นิยาย การกลับมาของฮีโร่
ตอนที่ 115
คําถามที่คิมดูอยพูดกับซูฮยอนมีความหมายลึกซึ้งมาก
คิมดูอุยกระจูดกระวาดมองสํารวจรอบร้านกาแฟ บาริสต้ากําลังง่วนอยู่กับการ ชงกาแฟแก้วใหม่ส่วนทางพนักงานเสิร์ ฟก็กําลังกันหน้าเขียนออร์เดอร์จากลูกค้าโต๊ะถัดไป
เหตุผลที่เขาแสดงอาการเลิกลักเพราะกลัวว่าการพูดคุยระหว่างตัวเขาและซูฮยอนจะรั่วไหลไปถึงหูคนนอก
“นายไม่ต้องวิตก การพูดคุยของพวกเราไม่มีทางเล็ดลอดออกไป”ซูฮยอนพูด
ม่านพลังเวทย์บางๆ ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นห่อหุ้มทั้งคู่เอาไว้ ซึ่งมันทํา หน้าที่ปิดกั้นเสียงรอบข้างทุกอย่างไม่ใช่แค่เสียงภายในร้านกาแฟเท่านั้น แม้ แต่เสียงพูดคุยระหว่างพวกเขาก็ไม่มีทางรั่วไหลออกไปนอกม่านพลังเวทย์แน่นอน
คิมดูอยรู้สึกเหงื่อไคลเย็นเฉียบเริ่มหลั่งออกมาจากแผ่นหลังหากรู้เรื่องนี้มาก่อนเขาจะหลีกเลี่ยงพบปะกับซูฮยอนที่ร้านกาแฟสาธารณะและหาที่ลับตาพูดคุยกันน่าจะเข้าร่องเข้ารอยมากกว่า
“ให้ตายเถอะ นายทําให้ฉันประหลาดใจอยู่เรื่อยๆเลย”คิมดูอุยกล่าว
“ฉันไม่ได้เลือกร้านนัดพบเองสักหน่อยนายเลือกเองไม่ใช่เหรอ”
“ก็จริง หากฉันรู้มาก่อนว่าเรื่องที่พวกเราจะคุยกันเป็นเรื่องซับซ้อน ฉันคงเลือกที่อื่นไปแล้ว”
“งั้น พวกเราย้ายไปที่อื่นดีไหม?”
“ช่างเถอะ มาถึงขั้นนี้แล้ว รีบทําให้จบๆดีกว่าฉันจะได้กลับไปที่สํานักงาน
คิมดูอยปลงอนิจจังและยกกาแฟขึ้นจิบ
ผ่านไปได้สักพักซูฮยอนก็ปริปาก“นายถามว่าฉันรู้ลึกแค่ไหนสินะ จะบอก ว่าไงดี สิ่งที่ฉันรู้ อาจมากพอๆกับทางสํานักงานรู้เผลอๆบางที่ฉันอาจมีข้อมูลมากกว่าด้วยซ้ํา”
“สมมุติฉันถามนายว่า นายไปรู้เรื่อง พวกนั้นมาจากไหนนายคงไม่ยอมบอก ความจริงให้ฉันฟังอยู่ดีใช่ไหม?”
“แน่นอน”
“งั้นนายลองพูดมา ฉันอยากรู้ว่านายรู้มากแค่ไหน?”
