การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 96
ตอนที่ 96
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!
เสียงบรรเลงเคาะโต๊ะจากชายปริศนาคนหนึ่งดังขึ้นเป็นจังหวะทํานอง ทําลายบรรยากาศอันเงียบสงัด เขายกมืออีกข้างนวดเฟ้นขมับ ชายที่กําลังแสดงอากัปกิริยาคนนี้มีนามว่า จอห์นนี เดปป์ รองกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์สตาร์
“แมครีเบอร์และโคลอี้เสียชีวิต” จอห์นนี่บ่นในใจ
เขาพึ่งได้รับคํายืนยันจากปากหน่วยจารชน ทั้งแมครีเบอร์และโคลอี้เสียชีวิตอย่างน่าสังเวช โดยไร้โอกาสหวนคืนกลับมามีชีวิตเป็นครั้งที่ 2 สาเหตุการตายเป็นฝีมือ [คิมซูฮยอน] เพียงผู้เดียว
เป็นเพราะมัน แผนการที่วางไว้อย่างดิบดี คําว่าคว้าล้มเหลวไม่มีทางเกิดขึ้นในทางปฏิบัติ แต่การแทรกแซงของซูฮยอน ทําให้แผนการพังพินาศไม่เหลือชิ้นดี
“พวกเราควรเริ่มวางแผนปฏิบัติการจริงๆจังๆ เพื่อลบตัวตนของเขาให้หายไปจากโลกใบนี้” จอห์นนี เดปป์คิด
ที่ผ่านมาพวกเขาไม่อาจลงมือสังหารซูฮยอนได้ เนื่องจากระยะห่างระหว่างเกาหลีและสหรัฐอเมริกา มิหนําซ้ําเป้าหมายหลักในการสังหาร ไม่ได้ปรากฏตัวบนโลกแห่งความจริงบ่อยนัก
เกาหลีคือประเทศที่กิลด์ดัมพ์ มีอิทธิผลต่ํามากเมื่อนํามาเทียบกับสหรัฐอเมริกา ดังนั้นพวกเขาจึงวางแผนขยายอิทธิผล โดยใช้กิลด์เทพสงครามเป็นหุ่นเชิด แต่แล้วแผนทุกอย่างก็ล้มระเนระนาดตามเคย ผู้สลายฝันของกิลด์ดัมพ์ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก คิมซูฮยอน ขาประจํา
ในตอนนั้นกิลด์ดัมพ์คิดว่า อีกฝ่ายเป็นได้แค่เพียงเสี้ยนหนามตัวเล็กจ้อย..
“ฉันคาดไม่ถึงจริงๆ เสี้ยนหนามตัวเล็กจ้อยวันนั้น กลับแปรเปลี่ยนเป็นตัวปัญหาที่สมควรถูกกําจัดโดยด่วนที่สุด”
ข่าวการร่วมมือกันระหว่าง กิลด์ริปเปอร์ และ คิมซูฮยอน เป็นเหตุให้กิลด์ดัมพ์ประจําประเทศเกาหลีขาดความมั่นใจไปหลายส่วน
ไม่เพียงแต่เกาหลีและสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ถูกดิมพ์เพ่งเล็งโจมตี แผนการโจมตีแอบซ่อนไว้ตามมุมประเทศต่างๆทั่วโลก แต่น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่คว้าน้ําเหลวแทบทั้งสิ้น ยกเว้นประเทศจีน ทว่าการการปฏิบัติงานในประเทศจีน ไม่ราบรื่นดั่งจินตนาการไว้ เรียกว่าประสบความสําเร็จก็ไม่เชิง
เมื่อลองนําภาพรวมกิลด์ดัมพ์ตามมุมโลกมาปะติปะต่อกัน แผนการขยายอํานาจอิทธิผลของกิลด์ดัมพ์ คํากล่าวที่ตรงสถานการณ์มากที่สุดคงหนีไม่พ้นคําว่า ย่อยยับ
“คราวนี้พวกเขาได้รับความเสียหายสาหัสสากรรจ์เกินรับไหว”
ผู้ตื่นขึ้นคนสําคัญกิลด์ดัมพ์เสียชีวิต เป็นเหตุให้กิลด์หลายแห่งเริ่มขยับเขยื้อนตีตัวออกห่าง
เวลานี้กิลด์ดัมพ์ตกอยู่ในสภาพวิกฤต เสียทั้งกําลังพลและอิทธิพล เรียกได้ว่าเดินไปอีกแค่ก้าวเดียวก็เป็นขอบเหวลึก กิลด์ดัมพ์ถูกหลายฝ่ายยกย่องให้เป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว นอกจากจะสูญเสียตําแหน่งกิลด์แข็งแกร่งที่สุด ยังถูกตีหน้าว่าเป็นกิลด์อาชญากรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หนทางข้างหน้าไม่สามารถย่างก้าวได้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่พวกเขาควรกระทํา คือการเอาพรรคพวกหลบซ่อนในเงามืดอีกครา รอให้เรื่องซาลงก่อน คอยโผล่ขึ้นมารับแสงรุ่งอรุณ
“พวกเราจะกลับมาใหม่ แล้วทวงทุกอย่างกลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็น อํานาจ อิทธิพล หรือแม้กระทั้งโลกใบนี้ กิลด์ดัมพ์จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
ปัง!!!
