การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 259
บทที่ 259 – ‘ด้านลบ’
อันน่าได้แต่เก็บงำความรู้สึกไว้ในใจ ตลอดมาเธอมีชีวิตด้วยวิธีแบบนี้ ปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองและบอกว่าทำเพื่อชาร์ล็อต
เพราะเธอคือชาร์ล็อต ชาร์ล็อตคือเธอ ความปรารถนาของชาร์ล็อตก็คือความปรารถนาของเธอ ความปรารถนาที่เกิดจากเธอเองมันไม่ควรมี
คนบางคนอาจจะมองว่าทั้งคู่คือพี่น้องฝาแฝด หรืออาจจะเป็นแค่คนสองบุคลิก.. แต่สำหรับอันน่า
เธอคิดว่าตัวเธอเองคือส่วนหนึ่งของชาร์ล็อตมาตั้งแต่แรก ดังนั้นเธอมีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือเป็นทุกๆ อย่างให้ชาร์ล็อตตราบใดที่ตนเองยังมีชีวิตอยู่
หน้าที่ของอันน่านั้นเรียบง่ายไม่ยุ่งยาก เธอต้องคอยดูแล คอยเป็นเพื่อน คอยปกป้อง ชาร์ล็อตเปรียบเสมือนความขาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
ในขณะที่อันน่านั้นเปรียบเสมือนสีดำสนิทที่เป็นอีกด้านของชาร์ล็อต หากปล่อยชาร์ล็อตที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยไว้ละก็จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ได้
ดังนั้นอันน่าต้องปกป้องเธอ เธอมีหน้าที่เพียงเท่านั้น.. เธอไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นคนอีกคนแต่มองว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชาร์ล็อตที่ดันโชคดีแยกความคิดกับชาร์ล็อต
เพราะเธอนั้นรู้ดีกว่าใครๆ รู้ดียิ่งกว่าชาร์ล็อต เธอมีความทรงจำด้านลบที่ชาร์ล็อตลืมมันไป ไม่ว่าจะเป็นความโหดร้ายของโลกใบนี้
จิตใจอันชั่วร้าย.. ทุกอย่างเธอรู้หมด เธอเป็นคนแบกรับความเจ็บปวดทุกๆ อย่างของชาร์ล็อต…
หรือก็คือหากให้เปรียบเทียบคือเธอเป็นเหมือนถุงเก็บของจิปาถะที่ไม่ต้องการในถุงเก็บของหลัก.. ที่ในสักวันเธอก็ต้องหายไป
นั่นคือความคิดของเธอ และมันก็ไม่ได้ผิดแม้แต่น้อย แม้ในตอนแรกเธอจะยังปฏิเสธสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ตลอด..
แต่เลทิเซีย มีแค่เลทิเซียเท่านั้นที่ทำให้อันน่ารู้สึกยอมรับให้เป็นเพื่อนชาร์ล็อตได้.. เธอคาดหวังว่าจะเป็นแบบนั้น
“แต่ว่า…ทำไมล่ะ..”
อันน่ากุมหน้าอกตัวเองภายในร่างของชาร์ล็อต.. เธอตั้งคำถามที่ยากจะอธิบายซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อขึ้นในใจของเธอ
“ทำไมข้าถึงรู้สึกแบบนี้…”
ในตอนที่เลทิเซียหายตัวไปหลังจากปรากฏการณ์ที่เหมือนจะเกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนเวหาในคราวนั้น
ไม่ว่าจะเป็นชาร์ล็อต เลวิเนีย โคลเอ้ คนที่รู้จักเลทิเซียทุกคนนั้นเป็นห่วงเลทิเซียอย่างยิ่ง…
และหนึ่งในนั้นก็คืออันน่า.. เธออยู่ไม่เป็นสุขจนแม้แต่ชาร์ล็อตก็ยังสังเกตเห็น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเธอสับสนกับคำพูดของเลวิเนียที่เคยพูดตอนนั้น
“ชอบท่านพี่งั้นเหรอ?” คำพูดคำนั้นมันทำให้เธอคิดมากอยู่ตลอดเวลาและย้ำเตือนตัวเองว่าทุกอย่างเพื่อชาร์ล็อต
ที่เลวิเนียพูดคือพูดกับชาร์ล็อตไม่ได้พูดกับตัวเธอเอง.. ใช่ มันควรจะเป็นแบบนั้นแท้ๆ .. แต่ทว่า..
