บทที่ 327 – อคติบดบัง ชิงชังรังเกียจ
นิล..นับตั้งแต่ที่เธอจำความได้นั้น..ตัวเธอก็ถูกทิ้งไว้ในป่านอกเมือง นิลจำหน้าพ่อหรือแม่ไม่ได้ด้วยซ้ำ
ไม่สิ แรกเริ่มเดิมทีตัวเธอนั้นมีพ่อแม่หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ.. สิ่งที่เธอรู้มีเพียงอย่างเดียวคือชื่อของเธอ
ในที่แห่งนี้ไม่มีใครคุยกับเธอไม่มีใครอยากเข้าใกล้นิล..
ตลอดมามันเป็นเช่นนั้นร่างกายของนิลนั้นค่อยๆ เติบโตด้วยตัวของมันเองนิลไม่เหมือนคนอื่น… เพราะว่าเมื่อร่างกายได้รับบาดแผลร่างกายจะฟื้นฟูตัวเองทันที
เมื่อตอนที่นิลหิวร่างกายก็จะหายหิวในไม่กี่วินาทีต่อมา.. และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ร่างกายของนิลมันหยุดเติบโตไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้..
แต่ทว่าเพราะเป็นแบบนั้นก็ยิ่งทำให้สายตารอบด้านที่มองมาที่นิลเต็มไปด้วยความรังเกียจและหวาดกลัวไม่อยากเข้าใกล้
ราวกับว่า นิล..ไม่เป็นที่ต้อนรับจากคนในเมืองแห่งนี้
แม้แต่เพื่อนสักคนนิลก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ.. ทุกครั้งที่นิลเข้าใกล้เมืองก็จะมีก้อนหินลอยมาใส่หัวนิลจนเลือดไหลออกมา
พร้อมกับคำด่าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“อย่าเข้ามานะ.. เจ้าปีศาจ”
“เจ้านี่มันเป็นเด็กโชคร้ายล่ะ ท่านแม่บอกว่าถ้าไปใกล้มันทุกคนจะอันตรายล่ะ”
“เห็นว่ามันไม่ต้องกินน้ำกินปลาก็ไม่ตายด้วยนะ”
“เห็นว่าผมหล่อนตัดไม่ขาดด้วยนะ.. รู้สึกว่าจะเป็นเพราะคำสาปนั่นแหละ”
“น่ากลัวจริงๆ ”
ก้อนหินและคำพูดที่โหดร้ายนั้นเสียดแทงมาที่นิล..นิลไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมตัวเธอถึงเป็นเพียงคนเดียวที่ถูกปฏิเสธ ทำไมเธอถึงถูกทุกคนรังเกียจขนาดนั้น
เธอ… ผิดอะไร
ไม่ว่านิลจะพยายามที่จะแอบเข้าไปในเมืองจากตรงไหนทุกคนก็จะรู้และขับไสไล่ส่งเธออยู่เสมอ.. ปฏิเสธเธอ… ต่อต้านเธอและรังเกียจเธอ
เสมอมา.. ตลอดมามันเป็นแบบนั้น พวกเขาปฏิบัติราวกับว่าเธอเป็นคนนอกสำหรับพวกเขา.. ไม่สิ มันยิ่งกว่านั้นเสียอีก
นิลไม่ต่างอะไรจากพิษร้ายสำหรับพวกเขา.. พิษที่จะนำพาความตายมาแก่ตัวพวกเขา.. เพราะแบบนั้นพวกเขาถึงได้ปฏิเสธเธอ
“แต่ว่าทำไมล่ะ.. ทำไมถึงปฏิบัติกับหนูแบบนั้น.. หนูไม่เคยทำอะไรผิดสักหน่อย..”