“ท่านครับ!!!”
สมาชิกกิลด์คนหนึ่งผลุนผลันพรวดพราดเข้ามาในห้อง จอห์นนี เดปป์อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว หน้านิ่วคิ้วขมวดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“มีเรื่องอะไร นายไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้พวกเรากําลังซ่อนตัวอยู่? เสียงดังกระโตกกระตากเดี่ยวศัตรูก็รู้ที่ซ่อนของพวกเราหมด”
“ท่านครับ ตอนนี้พวกเราไม่ควรซ่อนตัวนะครับ เพราะพวกเรากําลังประสบปัญหาใหญ่”
“ปัญหาอะไร?”
“สาขาย่อยกิลด์ดัมพ์กําลังถูกโจมตีครับ!!”
“อะไรนะ!!”
จอห์นนี เดปป์ตกใจเบิกตาโพลง เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว กิลด์ดัมพ์ขึ้นชื่อเรื่องความลี้ลับ มีน้อยคนมากที่รู้การมีอยู่ของพวกเขา ที่ผ่านมาข้อมูลเกี่ยวกับกิลด์ดัมพ์ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งกบดานหรือเป้าหมายภารกิจถูกเก็บไว้เป็นความลับสูงสุด
แต่ตอนนี้สถานที่หลบซ่อนลับกลับถูกลอบโจมตี แสดงว่าข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับกิลด์ดัมพ์รั่วไหลออกไปวงนอกแล้วก็ได้
“ความเสียหาเป็นไงบ้าง? ใครเป็นคนโจมตี?” จอห์นนี่ เดปป์ถาม
“พวกเราถูกโจมตีย่อยยับไปแล้วทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน ชนวนการโจมตีเริ่มต้นจากกิลด์โนแลน ผมคิดว่าอีกไม่นานเป้าหมายโจมตีต่อไปคงเป็นพวกเรา”
“ไม่จริง…”
ยิ่งได้ฟัง อารมณ์ความรู้สึกยิ่งดึงฮวบลงเหว
“ไอ้บ้าหน้าไหนกล้าโจมตีกิลด์ดัมพ์?”จอห์นนี เดปป์คิด
“หรือว่าจะเป็นคิมซูฮยอนคนนั้น?”
จอห์นนี่ เดปปลุกพรวดออกมาจากเก้าอี้ ชื่อที่เขาเกลียด และไม่อยากหวนถึงแล่นเข้ามาในหัว…
เสียงบ่นพึมพําจากความคิดของจอห์นนี่ดังออก สมาชิกกิลด์ที่รายงานสถาณ์พยักหน้าอย่างเดียดฉันท์
“ท่านเข้าใจถูกต้องครับ และ…”
“และอะไร?”
“เขาไม่ได้ลงมือทําเพียงคนเดียว” สมาชิกกิลด์ตอบกลับด้วยสีหน้าซีดเซียว
“มีพัคจียอนจากประเทศเกาหลีและเพื่อนชายอีกคนที่มีความสามารถควบคุมสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ที่สําคัญ จอร์แดน โรเจอร์ส และ กิลด์แม็กซิมั่ม กลุ่มหัวจมท้ายด้วยเช่นกัน”
ใบหน้าจอห์นนี เดปป์ซีดเผือด
“ท่านครับ นี่คือสงคราม”
“บัดซบ” จอห์นนี เดปป์ขบกรามแน่น ความเสียหายจากการโจมตี กระจายวงกว้างกว่าที่คิดไว้พอสมควร…
ตูม!!
