การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 145
บทที่ 145 – ความกลัว
“เลทิเซีย ท่านชาร์ล็อต”
ทสึรุยืนเคาะประตูแต่ไม่มีเสียงตอบรับแถมไฟห้องยังเปิดอยู่ ประตูก็ปิดไม่สนิท ทสึรุที่งงว่าทำไมไม่มีใครตอบรับก็เกาหัวแกรกๆ
เพราะเธอเองก็ได้เรียนซ่อมเลยต้องเรียนซะถึงดึกดื่นเลย แน่นอนว่าเป็นความตั้งใจของทสึรุเองนะ
พอกลับมาก็ได้ยินว่าเลทิเซียกลับมาแล้วจากปากของซิลเวียที่สวนทางกันไม่นานมานี้ ด้วยความดีใจเลยรีบมาหาเลย
“งั้นขอรบกวนหน่อยน—”
พอทสึรุเปิดประตูเข้าไปพลังบางอย่างก็ลอยคลุ้งออกมาจากห้องน้ำ พลังนี้ไม่เหมือนตอนอยู่ในโลกชิ้นส่วนเพราะว่า.
พลังนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนคำสาปร้าย แต่พอทสึรุสัมผัสถึงเธอก็รู้ทันทีว่านี่คือพลังของใคร
เธอรีบเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปอย่างไม่ลังเล ก็เห็นเลทิเซียกำลังจะใช้มือตัวเองตัดคอของชาร์ล็อตสีหน้าของทสึรุแปรเปลี่ยน
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอรีบกระโดดใส่เลทิเซียทันที
“เจ้าทำอะไรขงเจ้าน่ะ เลทิเซีย!”
เลทิเซียเองก็คาดไม่ถึงว่าทสึรุจะเข้ามาเลยถูกผลักออกไปติดผนัง ชาร์ล็อตที่เหมือนจะได้สติขึ้นมาแล้วก็สำลักและสูดลมหายใจ
“แค่กๆ …”
คนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ไม่ใช่อันน่าแต่เป็นชาร์ล็อต ผิวของเธอซีดเซียวลงอย่างมาก แต่นังโชคดีมันเป็นแค่ผลกระทบการแทรกแซงเข้าร่างของพลังเวทมนตร์ที่มากเกินไป
ทำให้ตัวชาร์ล็อตทนไม่ไหว ไม่ร้ายแรงอะไรมาก แต่สายตาที่เธอมองมาที่เลทิเซียนั้นเปลี่ยนไปเธอถอยห่างออกไป
สายตานั้นจ้องมองมาที่เลทิเซียที่มองไปสบตากันพอดิบพอดี เลทิเซียก็มองเห็นภายใต้สายตานั้นของชาร์ล็อตมันเหมือนมีอันน่าจ้องอยู่ในเวลาเดียวกัน
แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ.. ความกลัวที่มีต่อเลทิเซีย สายตานั้นจ้องมองมาที่เลทิเซียด้วยความกลัว
ไม่รู้ว่าพอเห็นสายตานั้นแล้วทำไมตัวเธอถึงรู้สึกเจ็บปวดมากขนาดนี้ … ชาร์ล็อตค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก็วิ่งออกจากห้องน้ำไป ..
“ฉัน…”
เลทิเซียเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออกในตอนนี้ ทสึรุมองแผนหลังของชาร์ล็อตเธอก็เงียบลง..ก่อนจะหันมามองเลทิเซีย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น…”
“ฉัน.. ฉันไม่ได้.. ไม่… ไม่ใช่ฉัน ฉันแค่ป้องกันตัว….”
เลทิเซียพูดไม่รู้ภาษา มือทั้งสองข้างสั่นจนควบคุมไม่ได้ ทำไมกันนะ ทำไมเธอถึงกลัวขนาดนี้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เลทิเซียเกือบทำคนตาย อันที่จริง เธอเคยฆ่าคนมาแล้ว แต่นั่นก็เกิดจากความรู้สึกที่ไม่ต้องการฆ่า
แต่ครั้งนี้เธอกำลังคิดจะฆ่าคน ฆ่าด้วยความโกรธและเกลียดชัง.. เธอกลัว เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยในตอนที่โกรธ
มีเพียงต้องกำจัดทิ้งเท่านั้น … แต่ว่าสำหรับเลทิเซียถ้าฆ่าคนที่คิดว่าเป็นศัตรูแล้วทำไมต้องรู้สึกกลัวด้วยล่ะ..
