การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 152
บทที่ 152 – ฉันมองอยู่ตลอด..
โลกเดิมเป็นโลกที่มีไวรัสระบาดทำให้อายุขัยมนุษยชาติสั้นลงจากการแพร่ระบาดของไวรัสที่อันตราย
มนุษย์ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน และเลทิเซียก็เป็นเช่นนั้นตัวเธอจึงต้องติดเกมและเล่นเกมอยู่ แต่ว่าในเวลาต่อมาไม่นานสงครามโลกก็ปะทุขึ้น
เขตปลอดสงครามทั่วโลกมีน้อยนิดทุกๆ วันจะต้องมาเสี่ยงว่าจะมีอาวุธปรมาณูจะร่วงลงมาจากฟ้าตอนไหนหรือเปล่า
นั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เลทิเซียได้ตระหนักว่า ทั้งมนุษย์และโลกใบนี้ล้วนน่ากลัว แต่พี่สาวก็เข้ามาปลอบว่า ไม่เป็นไร..
มันจะไม่มีของน่ากลัวแบบนั้นมาทำลายบ้านเราอย่างแน่นอน เลทิเซียถึงได้ยึดติดคำว่าครอบครัวและพี่น้อง..
ใช่แล้ว ในตอนที่ทุกอย่างมืดมิดสำหรับเลทิเซียแล้วมันน่ากลัวยิ่งกว่าไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า แต่ว่าในตอนนี้…
ณ ตอนนี้เสียงร้องของเลวิเนียดังขึ้นต่อหน้าเธอมันก็ปลุกเธอขึ้นมาอีกครั้ง.. ปลุกเธอมาจากความกลัวและบอกเธอว่าต้องทำอะไรสักอย่าง
อย่างที่บิกว่าตอนนั้นในโลกเดิมนั้นลูเซียร้องไห้และบอกให้ตัวเองมองไปที่เธอบ้าง แต่ว่าเธอไม่รู้จะตอบสนองสิ่งนั้นยังไง
เธอไม่เข้าใจเลย.. แต่ว่าในตอนนี้เธอจะทำแบบนั้นอีกอย่างนั้นเหรอ เธอนอกจากจะมองข้ามน้องสาวไปอีกครั้งไม่พอยังจะทำผิดพลาดอีกงั้นเหรอ
แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการ.. แต่ว่าท้ายที่สุดสำหรับพี่น้องปลอมๆ แบบนี้…. เลทิเซียหยุดความคิดนั้นลง
ไม่สิ… เพราะตลอดสิบสองปีที่ผ่านมาไม่ใช่เหรอ เธอถึงได้บอกว่าตัวเลวิเนียเป็นน้องของเธอ สิ่งที่เธอควรทำในตอนนี้น่ะ…
เลทิเซียยื่นมือออกไปจับแขนของเลวิเนียก่อนที่จะดึงเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน เธอรู้เพียงว่าคนที่กำลังเจ็บปวดน่ะ
ต้องถูกกอดด้วยความอ่อนโยน..
“ไม่ว่าความจริงจะเป็นแบบไหน.. เลวี่ก็คือน้องสาวที่อัจฉริยะของฉัน…”
“ทะ…ท่านพี่..!”
เลวิเนียถูกเลทิเซียกอด ความอบอุ่นจากอ้อมกอดที่ตัวเองคิดถึงและคิดว่าจะไม่ได้สัมผัสมันอีกครั้ง
ทุกครั้งที่เธอกลัว เลทิเซียจะกอดเธอ ทุกครั้งที่เธอเสียใจเลทิเซียก็จะปลอบเธอ..ความอบอุ่นนี้แหละที่ทำให้เธอยิ้มอย่างร่าเริง
สำหรับเลทิเซียแล้วหากเธอไม่พูดออกไปมันคงผิดพลาดเหมือนครั้งก่อนผิดพลาดตลอด… ดังนั้นเธอต้องพูดออกไป
และทำสิ่งที่ควรทำในฐานะคนเป็นพี่.. ไม่สิ หากจะพูดให้ชัดเจนยิ่งกว่านั้นคือคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดสิบปีในฐานะของพี่สาว!
“ไท่ว่าจะเป็นอะไร..”
“ใช่.. ฉันมองเห็นเลวี่อยู่.. ฉันมองอยู่ตลอด….”
“ท่านพี่.. ท่านพี่!”
ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเลวิเนียซุกเข้าไปในหน้าอกของเลทิเซียเธอกอดเลทิเซียแน่นแทบไม่อยากจะปล่อยมือ
เลวิเนียเคยกลัวว่าหากบอกความจริงไปแล้วเลทิเซียจะรังเกียจเธอและปฏิเสธเธอ แม้ว่าการเกิดใหม่ของเธอจะเป็นสิ่งที่เธอยังตรวจสอบไม่สำเร็จก็ตาม
(เธออาจจะเป็นผู้เกิดใหม่)
ในขณะที่เลทิเซียเองก็กลัวเลวิเนียจากการโดนเมินใส่ เพราะว่าตัวเธอไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ .. และอย่างที่เลทิเซียคาด
เลวิเนียรู้แล้วว่าพวกเธอไม่ใช่พี่น้องกัน… (เพราะเลทิเซียถูกเก็บมาเลี้ยง) ทั้งสองแม้จะมีปัจจัยเดียวกันแต่อันที่จริงก็เข้าใจคนละความหมายกันน่ะนะ
…………
[คุยคนละเรื่องเดียวกัน Part 2 – ผู้เขียน]
[ง่ายป่ะ ง่ายแหละ ง่ายเกิ๊น ง่ายจริง สั้นด้วย สั้นจริง สั้นสุดๆ – ใครสักคน]
[แนวทางต่อจากนี้ : เอาล่ะ คนที่อวยคุณน้องไม่ต้องน้อยใจไปที่ทำไมบทมันไม่สุดเหมือนทสึรุเลยว้า เพราะอีกหลายปีข้างหน้าคุณน้องจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความยิ่งใหญ่ (ผมหมายถึงหน้าอก – ถ้าเป็นงั้นจะดีกว่าน่ะนะ) แต่ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้คงรู้แหละว่า.. อะแฮ่ม … เอาเป็นว่านี่เป็นบทของนางเอกที่แท้จริงต่างหาก(ทสึรุล่ะ ?) เริ่มเดินทางเข้าสู่ความจริงจังและเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม! หลังจากนี้ผมมั่นใจว่าเนื้อเรื่องมันอาจจะหนักหน่วง— ผมหมายถึงกาวเสียยิ่งกว่าเดิม! และผมแต่งเรื่องนี้คือผมคิดโครงเรื่องไว้เสร็จหมดแล้วละ เพราะงั้นไม่ต้องห่วงว่าผมจะเขียนไม่ออก (ให้เรื่องริวตะเป็นเครดิตคำพูดผม) แล้วก็เรื่องอัพนิยาย ผมอาจจะอัพนิยายวันละสองตอนหรือวันละตอน .. มันอาจจะไม่ตายตัว แต่ผมจะพยายามไม่อัพช้าเกินหนึ่งสัปดาห์นะครับ]