“ขบวนการยาเสพติดและผู้ตื่นขึ้นบาง ส่วนที่ตัดสินใจปักหลักอยู่ที่นั่น มีการ ลักลอบค้าของเถื่อนโดยใช้คะแนนเป็นเงินตราและยังมีการส่งออกยาเสพติดผ่านใบสินทรัพย์ต่างมิติ”
“นายรู้หมดทุกอย่างจริงๆด้วยสินะ”
“จุดเริ่มต้นมันมาจากคนกลุ่มหนึ่งคันพบช่องโหว่และอาศัยช่องโหว่นั้นก่อ ความผิดทางอาญาจากวงแคบๆเพียงไม่นานก็ลุกลามบานปลายแผ่ขยายเป็นวงกว้างการตามกวาดล้างพวกมันให้สิ้น ซากจึงยากเต็มกลืนคะแนนความสําเร็จจํานวนมากถูกนําไปใช้ซื้อของผิดกฎหมาย ปัญหาที่ตามมาภายหลังคือมีคนหัวใส่ลับลอบนําของผิดกฎหมายออกสู่ โลกแห่งความจริงโดยใช้ใบสินทรัพย์ ต่างมิติ”
คะแนนความสําเร็จสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ภายในหอคอยแห่งการทดสอบ
ปัจจุบันธุรกิจค้ายาเสพติดระหว่างผู้ที่นขึ้นด้วยกันเกิดขึ้นบนชั้นที่ 31 และ คะแนนความสําเร็จกลายเป็นสกุลเงินซื้อขาย
เมื่อรู้สู่ทาง หาคะแนนความสําเร็จโดย ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายพ่อค้ายาเสพติดจึงนําของมาขายในหอคอยซึ่งยากต่อการตรวจสอบ
หลังจากผู้ซื้อได้รับยา พวกเขาก็นํา กลับสู่โลกแห่งความจริงแล้วไปขายต่ออีกทอดทําให้สังคมมียาเสพติดแพร่ระบาดเต็มบ้านเต็มเมือง
การสมรู้ร่วมคิดของพ่อค้ายาเสพติด และผู้ตื่นขึ้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการกระทําของพวกมันเป็นต้นเหตุให้ทางสํา นักงานหัวหมุน
“พวกเราไม่สามารถจับกุมพวกมันมาดําเนินคดีตามกฎหมายได้ เพราะเมื่อใด ก็ตามที่ผู้ตื่นขึ้นก้าวผ่านชั้นที่ 31 ขึ้นไปพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์หวนกลับไปที่เดิมเป็นครั้งที่ 2 พวกเราจึงสรรหาวิธีอื่น โดยการใช้ยุทธการล้อมจับพวกมันจากโลกแห่งความจริง แต่เมื่อพวกมันได้ กลิ่นทะแม่งๆว่ากําลังถูกจับกุมพวกมันก็หลบหนีเข้าไปในหอคอยแห่งการทดสอบทันที”คิมดูอุยกล่าว
“หมายความว่านอกจากตามล่าพวกมันในชั้นที่ 31 ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วสินะ”
“ถูกต้อง แต่ปัญหาคือไอ้บ้านั่นผ่า นการทดสอบด้วยระดับความยากที่ 9 ห ลังจากที่มันเหยียบชั้นที่ 31 มันก็ตัดสินใจลงหลักปักฐานและเรียกที่นั่นว่าบ้านหลังที่ 2”
มี “ปีศาจร้าย” ตนหนึ่งอาศัยอยู่บนชั้ นที่ 31 ซึ่งปีศาจตนนั้นคือผู้ตื่นขึ้นไม่มีใครทราบว่าที่อยู่เป็นหลักแหล่งของเขาคือที่ใดแต่เจ้าตัวป่าวประกาศแจ้งกับทุกคนว่าชั้นที่ 31 เป็นฐานที่มั่นของตน
ไม่ทราบว่ามีอะไรดลใจ ผู้ตื่นขึ้นคนนี้นถึงได้ริเริ่มนํายาเสพติดมาเร่ขายบนโลกชั้นที่ 31 ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นพ่อค้าคนกลางรายใหญ่คอยทําหน้าที่ลักลอบลําเลียงยาเสพติดสู่โลกแห่งความจริง
“ทางเราพยายามตามจับพวกมันโดย ใช้จํานวนคนและเงินรางวัลเข้าสู้ แต่ก็ ไม่เป็นผล คนที่ได้ฟังเงื่อนไขไม่มีใครกล้าเสี่ยงโดยพื้นฐานผู้ตื่นขึ้นที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับปีศาจร้ายตนนั้นได้…”คิมดูอย หยุดพูดไปกลางคันสายตาตรึงไว้ที่ร่างซูฮยอนมือที่จับแก้วกาแฟหยุดชะงักกลางอากาศ
“อ๊ะ?”
