การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 20
ตอนที่ 20
“มีคนติดต่อมาแล้ว”
“จริงดิ ตอนนี้เนี่ยนะ”
“ใช่ เขาบอกว่า เขาอยู่แรงค์ C”
“นายแน่ในนะ เขาคงไม่ใช่นักต้มตุ๋นหลอกนะ ได้ยินว่านายโพสต์ลงในเว็บไซต์ อเวจีออนไลน์ ด้วยใช่ไหม ในนั้นคนหลอกลวงอยู่เยอะเต็มไปหมด ”
“ฉันว่าไม่น่าใช่นักต้มตุ๋นหรอก แต่ถ้าใช้ ฉันจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียเวลาซะเลย”
“อืม..ถ้าเป็นแบบนั้น..”
คงไม่มีไอ้บ้าคนไหนคึกคะนองแล้วติดต่อกลับมาก่อกวนหลอกนะ
ถ้ามาก่อกวนละก็ โดนฟ้องจนหมดตัวแน่
ดูเหมือนคนที่ติดต่อกลับมา ต้องการเข้าร่วมทีมกับพวกเขาจริงๆ
“แล้วคนที่ติดต่อมาชื่ออะไรหล่ะ”
“ชื่อของเขา ทั้งนายแล้วฉันก็เคยได้ยินมันมาก่อน”
“เขาคือใครกัน”
“คิมซูฮยอน”
“เอาจริงดิ คิมซูฮยอนคนนั้นเหรอ”
คิมซูฮยอน ชื่อของ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่โด่งดังและมีการพูดคุยกันอย่างแพร่หลาย
เพราะเขามีความสามารถที่โดดเด่น ทุกๆชั้นที่เขาเหยียบย่ำ เขามักจะได้อันดับที่ 1 เสมอ
อีกเหตุผลที่ตัวตนของ คิมซูฮยอน โด่งดัง ก็คือ..
เขาเป็นบุคคลลึกลับมากๆ แม้แต่ แรงค์ ก็ไม่มีใครทราบเลยซักคน
“ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นตัวจริง ทำไมแรงค์ของเขาถึงน้อยจัง เมื่อลองดูผลงานที่ผ่านๆมาของเขา อย่างน้อยเขาก็ควรได้แรงค์ B สิถึงจะถูก”
“หืม..นายจะบอกว่ามีคนชื่อเหมือนกันเหรอ”
“น่าจะยังงั้น”
“จริงสิ เขายังไม่ได้สังกัดกิลด์ไหนเลยสินะ”
“ใช่ เขาไม่ได้สังกัดกิลด์ไหนเลย ข้อมูลส่วนตัวของเขาก็มีนิดเดียวเอง”
ในขณะที่ลีจุนโฮกำลังพิมพ์ข้อความตอบกลับไป อยู่ๆเขาก็ตะโกนขึ้น “เฮ้ย คิมซูฮยอนตัวจริงนี่หว่า”
……….
เริ่มต้นวันใหม่ ของปี 2020
มันเป็นวันที่ซูฮยอนคิดว่าเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน
“เดี๋ยวผมจะรีบกลับมาครับ”
เมื่อซูฮยอนกินข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย
เขาก็เตรียมตัวออกจากบ้านทันที
วันนี้เป็นวันที่ ชินซูย็องหยุดงาน เธอจึงหาวออกมาก็อย่างขี้เกียจ
“ลูกจะกลับบ้านช้า อีกแล้วใช้ไหม”
“น่าจะเหมือนเดิมครับ”
“โทรบอกแม่ด้วย ท่าลูกกลับบ้านช้า”
ในเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ซูฮยอนกลับบ้านดึกเกือบทุกวัน เขากลับมาดึกยิ่งกว่าแม่ของเขาซะอีก
“ได้ครับ. เดียวผมส่งข้อความมาหา”
เมื่อซูฮยอนพูดจบ เขาก็รีบออกจากบ้านทันที
บอกตรงๆว่า เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใช้เวลานานขนาดไหน
ซูฮยอนนั่งรถไฟใต้ดินแล้วต่อด้วยรถบัส
