บทที่ 230 – อาภรณ์เทพ
แสงสีขาวสองสายพุ่งดิ่งลงมากั้นระหว่างเลทิเซียที่สลบและแสงสีเทาและสีดำที่โจมตีมาจนเกิดการปะทะกันของพลังอันมหาศาลส่งผลให้โถงขนาดใหญ่สั่นสะเทือน
จักรพรรดิมังกรและจอมมารคาริลต่างพากันกระเด็นถอยไปด้านหลังหลายก้าว ส่วนคนทั้งสองคนก็ถอยไปด้านหลังอย่างทัดเทียม
“พลังแบบนี้มัน… เทพ..? บ้าน่า.. เทพไม่น่าจะ.. อะ.. เลเวีย ทีน อาเดฟงั้นเหรอ?!”
จอมมารคาริลพูดขึ้นมา ใช่แล้วคนที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาคือเลเวียกับลูเซียโน่.. แน่นอนว่าหลังจากท่านแม่ของเลเวียกลับไป
พวกเขาก็ตามติดสถานการณ์ของลูกสาวยอดรักของพวกเขาตลอด จนกระทั่งมีคนที่คุ้นเคยเข้าการแข่งไป.. มีหรือเลเวียกลับลูเซียโน่จะไม่รู้จักเลมิสทาเรีย
แต่ด้วยความที่พ่อแม่เห่อลูกคิดว่าลูกสาวตัวเองต่อให้เป็นผู้กล้าก็ซัดหงายได้เลยไม่ได้คิดไรมากจนกระทั่งเลมิสทาเรียพยายามยึดร่างเลทิเซีย
แถมยังพาข้ามมิติไป พวกเขาตกใจและรีบตามหาทันที และหลังจากที่ตามหาอยู่นานพวกเขาก็พบว่าน่าฟ้าของอาณาจักรที่เลมิสทาเรียกับไบรอัสปกครองอยู่แปลกไป
จึงมุ่งหน้ามาทางนี้ แต่พอเข้ามาในอาณาจักรนี้พวกเขาก็ถูกพลังของเลทิเซียกดทับจนความเร็วตกลงไปเยอะ
ไม่เว้นแม้แต่เลเวียเองก็เช่นกัน ดังนั้นกว่าเธอจะมาถึงจึงใช้เวลานานพอสมควร พอมาถึงก็เจอหนึ่งจอมมารหนึ่งมังกรโจมตีลูกสาวตัวเองอยู่ซะอย่างนั้น
ส่วนผู้กล้าสองคนที่นอนกลายเป็นศพไม่ได้อยู่ในสายตาของคนทั้งสอง
“อ่า”
เลเวียไม่ได้สนใจทั้งสองคนเธอมองเห็นสภาพของเลทิเซียเธอก็สะดุ้งเล็กน้อยได้ ก่อนจะก้มลงมองหัวของสเตฟานี่..
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น..?”
เธอพูดด้วยความสงสัยส่วนลูเซียโน่ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้เขาเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าก่อนจะมองไปที่เลทิเซีย
“หรือว่า…”
เลเวียรีบใช้เวทมนตร์รักษาให้เลทิเซียไม่นานบาดแผลทั่วร่างก็หายดีแต่ก็ยังไม่ได้สติเพราะเธออ่อนล้ามาก
จอมมารคาริลเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ รู้สึกว่าสองคนนี้จะมีลูกสองคน คนหนึ่งชื่อเลวิเนียส่วนอีกคนชื่อเลทิเซีย
พอเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก็หัวเราะออกมา..
“ฮ่าๆ เมื่อกี้เจ้าบอกว่าลูกของเจ้าเหรอ.. ข้าละสงสัยจริงๆ ว่าทำไมลูกของผู้กล้ากับเทพถึงกลายเป็นปีศาจไปได้..แถมยังเป็นจอมมารอีก..?”
ลูเซียโน่ที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็เหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากปากโพลงออกมาว่า
“ว่าแล้วเชียว..”
“หมายความว่าไง?”
เลเวียที่เหมือนจะตามไม่ทันก็พูดขึ้น ลูเซียโน่ก็อธิบายให้เธอฟังอย่างรวดเร็วว่า..
“พลังที่ปกคลุมอาณาจักรนี้อยู่ไม่ใช่พลังของเจ้าคาริลหรือใคร…. เป็นพลังของเลทิเซีย.. บางทีแสงสีขาวก่อนหน้านี้ก็เป็นพลังของเลทิเซียเหมือนกัน”
“ห้ะ..?”
คราวนี้เลเวียต่างเบิกตากว้างเธอหันหน้าไปหาเลทิเซียด้วยความสับสน.. ก่อนที่จะพูดขึ้นมาสั้นๆ ว่า..