“นายคิดว่าไง?”
“ขอเวลาคิดสักครู่…”
ซูฮยอนพึ่งถึงชั้นที่ 31 เมื่อไม่นานมานี้สินะ..
คิมดูอุยผลุนผลันลุกจากที่นั่งและถาม “นายช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
“นายและฉันเดินบนเส้นทางเดียวกัน”ซูฮยอนตอบกลับพร้อมผงกหัว
“คนๆนั้นจําเป็นต้องจับกุม
การแสดงออกของคิมดูอยแจ่มใสขึ้นทันตา
อาชญากรบนชั้นที่ 31 ที่หลบหนีการจับกุมมาจนถึงปัจจุบันโดยอาศัยช่อง โหว่ของหอคอยนั่นคือเมื่อไรก็ตามที่คุณก้าวสู่ชั้นถัดไป คุณไม่สามารถย้อนกลับมาชั้นเดิมได้
และตอนนี้ ผู้นําทางที่ส่อแววความเป็นไปได้อาจจับกุมตัวอาชญากรในที่สุดก็โผล่ตัวออกมา
“เพื่อเป้าหมาย ฉันมีข้อแลกเปลี่ยน”ซูฮยอนพูด
ระหว่างคิมดูอยเดินทางกลับสํานักงานเขายกมือนวดไมเกรนที่กําลังเต้นเป็นจังหวะ
ความหวังดีที่ซูฮยอนยื่นให้เป็นสิ่งที่ควรเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง ปมปัญหาบ นชั้นที่ 31 ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตกและเป็นอีกหนึ่งเหตุผลทําให้คิมดูอุยนอนกลุ้มใจมา นานมาก
ไม่ใช่แค่เกาหลีใต้เท่านั้นที่ประสบ ปัญหานี้ขบวนการยาเสพติดเป็นปัญหา ที่สํานักงานทั่วโลกเผชิญร่วมกัน และซูฮยอนอาจเป็นผู้นําทางที่สามารถคลี่คลายปัญหาเหล่านี้ได้
<<พอมีเรื่องสําคัญที่ไร ต้องมีเขามา พัวพันตลอดเลยให้ตายสิ>>
ไม่สําคัญว่าซูฮยอนไปได้ข้อมูลมาจากไหนบน
สิ่งที่คิมดูอยให้ความสําคัญคือโลกบนชั้นที่ 31 เพราะเขามโนภาพไม่ออกว่า โลกชั้นที่ 31 มีลักษณะเช่นใด ชนพื้น เมืองใช้ชีวิตแบบไหน
แต่จากคําเล่าลือที่เขาเคยได้ยินผ่านหูบอกว่าโครงสร้างบนโลกชั้นที่ 31 มี ความใกล้เคียงกับโลกแห่งความจริงมากที่สุดซึ่งภายหลังกลายเป็นเมืองนัดหมายที่พวกขี้ยามั่วสุม
หากสภาพเมืองเป็นไปตามคําเล่าลือคงไม่แปลกทําไมซูฮยอนถึงจับพิรุธบางอย่างได้จากชั้นที่ 31 และตัดสินใจสืบค้นข้อมูลอย่างละเอียด
<<ฉันรู้สึกตื้นตันใจจริงๆที่เขายินดียื่น มือเข้าช่วย แต่ว่า...>>
ปัญหาที่เขากังวลอีกหนึ่งอย่างคือ ซูฮยอนจะใช้วิธีไหนในการตามหาตัวเปโตร
หลังจากคิมดูอยแยกทางกับซูฮยอน เขายกมือถือขึ้นมาโทรไปหาใครบางคนสักพักปลายสายก็กดรับ