ขณะที่พวกเขากําลังพูดคุยหารือกันอยู่นั้น แรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ดังออกมาจากชั้นล่างสุด
“ไม่จริง…” จอห์นนี เดปป์ สัมผัสได้ว่ากลางอากาศมีคลื่นพลังเวทย์บางๆ ลอยตามสายลมอ่อนๆมากระทบผิว
“อย่าบอกนะว่า เขาอยู่ที่นี่?”
ตูม!!!
วุป!! วุป!!
เปลวเพลิงสีแดงฉานยังคงลุกโชนวนรอบตัวซูฮยอน ผู้ตื่นขึ้นหลายสิบคนยืนโอบล้อมรอบตัวเขา
ในจํานวนผู้ตื่นขึ้นครึ่งหนึ่งเป็นสมาชิกกิลด์ดัมพ์ สภาพภายในอาคารพังทลายไม่เหลือเค้าเดิม
“ถ้ายังไม่อยากตาย อย่าได้คิดขัดขืน” ซูฮยอนพูด
กรอบ!!
“อ้ากกกก!!!”
ผู้ตื่นขึ้นคนหนึ่งถูกซูฮยอนบังคับฝืนใจคุกเข่าลงไปกับพื้นไหล่ของเขาโดนฝ่ามือบีบจนปนละเอียด
“หากคิดขัดขืน ฉันก็รับประกันไม่ได้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“กะ-แกไม่คิดถึงความลําบากของตัวเองเลยหรือไง หลังจากนี้แกไม่มีทางอยู่อย่างสงบสุขแน่ แกเคยคิดบ้างไหมการกระทําของแก จะส่งผลกระทบอะไรกลับไป” เขาพูดเสียงกร้าว
“ฉัน? สงบสุข?”
“แกสร้างความวุ่นวายและใช้กําลังประทุษร้ายกิลด์บริสุทธิ์ ผู้มีอํานาจไม่มีทางปล่อยแกให้ลอยนวลแน่”
สายตาซูฮยอนถมึงทึง บรรยากาศโดยรอบเยือกเย็นลงฉับพลัน “นายรู้ไหม เมื่อนานมาแล้ว เคยมีคนพูดถ้อยคําคล้ายๆนายมาแล้ว”
จองดงยองกิลด์มาสเตอร์เทพสงคราม เคยพูดถ้อยคําคล้ายๆแบบนี้มาก่อน
“แล้วรู้ชะตากรรมสุดท้ายของคนๆนั้นหรือป่าว? ฉันคนนี้เนี่ยแหละที่ลงมือฆ่าเขากับตัวเอง สุดท้ายฉันก็ยังอยู่สงบสุขดี ไม่เห็นหรือไง อืม…หรือว่าฉันตายไปนานแล้ว แต่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ และตอนนี้เป็นแค่ร่างไร้วิญญาณ”
เมื่อเห็นท่าทางตอบแสนเย็นชา ผู้ตื่นขึ้นหลายคนเผลอผละเท้าถอยหลัง
“ฉันให้โอกาสพวกแกเป็นเวลา 10 วินาที”
“ทุกคนที่อยู่บริเวณนี้ หากยังรักตัวกลัวตาย โปรดคุกเข่า ก้มหน้าลง”
ออร่าพลังเวทย์กระจายตัวบีบอัดอากาศ ออกซิเจนลดทอนลง ร่างกายผู้ตื่นขึ้นทุกคนสั่นผวา ไม่มีใครกล้าโจมตีซูฮยอนเลยสักคน
“สิบ เก้า แปด เจ็ด หก…”
เวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ ซูฮยอนแบมือแล้วพับนิ้วลงที่ละนิ้วตามจํานวนเลข.
ตึก!!! ตึก!!!
ผู้ตื่นขึ้นบางคนเริ่มคุกเข่าลงไปกับพื้น บางคนถึงขั้นเอาศีรษะติดพื้นเลยที่เดียว แต่ก็มีบางคนที่ยืนหยัดจนวินาทีสุดท้าย ไม่รู้เป็นเพราะศักดิ์ศรีหรือความจงรักภักดีต่อกิลด์ดัมพ์กันแน่!
“สอง หนึ่ง”
ฟรีบ!!
