การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 336
บทที่ 336 – โรงเรียนลิเบอร์…?
เลทิเซียพูดศัพท์ไม่เป็นศัพท์แต่ซิลเวียคิดว่าตนเองเลือกถูกแล้ว.. มีแค่วิธีนี้เท่านั้น.. มีแค่วิธีนี้เท่านั้น ใช่ไหม.. ไวท์..
ซิลเวียหันไปมองไวท์ที่กำลังโรมรันกับนิลอยู่ ก่อนจะถอนสายตากลับมาและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด
แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวของเลทิเซียและซิลเวียอยู่ในสายตาของนิลเช่นกัน.. สายตาเธอจ้องไปที่ไวท์มองเห็นเส้นใยการเชื่อมโยงกับต้นกำเนิดชัดเจนกว่าเดิม!
หากปล่อยไว้แบบนี้ละก็.. อีกฝ่ายอาจจะหาวิธีกลับต้นกำเนิดได้!
ถึงนิลจะกล่าวไว้เยอะ แต่เพราะเธอเป็นส่วนหนึ่งของความว่างเปล่าแล้ว เธอก็เปรียบดั่งศัตรูของต้นกำเนิดมารดาแห่งสรรพสิ่ง!
ดังนั้นหากต้องการตามเข้าไป แม้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้.. แต่ก็ต้องเสียเวลานานมาก ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นความแค้นที่เธอมีต่อพวกสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำพวกนี้..
คงทำเธออกแตกตายก่อนได้ล้างแค้นแน่.. ความรู้สึกเหมือนพยายามฆ่าแมลงสาบแต่มันไม่ยอมตายสักที!
โดยไม่รีรออะไรเธอสีหน้ามืดครึ้มกล่าวด้วยเสียงสยบทุกสรรพสิ่ง
“ต่อให้แกหนีไป.. ข้าจะฆ่ายัยนี่และก็ตามไปฆ่าแก.. ข้าจะฆ่าทุกคนที่แกรู้จัก.. ใช่ยัยนั่นแล้วก็ยัยนั่น.. อ่า ทุกคนที่แกรู้จักข้าจะฆ่าพวกมัน.. ฆ่า ฆ่า ฆ่า”
เสียงคำรามของนิลดังกึกก้องไปทั่วพื้นที่.. ผสมกับความร้อนใจความบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มันไม่เหมือนนิลคนเดิมที่เคยเห็นอีกต่อไป
นิลราวกับเป็นอสุรกายจากเบื้องล่างอย่างแท้จริง!!
อย่างไรก็ตามเพราะการต้านทานของไวท์ทำให้นิลรู้สึกรำคาญใจไม่พอ การเคลื่อนไหวของซิลเวียยังแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มที่จะรู้วิธีใช้พลังต้นกำเนิดแล้ว
ในขณะที่เลทิเซียที่โดนซิลเวียอุ้มเธอก็ดิ้นรน..
“ซิลเวียปล่อยฉัน… ฉันต้องช่วยไวท์…”
เธอพยายามจะดิ้นรน แต่ภายใต้ความรู้สึกและการเตรียมใจอันหนักอึ้งของซิลเวีย ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าเธอตั้งใจได้ขนาดไหน
ทำให้พลังของต้นกำเนิดส่งผลมาถึงเธอจนถึงขั้นสามารถใช้พลังบางส่วนได้ แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี..
อาจจะเป็นเพราะว่าความสัมพันธ์ของซิลเวียกับภูตแห่งความรักไม่ได้ลึกซึ้งอะไรขนาดนั้น มีเพียงความรู้สึกที่มีต่อเลทิเซียเท่านั้น..
จึงไม่อาจพาเธอกลับไปที่ต้นกำเนิดได้ แต่ก็ทำให้เธอมีอิสรเสรีในความว่างเปล่าแห่งนี้ได้เช่นกัน
ซิลเวียมองเลทิเซียก่อนจะส่ายหน้าแล้วก็พูดขึ้น…
“เจ้าในตอนนี้.. จะไปทำอะไรได้ล่ะเลทิเซีย”
“ข้าเองก็เหมือนกัน”
“บางที.. ไวท์เองก้เหมือนกัน”
ซิลเวียกล่าวขึ้นพร้อมกับกัดริมฝีปาก สำหรับซิลเวียเองก็รู้จักกับไวท์ผ่านเลทิเซียมาตั้งนานแล้ว เธอเป็นเด็กที่ร่าเริงและสดใสอยู่เสมอ
เป็นคนที่ซื่อตรงอีกด้วย.. ดวงตาของซิลเวียจ้องมองไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย..