“ผู้อํานวยการผมคิมดูอุยเองครับ ใช่ ครับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างที่กล่าวไปพวกเราพบวิธีแก้ปัญหาเรียบร้อยครับ”คิมดูอยเหลียวหลังกลับไปมองร้านกาแฟซึ่งซูฮยอนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
“แต่ท่านครับ มันติดปัญหานิดหน่อย”
เมื่อกลับถึงห้องพัก ซูฮยอนรีบเปิดประตูมิติเข้าสู่ชั้นที่ 31
ถนนทางเดินที่เต็มไปด้วยเสียงระเบ็ง เซ็งแซ่และกลิ่นหอมหวานทักทายประสาทสัมผัสของเขาเป็นอย่างแรก
ซูฮยอนเดินไปตามถนนและสังเกตผู้คนที่เดินขวักไขว่ผ่านไปผ่านมา ในจํา นวนสิบคนที่เดินสวนทางกัน มีหนึ่งคนมี แววตาเลื่อนลอยคล้ายพวกติดยา
<<พวกเขาเมินเฉยสิ่งรอบข้างอย่าง สมบูรณ์>>
ม่านตาของพวกเขาแง้มต่ําลงผิดปกติ ตาขาวเด่นชัดมากขึ้น จุดโฟกัสพร่ามัวมองเห็นไม่ชัดเจนสิ่งที่กล่าวมาคืออา การเบื้องต้นของอาการผู้ติดสารเสพติดลักษณะคล้ายหญ้าที่พบเจอได้ทั่วไปตา มชั้นที่ 31 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเบลนดิ่ง
“ขอโทษนะครับ”
ซูฮยอนเดินลุ่มๆเข้าไปหาหญิงสาวคน หนึ่งอายุยี่สิบปรายๆโดยประมาณ แม้ ม่านตาของเธอจะดูสุกใสไม่ขมุกขมัวแต่การโฟกัสผ่านตาดําสั่นระริกไร้ความ เสถียรภาพซึ่งอาการที่แสดงออกมาบ่ งบอกว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นของสารเสพติดเบลนดิ้ง
“เอ๊ะ? ฉันเหรอ?”
“ใช่ครับ ผมขอรบกวนเวลาคุณเล็ กน้อยได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ”
“คุณรู้จักคนชื่อ เปโตร ไหมครับ”
“เปโตร..?”คําถามของซูฮยอนทําให้หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปมและตอบกลับด้วยน้ําเสียงขึงขัง
“ทําไมนายถึงถามหาไอ้อาชญากรสารเลวนั่นด้วย”
ซูฮยอนยืนมองหญิงสาวแสดงท่าทางกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจ เธอหมุนเท้าเดินจากไปโดยเร็วแล้วปล่อยให้เขาเกา หัวแกรกๆ
<<เป็นอย่างที่คาดเดาไว้ไม่มีผิด มัน ไม่ได้ผลจริงๆด้วยแฮะ>>
เปโตร คือชื่อที่เลื่องลือมากๆบนชั้นที่ 31 เขาโด่งดังในฐานะอาชญากรเพราะเขาเกี่ยวพันกับธุรกิจสีดําเกือบทุกประเภทยกตัวอย่างเช่นยาเสพติดค้ามนุษย์และการพนัน
เมื่อนานมาแล้วผู้คนมากหน้าห ลายตาต่างตั้งความหวังสักวันหนึ่งพวก เขาอยากเห็นชื่อเปโตรกลายเป็นผู้ที่ขึ้นที่มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วชั้นที่31 ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวไปชั้นถัดไป