ร่างกายซูฮยอนหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ ไปปรากฏตัวต่อหน้าชายหนุ่มคนหนึ่ง
ข้อมือแข็งแรงคล้าจับลําคอของชายคนนั้นเอาไว้
กรอบ!!
ชายหนุ่มเคราะห์ร้ายไม่ทันได้ตอบสนอง ลําคอของเขาถูกบิดผิดรูป ซูฮยอนปล่อยร่างกายไร้วิญญาณอย่างไร้เยื่อใย
ร่างไร้วิญญาณล้มนอนกองกับพื้น ซูฮยอนกวาดสายตามองผู้ตื่นขึ้น พวกเขานั่งคุกเข่าเนื้อตัวสันงก…
“นั่งอยู่กับที่ ห้ามขยับไปไหน ถ้าขยับ ชะตากรรมของพวกนายจะไม่ต่างอะไรกับชายหนุ่มคนนี้” ซูฮยอนเอ่ย
“คะ..ครับ ผมเข้าใจ!!”
“รับทราบครับ!!”
พวกเขาตอบกันด้วยน้ําเสียงพรั่นพรึง ซูฮยอนเลิกสนใจพวกเขาและหันไปมองผนังเพดานด้านบน
หรือ!!!
เขาชักดาบออกมาจากฝัก โคจรพลังเวทย์ให้แล่นทั่วตัวดาบ และเจาะทะลุเพดานขึ้นไป
ซูฮยอนเจาะตั้งแต่ชั้นที่หนึ่ง จนถึงชั้นดาดฟ้า
“อีก!!”
การปรากฏตัวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของซูฮยอน ทําให้สีหน้าจอห์นนี เดปป์หมองคล้ําอกสั่นขวัญแขวน
ข้างตัวของจอห์นนี มีสมาชิกกิลด์ติดตามมาด้วยจํานวนหนึ่ง
“ฉันคิดว่านายเป็นลูกผู้ชายซะอีก หนีเป็นหมาเลยนะ” ซูฮย อนพูด
“แกบ้าไปแล้วหรือไงรู้ไหมแกกําลังก่อเรื่องผิดมหันต์อยู่?”
จอห์นนี เดปป์ คือผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A ถูกผู้อื่นยกย่องว่าเป็น คนมากความสามารถและมีทักษะไม่เป็นสองรองใคร
แต่ตอนนี้เขาไม่มีความกล้าต่อกรกับซูอยอนแม้แต่น้อย เพราะรู้ดีหากหุนหันพลันแล่น ฝ่ายพลาดพลั้งคงหนีไม่พ้นตัวเอง
“ผิดมหันต์? ฉันไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหน นึกว่าแกได้ยินคําปาวประกาศของฉันแล้วซะอีก ที่บอกว่าวาระสุดท้ายของกิลด์ดัมพ์ คือเจตนารมณ์ดั้งเดิมของฉัน”
“หึ อยากทําตัวเป็นฮีโร่หรือไง คิดว่าการกระทําของแกวิเศษวิโสควรค่าแก่คําสรรเสริญ? แต่หารู้ไม่ทางเดินที่แกเลือกจะเป็นหลุมฝังศพของแก”
“พวกแกเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่นตั้งแต่ตอนไหนกัน เก็บความหวังดีไปห่วงตัวเองเถอะ”
“ว่าไงนะ?”
ฉัวะ!!
ซูฮยอนตวัดดาบแทงทิศทางด้านหน้า จอห์นนี่รีบยกแขนขึ้นมาบล็อกการโจมตี
เพื่อเซฟชีวิตตัวเองอีกชั้นเขาไม่ลืมปล่อยพลังเวทย์ออกมาสร้างม่านป้องกัน ดูจากความเร็วในการร่ายสกิล เหมือนจอห์นนี่จะเชี่ยวชาญสกิลป้องกันพอสมควร
ผู้ตื่นขึ้นที่ยืนอยู่ข้างหัวขาดตายไปโดยไม่ทันกล่าว จอห์นนี เดปป์มองสภาพศพไร้หัวแล้วกลืนน้ําลาย
ซูฮยอนเหวี่ยงวิถีดาบมาทางจอห์นนีอย่างมุ่งมั่นเอาเป็นเอาตาย อีกฝ่ายมีความตั้งใจหวังสังหารให้ตายคาที่จริงๆ
“ไม่ดีแน่ ฉันควรหาทางหนีจากมันให้ได้” จอห์นนี้ เดปป์คิด
เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อเตรียมหาทางหนีทีไล่ แต่แล้วก็ต้องเจอกับความประหลาดใจ ซูฮยอนที่ออกท่าทางโจมตีอยู่ ด้านหน้ากลับหายไปไหนก็ไม่ทราบ เขารีบกวาดตามองบริเวณรอบๆ
“แม่งเอ้ย แน่จริงก็ออกมาสิวะ อย่ามัวแต่แอบ”
จอห์นนี เดปป์รวมรวมพลังเวทย์ทั้งหมด สร้างเป็นม่านป้องกันรอบตัวซ้อนทับหลายๆชั้น เหงื่อไคลเย็นเฉียบไหลพรากออกมา ความกลัวกัดกินจิตใจ เมื่ออยู่ใต้มานพลังเวทย์เขารู้สึกได้ถึงความปลอดภัย
แต่….
