การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 322
บทที่ 322 – ศัตรูที่ไร้ทางต้าน
พอคิดแบบนั้นเลทิเซียก็ขมวดคิ้ว.. คำถามหนึ่งก็เกิดขึ้นมาในหัวของเธอ..
“แล้ว.. ทำไมนิลถึงดึงดูดสัตว์ปีศาจจนมีการบุกทำลายบ้านเมืองได้ขนาดนั้น.. และเหตุผลที่พวกคนเหล่านั้นต้องการตัวเธอคืออะไร.. หากทุกอย่างเป็นแค่ความงมงาย”
คำถามนี้ก็บังเกิดขึ้นมา จริงอยู่ที่ความงมงายนั้นสามารถทำให้คนเป็นบ้า แต่นี่มันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่ความงมงายจะกลายเป็นความจริง..
เพราะหากเป็นตามที่หนังสือเล่มนี้อธิบายจริงๆ ละก็ ก็หมายความว่าไม่ว่านิลหรือฝาแฝดของเธอก็มีโอกาสที่จะเป็นหายนะได้เหมือนกัน
ไม่สิ แรกเริ่มเดิมทีแล้วเจ้าผู้ชายคนนั้นเหมือนจะตั้งใจกำจัดหายนะทิ้งงอยู่แล้ว หมายความว่าเขารู้แต่แรกว่านิลนั้นเป็นหายนะประจำตระกูลอย่างแน่นอนงั้นเหรอ
แล้วมันรู้ได้อย่างไร คำถามเหล่านี้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเลทิเซีย เธอคิดว่าหากไขปริศนานี้ได้.. เธออาจจะสามารถรู้เบาะแสเกี่ยวกับนิลเพิ่มขึ้นมาก็ได้
เลทิเซียพยายามรวบรวมข้อมูลต่อไปตามชั้นหนังสือ.. แต่ว่าไม่ว่าจะตามหาสักเท่าไหร่ก็ไม่เจอข้อมูลที่เธอต้องการเลย
แต่ยังโชคดีที่ทำให้เธอรู้แผนผังของเมืองขนาดใหญ่นี้ได้.. พอมองหนังสือที่เป็นแผนที่เมืองเลทิเซียก็ขมวดคิ้ว..
ถนน.. หนทาง ตรอกซอย น้ำพุกลางแจ้ง… จุดต่างๆ มันไม่ได้ตั้งเป็นทางตรงเป็นบล็อก เป็นบล็อกเพื่อง่ายต่อการจดจำ..
แต่มันโค้งไปมาไม่เป็นระเบียบ แต่ก็เหมือนมีแพตเทิร์นตายตัว.. ลักษณะเมืองเองก็ประหลาดอย่างยิ่ง
เมืองนี้มีขนาดเป็นวงกลมอย่างงดงาม ทั้งๆ ที่ไม่มีกำแพงเมืองล้อมรอบเพื่อจำกัดพื้นที่แท้ๆ .. เลทิเซียขมวดคิ้วลักษณะแบบนี้เธอพึ่งเคยอ่านผ่านตาไปเมื่อกี้..
“นี่มัน……”
แต่ในตอนนั้นเองซิลเวียก็กลับมาพร้อมกับท่าทางตกใจ..
“แย่แล้วเลทิเซีย โลกนี้กำลัง.. โลกนี้กำลัง…”
“เกิดอะไรขึ้น?”
ซิลเวียดูท่าทางร้อนรนมาก ทำให้เลทิเซียประหลาดใจขณะที่ซิลเวียยังไม่ทันได้อธิบายให้เลทิเซียเข้าใจก็เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้น
ทันทีที่มีแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงในตอนนั้นเองบ้านทั้งหลังก็เกิดรอยร้าว.. แต่ไม่ใช่รอยร้าวเพาะความเสื่อมหรอ.. แต่ราวกับว่ามิติกำลังพังทลาย..
“หรือว่า.. เจ้าหมึกนั่นคิดจะทำลายโลกนี้?”
ซิลเวียกล่าวขึ้นด้วยความกังวล เลทิเซียที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งกระวนกระวายใจขึ้นไปอีก เธอรีบพูด
“แย่แน่.. หากออกไปในความว่างเปล่านั่น พวกเราต่อกรมันไม่ได้แน่ๆ .. บ้าเอ้ย.. ฉันน่าจะคิดให้ออกแท้ๆ ”
ใช่.. เธอควรจะคิดถึงความเป็นไปได้ที่ว่าเจ้าหมึกนั่นไม่อยากจะเล่นเกมซ่อนหากับพวกเธอแล้ว..
ใช่ หากมันต้องการมันแค่น่าจะทำลายโลกใบนี้ก็พอแล้ว.. ซึ่งเลทิเซียลืมเรื่องนั้นไป เธอควรจะรีบจบเรื่องราวทุกอย่างให้ไวแท้ๆ ..
