การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 341
บทที่ 341 – พันธสัญญาเทพ (1)
ภายใต้ความพยายามอย่างมากของซิลเวียในที่สุดร่างกายของทั้งสองคนก็พร่าเลือนและหายไปจากจุดนั้นทันที
พอนิลเห็นเช่นนี้ก็สบถออกมาด้วยความหงุดหงิด มันก้าวขาไปข้างหน้าโจมตีใส่ไวท์ไม่หยุด.. ไวท์ถอยหลังด้วยความลำบาก
บาดแผลทุกอย่างในร่างกายหายเป็นปลิดทิ้งแทบจะในตอนที่ได้รับบาดเจ็บ เพราะเธอไม่ใช่ทั้งสิ่งมีชีวิตหรืออะไร.. เธอคือทักษะที่เปรียบดั่งต้นกำเนิด
ศัตรูทางธรรมชาติของความว่างเปล่า เธอรับการโจมตีของนิลไปด้วยพร้อมกับกล่าวพึมพำ..
“ฝากด้วยนะ.. อาจารย์ซิลเวีย… แล้วก็รีบๆ หน่อยนะ.. ข้าคงต้านได้ไม่นานเท่าไหร่หรอก”
ร่างของเลทิเซียและซิลเวียปรากฏตัวออกห่างจากจุดที่เคยอยู่ไปไกล แต่ถึงจะบอกว่าไกลเพราะที่แห่งนี้ไม่มีพื้นที่หรือเวลา ระยะพวกนี้อาจจะไม่ช่วยให้พวกเธอรอด
แต่ที่ทำให้พวกเธอมี ‘ระยะห่าง’ กับฉากต่อสู้นั้นได้คงต้องขอบคุณต้นกำเนิดเสียมากกว่า… เลทิเซียเหมือนกับคนหมดอาลัยตายอยาก
มันก็แน่นอน.. ไวท์ในตอนนี้ทุกครั้งที่เธอกะพริบตาเธอก็จะเจ็บปวดด้วยฝีมือของนิล.. ในขณะที่ภาพที่เธอเห็นนั้นมันคืออะไร?
ความไม่มั่นใจนี้สร้างความกระวนกระวายให้กับเธอ แต่สิ่งที่ตอกลงไปยังบนใบหน้าของเธอก็คือคำว่า ‘เธอน่ะทำอะไรไม่ได้’
ตลอดห้าปีที่ผ่านมา.. เธอพยายามมากแค่ไหนไม่มีใครรู้ เธอพยายามจะยิ้มสู้กับสิ่งที่ตัวเองไม่เคยเข้าใจ.. ไม่เคยรู้จัก
จนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เธอกลายเป็นเหมือนคนที่มีสองบุคลิก.. เมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณะ อยู่ต่อหน้านักเรียนคนอื่นเธอจะยิ้มที่เป็นมิตรออกมาให้พวกเขา
คนทุกคน สิ่งมีชีวิตทุกชีวิต ล้วนชื่นชอบความอบอุ่น.. ใช่ เธอต้องทำแบบนั้นเพื่อให้พวกเขาไว้วางใจเธอ
มันไม่เหมือนกับแต่ก่อนที่เธอไม่ต้องสนความคิดของใคร.. ใช้ความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งว่าคนคนนี้อาจจะเป็นศัตรู
คนคนนี้อาจจะมาฆ่าตนเอง..
เพราะตอนนี้เธอต้องคอยยิ้มให้คนอื่นเสมอ เพื่อให้คนอื่นเชื่อใจต้องคอยเดาความคิดพวกเขา คอยทำให้พวกเขาไม่รู้สึกแย่เมื่อมองตัวเอง
ทำตัวให้เป็นที่รัก.. ซึ่งเธอพึ่งจะมาเรียนรู้ว่ามันยากขนาดไหน.. เธอไม่รู้เลยว่าคนแบบเลวิเนียต้องเจออะไรแบบนี้ตลอดต้องเก่งขนาดไหน
พวกราชาหรือราชินีที่ดูแลปกครองประเทศและทำให้ประชาชนหลงรักและเคารพต้องปั้นหน้ายากกว่าเธอไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
ดังนั้นเธอจึงยิ้มต่อไป.. ยิ้มให้คนได้รู้ว่าเธอคือคนที่ทุกคนคาดหวัง คือผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ.. เธอเหนื่อย.. เธอล้า..