นั่นคือคำถามที่ดังกึกก้องอยู่ในหัวใจของนิล.. ทุกอย่างมีเพียงคำว่าทำไมกัน ทำไมต้องเป็นนิล ไม่เห็นเข้าใจเลยสักนิด
ปีแล้ว ปีเล่า.. ปากที่ไม่เคยพูดคุยกับใครแต่ก็ยังรู้จักวิธีพูดคุย.. หากถามว่าทำไมก็เป็นเพราะว่าเธอแอบไปฟังที่เขาคุยกัน แอบไปเรียนที่พวกเขาเรียนกัน
เธอนั้นโดดเดี่ยวเดียวดายเสมอมา ปีแล้วปีเล่า.. ปีแล้วปีเล่าจนเธอลืมไปแล้วว่า..เธออยู่คนเดียวจนไม่ได้เอ่ยปากพูดมานานเท่าไหร่แล้ว
จนกระทั่งวันนั้นก็มาถึง..วันที่ทุกอย่างล่มสลายลงเพียงคืนเดียวเมืองที่นิลเคยเห็นซึ่งเต็มไปด้วยความคึกคัก..
เต็มไปด้วยชีวิตชีวา..พังถล่มกลายเป็นซากปรักหักพัง นิลเดินเข้าไปในเมืองได้อย่างง่ายดายเพราะไม่มีคนคุ้มกันหน้าประตูอีกแล้ว
ทุกอย่างเบื้องหน้าเธอเต็มไปด้วยเพลิงไหม้และการพังทลาย แม้แต่ไฟบางจุดเองก็ยังมอดไม่หมดด้วยซ้ำ..
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น…”
นิลพูดด้วยความสับสน.. ก่อนที่ห่างออกไปไม่มากจะมีหญิงสาวคนหนึ่งที่พยายามจะดิ้นรนออกจากหินที่ทับอยู่
แถมยังมีแท่งเหล็กปักแทงไปที่ท้องของเธอคนนั้นจนทะลุ.. แต่เธอก็ยังไม่ตายบางทีอาจจะเป็นปาฏิหาริย์ที่เธอยังมีชีวิตอยู่ นิลรีบวิ่งเข้าไปหาเธอด้วยความตกใจ
“ปะ..เป็นอะไรหรือเปล่า..คะ?”
“อ่า..ช่วยข้าด้ว—”
เพราะนิลไม่ได้พูดคุยกับใครถึงแม้จะรู้วิธีแต่ก็ยังใช้คำพูดอันแปลกประหลาดอยู่.. แต่ว่าเพราะได้ยินเสียงของนิลเธอคนนั้นก็ตอบสนองคำพูดของนิล
และนี่เองก็เป็นครั้งแรกเลยที่มีคน..ตอบเธอ.. ความรู้สึกบางอย่างถาโถมมาจากในอกราวกับจะทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมา..
แต่ทว่าพอเธอกำลังจะจับมือของนิล ในตอนนั้นเองราวกับว่าเธอได้ท่องเข้าไปในโลกแห่งความทรงจำของตัวเอง..
มันเป็นภาพของลูกสาวเธอถูกหินก้อนใหญ่ทับ
ก่อนที่จะโดนอสูรทะเลที่บุกเข้ามาฉีกแขนขาโยนเข้าปากทั้งเป็น เสียงกรีดร้องทรมานจนช่วงสุดท้ายของชีวิตของลูกสาวยังคงจำได้ชัดเจน
“แม่.. ช่วยหนูด้วย”
เลือดสีแดงสดของลูกสาวสาดกระจายไปทั่ว.. แท่งเหล็กจากตึกลอยลิ่วมาแทงทะลุใส่กลางหลังเธอพร้อมกับก้อนหินที่ทับใส่ร่าง
ความเจ็บปวดมากมายถาโถมเข้ามาทั้งจิตใจและร่างกายกลายเป็นเสียงกรีดร้องโหยหวนของเธอ
“อ้ากกกก…. ลูกสาวข้า…. ลูกสาวข้า…”
จู่ๆ เธอก็กรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ราวกับไม่ใช่ความเจ็บปวดจากภายนอก แต่เป็นความเจ็บปวดจากภายใน..
และในวินาทีต่อมาสายตาของเธอก็มองมาที่นิลพร้อมกับกวาดสายตาผ่านใบหน้าของนิลและผมสีดำยาวราวกับความมืด.. ดวงตาของเธอพลันบิดเบี้ยว
ความเจ็บปวด ความบ้าคลั่ง ทุกอย่างหลั่งไหลออแกมาจากจิตใจของเธอ กลายเป็นความเกรี้ยวโกรธ
ไม่อาจต่อต้าน.. ไม่อาจหลบหนี ทำได้เพียงจ้องมองลูกสาวอันเป็นที่รักที่ยังไม่ได้เติบโตเลยเสียด้วยซ้ำถูกฉีกกระชากตายต่อหน้าต่อตา..