ไม่นานเขาก็มาถึง เมือง กวางจู จังหวัด คย็องกี
ซูฮยอนหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรไปที่เบอร์ของหัวหน้าทีม
เมื่อซูฮยอนเดินทางมาถึงจุดนัดหมาย
เขาก็เจอเข้ากลับกลุ่มคน ที่รวมตัวกันอยู่ที่ลานกว้าง
เมื่อพวกเขาเห็นซูฮยอนมาถึงแล้ว
พวกเขาก็โบกมือเรียกซูฮยอนให้ไปหา
“เฮ้ พวกเราอยู่นี้”
คนที่รวมตัวกันอยู่มีประมาณ 6 คน
พวกเขาทั้งหมดคือทีมที่ซูฮยอนจะต้องร่วมทางไปด้วย
“คุณคือ คิมซูฮยอนใช่ไหม”
“ใช่ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“อืม ยินดีที่ได้รู้จัก จริงสิพวกเราพึ่งเคยเจอกันครั้งแรกสินะ ผมชื่อ ลีจุนโฮ ส่วนตรงนี้ก็…”
ลีจุนโฮ แนะนำสมาชิกในทีมให้ซูฮยอนรู้จัก
“คุณคือคิมซูฮยอนตัวจริงใช่ไหม”
ลีอึนมี ‘ผู้ตื่นขึ้น’ แรงค์ C มองดูซูฮยอนด้วยสายตากระจ่างใส
ชื่อของ คิมซูฮยอน มักเป็นชื่อที่ถูกผู้คนพูดถึง
ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ถ้าเธอจะสนใจคนตรงหน้า
ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่สนใจ แม้แต่คนอื่นก็สนใจด้วยเช่นกัน
พวกเขาต่างพากันเคลียร์หูให้โล่ง แล้วรอฟังคำตอบของซูฮยอน
แต่เสียงที่ตอบกลับมา ไม่ใช่เสียงของซูฮยอน แต่กลับเป็นเสียงของ ลีจุนโฮแทน
“แน่นอน มันจะเป็นใครไปได้อีกนอกจาก คิมซูฮยอนที่โด่งดังคนนั้น เขาพึ่งได้แรงค์ C เมื่อไม่กี่วันเอง”
“ว๊าว”
“โห้”
ซูฮยอนหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นรีแอดชั่น ที่พวกเขาแสดงออกมา
โชดดีที่พวกเขาไม่ใช่คนขี้สงสัย
ไม่งั้นซูฮยอนต้องกลับไปนัังคิดเรื่องโกหก และมาแก้ตัวที่หลังแน่ๆ
“จริงสิ คุณไปรายงานสำนักงานหรือยัง เรื่องเคลียร์ดันเจี้ยนนะ”
“เรียบร้อยแล้ว”
“แล้ว คุณถนัดตำแหน่งไหนเป็นพิเศษไหม แล้วอาวุธที่คุณใช้ คืออะไรล่ะ”
“ผมถนัดทุกตำแหน่งนะ ส่วนอาวุธที่ผมใช้บ่อยที่สุดก็คงเป็น ดาบ รองลงก็ หอก แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวผมไม่มีของอะไรเลยนะ ผมมีแต่ดาบ ที่พึ่งยืมมาจากสำนักงานเมื่อสักครู่นี้เอง”
การที่จะเอาอาวุธ ออกมาจากหอคอยแห่งการทดสอบ เป็นเรื่องที่ยุ่งยากเป็นอย่างมาก
เขาต้องกรอกแบบฟอร์มที่ซื้อได้จากสำนักงานเท่านั้น
ที่สำคัญ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่ต่ำกว่าแรงค์ B ลงไป
แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถซื้อแบบฟอร์มจากสำนักงานได้
ไม่ใช่แค่นั้น คุณยังต้องเสียคะแนนความสำเร็จบางส่วน ในการนำอาวุธออกมาอีกด้วย ซึ่งมันเป็นจำนวนที่เยอะมากๆ
เพราะฉะนั้น ซูฮยอนจึงต้องเช่าดาบจากทางสำนักงานมาก่อน ถึงแม้ค่าเช่าดาบจะแพงหูฉีกก็ตาม
