การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 328
บทที่ 328 – …พี่สาว..
แน่นอนว่านิลนั้นไม่เหมือนเลทิเซียหรือซิลเวียที่เติบโตมาในสถานการณ์ที่หลากหลาย มีประสบการณ์บางสิบางอย่างอย่างโชกโชน..
เพราะเธอเป็นแค่เด็กที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์กับใคร… เธอที่เห็นเลือดไหลออกจากบาดแผลของเลทิเซียไม่หลุดมันทำให้เธอได้แต่สับสน
ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อยู่ เธอพยายามใช้มือสองข้าปิดบาดแผลของเลทิเซียแต่เลือดก็ยังไหลออกมาไม่หยุด
“อ่า… อ่า..ไม่นะ. พี่สาว… พี่สาว”
เธอพูดเสียงหลงด้วยความสับสนแม้จะพยายามรวบรวมหรือประคองสติแต่ก็ยังยาก.. เลือดไหลอาบมือทั้งสองข้างเธอทำให้มือทั้งสองข้างเธอสั่นกลัวมาก
บางทีเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลนี้.. อาจจะเป็นสีสันเดียวที่ภาพวาดของเธอไม่เคยมีมัน
เลทิเซียที่เห็นแบบนั้นก็ยกมือขึ้นจับมือของนิลเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้น..
“ฉันไม่เป็นไร…”
“ตะ.. แต่ว่าเลือดพี่สาวมัน..ไหลออกมาไม่หยุดเลย.. เป็นเพราะหนู…”
เธอร้องออกมาทั้งน้ำตา แต่ทว่าในพริบตาต่อมาเจ้าหมึกยักษ์ก็เคลื่อนที่มาหยุดอยู่ต่อหน้าเลทิเซีย
สายตาที่มองมาที่เลทิเซียนั้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิดประการหนึ่ง แต่ทว่าเลทิเซียไหวตัวทัน เธอกอดนิลแล้วก็กลิ้งหลบไปด้านข้าง
การโจมตีของเจ้าหมึกยักษ์ในร่างมนุษย์พลาดไปโดนพื้นเบื้องล่าง แต่พลังโจมตีนั้นก็มากเกินไปส่งผลให้มีคลื่นกระแทกบางอย่างซัดเอาร่างเลทิเซียกับนิล
ม้วนตลบลอยลิ่วไปไกล แต่ไม่นานก็กลิ้งไถลลงกับพื้นหลายตลบก่อนที่จะกระแทกซากปรักหักพังขนาดเล็กและพังถล่ม
“อัก..”
เลทิเซียกระอักเลือดออกมากเพราะปกป้องนิลจากการโจมตีเมื่อครู่นี้.. และในพริบตาต่อมานั้นเองห่างออกไปซิลเวียก็เปิดประตูได้อีกครั้ง
และในขณะที่พลังเวทของเลทิเซียกำลังจะใช้งานได้ เงาของเจ้าหมึกยักษ์ก็พุ่งเข้าไปโจมตีและปิดกั้นประตูไว้อีกครั้งทำให้เวทมนตร์สลายหายไปอีกครา
เลทิเซียยังไม่ได้ฟื้นฟูบาดแผลด้วยซ้ำ.. บังดีที่แขนที่ขาดไปถูกสร้างขึ้นมาทันก่อนที่พลังเวทจะหายไป และในตอนนั้นเองนิลก็ตะโกนขึ้น..
“อ่า…พี่สาวระวัง”
ลูกดอกธนูสีดำพุ่งมาจากมุมมืดของถนนพุ่งโจมตีใส่เลทิเซีย แน่นอนว่าเพราะกอดนิลอยู่ทำให้เธอไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน
ทำให้เลทิเซียยกฝ่ามือขึ้นรับลูกธนู.. ไม่สิ ให้ลูกธนูพุ่งแทงใส่ฝ่ามือจนทะลุก่อนที่จะกำมันเอาไว้ทั้งแบบนั้น
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เลทิเซียหมุนตัวพร้อมกับใช้มืออีกข้างจับลูกธนูปากลับคืนไปที่เดิมด้วยวิชาดาวไร้ลักษณ์
ลูกธนูพุ่งใส่คนที่ยิงอย่างแม่นยำ ไม่สิ แรงยิ่งกว่าตอนที่มันยิงมาเสียอีก.. แต่ไม่ใช่ว่าเลทิเซียไม่เจ็บ
เอกัดริมฝีปากเบาๆ ..