ความโกรธที่มีต่อตนเอง มีต่อสัตว์อสูรไม่อาจจะระบายออกมาได้เมื่อสายตาของเธอจ้องมาที่ต้นตอของอคติบางอย่างในจิตใจ..
เป็นอคติด้านลบที่มีต่อนิลว่าเธอคนนี้คือตัวนำพาความโชคร้าย… ความบ้าคลั่งตีโพยตีพายมิอาจควบคุมอีกต่อไป
และเมื่อเธอจ้องมาที่นิล.. ความโกรธนั้นก็ระเบิดลงมาที่นิล..
ใช่มันไร้เหตุผล.. แต่จะมีใครบ้างที่พอสิ้นหวังจะควบคุมให้ตนเองไม่สิ้นหวังได้ เธอเพียงต้องการจะระบายเท่านั้น
มือที่คว้าจับมาที่มือของนิลก็ถูกปัดทิ้งอย่างรุนแรง “เพี๊ยะ” มือของนิลถูกตีออกอย่างรุนแรงทำให้นิลรู้สึกเจ็บแสบจนต้องถอยหลังออกไป..
“แก.. นังตัววิบัติ… เป็นเพราะแกนั่นแหละ..เพราะแกมาอยู่ที่นี่..ทุกอย่างเป็นเพราะแก ลูกสาวข้าถึงได้.. ลูกสาวข้าถึงได้…”
เธอตะโกนสุดเสียงและดิ้นจนแผลที่ท้องเปิดกว้างกว่าเดิมเลือดสีแดงฉานไหลทะลักอาบไปทั่วพื้นดินทำให้นิลตกใจ..
จนต้องถอยไปด้านหลัง.. แต่ก็ลื่นล้มเพราะเลือดของอีกฝ่าย..
“หนู…ไม่ได้…ทำอะไรเลย..นะ”
“หุบปาก.. หุบปาก เป็นเพราะแก.. เป็นเพราะแกนั่นแหละ”
ความโกรธที่ไม่รู้จะลงที่ใคร.. พอมองเห็นอคติที่ตัวเองตั้งไว้ในแง่ลบวางอยู่ตรงหน้าและสอดคล้องกับความโกรธของเธอแทบจะทันที
เธอไม่อาจจะควบคุมอารมณ์ได้ พยายามโบกสะบัดมือ..พยายามโจมตีใส่นิลด้วยความชิงชัง.. แต่ทว่ายิ่งขยับเธอก็ยิ่งเจ็บหนักมากขึ้นกว่าเดิม
และเสียงของเธอเองก็ดังมาก
นิลเองก็ตกใจพยายามจะถอยห่างออกไปด้วยความหวาดกลัว การดิ้นรนของเธอที่บ้าคลั่งทำให้บาดแผลที่หนักหนาสาหัสยากที่จะรอดอยู่แล้วฉีกกว้างยิ่งกว่าเดิม
การดิ้นรนของเธอจบลงด้วยการตายด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวน่าเกลียดน่ากลัว.. คิ้วบนใบหน้าย่นด้วยความน่ากลัวจ้องมาที่นิล..
“หนู.. หนู.. ไม่ใช่.. ไม่ใช่เพราะหนู.. หนูไม่ได้ทำ…”
ความรู้สึกที่ถูกสายตาแบบนั้นจ้องมองมาทำให้นิลรู้สึกขลาดเขลา ดวงตาของเธอที่ไม่ปิดสนิทจ้องมาที่นิล… พร้อมกับโลหิตไหลรินไปตามพื้น
“อุ้บ”
นิลรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก่อนที่เธอจะอ้วกออกมาอย่างน่าเวทนา… เธอกำลังสับสนและลังเล พยายามจะลุกขึ้นและถอยหลัง
สายตาของเธอ..กวาดไปทั่วทั้งเมืองที่กลายเป็นซากปรักหักพัง..