“แกคิดจริงๆเหรอว่า ม่านพลังเวทย์กระจอกๆของแก จะช่วยชีวิตแกได้?”
เสียงส่งตรงมาจากด้านบน จอห์นนี เดปป์ แหงนหน้าขึ้น
มอง
[สกิลจําแลง : อิมกิ]
เกล็ดอิมก็ขึ้นเคลือบชั้นผิวหลังของซูฮยอน จอห์นนี่ เดปป์มองเหตุการณ์เหนือธรรมชาติตรงหน้า ด้วยลูกตาถลน )
“มะมังกร?”
ฟรี่บ!
ซูฮยอนพุ่งพรวดตวัดดาบเข้าหาจอห์นนี คมดาบฉีกกระชากสกิลม่านพลังเวทย์ขาดครึ่งพร้อมร่างเจ้าของ
เพล้ง
“อ้ากกกกก
ร่างกายของ จอห์นนี เดปป์ ค่อยๆปริแตกแยกเป็น 2 ซีก ซูฮยอนสลัดเลือดที่เกาะอยู่ตามดาบเป็นริ้วยาวๆ เมื่อสะอาดหมดจดก็เก็บเข้าฝักเหมือนเดิม
“เฮ้อ…ปิดฉากลงซัก
ที่ซูฮยอนกําลังเหยียบย่ําอยู่ตอนนี้ คือเป้าหมายการโจมตี จุดที่ 4 ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขากวาดล้างกิลด์และบริษัทหลายแห่งที่มีความเกี่ยวพันธ์กับกิลด์ดัมพ์ในแผ่นดินสหรัฐอเมริกาโดยตรง
อํานาจกิลด์ดัมพ์ในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ เรียกได้ว่าลดหน่อยต่ําลงไปเยอะมาก
ซูฮยอนหยิบมือถือขึ้นมาโทร ถือสายรอไม่นานจอร์แดนก็กดรับ..
“นายทําสําเร็จแล้วเหรอ?”
“อืม…เรียบร้อยแล้ว ทางนายเป็นไงบ้าง”
“ทางเราก็ใกล้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน นับว่าโชคดีรอบข้าง ไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ เลยจัดการเคลียร์พื้นที่ได้ไวจริง ฉันลองสืบค้นข้อมูลของกิลด์ดัมพ์มาคร่าวๆ ดูเหมือนพวกมันจะปกปิดอําพรางตัวเองมาได้หลายปีเพื่อก่อร่างสร้างตัว ฉันนับถือใจพวกมันจริงๆปิดข้อมูลซะมิดเซียว รั่วไหลซักนิดก็ไม่มี”
“คุณเช็คแน่ใจแล้วใช่ไหม ว่าไม่มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน?”
“แน่ใจสิ นายไม่ต้องวิตก พวกเขาตั้งโต๊ะคุยเจรจาได้ง่ายกว่าที่คิด ส่วนใหญ่เลือกยอมจํานน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เลือกสู้ ทางนายเองสถานการณ์คงเหมือนฉันใช่ไหม?”