“สถานการณ์แบบนี้แย่แน่.. ขืนเป็นแบบนี้…”
เลทิเซียพึมพำในลำคอ ก่อนที่เลือดที่ตกข้างอยู่จะตีกลับออกมาอีกครั้งทำให้เธออ้วกออกมาเป็นเลือด..
“พี่สาว..”
“ฉันไม่เป็นไร..”
แน่นอนว่าคำพูดเมื่อกี้นิลได้ยินอย่างแน่นอน.. ถึงแม้เลทิเซียจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่บาดแผลเต็มตัวแบบนี้จะเรียกว่าไม่เป็นไรได้อย่างไร
ถึงนิลจะไม่เคยสู้รบกับใครมาก่อน.. แต่เธอรู้ดีว่าความเจ็บปวดนั้นไม่ใช่แค่บอกว่าไม่เป็นไรจะไม่เป็นไร..
แค่เธอโดนหินปาใส่หัวยังเจ็บขนาดนั้น แล้วพี่สาวตรงหน้าจะเจ็บขนาดไหนกันล่ะ.. นิลก้มหน้าลง..
เธอน่ะ..เป็นคนที่รังเกียจ..รังเกียจทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสีผม หรือร่างกายหรือแม้แต่ชีวิตนี้..
ทุกครั้งที่เธอโดนดูถูก โดนกีดกัน.. โดนปฏิเสธ ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้อะไรเลย… ตลอดมาเธอจะตั้งคำถามกับตัวเองเสมือว่า..
เธอทำไมถึงไม่ได้หัวเราะเหมือนกับคนอื่น ไม่สามารถเข้าไปขอเล่นกับคนอื่นได้ ทำให้เธอถึงถูกปฏิบัติราวกับปีศาจร้าย..
เพราะงั้นเธอจึงไม่เคยสัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าความอบอุ่นเลย.. ภายในอกของเธอราวกับมีช่องว่างขนาดมหึมาวางไว้..
เป็นเหมือนกับความว่างเปล่า.. มันดำมืดราวกับสีผมของเธอ
เหตุผลที่เธอเกิดมาบนโลกนี้นั้นเป็นเพราะอะไร.. ทำไมผมของเธอถึงเป็นสีดำราวกับลางร้ายแห่งคำสาป..
ไม่สิ.. คงเป็นเพราะผมเส้นนี้นั่นแหละที่ทำให้เธอนั้นถูกปฏิเสธเสมอมา.. เพราะงั้นเธอจึงพยายามจะตัดมัน..แต่แล้ว
เธอก็ไม่สามารถทำได้ ผมของเธอไม่สามารถตัดได้.. มันรวกับเป็นคำสาปสำหรับเธอ..
เป็นเพราะผม.. เป็นเพราะหัวนี้มันทำให้เธอโดนปฏิเสธเรื่อยมา..
ดังนั้นเธอเลยเกลียดตัวเอง
เกลียดผมของตัวเอง
เกลียดทุกอย่างที่เป็นตัวของตัวเอง..
จนกระทั่งวันที่เธอถูกรุมประณามก็มาถึงทั้งที่เธอไม่ได้ผิดอะไร..
เธอขอโทษก็แล้ว เธอรู้สึกผิดก็แล้ว แต่ไม่มีใครฟังเธอเลย.. เธอถูกปาก้อนหินใส่ ถมถุยด้วยคำหยาบ
ด่าทอ… นั่นยิ่งตอกย้ำให้เธอรังเกียจตัวเองเข้าไปอีก จนกระทั่งเลทิเซีย..ปรากฏขึ้น เธอมีท่าทางสง่างามราวกับเทพธิดา
ไม่สิ ในดวงตาของนิลแล้วเลทิเซียไม่ต่างจากเทพธิดาที่งดงามเพียงหนึ่งเดียวในซากปรักหักพังที่ล่มสลาย..
จนเธอเผลอทักออกไปไม่รู้ตัว..แน่นอนว่าพอเธอรู้ตัวว่าตนเองเผลอทำอะไรออกไปมันก็สายไปเสียแล้ว
แต่ว่าจู่ๆ เทพธิดาของเธอก็เหมือนจะพูดขึ้นมาคนเดียวซะอย่างนั้นทำให้นิลรู้สึกประหลาดมาก.. ไม่รู้สิ
เพราะแบบนั้นเธอจึงได้เผลอถามต่อไปว่า..พี่สาวคุยอยู่กับใครงั้นเหรอ.. แต่แล้วเทพธิดาคนนั้นก็เหมือนหนีอะไรสักอย่างอยู่
เธอก็อุ้มนิลขึ้นพร้อมกับตัดผมที่ตัดไม่เคยขาดให้.. ในวินาทีนั้นนิลรู้สึกราวกับว่าเลทิเซียคือเทพธิดาผู้ใจบุญ..