“เลทิเซียเป็นปีศาจ.. แถมยังเป็นจอมมาร…?”
ลูเซียโน่พยักหน้าอย่างยากลำบาก..
“เป็นไปไม่ได้ ก็เลทิเซียน่ะ….”
เธอรู้ดีว่าเลทิเซียไม่ใช่ลูกที่เธอคลอดออกมา.. เพราะเธอไปเจอเลทิเซียในป่า เลทิเซียร่วงลงมาจากฟากฟ้าเหมือนสวรรค์มอบให้..
แต่ว่านะ.. แต่ว่า.. ตอนที่รับเลทิเซียมาเลี้ยงน่ะ.. เธอยังเป็นแค่เด็กแรกเกิดเท่านั้น.. หมายความว่าเธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน
และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไม่ใช่ลูกจริงๆ ของเลเวีย.. เพราะคนที่รู้เรื่องนี้ก็มีแค่เธอกับลูเซียโน่
และเลทิเซียก็เติบโตมาในการดูแลของพวกเธอทั้งสองมีหรือพวกเธอจะไม่สามารถมองเห็นพลังที่อยู่ภายในตัวเลทิเซีย..
ใช่.. ในกรณีที่เลทิเซียไม่ได้พยายามซ่อนมันจากพวกเธอน่ะนะ.. แต่ว่าเลทิเซียจะซ่อนได้ไงในเมื่อเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นปีศาจ
เธอจะซ่อนสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ไปทำไม? นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่เลทิเซียจะเป็นปีศาจ..
จักรพรรดิมังกรริสเวลที่นิ่งเงียบมาตลอดก็พูดขึ้นหลังจากเห็นท่าทางของลูเซียโน่และเลเวีย..
“โอ้.. แบบนี้นี่เองเก็บมาเลี้ยงสินะ.. แถมยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าคนที่ตัวเองเก็บมาเลี้ยงเป็นปีศาจ พวกเจ้าทั้งคู่สอบตกในฐานะที่เป็นผู้กล้านะ.. โดยเฉพาะท่านเทพน่ะ”
ลูเซียโน่พูดขึ้นอย่างเย็นชาทันที
“ข้าไม่ได้ต้องการคำวิพากษ์จากเจ้า เจ้ามังกร”
พูดให้เขา เขาไม่โกรธแต่หากมาพูดถึงเลเวียเขาไม่มีทางยอมแน่ แต่เลเวียในตอนนี้กำลังคิดเรื่องราวบางอย่างในหัว..
“แต่ถึงเจ้าจะบอกแบบนั้นก็เถอะ แต่ว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นก็ฆ่าผู้กล้าไปตั้งสองคน ไม่พอยังฆ่าคนในอาณาจักรนี้ไปมากกว่าครึ่ง”
“อ่า ใช่เลย จักรพรรดิมังกรเจ้าพูดถูก ข้าว่า.. ภายใต้สนธิสัญญาของท่านมหานักปราชญ์ ถือว่าเป็นการละเมิดกฎนะ.. นั่นหมายความว่า.. มีสิทธิ์ชอบธรรมในการประหารภัยต่อทวีปนะ?”
จอมมารคาริลกับจักรพรรดิมังกรริสเวลกล่าวอย่างมีสัจธรรม ลูเซียโน่กัดฟันกรอดดวงตาเขาจ้องไปที่คนพวกนี้อย่างเกลียดชัง
ในตอนนั้นเองเลเวียก็ดึงชายเสื้อเขา ทำให้เขาหันไปมอง.. เลเวีย.. สภาพเลเวียในตอนนี้ไม่เหมือนองค์ราชินีหรือท่านเทพผู้สูงส่ง
เธอเหมือนแม่คนหนึ่ง เธอเองก็ได้ยินคำพูดของสองคนนั้น.. ต่อให้เลทิเซียจะกลายเป็นปีศาจไปจริงๆ ..แต่สำหรับเธอ..
เลทิเซียก็ยังเป็นลูก.. ลูเซียโน่ยิ้มแล้วจับมือของเลเวียพร้อมกับพูด..
