนง!
เมื่อไอรีนได้ฟังเรื่องนี้เธอก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องที่อาร์ชเล่าให้เธอฟัง.. แน่นอนว่าเรื่องแผนการของมารดาเธอ
เธอไม่ได้พูดออกไปก็จริง แต่เธอยังอธิบายต่อว่าจริงๆ แล้วเวโรเน่ไม่ใช่ลูกจริงๆ ของอาร์ชแต่เพราะมารดาเธอฝากให้อาร์ชเลี้ยง
เพราะเวโรเน่คือน้องสาวแท้ๆ ของไอรีนนั่นเอง… แต่เมื่อพูดถึงแม่ตัวเองเวโรเน่จะกำหมัดแน่น..
ไอรีนคิดว่าเวโรเน่เองมีสิทธิ์ที่จะรู้ทุกอย่างดังนั้นเธอจึงเล่าทุกอย่างให้เวโรเน่ฟัง ดังนั้นเวโรเน่จึงเกลียดมารดาตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใด
และแม้ไอรีนจะไม่เล่าว่าทำไมมารดาของตัวเองถึงรู้เรื่องพลังของอาร์ชดีนัก แต่เลทิเซียก็พอจะเดาบางสิ่งบางอย่างได้
อันที่จริงไอรีนประเมินเลทิเซียต่ำไป.. ตลอดเวลาที่เลทิเซียอยู่กับเวโรเน่แม้จะสั้น เธอก็รู้ว่าอาร์ชนั้นเปลี่ยนไป
และสูญเสียคนที่รัก อีกทั้งยังติดเหล้าเคยทำร้ายร่างกายเวโรเน่ แต่ตอนสุดท้ายเขากลับแสดงความรู้สึกรักที่มีต่อเวโรเน่ออกมาได้
ผสมผสานกับสิ่งต่างๆ แม้จะไม่สามารถฟันธงทุกสิ่งอย่างได้ แต่ก็พอจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาบ้างแล้ว…
สรุปก็คืออาร์ช พ่อของเวโรเน่เสียชีวิตเพราะมอบพลังให้กับตัวเวโรเน่เอง..
เลทิเซียยกมือขึ้น..
“พอแล้ว.. ฉันเสียใจด้วยนะ.. แล้วก็ขอโทษด้วย”
“ไม่หรอก.. ต้องเป็นข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณ เจ้าน่ะคิดถึงข้าเลยรักษาท่านพ่อให้ใช่ไหมล่ะ? ขอบคุณนะ.. เจ้าเป็นคนดีจริงๆ ”
“ฉันไม่คิดว่าตัวเองเหมาะกับคำแบบนั้นหรอก”
เลทิเซียปฏิเสธเหมือนเดิม.. เวโรเน่ก็ยังขอบคุณเลทิเซียอยู่ดี เพราะเธอก็ตามที่เลทิเซียกับไอรีนคุยกันทันอยู่บ้าง
เธอรู้จากไอรีนแล้วว่าทุกอย่างมันเป็นแผนของแม่เธอเองตั้งแต่แรก.. ดังนั้นมันจึงทำให้เธอไม่เคยคิดจะยอมรับว่าคนคนนั้นเป็นแม่ของเธอ
พ่อแม่ของเธอมีเพียงคนเดียวเท่านั้น.. คืออาร์ช..
แม้ตอนแรกเธอจะอคติกับไอรีนด้วยเช่นกัน แต่เพราะไอรีนเป็นคนที่เข้าหาคนอื่นเก่งไม่นานพวกเธอจึงสนิทกัน..
และท้ายที่สุดเวโรเน่ก็สามารถยอมรับว่าไอรีนคือพี่สาวตัวเอง..
แน่นอนว่าเลทิเซียเวโรเน่ไม่เคยลืม เลทิเซียเปรียบดั่งเพื่อนคนแรกของเธอ ดังนั้นเธอจึงคิดถึงและหวังว่าจะเจอเลทิเซียอยู่บ่อยครั้ง
และเหมือนครั้งนี้จะเป็นจริงแล้วความคาดหวังของเธอ… ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังได้ค้นพบว่าอีกว่าสิ่งที่เลทิเซียมอบให้เธอนั้นมีมากแค่ไหน
ความคิดถึง ความซาบซึ้งและความรู้สึกขอบคุณมันเอ่อคลอเต็มหัวใจทั้งสี่ห้องของเวโรเน่…
ความรู้สึกที่มีต่อเลทิเซียยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก..
MANGA DISCUSSION