“พวกเราน่ะ.. ทำอะไรไม่ได้เลยทั้งสิ้น”
“สิ่งที่พวกเราทำได้มีเพียงไว้ใจไวท์และเชื่อว่าเธอต้องรอดมาให้ได้”
“เพราะสิ่งที่ไวท์กำลังทำคือปกป้องเจ้าและข้านะ”
“ข้าไม่ให้เจ้าเอาชีวิตไปทิ้งหรอก.. นี่ก็เพื่อข้าและก็ไวท์เช่นกัน”
ซิลเวียกล่าว.. ใช่แล้ว นี่คือการตัดสินใจของไวท์ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ทุกอย่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องถัดจากนี้
ซึ่งสิ่งที่พวกเธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงเชื่อใจไวท์ เชื่อใจว่าเธอจะไม่เป็นอะไร.. แต่การดิ้นรนของเลทิเซียไม่ได้สิ้นสุดลงเลยสักนิด
ใช่แล้ว.. สำหรับเลทิเซียไม่ว่าจะแพ้หรือชนะทุกอย่างก็ล้วนอาจจะผิดมาตั้งแต่แรกเลยต่างหาก.. ไวท์จะแพ้หรือจะชนะมันก็ไม่ใช่ประเด็น..
ไม่สิ ถ้าชนะคงดีกว่าสำหรับเลทิเซียเพราะยังไงซะสำหรับไวท์แล้วเลทิเซียก็มองเธอเหมือนเพื่อนคนสำคัญคนหนึ่งเช่นกัน
อย่างไรก็ตามแต่ หากผลลัพธ์หลังจากนั้นล่ะ หากไวท์ต้องมาแบกรับความเจ็บปวดของการฆ่าน้องฝาแฝดตัวเองล่ะ
เลทิเซียแค่นึกว่าตัวเองฆ่าน้องสาวหรือพี่สาวตัวเองเธอก็รู้สึกคลื่นไส้จนแทบจะอ้วกแตก.. รู้สึกผิดไปจนวันตาย..
ไวท์ที่สดใสคนนั้น ไวท์ที่ร่าเริงคนนั้น.. ไวท์ที่เคยโดดเดี่ยวคนนั้นเลยนะ.. เลทิเซียไม่อยากให้เธอไปอยู่ในจุดจุดเดิมอีกแล้ว
จุดที่ต้องเฝ้ารอใครสักคนมาถึงเธอ มาจับมือเธอก้าวออกไปข้างหน้า..
เพราะว่าสำหรับเลทิเซียแล้วน่ะ..
ไวท์คือเพื่อนความสำคัญยังไงล่ะ
“นิล! หยุดเถอะ.. นี่มันเป็นแผนของเจ้าพวกที่เธอเกลียดนะ.. หากเธอทำตามพวกมันต้องการ.. สุดท้ายแล้วก็จะเป็นเหมือนเดิม”
“เธอหลุดพ้นมาแล้ว.. ที่นี่คือโลกใบใหม่ เป็นอนาคตที่ไม่เหลือร่องรอยอดีตของเธอแล้ว.. เพราะงั้นเธอไม่จำเป็นต้องทำร้ายใครอีกแล้ว”
เลทิเซียกล่าวขึ้นด้วยความเร่งรีบ.. บางทีพอมองถึงเด็กน้อยชื่อนิลคนนั้นพอมองไปยังนิลในตอนนี้เลทิเซียจึงเหมือนมองเห็นนิลตัวน้อยคนนั้นเหมือนกัน
เหมือนตรงที่เธอกำลังหลงทางและสับสน..และกำลังขอความช่วยเหลือจากใครสักคนอยู่.. แต่ว่าภายใต้การแปรเปลี่ยนทางสภาพอารมณ์
ที่ไม่รู้ว่าเธอต้องจมปลักอยู่กลับความเจ็บปวดมามากขนาดไหน ทำให้เธอไม่อาจเปล่งเสียงขอความช่วยเหลือเหมือนนิลตัวน้อยในอดีตได้..
ตัวตนของเธอสำหรับเลทิเซียในยามนี้จึงดูเหมือนบิดเบี้ยวและไม่คงที่.. นิลน่ะแรกเริ่มไม่ใช่คนไม่ดี..
เธอแค่ไม่รู้จะทำยังไงเท่านั้นเอง ต่อความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายในอก ความเจ็บปวดที่ต้องทนทุกข์ทรมาน.. เธอจึงต้องการที่จะระบายออกมา
อยากจะระบายออกใส่ใครสักคน..
ใช่ มันคือนิสัยของเด็กที่ไม่ได้ดั่งใจแล้วก็งอแงแค่นั้นแหละ เธอแค่ไม่เข้าใจตัวของตัวเธอเอง ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอกมันคืออะไร
ไม่สามารถถามใครได้.. ไม่สามารถยิ้มออกมาได้..
ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องการในยามนี้คือใครสักคนที่เข้าใจเธอ.. ดวงตาของเลทิเซียจ้องไปที่นิลพร้อมกับกล่าว
“นิล.. พอเถอะ”
เสียงของเลทิเซียอ่อนลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายแทบจะเข้าขั้นขอร้อง.. เธอไม่อยากให้ไวท์ต้องเสียใจ.. การเสียครอบครัวอันเป็นที่รักเลทิเซียนั้นเข้าใจดีกว่าใคร
เธอจึงขอร้อง..นิล..
