การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 29
บทที่ 29 เลทิเซียผู้เกรี้ยวกราด
“เลวี่!”
ฉันวิ่งไปรับเลวี่ที่กระเด็นออกมา พร้อมกับสีหน้าเลวี่ที่ซีดลง.. เมื่อกี้มันอะไร เลวี่เหมือนจะหน้าซีดมาก
สัญลักษณ์บางอย่างปรากฏขึ้นบนหน้าผากเลวี่แล้วก็หายไป.. เมื่อกี้มันตราสัญลักษณ์แฟร์รี่
เลวี่ใช้พลังของแฟร์นี่ธาตุสายลมเพื่อเคลื่อนที่ แม้แต่คนที่ชิสุก็หยุดพลังแฟร์รี่ไม่ได้นั่นเอง ในตอนนั้นเองมีชายคนหนึ่งเดินออกมา
“ข้าว่า พวกเรา ไม่ควร จะมีเรื่องถึงฆาตกันนะ โย่ว!”
ผู้ชายไม่สมประกอบทางสมองโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ เหมือนจะเป็นปีศาจ ท่าทางพูดที่เหมือนกับแรปเปอร์ที่ชวนโมโหนั่น
ทำเอาฉันรู้สึกตะลึงกับความฉูดฉาด แถมหน้าตานี่ยังเหมือนใครไม่รู่แต่ดูคุ้นมากๆ
ฉันหันกลับมามองเลวี่ที่สายตาเหมือนพร่าเลือนเกิดอะไรขึ้นกับเธอเมื่อกี้ ฉันเลยหันไปถามกับไอ้ปีศาจแรปเปอร์นั่น
“นายทำอะไรกับเลวี่”
“ข้าก็แค่ ใช้เสียงอันเร่าร้อน หยุดเธอไว้ก็แค่นั้น โย่ว”
ฉันกลับมามองเลวี่.. ที่ร่างแทบไร้พลัง แขนของเลวี่เริ่มที่จะบิดก่อนจะหมุนจนหมุนไปคนละทิศละทาง
ทั้งแขนทั้งขา ภาพนี้ทำเอาฉันตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“เลวี่!”
ฉันเริ่มตกใจ และขมวดคิ้วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงที่ชื่อชิสุนั่นเดินมาหาพวกเราพร้อมกับอธิบาย
“เมื่อกี้น้องสาวของเธอใช้พลังของแฟร์รี่ โดยการผสานเข้าสู่ร่างโดยตรง ที่แต่เดิมเป็นศัตรูของจอมมารทั้งสิบสองโดยกำเนิด เมื่อเธอโดนโจมตีด้วยคลื่นเสียงพลังเวทโดยไม่ตั้งตัว พลังเวทจอมมารเลยแทรกแซงเข้าไปในตัวและคิดว่าเป็นศัตรูมันจึงทำร้ายร่างกายเธอให้ถึงที่สุด”
ฉันตกใจขณะที่พยายามใช้เวทรักษาให้เลวี่ แต่เลวี่ไม่ได้ร้องออกมาเธอเพียงหอบหายใจและมองหน้าฉันเท่านั้น
“ยอมไม่ได้ ยอมไม่ได้ ยอมไม่ได้”
ฉันกัดฟันเมื่อมองบาดแผลของเลวี่ ความรู้สึกโกรธทำให้ฉันแทบกระอักเลือดออกมา ถ้าฉันอยู่กับเลวี่ในตอนนั้นคงไม่เป็นแบบนี้
ประมาท ประมาทเกินไป.. และ.. สายตาของฉันหันไปจ้องไอ้บ้านุ่นที่ทำให้เลวี่เป็นนี้…
ยกโทษให้ไม่ได้เด็ดขาด.. มาทำกับเลวี่ของฉันขนาดนี้
ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นยืน.. มือขยับยกขึ้นชี้นิ้วไปทางอีกฝ่ายและแทรกแซง…
“ระเบิดไฮโดรเจน!”
………….
พริบตาที่เสียงของเลทิเซียดังขึ้นนั้น พลังระเบิดของระเบิดไฮโดรเจนแตกออกมาจากภายในกระเพาะของชายคนนั้นโดยตรง!