แต่ปัจจุบันชื่อ เปโตร กลับกลายเป็น ชื่อที่มีแต่ความมืดมนไร้แสงสว่างแถมเบื้องหลังของเขายังเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการยาเสพติดอีกด้วย วีรกรรมลัก ลอบขนยาเสพติดของเขาสร้างความวุ่นวายไปทั่วโลก
<<อม...ถ้าอยากจับตัวการให้ได้ฉันคงต้องมองหาคนติดยาที่สภาพภายนอกดูปกติเหมือนคนธรรมดาทั่วไป>>
เบลนดิ้ง สามารถหาซื้อได้จากตัวแทน จําหน่ายที่มีความสัมพันธ์กับเปโตรเท่า นั้น แม้ว่ายาเสพติดจะพบเจอได้ทั่วไปตามชั้นที่ 31 แต่ผู้ขายส่วนใหญ่ก็รับมาจากเปโตรอีกต่อหนึ่งเพราะเปโตรควบ คุมการหมุนเวียนของเบลนดิ้งอย่างเด็ดขาดผ่านองค์กรที่เขาสร้างขึ้นเองซึ่งภายในองค์กรเต็มไปด้วยสมาชิกที่ทรงพลัง
คนติดยาที่กําลังลงแดงกระสันอยาก ได้ยาเสพติดอาจนําทางซูฮยอนไปพบ เบาะแสแหล่งกบดานของเปโตรหรือไม่บางที่ซูฮยอนอาจบังเอิญโชคดีเจอคน รับยาเสพติดกับมือเปโตรโดยตรงก็ได้
“หืม?”
ทันใดนั้นสายตาของซูฮยอนก็ไปเจอะ ใบหน้าคุ้นตา
เมื่อสายตาของทั้งคู่สบกันชายที่กําลังก้าวเดินตัวแข็งที่ออยู่กับที่ฉับพลันซูฮยอนค่อยๆพินิจใบหน้าของชายคนนั้นอย่างละเอียด ก่อนคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
ชายคนนั้นพยายามเดินหนี แสร้งทํา เอาหูไปนาเอาตาไปไร่แต่ซูฮยอนเอื้อม มือออกไปจับไหล่ของเขาเอาไว้ได้ซะก่อน
“เรา 2 คน เคยเจอกันมาก่อนใช่ ไหม?”ซูฮยอนถาม
“มะ..ไม่นะ นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่เคยเห็นหน้านายเลย”
“นายชื่อ…”ซูฮยอนดําดิ่งลงไปในห้วงความทรงจําสักพักเขาก็นึกชื่อของชายตรงหน้าออก
“รู้สึกจะชื่อคว็อนจางฮยอกสินะ?”
อาชีพที่ผู้คนเรียกกันว่า “ผู้ตื่นขึ้น” ถือได้ว่าเป็นอาชีพที่แสนยอดเยี่ยมนอกจากสร้างรายได้มหาศาลยังมอบร่างกายที่แข็งแรง แถมยังมอบสกิลและความสามารถพิเศษที่ก้าวข้ามขีดจํากัด ของมนุษย์ จึงเป็นเหตุผลทําให้ประชาชนทั่วไปจ้องมองด้วยความอิจฉาริษยาแถมความเคารพนับถือ
ควอนจางฮยอกกลายเป็นผู้ตื่นขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้วโดยไม่ต้องตรึกตรองให้ปวดหัวการปีนป่ายหอคอยเขาเลือกระดับความยากต่ําสุดมาตลอดทุกชั้น
เพราะเขาไม่ชอบทําอะไรเสี่ยงๆที่เป็ นอันตรายต่อชีวิตตนเองนั่นจึงเป็นเหตุผลทําไมเขาถึงไต่มาถึงชั้นที่ 31
แต่ตอนนี้….
