บทที่ 206 – ความรู้สึกของเซเรส
หลังจากที่เซเรสกลับไปที่โรงเรียนก็จะรีบตรงดิ่งกลับบ้านไปเธอก็ใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้าน จากเศษเสี้ยวความทรงจำที่เหลืออยู่
ที่ใช้เวลาไม่นานเพราะบ้านเธอไม่ได้ห่างจากโรงเรียนลิเบอร์มากนัก พอเธอกลับมาถึงก็ได้รู้ว่าตัวเองมีน้องชายอยู่ด้วย
แม้น้องชายจะแสดงท่าทางรังเกียจเธอ แต่เซเรสก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เธอคิดแบบนั้น
“กลับมาแล้วเหรอ ยัยคนนอกคอก ท่านพ่อรออยู่ในห้องนั่งเล่น”
เซเรสหน้าตั้งรีบกลับบ้านด้วยความหวังว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดี เพราะว่าเพื่อนของเธอไม่มีทางโกหกเธออยู่แล้ว
พอเธอเปิดประตูเข้าไปก็เจอผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ จ้องมาที่เธอด้วยสายตาเย็นชา
“ท่านพ่อ…”
เซเรสพูดขึ้น พอเห็นหน้าชายตรงหน้าเธอ เธอไม่รู้จักคนตรงหน้านี้.. แต่เธอพอจะรู้ว่า คนคนนี้คงเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดตัวเอง
เป็นคนสำคัญของเธอคนหนึ่ง แต่คำตอบที่ได้รับจากชายผู้เป็นพ่อคือ
“มาทำหน้าระรื่นอะไรของเจ้า นังผู้หญิงน่าผิดหวัง”
“….”
เซเรสพูดไม่ออก สายตาที่ผู้เป็นบิดาจ้องมามันทำให้เธอสับสน.. เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต
ไม่สิ อาจจะเคยแต่เธอลืมมันไปหมดแล้ว.. หมดทุกอย่างเลย เซเรสยืนนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง กรีที่เห็นท่าทางสดใสของผู้หญิงตรงหน้าเขายิ่งรู้สึกหงุดหงิด
ไอ้เด็กที่ไม่ว่าจะสอน จะทำอะไรให้ก็ไม่ทำตามคำสั่ง วันๆ มัวแต่ทำอะไรไม่รู้เรื่องไร้สาระไปวันๆ
ไม่มีความโลภ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกผิดหวังและเกลียดจากใจจริง สำหรับกรีที่เคยคาดหวังในตัวเซเรสไว้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
แต่เธอก็จะปฏิเสธสิ่งนั้นทุกครั้ง มันทำให้เขาทั้งโกรธทั้งเกลียด และไอ้ท่าทางที่เหมือนไม่ทุกข์ไม่ร้อนใดๆ ก็น่าหงุดหงิด
ความโกรธไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันถึงกลายเป็นความเกลียดชังเซเรส ไม่มองว่าเธอเป็นลูกตัวเองไปแล้ว
พอเห็นสีหนน้าของเซเรสเขาก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ..
“พรุ่งนี้มีงานจากอาณาจักรที่ห่างไกลมาว่า ให้พวกเราไปปล้นโกดังที่เหมือนจะมีเวทมนตร์ป้องกันอยู่”
“หน้าที่ของเจ้าก็คือการทำลายผนึกเวทมนตร์แค่นั้นแหละ”
เขาพูดอย่างหงุดหงิด อันที่จริงเขาก็ไม่รู้ว่าผู้จ้างวานคือใคร แต่นอกจากจะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากแล้วยังง่ายมาก
แค่ปล้นโกดังเองส่วนเหตุผลที่ถ่อมาจ้างวานโจรอย่างพวกกรี ส่วนนึ่งคงเป็นเพราะว่าอยู่ห่างไกลนั่นแหละ
ที่อยู่ห่างไกลในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่ากลัวจะทำให้ตระกูลโจรเล็กๆ อย่างกรีจะโดนจับ แต่คงเป็นเพราะเรื่องการเมืองด้วย
เพราะเคสแบบนี้มีให้เห็นออกบ่อย ไปจ้างมือสังหารจากอีกอาณาจักรมาเพื่อสังหารขุนนางที่ตัวเองเกลียด จะตามหามือสังหารก็ยาก
พอเป็นแบบนั้นก็จะไม่สามารถสาวหาตัวคนร้ายได้ แถมตัวมือสังหารที่อยู่ห่างไกลเองก็คงไม่รู้เรื่องราวในอาณาจักรผู้จ้างวานมาก