“ไม่ต้องเป็นห่วงเลทิเซียน่ะเป็นลูกของพวกเรา… ข้าไม่มีทางปล่อยให้เธอเป็นอะไรอย่างแน่นอน”
พอได้ยินแบบนั้นเลเวียก็พยักหน้าเบาๆ เธอหันไปมองเลทิเซีย.. แม้บาดแผลจะหายไปจนหมดแล้วแต่บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาคราบเลือด
แถมบนใบหน้าของสเตฟานี่ที่วางอยู่บนตักเลทิเซียยังมีรอยยับย่นมากมาย ราวกับว่าก่อนที่จะตายเธอแสดงสีหน้าโกรธแค้น เกลียดชัง
เสียใจ เศร้าโศกต่างๆ ออกมาจนหมดในเวลาสั้น.. และสภาพของเลทิเซียเองก็ไม่ต่างกันนักก่อนที่จะหันไปมองซากศพของเลมิสทาเรียกับไบรอัส
ไม่ต้องเห็นใบหน้าเธอก็รู้ทันทีว่าสองคนที่ตายอยู่ตรงนั้นคือผู้กล้าที่ลักพาตัวเลทิเซียมา เธอพยายามคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้น
แม้อาจจะไม่ถูกหมดแต่เธอรู้ดีว่าเลทิเซียเป็นคนที่รักคนสำคัญมาก.. เหมือนกับที่รักเลวิเนีย.. ดังนั้นหัวที่วางอยู่บนตักบางทีคงเป้นเพื่อนของเลทิเซีย
และถูกคนสองคนนี้ทำอะไรบางอย่าง.. จนเลทิเซียโกรธแค้น..และระเบิดอารมณ์ออกมา.. เธอกัดฟัน..
ต่อให้ลูกสาวของเธอจะถูกคนทั้งโลกเกลียด.. แต่เธอก็จะอยู่เคียงข้างลูกในฐานะคนที่เป็นแม่..
เธอก้าวขาออกมาด้านหน้า.. พร้อมกับสะบัดแขนและทันใดนั้นเองหน้าผากของเธอพลันมีแสงเปล่งออกมา
ด้านหลังก็มีบางสิ่งบางอย่างปรากฏขึ้นมันมีลักษณะเหมือนผ้าแพร ลอยโค้งข้ามหัวของเลเวียพาดลงบนไหล่และแบติดกับแขนของเธอ
แต่ลักษณะของมันเป็นสีทองราวกับผ้าที่ทักท้อจากแสงของจริง และบนผ้าแพรสีทองยังมีกลิ่นอายสยบทุกสรรพสิ่งของสิ่งที่เหนือกว่าทุกอย่างปล่อยออกมา
“อาภรณ์เทพเรอะ?!”
จักรพรรดิมังกรและจอมมารคาริลต่างพากันเคยได้ยินนิทานเรื่องที่ว่า.. หากเมื่อยามใดที่เทพรบรา บัดนั้นอาภรณ์เทพจักปรากฏ
กฎแห่งความเป็นจริงจะถูกขีดเขียน.. พลังแห่งมิติที่เหนือกว่า… ในความเป็นจริงเทพไม่มีทางใช้พลังนั้นในมิติแห่งนี้ได้..
เพียงแต่ว่าเหมือนเลเวียจะเป็นข้อยกเว้นทั้งสองคนมองหน้ากัน..
“หากคิดจะทำอะไรลูกสาวข้าก็คงต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
เธอกล่าวอย่างเด็ดขาด ทำให้จักรพรรดิมังกรกับจอมมารคาริลต่างพากันลังเล.. ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีไพ่ตาย
แต่ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นอาภรณ์เทพมาก่อน เคยได้ยินแค่ในเรื่องเล่าเท่านั้นเลยไม่รู้พลังที่แท้จริง.. แต่เมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งของเลทิเซีย..
มันก็คุ้มค่า.. พวกเขาแค่ต้องฆ่าเลทิเซียที่นั่งไม่ได้สติอยู่ตรงนั้น.. มันคุ้มค่าพอที่จะเสี่ยงเพราะยังไงหากปล่อยไว้ก็คงเป็นภัยในภายหลัง
เพราะชัดเจนว่า.. เด็กนี่ถูกผู้กล้ากับเทพเลี้ยงดูมา.. ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยู่ฝ่ายไหน..ดังนั้นทางเดียวที่พวกเขาทำได้คือฆ่า..
พอทั้งสองตัดสินใจได้ก็เคลื่อนไหวทันที..
แต่ทว่ายังไม่ทันได้ใช้พลังเสียงคำรามต่ำก็ดังขึ้นมาแต่ไกล
“ไอ้เด็กไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าคาริล เจ้ามีความกล้าขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหนกัน?”
ภายใต้เสียงที่ดังสนั่นไปทั่วผืนนภาดาบเล่มหนึ่งก็พุ่งมาจากนภาอันห่างไกลทะลุเข้ามาในห้องโถงปักลงต่อหน้าจอมมารคาริลและจักรพรรดิมังกรริสเวล
MANGA DISCUSSION