ทําไมไอ้เปรตนี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ควอนจางฮยอกไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าซูฮยอนแม้อีกฝ่ายจะยืนอยู่ตรงหน้าทนโท่
ระหว่างที่คว็อนจางฮยอกกําลังประ หวั่นพรั่นพรึงซูฮยอนคิดในใจเงียบๆต่อให้โลกกว้างใหญ่แค่ไหนสุดท้ายโลกก็กลมอยู่ดีเขาไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองและควอนจางฮยอกจะโคจรมาพบกันในสถานที่แห่งนี้
<<ถ้านับครั้งนี้รวมไปด้วย รู้สึกจะเป็น ครั้งที่สามแล้วสินะที่พวกเราเจอกัน>>
สิ่งแรกที่ซูฮยอนประสบพบเห็นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นในร่างใหม่ คือข้อความที่ควอนจางฮยอกส่งมา
-ได้ข่าวว่ามึงเข้าโรงพยาบาล
-ถึงจะออกตอนไหน กูอยากเจอถึงซัก
หน่อย
-พี่ใหญ่ต้องการเงินด่วน แกเห็นข้อความนี้ใช่ไหมหวังว่าแกคงไม่ตายไปซะก่อน
ตอนนั้นเขาคิดว่าสถานการณ์มันน่าขบขันเหลือเกิน
ก่อนซูฮยอนหมดสติ เขาจําได้ว่าตัวเองกําลังโรมรันอยู่กับฟาฟเนียร์ แต่พอรู้ สึกตัวอีกทีเขากลับได้รับข้อความข่มขู่เนื้อหาประมาณว่าจะฆ่าฟันเขา คนส่งก็เป็นอดีตเพื่อนบ้านที่เคยอาศัยอยู่ละ แวกใกล้เคียงกัน
พอเขาลองใช้สมองปะติดปะต่อความ เป็นไปได้ต่างๆนาๆสุดท้ายซูฮยอนก็ได้ ข้อสรุปว่าตัวเองกลับชาติมาเกิดใหม่
แน่นอนเหตุการณ์ในครั้งนั้นซูฮยอนได้มอบบทเรียนกรรมตามสนองเป็นเช่นไรให้อีกฝ่ายทําให้สถานการณ์สะสางอ ย่างรวดเร็ว
ครั้งที่สองพวกเขาบังเอิญปะกันในเหตุการณ์ระบาดของดันเจี้ยนระดับสีเขียวในเมืองอันยังการเจอหน้ากันครั้งนั้นเกิด ขึ้นปุบปับและยุติลงอย่างรวดเร็วแม้ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นจะพร่าเลือนไปตามกาลเวลา แต่ก็นับเป็นครั้งที่สองได้ อยู่
และการเจอกันระหว่างซูฮยอนและคว์อนจางฮยอกครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สาม
“ไม่ได้เห็นหน้ากันมาสักพักแล้วเนอะ”
ซูฮยอนลากคว็อนจางฮยอกเดินลัดเลาะไปตามถนนคับแคบ
จนกระทั่งถึงตอนนี้ควอนจางฮยอกก็ยังไม่กล้าเงยหน้าสบตากับซูฮยอน
ต่อให้ไม่สนใจอดีตที่ผ่านมา แต่ซูฮยอนในปัจจุบันไม่ใช่คนที่ควอนจางฮ ยอกสามารถตอแยสร้างความรําคาญได้
ทุกคนสามารถพบเห็นชื่อ ซูฮยอน ได้ อย่างทั่วถึง ทั้งในรายการทีวีหรือเวลา ท่องโลกอินเทอร์เน็ต
<<ถ้าฉันรู้ว่าเรื่องจะลงเอยเช่นนี้ รู้งี้ช่วงมัธยมปลายฉันควรจะปฏิบัติกับอีกฝ่ายให้ดีกว่านี้ก็ดี>>
ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ที่มีอายุน้อยที่สุด
ผู้พิชิตดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงิน
ชายตรงหน้ากระทืบกิลด์ดัมพ์ในสหรัฐอเมริกาจนจมดินและปัจจุบันเขาถูกหลายฝ่ายประเมินว่าเป็นผู้ตื่นขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในเกาหลีใต้
แม้ทั้งคู่จะเคยเรียนห้องเดียวกันอายุไล่เลี่ยกันแต่ก็ไม่ใช่เครื่องหมายการันตีว่าควอนจางฮยอกมีระดับความสามารถทัดเทียมซูฮยอน
ความแตกต่างระหว่างซูฮยอนและคร์อนจางฮยอกเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนคงเหมือนสวรรค์และโลก
“นายมาถึงชั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ซูฮยอนไต่ถาม
ควอนจางฮยอกตอบกลับพร้อมดวงตาที่กําลังสาดส่องรอบตัวอย่างอยู่ไม่สุข
“ประมาณเดือนที่แล้วครับคุณชาย”
“เดือนที่แล้ว? เร็วมาก”
“ใช่ครับคุณชาย”
“นายเลือกความยากระดับ 1 เหรอ?”