เธอที่ไม่สามารถไปไหนหรือทำอะไรได้.. แม้แต่ตายก็ยังทำไม่ได้เธอได้แต่อยู่ตรงนั้นราวกับต้องอยู่ตรงนั้นไปตลอดกาล
แต่พี่สาวคนนี้ก็ช่วยเธอออกมา… เลทิเซียจึงเปรียบเสมือกับเทพในร่างมนุษย์… แถมเธอยังไม่รังเกียจในตัวนิลเลยสักนิด..
ไม่สิ.. ต่อให้นิลเป็นเด็กขนาดไหนเธอก็รู้… บางทีเทพธิดาคนนี้คงไม่รู้จักเธอ.. ดังนั้นพอเลทิเซียถามชื่อเธอจึงได้บอกว่าตนเองชื่อนิล
เพราะคำว่านิลนั้นมันสะท้อนให้เห็นถึงเธอในหลายๆ อย่าง แต่แล้วไม่นานความจริงนั้นก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างง่ายดาย
พอเทพธิดาจ้องมองมาที่เธอ.. ความรู้สึกบางอย่างก็ปรี่ล้นขึ้นมาในอกของเธอ..
ราวกับมันไปซ้อนทับกับเหตุการณ์บางอย่างในความทรงจำของเธอ.. เป็นสายตาของคนในเมืองจ้องมาที่เธอพร้อมกับขับไสไล่ส่งเธอราวกับเป็นอมนุษย์
“ไม่… หนู… หนู…”
เธอโกหกพี่สาวออกไป… ทำไมเธอต้องทำแบบนั้น
นั่นแน่นอนอยู่แล้วเป็นเพราะความกลัว..
กลัวที่จะโดนปฏิเสธ
กลัวที่จะโดนรังเกียจ
เพราะตลอดมา.. ตั้งแต่จำความได้.. เธอเพียงต้องการใครสักคนที่มาอยู่ใกล้ๆ เธอ ให้คำปรึกษาเธอ
เพราะงั้น..เธอจึงไม่กล้าพูดชื่อจริงๆ ออกไป.. ชื่อที่เธอจำได้เต็มสมอง.. แต่จะมารู้สึกผิดตอนนี้มันก็สายไปแล้ว..
และทุกอย่างมันก็พังไปจนหมด.. พอรู้ตัวอีกทีร่างกายเธอก็ปวดแสบปวดร้อน.. ความทรมานนั้นราวกับร่างกายเธอกำลังจะฉีดขาดออกจากกัน
ความทรงจำจากอดีต.. ปัจจุบันหรือแม้แต่อนาคตราวกับมันกำลังสับสนปนเปมั่วไปหมด.. ส่งผลให้หัวเธอแทบจะระเบิด..
สิ่งแรกที่เธอนึกถึงคือ..พี่สาวคนนั้น..
“ช่วยหนู..ด้วย…พี่สาว….”
เธอไม่รู้ว่าทำไม.. ไม่สิ เพราะสำหรับเธอคนที่ใจดีกับเธอนับตั้งแต่เกิดมามีเพียงพี่สาวคนนั้น..
ใช่ มันเห็นแก่ตัวทั้งๆ ที่ตัวเองพึ่งโกหกไปหยกๆ .. แต่นิลไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่มีศักดิ์ศรีหรืออะไรขนาดนั้น
พอเจ็บปวดมากๆ เธอเพียงแค่อยากได้ใครสักคนมาช่วยเหลือให้รอดพ้นจากจุดนี้.. ดังนั้นเธอจึงขอความช่วยเหลือ..
และก็เป็นอีกครั้งที่พี่สาวปรากฏตัวขึ้นและช่วยเธอเอาไว้..แต่ทว่า
ทุกสิ่งบนโลกมันกลับไม่ได้ง่ายขนาดนั้น..
แขนพี่สาวหายไป
บาดแผลเลือดไหลซิบทั่วร่าง..
ใช่.. ทุกอย่างนี้..
เป็นเพราะเธอได้ขอความช่วยเหลือออกไป..
เป็นเพราะเธอ
………….
[เดี๋ยวจะกลับมารีบอัพละครับ ขอโทษที่หายไปนาน ฮาาาา — ผู้เขียน]