นั่นคงเป็นเพราะสำหรับเลทิเซียแล้ว…..
“เลทิเซีย!”
ทสึรุเขย่าเลทิเซีย แต่ทว่าเธอไม่ตอบสนองอะไร เพียงแต่หมดสติลงไปตรงนั้น ภายใต้อกของทสึรุใบหน้าที่มีน้ำจากฝักบัวอาบไปทั่ว
แยกไม่ออกว่าภายในนั่นมีน้ำตาแห่งความเศร้าและความเสียใจอยู่บ้างหรือไม่.. ทสึรุนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
บางทีเธออาจจะพอเข้าใจอะไรบ้างแล้วนิดหน่อย.. ทสึรุอุ้มเลทิเซียออกจากห้องน้ำแล้วหลังจากนั้นก็ให้เลทิเซียหลับบนเตียง
ในขณะที่เธอก็ออกจากห้องไป.. และตามหาชาร์ล็อต ในคืนพระจันทร์เต็มดวงทำให้แสงสว่างจากดวงจันทร์นั้นค่อนข้างปัดเป่าความมืดได้ไม่มากก็น้อย
บนหอนาฬิกาในโรงเรียน ชาร์ล็อตกำลังยืนมองดวงดาวอยู่อย่างเงียบงัน ทสึรุค่อยๆ เดินขึ้นมาทำให้ชาร์ล็อตหันไปมอง
“เจ้าคือ.. เพื่อนของเธอคนนั้นสินะ…”
“….”
ภายใต้เสียงที่ถามขึ้นมานั้น ทสึรุสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ชัดเจน ทสึรุเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ชาร์ล็อต
“ไม่รู้สิ.. บางทีอาจจะไม่ใช่เลยก็ได้ สำหรับเธอคนนั้นน่ะคำว่าเพื่อนไม่ใช่สายสัมพันธ์ที่ดีนักหรอกนะ…”
“หมายความว่ายังไง?”
“เจ้าคงบอกว่าเป็นเพื่อนกับเธอสินะ ถึงได้พูดแบบนั้น…”
“….”
ทั้งสองคนคุยกันเงียบๆ หลังจากชาร์ล็อตเงียบไปสักพักเธอก็พยักหน้า…
“ข้ามันไม่ดีเอง.. ที่ถึกทักไปเองว่าตัวเองเป็นเพื่อนกับเธอน่ะ.. แถมข้ายังไปผลักเธอใส่กำแพงอีก ไม่แปลกใจที่เธอจะโกรธข้าหรอก.. ข้า….”
เสียงของเธอสั่นเครือด้วยความเจ็บปวด สำหรับเธอแล้วคำว่าเพื่อนมันสำคัญมากๆ ในชีวิตนี้เธอไม่เคยสามารถใช้กับใครได้เลย
เธอโหยหามันมาตลอดและคิดว่าการที่พวกเราไปโรงเรียนด้วยกันทุกเช้า กินข้าวด้วยกันทุกวันหรือแม้แต่นอนหอพักในห้องเดียวกันนั้นคือการเป็นเพื่อน
แต่ว่าสุดท้ายแล้วสำหรับเลทิเซียแล้วเธอก็เป็นแค่คนแปลกหน้า.. หรืออาจจะถูกมองเลวร้ายกว่านั้น มือของเธอยกขึ้นไปจับคอตัวเองที่ยังมีรอยช้ำ
รอยมือของเลทิเซียยังคงติดอยู่ที่คอของเธออยู่เลย ทสึรุเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร สำหรับเธอแล้ว เธอรู้จักเลทิเซียอยู่บ้าง
แม้เลทิเซียจะดูเพียบพร้อมและแข็งแกร่งไร้เทียมทาน แต่ด้านไหนของเธอมันเปราะบางมาก เปราะบางมากจนเกินไป
เธอเองก็นึกไม่ออกว่าสำหรับเลทิเซียที่มีสถานะทางสังคมดีเยี่ยมและครอบครัวสมบูรณ์แบบ ทำไมภายในตัวเธอถึงได้มีความอ่อนแอแบบนั้นอยู่
แน่นอนว่าขนาดทสึรุยังคงคาดไม่ถึงและนึกภาพไม่ออก แม้เลทิเซียจะเปิดใจตัวเองให้กับทสึรุแล้วก็ตามที …
ไม่ต้องพูดถึงชาร์ล็อตที่เลทิเซียแทบจะฆ่าทิ้งไปแล้วเลย… เพียงแต่ว่าสิ่งเดียวที่ทสึรุรู้และมั่นใจมากมีอยู่อย่างหนึ่ง…
“ไม่ใช่หรอก… เธอเพียงแค่กลัวเท่านั้นเอง..”