หมายความว่าหากคนที่เป็นเป้าหมายมีสมบัติที่ผู้จ้างวานต้องการ มือสังหารก็ไม่รู้นั่นแหละ ก็อะไรประมาณนั้นทำให้มีการจ้างวานแบบนี้เป็นปกติ
แน่นอนว่าในตระกูลของเซเรสนี้มีผู้ใช้เวทมนตร์อยู่หลายคน แต่เซเรสที่สามารถเข้าโรงเรียนลิเบอร์ได้ด้วยอายุเท่านี้น่ะ ต้องเหนือกว่าทุกคนในตระกูลอยู่แล้ว
ถึงกรีจะกลัวว่าเซเรสทำแผนพังก็ตาม แต่นี่เป็นงานใหญ่ จะไว้วางใจให้คนอื่นที่มีความสามารถไม่มากพออย่างเดียวก็ไม่ได้
สุดท้ายเขาจึงไม่มีทางเลือกจึงต้องให้ลูกสาวไม่ได้ความตัวเองคนนี้เป็นตัวแถมคอยช่วยคนอื่นๆ ด้วย
พอคิดว่าหากไปถึงสถานที่จริงแล้วยัยเด็กนี่ไม่ทำตามคำสั่งอีกเขาตัดสินใจว่าจะหักแขนหักขาเธอสักข้างสองข้าง
“เหอะ อย่าทำให้ข้าผิดหวังอีกล่ะ”
พอเขาพูดแบบนั้นเซเรสก็สับสน เธอไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรไว้ แต่ตั้งแต่น้องชายของเธอแล้วตอนนี้พ่อเธอก็ทำเหมือนผิดหวังในตัวเธอ
เธอไม่เข้าใจว่าทำไม… ทำไมท่านพ่อถึงผิดหวังในตัวเธอ? เซเรสในอดีตเคยไปทำให้ทุกคนเดือดร้อนเอาไว้
จำไม่ได้.. จำไม่ได้…
เธอจำอะไรไม่ได้เลย ทำให้เธอกัดริมฝีปาก ถ้าหากเธอทำอะไรให้ครอบครัวเดือดร้อนมาก่อนล่ะ.. ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะต้องทำหน้ายังไงเมื่อเจอกับสเตฟานี่ แล้วก็เลทิเซียด้วย..
กรีหันหลังให้เซเรส เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไว้ แต่อย่างหนึ่งที่เธอรู้ในตอนนี้คือ.. ต้นเหตุที่ทุกคนในบ้านมีท่าทีเย็นชาแบบนี้ต่อเธอ..เป็นเพราะเธอเอง
ไม่เธอไม่ต้องการแบบนี้.. ไม่ใช่แบบนี้บรรยากาศที่เธอต้องการ บ้านมันต้องมีความสุขกว่านี้สิ ใช่ไหมล่ะ สเตฟานี่ ใช่ไหมล่ะ เลทิเซีย
เพื่อนทั้งสองของเธอบอกแบบนั้นว่าสถานที่แห่งนี้นะสำคัญที่สุด สำคัญยิ่งกว่าเพื่อนของตัวเอง
แต่เธอจะทำยังไงล่ะ…
“ท่านพ่อ!!”
“ข้าว่าข้าเคยบอกไปแล้วนะว่า อย่ามาแล้วข้าว่าพ่ออีก”
กรีหันมาตอบกลับด้วยสายตาที่ห่างเหิน สายตานั้นที่มองมาที่เซเรสมันทำให้เธอรู้สึกถึงความห่างไกล.. คนสำคัญเหรอ
ไม่… นี่ไม่ใช่แม้แต่คนรู้จักด้วยซ้ำ แต่สายตานั้นนอกจากจะห่างเหินยังไม่พอ มันยังเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของเธอ
หน้าอกของเธอเหมือนถูกมีดเฉือน ความว่างเปล่ากัดกินหัวใจ เหมือนกับคนสำคัญที่สุดในโลกได้ปฏิเสธเธอ
ใช่ครอบครัวน่ะสำคัญที่สุด เลทิเซียเป็นคนบอกไว้ เธอจึงกลับบ้านมาด้วยความเชื่อและความรู้สึกมีความคาดหวัง
แต่ถ้าหากถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นละก็.. มันเจ็บนะ..ทำไมเขาถึงได้.. เกลียดเธอถึงขนาดนั้นล่ะ…
ความรู้สึกภายในอกของเธอมันสับสนไปหมด…. เธอไม่เข้าใจความรู้สึกที่ไม่อาจจะบรรยายออกมานี้ได้
ครอบครัว…
ไม่เอา.. ไม่อยากถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น.. เธอกลัว..
ยังไงซะเซเรสก็เป็นแค่เด็กธรรมดา เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เด็กจะต้องการได้รับคำชม ได้รับความรักจากผู้เป็นพ่อ
ไม่ต้องพูดถึงตัวเซเรสที่ลืมสามัญสำนึกและอดีตไปจนแทบจะหมดไม่พอ เธอยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำถึงความสุขจากครอบครัวว่ามันเป็นยังไง
มันจะต่างจากความสุขที่ได้รับมาจากเพื่อนหรือเปล่า มันจะรู้สึกดีขนาดไหน.. เธอได้แต่คาดหวังและรอ..