แบบนี้ไม่เพียงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรนิลได้ แต่ยัง.. จะตายเองด้วยซ้ำ.. แถมตอนนี้ยังมีซิลเวียอยู่ด้วย..
“แย่ละสิ…”
ในตอนนั้นเอง หนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนหลังชั้นหนังสือ.. ก็ร่วงลงมาเพราะแรงแผ่นดินไหว หนังสือเล่มนั้นร่วงใส่หัวซิลเวียที่พึ่งวิ่งเข้ามา
“โอ้ย เจ็บๆ อะไรเนี่ย หนังสือเล่มนี้แข็งไปหน่อยไหม..”
พอซิลเวียมองเธอก็เห็นหนังสือเล่มหนากว่าหนังสือทั่วไปมาก.. ทำให้ใส่ในชั้นหนังสือทั่วไปไม่ได้ แต่พอเลทิเซียมองเห็นปกหนังสือเธอก็เบิกตากว้าง
เพราะว่าชื่อหนังสือเล่มนั้นคือ… “คำสาปแห่งจุดจบ”
เพียงแค่ชื่อหนังสือเลทิเซียก็รู้ทันทีว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับนิลอย่างแน่นอน.. ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาก็ตาม
แต่เธอคิดว่าอย่างน้อยก็อยากจะรู้ว่าในตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น.. มันเกิดอะไรขึ้นกับนิล… ในชั่ววินาทีที่เธอจับหนังสือเล่มนั้นเอาไว้นั่นเอง..
เสียงอันเย็นยะเยือกก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ..
“เจอ.. ตัวแล้ว”
เสียงนั้นดังขึ้นคลื่นกระแทกบางอย่างก็ซัดเข้าใส่กลางหลังเลทิเซียโดยไม่ทันได้ตั้งตัว.. จนทำให้เธอถูกซัดจนกระเด็นทะลุชั้นหนังสือและกำแพงหินไปหลายกำแพง
“ตู้มๆ ”
ร่างเลทิเซียถูกซัดปลิวราวกับเศษผ้าขี้ริ้ว ซิลเวียที่เห็นแบบนั้นก็ตอบสนองอย่างว่องไว.. เธอหยิบดาบเล่มหนึ่งจากผนังมาโจมตีใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่าเงานั้นกลับยกยิ้มอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดอย่างโอหัง
“คิดหรือว่า ของจากโลกที่ข้าสร้างจะทำอะไรข้าได้”
คมดาบนั้นปะทะเข้ากับผิวหนังของมันกลับแตกกระจุยกระจายเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับยกมือขวาขึ้นมาคว้าหัวของซิลเวียเอาไว้
“แกสินะ.. ที่ทำให้ข้าสูญเสียดวงตา.. ไหนดูสิข้าจะลองเอาดวงตาของแกไปบ้างละนะ”
มันกล่าวอย่างเย็นชาพร้อมกับใช้มืออีกข้างแทงไปที่ตาทั้งสองข้างของซิลเวีย แต่วินาทีถัดมาเงาสีดำบางอย่างก็ตัดสะบั้นผ่านแขนสองข้างของมันจนขาดออก
“วิชาดาวไร้ลักษณ์ ไร้คม”
เลทิเซียใช้แขนตนเองเป็นคมดาบในการสะบั้นแขนอีกฝ่ายจนร่างของซิลเวียร่วงลงกับพื้น เลทิเซียใช้โอกาสนี้ย่อตัวลงพร้อมกับอุ้มซิลเวียก่อนจะรีบหลบหนี
แต่ทว่ามันยังช้าไป.. เพราะว่าวินาทีต่อมามันก็มา ปรากฏตัวด้านข้างของเลทิเซีย.. พร้อมกับกล่าวว่า
“ช้าเกินไปแล้ว”
พร้อมกับใช้เท้าเตะใส่ท้องเลทิเซียจนกระเด็นขึ้นไปบนฟ้าทะลุหลังคา.. ทำให้ร่างของทั้งเลทิเซียและซิลเวียลอยอยู่กลางอากาศ
เลทิเซียมีเลือดไหลซิบที่มุมปาก.. ขณะกำลังจะปรับสมดุล.. สายตาเธอก็ถูกดึงดูดความสนใจไปยังกลางเมือง..
เพราะว่าในตอนนี้… กลางเมืองมีแสงสว่างสีทมิฬสาดส่องขึ้นมาจากพื้นดินพร้อมกับ.. ส่องขึ้นไปจนถึงท้องฟ้าจำลองเลย!
“นั่น…มัน….นิล..”