แต่ซูฮยอนก็มั่นใจว่าถ้าเขาเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้สำเร็จ เขาจะได้รับเงินมากพอ ที่จะจ่ายค่าเช่าดาบเล่มนี้
“จริงสินายคงมา เคลียร์ดันเจี้ยนเป็นครั้งแรกสินะ ครั้งแรกอาจจะสับสนเล็กน้อย เดียวฉันจะอธิบายในฟังระหว่างเดินทางไปดันเจี้ยนแล้วกัน”
“ขอบคุณ”
ระหว่างทางที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปดันเจี้ยน ลีจุนโฮ แบ่งปันข้อมูลต่างๆเกี่ยวดันเจี้ยนให้ซูฮยอนฟัง
ถึงแม้ข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นเคล็ดลับการเคลียร์ดันเจี้ยนก็ตาม
ในสมาชิกปาร์ตี้ทั้งหมด มีอยู่คนหนึ่งที่ชอบยกยอตัวเอง ว่าเก่งนักเก่งหนา
ซึ่งมันทำให้ซูฮยอนรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก
เมื่อพวกเขาเดินมาได้สักระยะ
พวกเขาก็เจอรถยนต์จอดรออยู่ทั้งหมด 2 คัน
พวกเขาทั้ง 7 คน แบ่งกลุ่มกันไปขึ้นรถยนต์ทั้ง 2 คัน เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ภูเขาย่าชิ
เมื่อพวกเขามาถึงภูเขาย่าชิ พวกเขาก็เจอเข้ากลับทางเข้าดันเจี้ยนที่มี คนจากสำนักงานเฝ้าอยู่
ลีจุนโฮหัวหอกในการเคลียร์ดันเจี้ยนในครั้งนี้ ได้เดินไปคุยกันเจ้าหน้าที่
ใช่เวลาคุยไม่นาน ลีจุนโฮก็เดินกลับมา แล้วสั่งให้พวกซูฮยอนเตรียมตัวให้พร้อม
“น่าแปลกจัง ทำไมนายถึงดูไม่ค่อยกังวลเลย” ผู้ที่พูดขึ้นมีชื่อว่า คิมเยอึน เธอเป็นหญิงสาวที่มีผมสั้นๆเท่าติ่งหู
ซูฮยอนเดินเข้าไปข้างเธอและกระซิบเบาๆ “ใครบบอก ฉันกังวลจะตาย”
“จริงเหรอ แต่ท่าทางและสีหน้าของนายมันดูผ่อนคลายจัง”
“อะแฮ่ม พอดีว่าฉันแสดงความรู้สึกทางสีหน้าไม่ค่อยเก่งเท่าไร”
“จริงเหรอ พวกเราสองคนเหมือนกันเลยนะ ฉันก็กังวลอยู่เล็กๆอยู่เหมือนกัน”เยอึนตัวสั่นเล็กน้อย
“ทำไมหล่ะ เธอกังวลเรื่องอะไรเหรอ หรือว่าเธอพึ่งเคยเข้าดันเจี้ยนเป็นครั้งแรก” ซูฮยอนถาม
“เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“แล้วมันเรื่องอะไรกัน”
“ฉันรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เมื่ออยู่ต่อหน้ากับคนพวกนั้น”เยอึนชี้ไปทางลีจุนโฮและเหล่าเพื่อนร่วมทีมที่รวมตัวกันอยู่
สายตาของซูฮยอนหรี่ลง เมื่อได้ยินคำตอบจากเยอึน
“หืม..งั้นเหรอ พวกเขาเคยทำเรื่องเลวร้ายกับเธอเหรอ เธอถึงกลัวพวกเขาจัง”
“ไม่ใช่แบบนั้น แต่ว่า..”
เยอึนสายหัวไปมา
“ไม่มีอะไรหรอก สงสัยฉันคงคิดมากไปเอง” เยอึนกล่าว
“อืมเข้าใจแล้ว”
เมื่อเห็นว่า ซูฮยอน พยักหน้า เยอึนก็สำราญใจขึ้นมาทันที ดูเหมือนจะมีคนเห็นด้วยกับเธอ
เยอึนตบไหล่ของซูฮยอนเบาๆ
“นายก็คิดแบบเดียวกับฉันใช่มั้ย?”