ในตอนนี้ตอนที่เลทิเซียหายตัวไป.. เธอกลับเป็นกังวลมากเธอกลัวว่าเลทิเซียจะเป็นอะไรไป.. หากเธอเป็นอะไรไปละก็..
พอคิดได้แบบนั้นเธอก็สับสนหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และก็เพราะเป็นแบบนั้นเธอก็หวนนึกคำพูดของเลวิเนีย
มันจึงทำให้เธอเริ่มสับสนและไม่เข้าใจในตัวเองมากขึ้นอีก …
“อันน่า..?”
ในตอนนั้นเองเสียงของชาร์ล็อตก็ดังขึ้นในจิตใจของเธอเรียกสติเธอกลับคืนมา.. เธอรีบตอบกลับไปทันที
“เจ้าก็เป็นห่วงเลทิเซียสินะ.. หวังว่าเธอจะไม่เป็นอะไรนะ..”
“…..”
อันน่าไม่ได้ตอบกลับคำพูดของชาร์ล็อต.. ใช่ ทุกครั้งมันจะเป็นแบบนี้ คนที่แสดงความรู้สึกออกมาได้ตรงๆ มักจะเป็นเธอ.. มักจะเป็นชาร์ล็อตเสมอ
ในขณะที่ตัวของอันน่ากลับตรงกันข้ามเธอไม่สามารถทำแบบชาร์ล็อตได้ เธอไม่สามารถแสดงความเป็นห่วงเป็นใยออกมาได้..
เหตุผลเพราะว่าเธอคือด้านลบยังไงล่ะ.. มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่แรกแล้ว.. และเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ความรู้สึกอันเหลือหลายมันอัดแน่นอยู่ในอกของเธอ แต่ทว่า.. เธอก็มีชีวิตอยู่ภายใต้หน้ากากมานานแล้ว..
ดังนั้นเธอจึงพูดกับชาร์ล็อตว่าเลทิเซียจะต้องไม่เป็นอะไร.. เลทิเซียน่ะแข็งแกร่ง.. แข็งแกร่งยิ่งกว่าตัวเธอเองเสียอีก..
แม้ในความเป็นจริงแล้วเธอเองก็ไม่ต่างจากชาร์ล็อต เป็นห่วงราวกับจะเป็นบ่าตายลงไปตรงนั้นนั่นล่ะ..
“ยัยนั่นจะต้องไม่เป็นอะไร.. เชื่อข้าสิ”
เธอพูดออกไปแบบนั้นทั้งที่หากตอนนี้มีร่างกายเธอก็จะมือไม้ปากสั่นไปหมดด้วยความกังวลไปแล้ว
ชาร์ล็อตก็มีเพียงตอบรับคำพูดของอันน่า.. อันน่ากัดริมฝีปาก..
“ทำไม…”
“มีอะไรเหรอ?”
“เปล่า”
อันน่าเผลอพูดพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว ชาร์ล็อตเลยถามด้วยความสงสัย.. แต่เธอก็รีบปฏิเสธ
ไม่มีใครรู้ว่าคำพูดที่ว่า “ทำไม” นั้นหมายถึงอะไร.. ใช่ แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไมที่ตัวเองหมายถึงคืออะไร..
แต่มันก็เก็บกดเข้าไปในหัวอกของเธอ ความรู้สึกดำมืดอันไม่ทราบสาเหตุนี้มันเกิดขึ้นมาจากความอิจฉา
ความริษยา.. ทำไม.. ทำไมคนที่ไปยืนอยู่ตรงจุดๆ นั้นถึงไม่ใช่เธอ ทำไมคนที่เป็นด้านบวกถึงไม่ใช่เธอ
เธอเหนื่อยล้ามาตลอด.. เธอเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักไม่เคยคุยกับใคร.. ไม่เลยสักนิด สิ่งที่เธอทำได้คือเป็นความเกลียดชัง เป็นด้านลบของชาร์ล็อต
แม้แต่สิทธิ์ที่จะแสดงความเป็นห่วงคนที่ชอบยังไม่อาจทำได้.. เพราะเธอคือด้านลบ.. ด้านลบก็คือด้านลบวันยังค่ำ
เธอกุมหน้าอกตัวเองด้วยความสับสน ความรู้สึกด้านลบที่ก่อตัวในใจนี้ไม่ได้มีใส่ใคร.. แต่มีใส่ตัวเธออีกคนที่ชื่อชาร์ล็อต
“ทำไม..ถึงกลายเป็นแบบนี้..”