ดวงตาของชิสุเบิกกว้างขยับมือ เวทกล่องผนึกแรงระเบิดถูกร่ายออกมาปิดกั้นแรงระเบิดเอาไว้ เพียงแต่ว่าคนที่รับดาเมจเต็มๆ กลายเป็นชายคนนั้น
ฝูงคนเริ่มที่จะแตกตื่นเพราะแรงสั่นสะเทือนพร้อมกับความรุนแรง สายตาหันไปมองเลทิเซียที่ยืนอยู่.. ผู้หญิงบ้านี่เถื่อนกว่าน้องสาวเธอซะอีก
แต่ว่าผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยพลังจอมมารถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างช้าๆ
“ท่านแม่เคยบอกไว้ว่า.. ถ้าศัตรูหมายจะเอาชีวิต ก็อย่าได้ออมมือ…. โย่ว!”
มันพูดออกมาพลังปีศาจระดับจอมมารระเบิดออกมาจากร่างส่งผลให้คลื่นเสียงของมันพุ่งไปยังเลทิเซียจากทุกทิศทาง
ยังไงซะ.. มันก็เป็นเสียงไร้วิธีป้องกัน! ทว่าเลทิเซียกลับแทรกแซงเวทมนตร์ไปยังพื้นที่และเวลาโดยตรง
ทุกอย่างในจักรวาลหรือแม้แต่ในสองมิติ.. ก็มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ทิศทาง’ มันถูกเรียกอีกอย่างว่าเวกเตอร์ แม้คลื่นเสียงจะมาจากทุกทิศทาง
แต่ทว่ายังอยู่ภายใต้ทิศทางของเวกเตอร์และสิ่งที่เลทิเซียทำคือการแทรกแซงเวกเตอร์เหล่านั้นให้ไม่เข้ามาหาตนเอง!
คลื่นเสียงถูกสะท้อนกลับไปหาปีศาจคนนั้นจนเขากรีดร้องออกมา หากเปรียบกับเลทิเซียแล้วชายคนนั้นก็เป็นแค่เด็ก!
เลทิเซียยกมือขึ้น
“แบล็ก โฮล..”
วินาทีที่เลทิเซียพูดออกมาหลุมดำขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นเหนือน่านฟ้าโรงเรียน และวันโลกาวินาศถึงกับมาเยือน
นี่คือเวทที่แข็งแกร่งที่สุดของเวทมนตร์มนุษย์สำหรับเลทิเซีย เห็นชัดว่าเลทิเซียตอนนี้โกรธมาก สำหรับเธอนั้น
น้องสาวก็เหมือนกับครึ่งหนึ่งของชีวิต อาจจะเป็นเพราะในโบกเดิมเลทิเซียนั้นรักน้องสาวมาก พอมามีน้องสาวในโลกนี้
ความรู้สึกเดิมจึงเลี่ยงที่จะปรากฏไม่ได้ โดยทั่วไปเลทิเซียเลือกที่จะอยู่เงียบๆ ใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ไม่เป็นจุดสนใจและซ่อนสิ่งที่เป็นไพ่ตายไว้ยามจำเป็นเสมอ
แต่ทว่ายังมีสิ่งที่เธอยอมไม่ได้นั่นก็คือ น้องสาว.. ก็เพราะว่าพี่น่ะ มีหน้าที่ดูแลน้องสาว หากน้องเป็นอะไรไปก่อนคนเป็นพี่..นั่นจะโทษใครไม่ได้นอกจาก พี่!
นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจเลทิเซียมาตั้งแต่อดีต… เพราะฉะนั้นเขาโกรธและเลือกที่จะฆ่าศัตรูของน้องสาวให้สิ้นซาก ในฐานะของพี่ต้องปกป้องน้อง!
หลุมดำจะยังไงก็เป็นหลุมดำภัยพิบัติแห่งห้วงอวกาศแม้แต่แสงยังถูกกลืนกินเมื่อมันปรากฏขึ้น แรงดูดที่มีมากจนยืด Space-Time จึงบังเกิด
ต้นไม้.. ตึกเรียน ภูเขา แผ่นดิน และร่างกายของสิ่งมีชีวิตไม่เว้นแม้แต่ปีศาจตนนั้นก็ถูกยืดออก!