“ข้า..ไม่ได้..ทำ…ไม่”
เธอลุกขึ้นพยายามจะถอยหนี.. แต่ทว่าในตอนนั้นเองเสียงหวีดหวิวก็ดังขึ้นก้อนหินก้อนหนึ่งลอยมาโดนหน้าผากเธออย่างรุนแรง
เพราะร่างกายนิลนั้นไม่ได้แข็งแกร่งอะไรขนาดนั้นทำให้หัวเธอแตก.. แม้เธอจะสามารถฟื้นฟูบาดแผลได้แต่ไม่ได้แปลว่าเธอไม่เจ็บ
“เจ็บ..”
เธอร้องออกมาพร้อมกับกุมหน้าผากที่มีเลือดไหลออกมา.. เธอเงยหน้าขึ้นมีคนมากมายนับไม่ถ้วนจ้องมาที่เธอ..
สายตานั้นมองไปที่เธอสลับกับผู้หญิงที่พึ่งตายไปต่อหน้าเธอ.. นิลรู้สึกสับสน..
“ข้าบอกแล้ว.. ว่ายัยนี่มันลูกของปีศาจ”
“ถึงพ่อมันจะเป็นถึงผู้นำเมืองนี้.. แต่ว่า..มันน่ะเป็นแค่ตัววิบัติเท่านั้นแหละ”
“ใช่ๆ .. มันเป็นคนทำให้เมืองนี้เป็นแบบนี้”
“เป็นเพราะแก”
“ไอ้ตัววิบัติ”
“ไสหัวออกไป”
ผู้คนที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความกลัว..มากด้วยความโกรธที่ไร้ทางระบาย.. เพราะวิกฤตครั้งนี้พวกเขาไม่อาจจะต่อต้านหรือหลบหลีก…
ความกลัว.. ความโกรธและความสับสนทุกอย่างมันล่อหลอมออกมาทำให้พวกเขาแทบเป็นบ้า..
ความสับสนท่ามกลางความไร้ทางออกทำให้พวกเขา..หาที่ลงซึ่งแน่นอนว่ามันต้องเป็นนิล..เพราะนิลคือสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายสำหรับพวกเขา..
“ข้า..ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“หุบปาก เป็นเพราะแกนั่นแหละไอ้ตัววิบัติ.. แกมันสมควรตายไปซะ”
“ไม่..ข้า”
“หายไปซะ หายไปซะ หายไปซะ”
แม้ว่านิลจะพายามแก้ตัวแต่ก็ไม่อาจจะหยุดความเกรี้ยวโกรธของผู้คนที่สูญเสียบ้าน สูญเสียครอบครัวไปได้..
แม้มันจะไม่ใช่ความผิดนิลก็ตาม.. แต่ว่านี่ก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปในสิ่งที่เรียกว่าสังคม เพียงแค่หาใครสักคนมาเป็นที่ลงให้..
เพียงแค่นั้นพวกเขาก็จะสบาย.. ขอเพียงแค่ได้ด่า.. ขอเพียงแค่ได้แสดงความโกรธ เพียงแค่ได้แสดงจุดยืน..
มันก็เพียงพอแล้ว ที่จะยืนอยู่ในฐานะผู้ถูกต้อง.. นั่นแหละคือสิ่งที่เรียกว่าสังคม… และนิลก็คือผู้รับบทเป็นคนชั่วที่ต้องถูกต่อว่า..
ก้อนหินมากมายลอยลิ่วใส่ทั้งหัวของเธอจนแตกอีกแผล.. ใส่ดวงตาจนตาแตก..ปักเข้าผิวหนังเพราะแหลมคม..
ร่างกายของเธอมีรอยฟกช้ำเขียวเข้มไปทั่วร่าง..
นิลทำได้เพียงก้มตัวลงและ..หลบ.. เธอหลับตาลง..
ร้องไห้..
และไม่เข้าใจว่า..
ทำไมถึงเป็นแบบนี้..
เธอ..ทำอะไรให้พวกเขากัน
MANGA DISCUSSION