“คล้ายๆกัน แต่ทางฉันไม่เรียกเจรจา เรียกว่าข่มขู่เหมาะสมกว่า”
ซูฮยอนเผยรอยยิ้มลาก เมื่อนึกภาพผู้ตื่นขึ้นดัมพ์นั่งคุกเข่าเป็นเด็กดีเชื่อฟังโอวาทผู้อาวุโส
“ข้ามเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆน้อยๆเถอะ ไม่น่าเชื่อว่ากิลด์ดัมพ์จะหยั่งรากลึกอยู่ในแผนดินสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานานขนาดนี้ แถมยังมีกฎระเบียบตายตัวมากกว่าที่คิดไว้อีก ไม่รู้ว่านอกจากสหรัฐอเมริกากิลด์ดัมพ์แพร่อิทธิพลไปถึงไหนแล้ว”
“กิลด์แม็กซิมั่มได้รับความเสียหายบ้างไหม?”
“กิลด์ของฉันได้รับความเสียหายนิดหน่อย พอดีได้รับความช่วยเหลือจากสํานักงานใหญ่เลยลดความเสียหายลงไปได้บ้าง ฉันคิดว่าตอนนี้กิลด์ดัมพ์คงหมดอํานาจบาตรใหญ่ในสหรัฐอเมริกาแล้วมั้ง”
ขั้นตอนปฏิบัติงานทุกอย่างราบรื่นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ซูฮยอนมุ่งมั่นถอนรากถอนโคนกิลด์ดัมพ์ให้ได้ก่อนที่พวกมันจะขยาดอํานาจอิทธิพลไปมากกว่านี้ เขาคิดไว้ว่าการจัดการพวกมันให้หมด น่าจะกินเวลานาน แต่ที่ไหนได้หญ้าปากคอกชัดๆ
“กองกําลังกิลด์ดัมพ์เล็กกว่าความคิดของฉันพอสมควร”
กิลด์ดัมพ์ในอดีตที่ซูฮยอนจําความได้นั้นมีขนาดใหญ่กว่านี้หลายเท่าตัว ต่อให้ประเทศเกาหลีกิลด์ดัมพ์จะมีอิทธิพลปกคลุมไม่ทั่วถึง แต่มีกิลด์หลายแห่งคอยเป็นหุ่นเชิดอํานวยความสะดวกให้อย่างลับๆ กว่ากองกําลังกิลด์ดัมพ์จะพัฒนาความแข็งแกร่ง จนสามารถควบคุมทุกหย่อมหญ้าต้องใช้เวลาถึงนาน5ปี
ต้องขอขอบคุณข้อมูลสําคัญที่ซูฮยอนได้รับมาจากปากของโคลอี้ และแมครีเบอร์ มันเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และช่วยเหลือเขาได้มาก ทําให้กลุ่มซูฮยอนทราบถึงที่ตั้งกิลด์ดัมพ์ และกิลด์ไหนบ้างมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับกิลด์ดัมพ์
“ผมขอปล่อยปัญหาคาราคาซังเล็กๆน้อยๆที่เหลือให้พวกคุณจัดการเคลียร์เอาเองก็แล้วกัน คุณพอช่วยเตรียมเครื่องบินให้ผมหน่อยได้ไหม?”
“นายกําลังจะไปไหนต่อ?
“ประเทศจีน
“ประเทศจีน? ไปทําไมกัน? นายไม่รู้เหรอว่าสถานการณ์ในประเทศจีนตอนนี้ฉุกละหุกสุดๆ”
จีนเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศเป้าหมายโจมตีของกิลด์ดัมพ์ และยังเป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายมากกว่าประเทศอื่นๆจากการโจมตีครั้งนี้ ระหว่างปฏิบัติภารกิจการโจมตีดันเจี้ยนในกรุงปักกิ่ง มีผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S เคราะห์ร้ายเสียชีวิต
“หลินจือหมิง เธอเป็นดาราชื่อดังที่มีความนิยมมากๆในประเทศจีน นอกจากประเทศจีนชื่อเสียงของเธอยังโด่งดังขจรไปถึงฮอลลีวูด ชาวจีนจํานวนมากตกใจกับข่าวเสียชีวิตของเธอ”
“ทางด้านดันเจี้ยนเป็นไงบ้าง มีความเสียหายน่าเป็นห่วงอะไรเกิดขึ้นไหม?”