ควอนจางฮยอกพยักหน้าให้กับคําถาม
ซูฮยอน
หลังจากนั้นเขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าทําไมตัวเขาต้องพูดจาให้เกียรติอีกฝ่ายด้วยเพราะยังไงพวกเขาก็เคยเรียนที่เดียวกันมาก่อน
“ถูกต้อง”
ผัวะ!!
“คําว่าคุณชายหายไปไหน?”
“คุณชาย…”
ควอนจางฮยอกลูบหน้าผากตัวเองหลังจากโดนซูฮยอนดีดเขาเผลอร้องครวญครางออกมาแผ่วเบา
การพยายามทําตัวให้ตัวเองเหมือนคนมีความรู้ในสถานการณ์ปัจจุบัน คง ไม่ใช่ความคิดที่ดีนักเพราะเขาอาจถูกอีกฝ่ายฆ่าตายหรือไม่ก็โดยอีกฝ่ายอัด จนมีสภาพสะบักสะบอม
<<แม่งเอ๊ย ฉันอุตส่าห์ให้เกียรติแก่ แต่แกกลับตอบแทนฉันด้วยวิธีนี้เนี่ย นะ>>
ซูฮยอนก้มมองกท่าทางของควอนจ างฮยอกและพูดด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึมราวกับว่ามองความคิดของอีกฝ่ายออก
“ใครทําอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้นคืนสนองหากตัวนายในอดีตเป็นคนดี ไม่เบียด เบียนผู้อื่น นายคงไม่ต้องเจอสถานการณ์ในปัจจุบันนายยอมก้มหัวให้คนที่ แข็งแกร่งกว่าโดยไม่ลังเลนายเข้าใจความรู้สึกของคนอ่อนแอโดนคน แข็งแกร่งรังแกหรือยังดังนั้นต่อไปนี้นายควรคํานึกถึงความรู้สึกของคน อ่อนแอให้มากขึ้นและปฏิบัติต่อพวก เขาให้ดีๆ ห้ามรังแกพวกเขาเข้าใจไหม”
“ฉะเฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไปทบทวนอย่างรอบคอบ”
“ดีมาก หวังว่านายคงคิดได้”
ซูฮยอนยกมือชี้นิ้วไปยังสิ่งของบางอย่างที่มีรูปร่างเหมือนบุหรี่ซึ่งถืออยู่ในมือควอนจางฮยอกและซักถาม
“ของสิ่งนั้น นายเอามาจากไหน?”
“เอ๊ะ? นายหมายถึงเจ้านี่เหรอ?”
“ถูกต้อง”
คว็อนจางฮยอกมองสลับไปมาระหว่างซูฮยอนและบุหรี่ในมือและลองถามออกมาด้วยความอยากรู้
“นายอยากลองดูไหม ของดีสุดๆเลย
โป้ง!!
“โอ้ย!!
“เฮ้อ นายรู้ไหนว่าบุหรี่ที่นายกําลังสูบ เป็นยาเสพติด?”