“อ่า..ก็นิดหนึ่ง”เสียงของซูฮยอนตอบกลับแบบตะกุกตะกัก
ทว่า..ในใจของซูฮยอนเริ่มมีข้อสงสัย
<>
ซูฮยอนมองไปที่ทางเข้าดันเจี้ยน ที่ส่องแสงสว่างสีส้มอ่อนๆออกมา
<>
ดันเจี้ยนแทบทุกแห่ง ถ้าอยากเคลียร์มันได้แบบไม่ต้องเหนื่อย ต้องหาสมาชิกปาร์ตี้ให้ได้อย่างน้อย 7 คน
แต่ช่วงเวลานี้ ได้มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นเป็นประจำ
ปาร์ตี้ที่ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ รวบรวมกันมาเสียชีวิตลงไปอย่างปริศนา
มีหลายเรื่องให้น่าสงสัย เช่น ปาร์ตี้ที่เข้าไปในดันเจี้ยน ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตไปทั้งหมด 6 คน มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่รอดมาได้
<>
ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสันนิษฐานว่า พวกเขาอาจจะพลาดท่าเองก็ได้
เพราะไม่มีใครรู้ว่าในดันเจี้ยนเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ซูฮยอนหวังว่าเขาจะพบเบาะแสของมันในที่แห่งนี้
เพราะเขาไม่อยากกลับออกมาเพียงคนเดียว
<>
เริ่มต้นปี 2020
ผู้คนมากมายต่างก็ฉลองปีใหม่กับครอบครัวอย่างสนุกสนาน
แต่ก็มีบางคนที่จบชีวิตลงอย่างเวทนาในดันเจี้ยนที่โผล่ออกมาตามที่ต่างๆของโลก
ดันเจี้ยนตามพื้นที่ต่างๆจะแบ่งความยากของมันตามระดับสี
สีที่มาแบ่งความยากของดันเจี้ยนมีทั้งหมด 7 สี 7 ระดับ
ระดับที่ต่ำที่สุดคือสีแดง ส่วนระดับที่สูงที่สุดคือสีม่วง
ยิ่งสีของดันเจี้ยนเข้าใกล้สีม่วงมากเท่าไหร่
ความยากของมันไม่ต้องพูดถึง มันโคตรของโคตรยาก
แต่ในช่วงเวลานี้ ดันเจี้ยนที่ยากที่สุด เป็นดันเจี้ยนระดับเงินเท่านั้น
ระดับที่มากกว่านี้ยังคงไม่โผล่ออกมา
สำหรับซูฮยอนดันเจี้ยนระดับสีม่วงที่เขาเคยเจอ มันปรากฏออกมาแต่ครั้งเดียวเท่านั้น
มันก็คือดันเจี้ยนของ ฟาฟเนียร์
มอนสเตอร์ผู้นำโลกมนุษย์สู่การล่มสลาย
ซูฮยอนมั่นใจว่า เจ้าอสูรกายฟาฟเนียร์มันจะต้องออกมาจากดันเจี้ยนที่ไหนสังที่อย่างแน่นอน
<>
ซูฮยอนมองไปที่ทางสู่ดันเจี้ยน
เส้นทางเข้าสู่ดันเจี้ยน มันก็เหมือนกับประตูมิติในภาพยนตร์แฟนตาชีทั่วไป
ขอแค่คุณก้าวเข้าไปภายในประตู
คุณก็จะหลุดเข้าไปสู่สถานที่แห่งใหม่
ไม่มีใครทราบเหมือนกันว่าทำไมดันเจี้ยนส่วนใหญ่ถึงเป็นถ้ำ
ไม่ว่าจะถามใคร ก็ไม่เคยมีใครตอบคำถามนี้ได้เลยสักคน
“ให้ตายเถอะ ทีนี้มันหนาวเป็นบ้าเลย”
สมาชิกคนอื่นๆก็พยักหน้าเห็นด้วยกลับคำพูด คิมเยอึน
ถึงแม้ประตูมิติที่เชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งความจริงจะอยู่ไม่ไกล
แต่เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในดันเจี้ยน สภาพอากาศภายในดันเจี้ยนกับเยือกเย็นขึ้น
มันเปรียบเสมือน พวกเขากำลังยืนอยู่ทามกลางขั้วโลกเหนือที่รายล้อมไปด้วยภูเขาน้ำแข็ง