“ไม่มีการโจมตีดันเจี้ยนประสบความสําเร็จ เพราะทางหน่วยงานส่งผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S2 คนเข้าไป แม้ภายในดันเจี้ยนจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น อย่างน้อยพวกเขาก็นําชัยชนะกลับมาได้”
ประเทศจีนมีผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ด้วยกันทั้งหมด 4 คน เมื่อลองไปเปรียบเทียบกับสัดส่วนจํานวนประชากรแรงค์ S มีเพียง 4 คน ซึ่งถือว่ามีน้อยมาก นอกจากแผ่นจีนประเทศจีนยังมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ดันเจี้ยนจึงโผล่ขึ้นมาเยอะกว่าประเทศอื่น ในสถารการณ์ที่ต้องต่อสู้กับแผนการชั่วร้ายของกิลด์ดัมพ์ทํา ในประเทศจีนสูญเสียผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ไปหนึ่งคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“นายคิดอะไรอยู่ ทําไมถึงอยากไปประเทศจีน อย่าบอกนะว่านายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของหลินจือหมิง นายเลยอยากแก้แค้นแทนเธอสินะ”
“ใช่ซะที่ไหน”
จอร์แดนถามแซมติดตลก แต่ซูฮยอนไม่มีอารมณ์ขันร่วมด้วย สีหน้าของเขาจริงจังสุดๆ
“ฉันอยากได้ตัวการที่บงการอยู่เบื้องหลัง”
“ตัวการนายหมายถึงหัวหน้าพวกมัน?”
“ถูกต้อง ถ้าปล่อยให้หัวหน้าของพวกมันลอยหน้าลอยตาต่อไป กิลด์ดัมพ์มีโอกาสผงาดโผล่ขึ้นมารอบที่ 2 โดยเปลี่ยนชื่อใหม่”
ได้ยินคําพูดของซูฮยอน จอร์แดนช่วยไม่ได้ต้องนิ่งเงียบไป ครุ่นคิดไม่นานเขาก็เปิดปากพูดด้วยความห่วงใย
“นายเอาจริงเหรอ? เราไม่รู้ด้วยซ้ําว่าใครเป็นหัวหน้า แต่ตัวตนของเขาต้องแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย หลินจือหมิงเสียชีวิต ผู้ตื่นขึ้นอีก 2 คนก็ได้รับบาดเจ็บอีก”
ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S 2 คนถูกรอบโจมตี มีคนหนึ่งเสียชีวิต ส่วนอีกคนก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด ต่อให้ซูฮยอนแข็งแกร่งเทียมฟ้า จอร์แดนก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดี
“คุณไม่ต้องกังวล” ซูฮยอนตอบด้วยนัตน์ตาแวบวับ
“ผมฆ่ามันได้แน่ ผมมั่นใจ”
ซูฮยอนพูดจบรีบกดว่างสาย โดยไม่ยอมให้จอร์แดนทักท้วง ภารกิจบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกายุติลงด้วยดี การโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินและการกวาดล้างสาขากิลด์ดัมพ์ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาสู่บทสรุปสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย
ตอนนี้สิ่งที่เหลือรอให้ซูฮยอนจัดการอีก คือการสังหารสมาชิกกิลด์ดัมพ์ทุกคนที่มีใจจงรักภักดีขึ้นสมอง
“หลินจือหมิงเสียชีวิต”
การตายของเธอไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เขาทําใจไว้แล้วยังไงเธอก็หนีความตายไม่พ้น แถมยังมีโอกาสเป็นไปได้อาจมีผู้ตื่นขึ้นเสียชีวิตถึง 2 คน โชคดีที่อีกคนยังไม่ถึงคราวเคราะห์ แม้เขาจะรอดชีวิต แต่การโจมตีดันเจี้ยนจบลงไป อย่างทุลักทุเล
ความพยายามของเขาไม่อาจดูแคลนได้เลยจริงๆ ตัวเองบาดเจ็บสาหัส ยังสามารถพยุงร่างกายแสนบอบช้ําตะลุยเคลียร์ดันเจี้ยนได้สําเร็จ หากเขาเสียชีวิตเมืองปักกิ่งคงถึงคราวล่มสลายอย่างสิ้นเชิง
“ไม่รู้ปานนี้มันไหวตัวหรือยัง?”
ซูฮยอนขบเขี้ยวเคี้ยวพัน นัยน์ตาของเขาจรัสแสงขมุกขมัว กิลด์มาสเตอร์ของกิลด์ดัมพ์เป็นคนทุราจารเหลือทน เท่าที่ซูฮยอนเคยรู้จัก คํานิยามว่า ระยําตําบอน น้อยเกินไปสําหรับคนอย่างมัน