“เอ่อคือว่า…”
พิจารณาจากการแสดงออกทางสีหน้าของอีกฝ่ายเหมือนควอนจางฮยอกจะรู้ เป็นอย่างดี
ซูฮยอนขมวดคิ้วเป็นปมแล้วเอื้อมือขึ้น“นายรู้อยู่แก่ใจยังกล้าชวนให้ฉันสูบอีกนะ”
“เดี๋ยวก่อนนะคุณชาย ที่นายถามฉันและแสดงอาการงุนงงออกมา อย่าบอกนะว่านายไม่รู้จริงๆว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร”
“ฉันพอรู้มานิดหน่อย ว่ามันเป็นยาเสพติด”
“อย่างงี้นี่เอง จริงอย่างที่นายพูดมันอาจเป็นยาเสพติดแต่ในสถานที่แห่งนี้ มันเป็นเพียงเศษหญ้าทั่วไปคงไม่มียาเสพติดชนิดไหนมีราคาถูกเหมือนน้ําเป
ล่าหรอก ส่วนบุหรี่นี้ก็เป็นเพียงของใช้ทั่วไปไม่มีพิษมีภัย”
ควอนจางฮยอกพยายามยกเหตุผลนมาอ้างเพื่อ“โน้นน้าวจิตใจ” ของตน เองให้สูบบุหรี่หรือที่เรียกว่าเบลนดิ้งต่อไป
ใครก็ตามที่ได้ลองใช้เบลนดิ้งสมองของพวกเขาจะมีความคิดอ่านไม่ต่างกับคว็อนจางฮยอก
ราคาย่อมเยาและไม่ใช่สารเสพติดถ้าคุณกระสันต้องการสูบสักมวน คุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องถนนสุดท้ายมันก็ไม่ต่างอะไรกับบุหรี่ธรรมดา มากนัก
นั่นคือข้อสรุปคร่าวๆเกี่ยวกับ เบลนดิ้ง
“ด้วยฤทธิ์ยาที่มีผลต่อระบบประสาทหากปล่อยมันทิ้งไว้มันเป็นอันตรายต่อผู้ คนอย่างแท้จริง”ซูฮยอนพูด
“เอ่อ..?”
“ยาที่สามารถบงการความคิดของผู้คนโดยทําให้คนผู้นั้นคิดไปเองว่าตัวยาไม่มีอันตรายแอบแฝงนอกจากฤทธิ์กล่อมประสาทอ่อนๆ แต่นานวันเข้าคนเสพจะค่อยๆเรียนรู้ว่าอาการลงแดงขั้นรุนแรงมี อาการแบบไหนการดํารงชีวิตประจําวันโดยปราศจากมันพวกเขาจะได้ลิ้มลองความทรมานสุดลิม”
ซอยอนตระหนักเป็นอย่างดีถึงอันตรายที่แอบแฝงอยู่ในเบลนดิ้ง
ที่สําคัญไปกว่านั้นในอดีตโลกชั้นที่ 31 เหลวแหลกไม่เหลือเค้าเดิมเพราะยาชนิดนี้
“ขนาดมาอยู่ในที่ลับตา คุยกันเงียบๆ 2 คนนายยังไม่ยอมปริปากบอกความจริงกับฉันอีกนะ”
แควก!!
ซูฮยอนเอื้อมมือไปจับกระเป๋าเป้ของควอนจางฮยอกที่สะพายไว้ด้านหลังและฉีกกระชากมันให้ขาดออกจากกัน
เบลนดิ้ง หรือที่เรียกกันว่า “หญ้า” ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีขาวนวล ร่วงพรูออก มาจากกระเป๋ากองสุมเต็มพื้น
ผิวกายของควอนจางฮยอกซีดเซียวทันควันเขาก้มหัวต่ําลงพยายามหลบสายตาคาดคั้นของซูฮยอนจน
“ฉันขอถามหน่อย นายวางแผนเอาของพวกนี้ไปขายให้กับใครงั้นเหรอ?”
MANGA DISCUSSION