“กลัว….?”
สีหน้าของชาร์ล็อตมันบ่งบอกได้ถึงความคิดเธอชัดเจนเลยว่า คนอย่างเลทิเซียเนี่ยนะกลัว ทั้งแข็งแกร่งและอัจฉริยะแถมเป็นลูกคุณหนูที่เป็นถึงองค์หญิง
เธอมีอะไรต้องกลัว อันที่จริงไม่ใช่ว่ามันตรงกันข้ามหรอกเหรอ…?
“ใช่แล้ว.. ข้าเองก็เหมือนกัน.. ตอนที่ข้าบอกว่าเป็นเพื่อนกับเธอน่ะ…”
พอพูดถึงจุดนี้ทสึรุก็กำมือจนเล็บแทงเข้าไปในเนื้อหนัง.. เธอยังจำได้ดีถึงเสียงร้องที่เจ็บปวดของเลทิเซีย
ตอนที่เธอพูดถึงคำว่า ‘เพื่อน’ บางทีแล้วสำหรับเลทิเซียคำว่าเพื่อนอาจจะเป็นคำที่น่ากลัวมาก อย่างเช่นในอดีตเคยถูกหักหลัง…
ชาร์ล็อตมองทสึรุด้วยสีหน้าสับสน หลังจากทสึรุดึงสติกลับมาแล้วเธอก็พูดขึ้นต่อ.. เธอรู้สึกว่าชาร์ล็อตเหมือนตัวเองอยู่ไม่มากก็น้อย
ดังนั้นเธอจึงยิ้มแล้วพูดขึ้น..
“ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเพื่อนกับเลทิเซีย แต่ไม่ได้แปลว่าไม่สามารถเป็นอย่างอื่นกับเธอได้นี่น่า ก่อนอื่นเลยเจ้าเริ่มจากการเป็นเพื่อนกับข้าก่อนเป็นไง?”
“เอ๊ะ.. จะดี..งั้นเหรอ…”
“แน่นอน เพราะงั้นฉันเลยมีเรื่องอยากขอร้องหน่อย..”
“ขอร้องอะไรงั้นเหรอ?”
ทสึรุหันไปมองชาร์ล็อตพร้อมสีหน้าจริงจัง ทสึรุพูดขึ้น
“พรุ่งนี้.. ช่วยไปปรับความเข้าใจกับเลทิเซียจะได้ไหม.. ไม่ว่าจะต่อเจ้าหรือเลทิเซีย… มันก็สำคัญมาก..”
“ข้า….”
ชาร์ล็อตชะงักก่อนที่จะถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว แม้เธอจะพูดกับทสึรุได้ปกติ แต่พอคำพูดนั้นของทสึรุดังขึ้น
แขนเธอก็สั่นเบาๆ เธอกลัว… เธอในตอนนี้กลัวเลทิเซียมากจนไม่กล้าแม้แต่จะพูดคุยด้วยซ้ำกลัวว่าเลทิเซียคนนั้นจะจับคอของเธอ..และฆ่าเธอด้วยความโกรธ
เพราะตั้งแต่จำความได้ไม่ว่าจะถูกกลั่นแกล้งจากคำว่าเพื่อนมากแค่ไหนก็ตาม.. แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นถูกคำว่าเพื่อนแกล้งจนตัวเธอเองเกือบตาย…
แม้คำว่าเพื่อนในครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่เธอทึกทักไปเองก็ตามแต่ยังไงซะ.. นี่ก็คือ.. ‘ความกลัว’
…………..
[หลังจากไปอ่านมังงะเรื่องหนึ่งมา…ผมเลยเริ่มขี้เกียจทำอะไรให้มันซับซ้อนแล้วสิ! ตัดสินใจละเรื่องต่อไปจะเป็นแนวธรรมดา อมยิ้ม ไม่มีอะไรมาก! (?) – ผู้เขียน]