…ซึ่งความเข้าใจของเลทิเซียมีต่อนิลนั้นไม่ผิดสักนิดเดียว
เพียงแต่ว่า.. สิ่งเดียวที่อยู่ภายในอกของนิลนั้นมันมีมากเกินไป.. มากเกินกว่าคำว่าความสับสนจะนิยามสิ่งนั้นออกมาได้ด้วยซ้ำ
เธอน่ะจมปลักอยู่กับความรู้สึกเหล่านี้โดยใช้ทั้งการเย่อหยิ่ง การบ้าคลั่งหรือแม้แต่การปล่อยวาง..
แต่มันก็ไม่เปลี่ยนอะไร.. สุดท้ายแล้วเธอก็ยังโดดเดี่ยวเป็นหนึ่งในศัตรูที่มวลมนุษยชาติต้องกำจัด.. ถูกผนึกไว้ใต้ทะเลอันอ้างว้างโดดเดี่ยว
มันนานมาก.. นาจนแม้แต่เลทิเซียก็ยังคาดไม่ถึง.. นานยิ่งกว่าชั่วกัปชั่วกัลป์และความรู้สึกอันหนักอึ้งทั้งหมดนี้มันจมปลักมาพร้อมกับระยะเวลาเหล่านั้นในตัวของนิล
ดังนั้น.. เมื่อเลทิเซียพยายามจะพูดหว่านล้อมด้วยคำพูดแบบนั้น.. ราวกับสิ่งที่เธอต้องเจอมามันถูกเหยียบย่ำ..
สิ่งที่เธอต้องรู้สึกมาตลอดมันเป็นความรู้สึกที่เพียงแค่ปล่อยวาง.. ถูกมองด้วยสายตาสงสาร..
ภาพอันมีความสุขของนิลตัวน้อยที่เป็นภาพลวงตาลอยขึ้นมาในหัวของนิลอีกครั้ง เพราะยัยตัวปลอมนั่นเหรอ..
เพราะยัยตัวปลอมนั่นเหรอเลยทำให้เจ้าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเธอมันคิดว่ามันเข้าใจเธอ.. ไอ้ภาพลวงตาที่แสนน่ารังเกียจนั่น..
“เจ้าจะมาเข้าใจอะไรในตัวข้า”
เสียงคำรามของมันอัดแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว เสียงหัวใจของมันเต้นรัวจนแทบกระเด็นออกมาจากหน้าอก..
“เจ้ามันก็แค่… เจ้ามันก็แค่…”
เสียงของมันสูงขึ้น… แต่วินาทีต่อมานั้นเองก็ดับลง นิลก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมาก
“หึๆ .. เจ้าคงดูถูกข้ามากสินะ.. ดูถูกความคิดของข้า.. ความรู้สึกของข้า ฮ่าๆ ”
“เจ้าที่พึ่งจะมีอายุกี่สิบปีกลับมาทำเป็นพูดเหมือนเข้าใจ เหมือนรู้จักข้างั้นเหรอ.. มันตลกสิ้นดีเลยว่ะ”
“เจ้าในตอนนี้มันเหมือนกับพวกนักวิทยาศาสตร์นั่นไม่มีผิด..”
“ข้าละเกลียดคนแบบเจ้าจริงๆ ..”
“และข้าก็อยากจะเห็นจริงๆ ว่า.. ถ้าหากข้าฆ่าใครสักคนที่เกี่ยวข้องกับเจ้า.. เจ้ายังจะทำเสียงทำท่าทางเห็นใจแบบนั้นต่อข้าได้อีกไหม”
ดวงตาของนิลยกขึ้นมา.. เผยแววความโหดเหี้ยม ความโกรธของเธอในตอนนี้มันทำให้สติทุกอย่างในร่างกายเธอเหมือนเฉียบคมขึ้น
แทนที่จะระเบิดมันออกมาเธอกลับหัวเราะด้วยเสียงเย็นชา.. ในเมื่อแกดูถูกข้าขนาดนั้นแล้วละก็….
และในชั่วพริบตานั้นเอง ความว่างเปล่าทุกอย่างรอบด้านต่างพากันแปรเปลี่ยน..
ความดำมืดพลันถูกแทนที่ด้วยท้องฟ้าและพื้นดิน ประดับประดาไปด้วยพืชหญ้าอันไกลโพ้น..และมองลงไปพื้นดินก็เห็นทะเลสาบขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วระยะสายตา..
และตรงกลางทะเลสาบมีสถานที่แห่งหนึ่งตั้งอยู่..
ซึ่งพอเลทิเซียมองลงไปข้างล่างเธอก็เบิกตากว้าง.. บัดนี้.. พวกเธอมาอยู่ใน..โรงเรียนลิเบอร์!!