แต่นั่นมันไม่เกี่ยว เพื่อที่จะไม่สูญเสีย เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น เธอจะได้ปกป้องคนสำคัญทั้งหลายเหล่านั้น..
เธอทำแบบนั้นจนแทบ..ลืมไปแล้วว่าอะไรคือใบหน้าที่แท้จริงของเธอ หากนี่เป็นบทบาทที่เธอสวมใส่อยู่เพื่อให้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด
แล้วแบบเดิมเป็นยังไง.. เธอในก่อนหน้านี้ที่จะสวมบทบาทเป็นผู้สมบูรณ์แบบที่อยู่ตรงนี้คือใคร..
ใช่.. เพราะแบบนั้นเธอจึงคอยกล่าวกับตัวเองอยู่เสมอ.. ว่า ‘สำหรับวันนี้ก็ราตรีสวัสดิ์นะตัวฉัน’
เธอกลัวว่าสักวันเธออาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคือคนยังไง.. เพราะต้องคอยทำให้คนนู้นคนนี้รู้สึกดีกับเธอ.. เธอจึงบอกกับตัวเองทุกๆ คืน
คอยย้ำเตือนตัวเองว่า.. เธอยังมีเป้าหมาย… เป้าหมายเพื่อคนที่สำคัญ
บางทีไอ้จิตสำนึกบางอย่างในตัวเธอที่เคยเข้ามาแทนที่ในตอนนั้น.. ก็คงจะเป็นอีกความคิดของเธอ..
ที่รู้สึกแย่กับบุคลิกภาพของตัวเอง.. ทำให้เธอเปลี่ยนตัวเองเพื่อที่จะเป็นคนอีกคน.. และตอนนี้ก็คงอยู่ในสถานะเดียวกัน
เธอคิดแบบนั้นมาตลอดห้าปี.. และไม่ว่าจะเลทิเซียคนไหนก็ล้วนเป็นเลทิเซีย.. แต่แล้วมันยังไง.. สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ถูกนำพามาสู่ปากขอบเหว
ความพยายาม.. ความสับสนในตัวตนของตนเอง.. ทุกอย่างล้วนไม่มีคำตอบเพราะเธอในตอนนี้มาอยู่ปากเหวแล้ว..
ความพยายามทุกอย่างตลอดห้าปีมันตอกย้ำเธอว่า.. เธออ่อนแอเกินไป..แม้ว่าจะเก่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า..
เธอก็ไม่อาจต่อกรกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้.. มันพังไปหมดแล้ว..
บางทีมันคงพังมาตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว..
มันสายเกินไปแล้ว..
หน้าอกของเธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่ทราบสาเหตุขึ้นมา เหมือนกับหัวใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ …..
“เลทิเซีย!เลทิเซีย!!!”
เสียงร้องของซิลเวียก็ปลุกเลทิเซียพร้อมกับเขย่าแขนของเธอให้หลุดออกมาจากภวังแห่งการจิตตก..
สายตาที่ตายอดตายอยากของเลทิเซียเงยขึ้นมามองหน้าของซิลเวีย.. หน้านี้เหมือนกับอยู่ห่างออกไปไกล.. กำลังลอยห่างออกไปไกล..
เธอยกมือขึ้นช้าๆ .. เอื้อมไปจับใบหน้าที่อยู่ห่างออกไปแต่ใบหน้านั้นกลับไม่ได้ห่างออกไปอย่างที่คิด..
ฝ่ามืออันอบอุ่นของซิลเวียจับไปที่มือของเลทิเซีย.. ซิลเวียไม่ใช่คนไม่ได้ความเหมือนในอดีต.. เธอมองเห็นดวงตาของเลทิเซีย
มองเห็นความโศกเศร้าที่เหมือนกับแบกรับอะไรบางอย่างไว้ด้วยตัวคนเดียว.. ยิ่งเห็นสิ่งเหล่านั้นเธอยิ่งรู้สึกเจ็บแสบหน้าอกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้..