ถึงแม้พวก ‘ผู้ตื่นขึ้น’ จะสามารถ ทนต่อความหนาวแบบนี้ได้อย่างสบายๆ
แต่พวกเขาก็รู้สึกถึงความหนาวอยู่ดี
“เอาหล่ะทุกคน มาอยู่ด้านหลังฉัน เดี่ยวฉันนำเอง”
เมื่อลีจุนโฮ ออกคำสั่ง พวกสมาชิกที่เหลือก็เดินตามหลังของเขาทันที
ในบรรดาปาร์ตี้ ลีจุนโฮ เป็นคนเพียงเดี่ยวที่อยู่แรงค์ B
ว่ากันว่า เมื่อคุณก้าวเขาสู่แรงค์ B คุณจะมีพละกำลังเท่ากับ แรงค์ C ถึง 6 คน
เพราะฉะนั้นการเคลียร์ดันเจี้ยนในครั้งนี้ ลีจุนโฮ จึงเหมาะสมที่สุดในการเป็นผู้นำ
<>
ซูฮยอนจ้องมองทั้ง 2 คน
<>
เมื่อลองมองความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกทุกคน มีเพียงแค่ 1 คนเท่านั้นที่สนิทกับ ลีจุนโฮ
หากสมาชิกในปาร์ตี้เสียชีวิตลง คนที่หน้าสงสัยมากที่สุดคงเป็น ลีจุนโฮ
เหตุผลเป็นเพราะเขาแกร่งแข็งที่สุด
<>
ซูฮยอนคิดว่าข้อสงสัยของเขายังมีน้ำหนักไม่มากพอ
ทำให้เขาได้แต่ตั้งข้อสงสัยเท่านั้น
ซูฮยอนเดินตามหลังของปาร์ตี้ และสังเกตุพฤติกรรมของสมาชิกทุกคนเพื่อหาผู้ต้องสงสัย
แต่ในนานเสียงของ ลีจุนโฮ ก็ดังขึ้น
“ทุกคนหยุดก่อน”
ด้วยคำสั่งของลีจุนโฮ ทุกคนที่ตามหลังมาก็หยุดลงโดยอัตโนมัติ
ลีจุนโฮรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ แถวๆมุมถ้ำ
เขาค่อยๆย่องเหมือนแมวขโมยและไปเช็คดูในแน่ใจ
ลีจุนโฮชะเง้อหัวออกไปดูเล็กน้อย
และกลับหาไปสมาชิกปาร์ตี้ ด้วยสายตาเบิกกว้าง
“เกิดอะไรขึ้น?”ลีอึนมี ถาม เมื่อเห็นท่าทางที่แตกตื่นของลีจุนโฮ
ลีจุนโฮพยายามตั้งสติ เขากัดริมฝีปากตอบแล้วกลับไป
“ฉันว่ามันเกิดเรื่องแปลกๆในดันเจี้ยนแห่งนี้แน่ๆ”
“นายหมายถึงอะไร?”
“ตรงนั้น…”
ลีจุนโฮชี้ไปที่จุดที่เขาพึ่งจากมา
“ตรงหัวมุมมีพวกมอนสเตอร์อยู่ พวกมันไม่ใช่มอนสเตอร์ธรรมดาทั่วไป ปกติพวกมันไม่ควรออกมาตอนนี้ แต่เพราะอะไรกัน ทำไมมันถึงอยู่ตรงนั้นได้”
เสียงของลีจุนโฮเริ่มกระสับกระส่าย
ซูฮยอนมองดูอาการของเขา
ลีจุนโฮ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่แรงค์เยอะที่สุดในกลุ่ม
เขาเคยไปเคลียน์ดันเจี้ยนมามากมายหลายที่
ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงมีประสบการณ์และความรู้เรื่องมอนสเตอร์มากขนาดนั้น
ดูเหมือนว่าดันเจี้ยนแห่งนี้จะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นจริงๆ
<>
ซูฮยอนคิดอยู่แล้วว่าเจ้าดันเจี้ยนแห่งนี้มันผิดปกติ
ยิ่งเวลาล่วงเลยไปดันเจี้ยนต่างๆก็พัฒนาตามไปด้วย
เพราะฉะนั้นระดับดันเจี้ยนสีส้มแห่งนึ้จึงยากกว่าปกติ
ไม่ใช่แค่ซูฮยอนเท่านั้นที่คิดแบบนี้
<>
ลีจุนโฮเองก็คิดแบบเดี่ยวกับซูฮยอน
แต่ความรู้สึกของลีจุนโฮตอนนี้เหมือนกับว่าเขากำลังหลงทางอยู่กลางสี่แยก
เขาไม่ทราบจริงๆว่าจะแก้ไขสถานการณ์ยังไงดี
ลีจุนโฮจมลงสู่ห่วงความคิด แต่ไม่นานเขาก็ต้องตัดสินใจ….
ถ้าเป็นแบบนี้ละก็….