วันเวลาผันผ่านไปเลทิเซียกลับมาปรากฏอีกครั้ง.. อันน่านั้นโล่งอกยิ่งกว่าๆ ใครๆ .. ชาร์ล็อตเองก็ดีใจมากเช่นกัน
แต่พอชาร์ล็อตนึกถึงอันน่าเธอก็สัญญากันว่าจะทำเซอร์ไพรส์ต้อนรับเลทิเซียที่กลับมาโดยการให้อันน่าปลอมตัวเป็นชาร์ล็อต
เพื่อที่จะหลอกเลทิเซีย.. โดยอันน่าต้องทำกิริยาท่าทางให้เหมือนท่าทางของชาร์ล็อตทุกอย่างนั่นเอง
การเดิมพันครั้งนี้มันควรจะเป็นเรื่องที่ดี.. อันน่าเองก็ดีใจ.. หากตัวเองปลอมตัวเป็นอันน่า.. นั่นหมายความว่า..
เธอก็สามารถแสดงความรู้สึกตัวเองออกมาได้.. ในฐานะชาร์ล็อต.. ไม่ใช่อันน่า… ใช่.. เธอในตอนนี้ อาจจะเป็นแค่ครั้งเดียว.. อาจจะแค่ครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้เป็นชาร์ล็อต
ใช่…มันควรจะเป็นเรื่องที่น่าดีใจ.. เพียงแต่ว่า.. คำพูดของเลทิเซียที่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอมันราวกับทำให้เธอสำเหนียกตัวเองว่า..
สุดท้ายแล้ว..เธอก็ยังเป็นด้านลบ.. ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่สามารถเป็นด้านบวกได้..
“เธอมันอันน่าไม่ใช่หรือไง”
ความผิดหวังที่ไม่อาจจะบรรยายแผ่ซ่านเข้าไปในอกของเธอจนแสดงสีหน้าของความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน..
แต่สีหน้าของเธอก็ถูกกลบเกลื่อนด้วยคำพูดที่ดูสมกับเป็น ‘ด้านลบ’ ที่เหมาะกับตัวเธอที่สุด..
“โอเค เธอชนะแล้วชาร์ล็อต ไม่คิดว่าองค์หญิงคนนี้จะแยกออกจริงๆ”
เธอพูดแบบนั้นก็หายไป ชาร์ล็อตเข้ามาแทนที่ร่าง โดยที่ไม่มีใครที่รู้เลยว่าหัวใจของอันน่านั้นเจ็บปวดขนาดไหน..
และพอเธอมองออกไป.. มองออกไปดูสองคนนั้นชาร์ล็อตกับเลทิเซีย.. เธอก็มองเห็นทันที..
ชาร์ล็อตที่มีท่าทางเขินอายดูร่าเริงแจ่มใส ราวกับเด็กสาวบริสุทธิ์ไร้ซึ่งความคิดที่มากแผนการ..
แก้มน้อยๆ ของเธอแดงด้วยความเขินอาย.. อันน่าไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้เพราะภาพนี้ราวกับเป็นการตอกย้ำเธอว่า..
ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน..หรือมีความรู้สึกแบบชาร์ล็อตยังไง.. สุดท้ายแล้วตัวเธอมันก็แค่ความดำมืด..
เป็นแค่สิ่งที่ไม่มีใครต้องการ..
“ทำไม..”
บัดนี้ราวกับโลกทั้งใบของเธอพังทลายลงอย่างเงียบๆ ราวกับมีเส้นด้ายบางๆ ที่สะบั้นขาดออก.. ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ที่ของข้า..งั้นเหรอ