“ขอโทษนะ”
เธอพูดคำหนึ่งออกมาในปาก.. ก่อนที่จะยิ้มขึ้นและกล่าวขึ้นกับเลทิเซียด้วยความห่วงใย..
“ไม่เป็นไรหรอก…. ข้าอยู่นี่..”
เลทิเซียที่จับมือของซิลเวียเอาไว้ได้น้ำตาของเธอก็เหมือนจะไหลออกมจากดวงตาแต่กลับไม่มีของแบบนั้นไหลออกมาเลย..
มัวทำอะไรของเธออยู่… ตอนนี้มันใช่เวลามาจิตตกที่ไหน..
เรื่องนี้เธอรู้ดีมาตั้งแต่แรก.. ตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือไง!!
แทนที่จะมานั่งเสียใจกับอดีตสู้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับแก้ไขมันดีกว่า..
ไม่อย่างงั้นสุดท้ายแล้วจะคว้าอะไรไม่ได้อีกเลย
สเตฟานี่.. โคลเอ้.. เซเรส.. อันน่า
เลทิเซียดวงตาสะท้อนแสงบางอย่างเธอกอดซิลเวียเข้ามาหาตัวเอง.. การกอดนั้นแน่นขึ้นแทบจะไม่อยากปล่อยเพราะกลัวว่าเธอจะหายไปจากตรงหน้า
“เลทิเซีย.. ข้ามีแผนแล้วล่ะ”
แม้ซิลเวียจะโดนกอดเธอก็กล่าวขึ้นด้วยความเร่งรีบ เพราะตอนนี้ไวท์ก็กำลังสู้อยู่ เธอไม่สามารถยืดเยื้อทุกอย่างไปได้มากกว่านี้
ไม่รอให้เลทิเซียตอบสนอง ซิลเวียก็ผลักเลทิเซียออกไปทำให้เลทิเซียตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะจับใบหน้าของเลทิเซียเอาไว้พร้อมกับประกบริมฝีปากไปที่ปากของเลทิเซียทันที
แม้แต่เลทิเซียก็ตกใจปรับตัวไม่ทัน.. ทว่าเมื่อริมฝีปากของทั้งสองคนประกบกันนั้น มันไม่ใช่เป็นการจุมพิตที่มีความโรแมนติก..
เพราะพลังเวททั้งหมดของซิลเวียที่หลงเหลืออยู่ภายในร่างกาย ซึ่งเป็นพลังเวทที่เลทิเซียไม่เคยรู้จักหรือรับรู้มาก่อน
และไม่เพียงแค่นั้นพลังต้นกำเนิด ของเลทิเซียก็ถูกดึงออกมาจากห้วงลึก มันไม่ใช่เวทมนตร์หรืออะไรทั้งสิ้น
มันคือดวงวิญญาณ พลังบางอย่างที่แฝงมาพร้อมกับดวงวิญญาณตั้งแต่แรกเกิด… ถูกดึงออกมาหลอมผสานกัน..
พันธสัญญาเทพ!
ดวงตาของเลทิเซียเบิกกว้างเพราะเธอรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วทั้งร่างกาย แต่ไม่ใช่ความเจ็บปวดที่จะฉีกร่างกายออกเป็นเสี่ยงๆ
เพราะมันคือความเจ็บปวดที่สมองเธอแทบจะระเบิดออก ทว่าซิลเวียนั้นหนักกว่าเลทิเซียมาก เธอผลักเลทิเซียออกพร้อมกับถอยหลังไปหลายก้าว
กุมหัวตัวเอง.. ก้มหัวลง.. พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน..
“ซิลเวีย!!!”
เลทิเซียพยายามจะเข้าไปใกล้ แต่ซิลเวียกลับถอยห่างออกไปอีก ราวกับมีข้อมูลบางอย่างที่มากมหาศาลเกินจำเป็นไหลเข้ามาในหัว
และมากด้วยความทรมานยังมีพลังแห่งต้นกำเนิด.. พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในสรรพสิ่งมันกำลังกรีดร้องในหัวของเธอนับพัน นับหมื่น..หรือล้านเสียง