แต่สิ่งที่เธอได้เจออยู่ตรงหน้าคือสายตาที่เย็นชา สายตาที่เกลียดชังและสายตาที่ผิดหวังต่อตัวเธอเอง
ไม่เอา.. ไม่เอา.. ไม่เอาแบบนี้ เธอไม่รู้จะทำยังไงเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นี้… แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะ… ก้มลงไปกับพื้นแล้วก็กราบ
“ข้าผิดไปแล้ว.. ได้โปรดอย่ามองข้าด้วยสายตาแบบนั้นเลย..”
เซเรสก้มกราบลงไปแบบนั้น เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำถูกหรือเปล่า แต่เธอในตอนนี้แค่อยากจะรู้สึกว่าครอบครัวน่ะสำคัญที่สุด..
เธอแค่ต้องการแค่นั้น..
แต่แทนที่กรีจะเห็นอกเห็นใจเซเรส เส้นเลือดกลับปูดขึ้นมาบนใบหน้า เขาไม่เคยสอนให้ยัยเด็กนี่เป็นคนขี้ออดอ้อนแบบนี้
ต้องการอะไรก็ช่วงชิงมันมา เธอไม่เคยต้องการที่จะให้ลูกตัวเองอ่อนแอ หากเป็นไปได้คือฆ่าเขาแล้วแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูลเขายังไม่คิดอะไร
แต่ในตอนนี้ลูกที่ตัวเองเกลียดที่สุด ยังมาทำท่าทางเหมือนลูกหมาที่สูญเสียของสำคัญ ซึ่งเป็นการกระทำที่เขาเกลียดที่สุด
เขากัดฟันจนดังกรอดๆ ด้วยความโกรธที่อัดแน่นเขาไม่อาจทนไหวเลยใช้เท้าของตัวเองเตะอัดหน้าเซเรสจนดัง “ผั๊วะ”
เลือดปากกับเลือดกำเดาไหล น้ำตาเธอไหลออกจากดวงตา จนหน้ากระลอยขึ้นจากพื้น กรีใช้มือขวาดึงผมเซเรสเอาไว้
“ข้าจะบอกให้เจ้าฟังอีกรอบ.. อย่ามาทำตัวน่าสมเพชอยู่ใกล้ๆ ข้าเป็นรอบที่สอง เจ้าไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งจะทำตัวเป็นผู้ดี ไม่ว่าจะสั่งให้ปล้นสั่งให้ฆ่าก็ไม่กล้าทำ”
“ทีนี้มาต้องการให้ข้าใจดีด้วย? ไหนตอบข้ามาสิ ว่าทำไมข้าต้องทำดีกับเจ้า ห้ะ?”
ไม่ใช่ครั้งแรกที่กรีทำร้ายร่างกายเซเรส ถึงจะไม่เคยเตะเข้าหน้าแรงๆ แบบนี้ แต่ไม่ว่าจะเฆี่ยนตีหรือลงโทษอะไรก็ตามเขาทำมาหมดแล้ว
แต่สำหรับเซเรสเป็นครั้งแรก พอโดนเตะหน้าเธอก็ร้องไห้และถูกดึงผม เธอพยายามดิ้นแล้วพูดขึ้น..
“ข้า..เจ็บ..”
น้ำตาที่ไหลออกมาจากตา พยายามขอร้องให้หยุดและเลือกที่จะไม่ต่อต้าน แต่แบบนั้นมันกลับยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
“สิ่งที่ข้าเคยสั่งให้เจ้าทำน่ะ มีแค่ปล้นกับฆ่า มีแค่นั้น แต่เจ้า.. เจ้าไม่ทำ.. เจ้าไม่ทำอะไรเลย!!! เจ้าเข้าใจไหม สุนัขที่ไม่ฟังคำสั่งมันก็เป็นได้แค่ก้อนเนื้อมีชีวิต”
เขาใช้กำปั้นตัวเองต่อยหน้าเซเรสด้วยความโกรธซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียงร้องไห้ของเธอจึงขาดๆ หายๆ
“ข้า.. ข้าจะทำ.. ข้าจะทำ.. ได้โปรด…”
เซเรสรีบพูดออกมาด้วยความสับสน ถึงได้ทำให้กรีหยุด เขาโยนร่างเซเรสใส่ผนังอย่างรุนแรงจนเธอกระอักเลือดออกมาและสลบไป
กรีสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด
“บัดซบเอ๊ย เจ้านี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ”
MANGA DISCUSSION