ท่ามกลางแสงสีดำทมิฬแม้มันจะห่างจากที่นี่มากขนาดไหนก็ตามแต่ว่า.. ไม่มีทางที่สายตาเลทิเซียจะมองไม่เห็น
เพราะใจกลางของแสงสีทมิฬนั้น..มีนิลลอยอยู่.. และร่างกายของเธอกำลังถูกหลอมรวมไปกับแสงสีดำทมิฬ..
และเหนือสิ่งอื่นใดตอนนี้นิลกำลังทำสีหน้าเจ็บปวดอันแสนทรมานอยู่.. เธอกรีดร้องอย่างทรมานแต่น่าเสียดายที่ที่แห่งนี้อยู่ห่างเกินไปไม่มีทางได้ยินเสียงอันเจ็บปวดของเธอ…
“ฮ่าๆ น่าคิดถึงเสียจริงๆ ”
เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของเจ้าหมึกนั่นลอยขึ้นมาจากเบื้องล่างมันกระทืบเท้าหนึ่งครั้งพร้อมกับพุ่งขึ้นมาหาเลทิเซีย
ส่งผลให้บ้านนั้นทั้งหลังพังถล่มอย่างง่ายดาย ไม่เพียงแค่นั้นพริบตาที่มันปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเลทิเซีย
เท้าของมันก็ยกขึ้นพร้อมกับเตะใส่เลทิเซียอย่างรุนแรงจนพุ่งดิ่งลงกระแทกพื้นอย่างจัง “ตู้มมมมม”
แรงกระแทกนั้นส่งผลให้พื้นถนนแตกร้าวเป็นวงกว้างตึกราวบ้านช่องก็พังถล่มไม่เหลือชิ้นดี ร่างกายของซิลเวียหลุดออกจากแขนของเลทิเซียลอยไปคนละทิศละทาง
สภาพของเลทิเซียเองก็ดุไม่ได้.. เพราะว่าร่างกายเธอเหมือนจะไม่สามารถฟื้นฟูได้แล้ว..
เลทิเซียค่อยๆ พลิกหน้าลงพื้นใช้แขนสองข้างพยุงตัวขึ้นอย่างยากลำบาก.. แต่ทว่าเจ้าหมึกนั่นมันทิ้งตัวลงมาเหยียบร่างของเธอลงพื้น
“ตู้ม”
เสียงกระดูกทั่วทั้งร่างหักสะบั้น.. กระดูกข้อศอกแขนทั้งสองข้างที่ใช้ดันตัวขึ้นเมื่อกี้ทะลุผิวหนังออกมาอย่างน่ากลัว
เลทิเซียไม่สามารถแม้แต่กรีดร้องได้ด้วยซ้ำ ..
“ปล่อย.. เธอ… เดี๋ยว..นี้”
แสงสว่างของข้า.. ซิลเวียลุกขึ้นพร้อมกับจำก้อนหินขึ้นมาฟาดใส่หัวเจ้าหมึกนั่นอย่างรุนแรง.. แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นอะไรเลย
ก่อนที่ร่างของซิลเวียจะถูกผลักให้กระเด็นด้วยพลังบางอย่างจนพุ่งไปกระแทกกับผนังบ้านเก่าของนิล.. “ปัง”
พร้อมกับในจังหวะที่โครงเหล็กของกำแพงทิ่มเข้าใส่หน้าท้องของเธอจนทะลุทำให้ซิลเวียกระอักเลือดกองโตออกมาอีกครั้ง
“ซิลเวีย!!!”
เลทิเซียตะโกนออกมาด้วยความเป็นห่วง.. เพราะว่าในโลกนี้ไม่เหมือนความว่างเปล่า เจ็บก็คือเจ็บ สาหัสก็คือสาหัส มีโอกาสถึงตายได้จริงๆ ..
ดังนั้นเลทิเซียจึงเป็นห่วงสภาพของซิลเวีย..
แต่ทว่าดวงตาของซิลเวียกลับไม่มืดมัวเธอดึงตัวเองออกจากโครงเหล็กของกำแพง.. และเลือดก็ไหลทะลักออกจากหน้าท้องของเธอ
สิ่งนี้ทำให้เจ้าหมึกนั้นเบิกตากว้างเล็กน้อยแต่ทว่าเลทิเซียกลับยิ่งสับสน
“ซิลเวีย เธอทำบ้าอะไรเธอ!!!”
“ปล่อย… เธอ..เดี๋ยวนี้”
ซิลเวียพูดเสร็จก็หยิบเหล็กที่พึ่งแทงท้องตัวเองปาใส่อีกฝ่าย.. แต่น่าเสียดายที่มันปัดทิ้งอย่างง่ายดายไม่เพียงแค่นั้นเหล็กที่มันปัดก็พุ่งลงไปแทงหน้าท้องของเลทิเซียที่มันเหยียบเธออยู่ด้วย..
ในอีกทางฝั่งหนึ่งแสงแห่งความมืดที่กัดกินนิลก็เริ่มขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น..