ยืดขึ้นไปหาหลุมดำ ราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสียงๆ เหมือนกับโรงเรียนลิเบอร์ถึงคราล่มสลาย
“รำคาญโว้ย!”
และเสียงตะโกนดังมาจากไหนไม่รู้ส่งผลให้หลุมดำที่พึ่งปรากฏขึ้นสลายหายไปแทบจะทันที โรงเรียนจึงกลับสู่สภาพเดิม
แต่ทุกคนที่กลับมาสีหน้าซีดเผือด ความรู้สึกที่ถูกยืดร่างกายออกเมื่อครู่นี้.. มันน่ากลัวจนจำขึ้นใจ
“เมื่อกี้มันบ้าอะไรกัน?”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เลทิเซียรู้สึกหงุดหงิดที่มีคนมาขัดขวางขณะที่ร่างกายหายวับไปปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าอีกฝ่ายนั้นเอง
มือก็ฟาดออกไปใส่ท้องอย่างรุนแรง “ปัง!” โดยที่ชายคนนั้นยังไม่ตั้งตัวร่างก็ถูกซัดกระแทกพื้น เลทิเซียกระโดดตามลงไปพร้อมกับดึงมีดออกมาจากใต้กระโปรง
นี่มันเกิดขึ้นแทบจะทันทีที่หลุมดำสิ้นสุดลง มันทำให้ผู้คนตอบสนองไม่ทัน และทุกคนก็เห็นแต่ความองอาจของเลทิเซียที่เหมือนกับจอมมารตัวน้อยที่หวังจะฆ่าคนด้วยอายุเท่านี้
จะว่าไปหากเป็นแต่ก่อนที่เลทิเซียจะฆ่าคน หากเกิดเหตุการณ์นี้กับน้องสาว สิ่งที่เลทิเซียทำก็ไม่ต่างจากตอนนี้อยู่ดี
“องค์หญิง! ไม่ได้นะคะ!!!”
ในตอนนั้นเองเสียงก็ดังขึ้นร่างของเมดก็มาจากไหนไม่รู้ยืนขั้นกลางระหว่างเลทิเซียกับชายคนนั้น
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลาน่า! เธอมาหยุดเลทิเซียเอาไว้เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้ แต่ว่าเลทิเซียเริ่มแล้วก็มีใครยากที่จะหยุดเธอ
“ขืนองค์หญิงทำแบบนี้ สงครามได้เกิดขึ้นแน่ค่ะ นอกจากนี้.. นอกจากนี้…”
พอได้ยินแบบนั้นเลทิเซียเหมือนได้สติคืนมา แต่เธอไม่มีทางยอมหยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน เพื่อน้องสาว
ทว่าในที่สุดก็มีคนปรากฏขึ้น.. ผู้ที่สร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมา ผู้อำนวยการโรงเรียนลิเบอร์ ระดับพาลาดินในตำนาน… ลิลิซ!
“พอแค่นั้นแหละค่ะ”
เสียงของเธอดังขึ้นพลังปริศนาหยุดร่างของเลทิเซียไว้กลางอากาศราวกับมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นจับเธอเอาไว้
เลทิเซียที่ถูกจับก็กัดฟัน กำลังจะปล่อยพลังเวทปีศาจนั้นเอง สายตาก็หันไปเห็นผู้หญิงผมสีชมพูที่ทำสวนสาธารณะกลายเป็นสุสานไป
เอายาอะไรไม่รู้ยัดใส่ปากเลวี่ เลทิเซียผู้ไม่เคยคิดดีตะโกนออกมา
“เลวี่!”
อย่างไรก็ตามเมื่อยานั่นไหลเข้าปาก.. ประวัติศาสตร์ทั้งหมด.. ถ้าจะพูดให้ถูกคืออดีตทั้งหมดถูกเปลี่ยนแปลง
พลังที่หักกระดูกเลวี่กลายเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง เธอเพียงแค่ถูกผลักออกมาเท่านั้น! ในพริบตาที่ประวัติศาสตร์ถูกเปลี่ยนนั้น
แม้แต่เลทิเซีย หรือพาลาดินผู้สูงส่งแม้แต่ชิสุที่ดูมากแผนการก็ยังจำไม่ได้! ทุกอย่างถูกเปลี่ยนไปหมด!
………..