ตอนที่ 3
ตนที่ 3 ชายปริศนากับจิตวิญญาณอัญเชิญพยัคฆ์ขาว..
ณ ป่าแซนเดรีย..
ตู้มๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ฟุบๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงระเบิดที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งผืนป่า ปรากฏให้เห็นร่างของชายวัยกลางคนผู้นึ่งกำลังกระโดดซิกแซกไปมา เพื่อหลบลูกไฟกว่าหลายสิบลูกที่กำลังพุ่งทะยานตรงเข้ามาหมายที่จะเอาชีวิต
สถานที่แห่งนี้นั้นเป็นผืนป่า แต่บัดนี้กลับกลายเป็นแอ่งโล่งเตียนเหมือนจะถูกถางออกด้วยการต่อสู้อันแสนหนักหน่วง ต้นไม้น้อยใหญ่ต่างล้มระเนระนาด บางต้นถูกไฟเข้าเผาไหม้จนเหลือแต่ตอ..
“ลากอส..!!!”เสียงกู่ร้องด้วยความตื่นตระหนกของสิ่งมีชีวิตปริศนาที่หันกลับมาตะโกนเรียกขานชื่อของชายวัยกลางคน โดยที่มันมีลักษณะร่างกายเป็นมนุษย์ แต่กลับมีศรีษะเป็นเสือขาว
“เชเนียส..แกไม่ต้องห่วงฉัน..!!!”ชายที่ชื่อลากอสตะโกนบอกสิ่งมีชีวิตครึ่งพยัคฆ์
โดยที่ในขณะนี้สิ่งมีชีวิตครึ่งพยัคฆ์นามว่าเชเนียส มันกำลังยืนเผชิญหน้าอยู่กับหมียักษ์ตัวใหญ่ และหมีตัวดังกล่าวก็คือตัวเดียวกันกับที่กำลังพ่นลูกไฟออกมาใส่ชายที่ชื่อลากอส..
“เจ้านั่นมันเล่งมาที่เรา..คงจะคิดว่าถ้าฆ่าเราได้ก็ชนะสินะ.. “ลากอสที่สบถออกมา พร้อมกับดีดตัวออกไปทางด้านข้าง เมื่อเห็นว่าหมียักษ์ได้ปลดปล่อยลูกไฟโจมตีเข้ามาอีกครั้ง
ฟิ้ว..!!!
ฟุบ..!!!
ตู้ม..!!!
“ยังอีกหรอ..เชเนียส ฉันหลบทั้งคืนไม่ได้นะเว้ย..!!!?”
หลังจากที่อากอสหลบลูกไฟมาได้ เขาก็ตะโกนถามกับเชเนียส ที่ในขณะนี้กำลังพยายามใช้กรงเล็บอันแสนแหลมคมฟาดฟันใส่ร่างของหมียักษ์
เคร้ง..!!!
“ก็กำลังพยายามอยู่นี้ไง..ไม่เห็นหรอว่าขวนมันไม่เข้า..!!”เชเนียสที่หันมาตะโกนกลับอย่างหัวเสีย เป็นเวลาเดียวกันกับที่หมียักษ์จะยกแขนขึ้นสูงเตรียมที่จะตะปปเข้ามายังร่างของมัน
“โฮกกกก..!!!!!”
“อย่ามาดูถูกกันเว้ย..!!! ทักษะจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 3 ดาว รูปแบบที่ 1 ฉีกกระชาก..!!!!!!”เชเนียสที่กางแขนทั้งสองออกไปทางด้านข้าง ทันใดนั้นออร่าสีเขียวก็ปรากฏออกมาครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างของมัน ก่อนที่มันจะทำการวาดกรงเล็บซ้ายไปทางด้านหน้า และต่อเนื่องด้วยกรงเล็บข้างขวา ปรากฏเป็นคลื่นอากาศอันแสนคมกริบพุ่งผ่าร่างของหมียักษ์ไป..
ฉับ..!!!!!!!!
“โฮก..!!!!!!!!!”
ตุม..
เสียงร้องคำรามสุดท้ายของหมียักษ์ที่ดังสนั่นด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ร่างของมันจะล้มลงแทบเท้าของเชเนียส
หลังจากที่หมียักษ์ถูกกำจัด ร่างกายของมันก็ค่อยๆย่อยสลายหายไป หลงเหลือทิ้งเอาไว้เพียงแค่วัตถุรูปทรงสี่เหลี่ยมใบเล็กๆคล้ายคลึงกับไพ่
“หึ..ก็แค่จิตวิญญาณระดับ 1 ดาว..”เชเนียสที่สบถบ่น ก่อนจก้มตัวลงไปและหยิบไพ่ขึ้นมาพลิกดู..
“ถึงจะเป็นแค่จิตวิญญาณระดับดาวเดียว แต่มันก็ใช้พัฒนาได้ไม่ใช่หรือยังไงกัน เพราะฉะนั้นอย่าบ่นแล้วก็รีบๆกินมันเข้าไปซะ..”ลากอสที่เดินตรงเข้ามาหาเชเนียส พร้อมพูดกับมันเชิงเหมือนออกคำสั่ง เมื่อสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งเสือได้ยินเช่นนั้นก็ยักไหล่ ก่อนจะทำการกินไพ่ในมือเข้าไป..
“เป็นยังไงบ้าง..?”
“ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าจะเลื่อนขึ้นเป็น 4 ดาว..”เชเนียสที่พูดขึ้น
“งั้นเหรอ..? จะต้องกินอีกกี่ใบกันนะ..?”ลากอสที่เดินตรงเข้ามาจวนจะถึงเชเนียส พูดขึ้นด้วยความสงสัย แต่ทว่าทันใดนั้นเอง..
“อากอสข้างหลัง..!!”ดวงตาของเชเนียสที่เหลือบมองเข้าไปภายในป่า ก่อนจะตรวจพบศัตรูมันจึงส่งเสียงตะโกนเพื่อบอกอากอส
ฟิ้ว..!!!!!
“อีกตัวงั้นหรอ..?!!!”
ลูกไฟปริศนาที่พุ่งออกมาจากภายในป่า มุ่งตรงเข้ามาทางด้านหลังของอากอส และด้วยความเร็วของมัน จึงทำให้ชายวัยกลางคนไม่อาจที่จะหลบลูกไฟนั้นได้ทัน
ตู้ม..!!!!
“อ๊ากกกกกกกกก..!!!!!”
“ลากอส..!!!!!!”
ทันทีที่ลูกไฟพุ่งมาปะทะเข้ากับแผ่นหลังของอากอส มันก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง เชเนียสที่เห็นดังนั้นก็กู่ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะวิ่งเข้าไปประคองรับร่างของอากอสที่กำลังเอนตัวและใกล้ที่จะล้มลงเอาไว้
“ฮะ..เฮ้ย ทะ..ทำใจดีๆเอาไว้…!!!”เชเนียสที่คุกเข่าย่อตัวลง ในขณะที่ยังคงประครองร่างของอากอสเอาไว้ แผ่นหลังของเขานั้นปรากฏเป็นบาดแผลเหวอะหวะจากแรงระเบิดอันแสนรุนแรง
“โฮก..!!!!”
เสียงร้องคำรามของหมียักษ์อีกตัวที่วิ่งสี่ขาปรากฏตัวออกมาจากภายในป่า และกำลังวิ่งตรงเข้ามายังทิศทางของคนทั้งสอง
“ผสานร่างเร็วเข้า..!!!”เชเนียสที่ตะโกนออกคำสั่งกับอากอส แต่ก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะหมดสติไปแล้ว
“หมีเพลิงคำราม จิตวิญญาณสัตว์ป่าระดับสองดาว ประเภทโจมตีสองระยะ..”เชเนียสที่ตรวจสอบหมียักษ์ที่กำลังวิ่งตรงเข้ามา เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจ มันนั้นก็ค่อยๆวางร่างของอากอสให้นอนลงกับพื้น ก่อนจะชันตัวลุกและเดินออกมาเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตอันบ้าคลั่งที่กำลังวิ่งตรงเข้ามา
“ทักษะจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 3 ดาว รูปแบบที่ 2 คลื่นคำรา..!!!”
“จ๊ากกกกกกกก..!!!! ผีหลอก..!!!!!!!!!”
“อย่าหนีนะ..!!!!!”
ในขณะที่เชเนียสกำลังเตรียมตัวที่จะปลดปล่อยทักษะใส่หมีเพลิงคำราม จู่ๆก็มีร่างของชายหนุ่มที่ร้องตะโกนแหกปากเสียงดังลั่นปรากฏตัวออกมาจากภายในป่า ทางด้านหลังของหมีเพลิงคำรามที่กำลังวิ่งตรงเข้ามา
ก่อนที่เขาคนนั้นจะสับขาวิ่งแซงผ่านร่างของหมีเพลิงคำรามตรงเข้ามาหาเชเนียส โดยที่เบื้องหลังของชายหนุ่มคนดังกล่าว มีสิ่งมีชีวิตรูปร่างพิศดารเรืองแสงสีเขียวที่ลอยตามติดๆมาด้วย..
“นะ..นั่นมัน อะ..อะไรกัน..? ออร่าสีเขียว อยะ..อย่าบอกนะว่า จิตวิญญาณอัญเชิญ 6 ดะ..ดาว..”เชเนียสที่ได้แต่ยืนตัวแข็ง ทันทีที่มันเห็นสิ่งมีชีวิตเรืองแสง โดยที่มันไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเข้าใจผิดไปเอง..
[ช้าง]
หลังจากที่กระสือปรากฏตัวออกมา เรี่ยวแรงที่ขาของผมก็ฟื้นคืนกลับมา จะรออะไรล่ะครับ ผมใช้เวลากว่า 10 นาที ในการวิ่งหนีจิตวิญญาณอัญเชิญของตัวเอง จนในที่สุดก็มาพบกับผู้ คะ..คนล่ะมั้งนะ แต่ไหงหัวของมันถึงเป็นเสือกันล่ะ..?
ผมที่วิ่งมาจนเริ่มรู้สึกเหนื่อยหอบ โบราณว่าเอาไว้หมาจนตอกมันมักจะฮึดสู้ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็สไลด์ขาไปข้างหน้า ก่อนจะหมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้ากับกระสือ พลันหยิบข้าวสารเสกออกมาจากภายในย่าม
“กร่อด..อย่ามาดูถูกหมอผีนะเฟ้ย..!!! พุทธัง อาราธนานัง ธรรมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง..โอม..”ผมที่ยกฝ่ามือขึ้นมาพนมพร้อมร่ายมนต์คาถา โดยสิ่งที่อยู่ภายในฝ่ามือที่กำลังพนมคือข้าวสารเสกในถุงข้าวแกงขนาดเล็กที่ยังไม่ได้แกะ
และทันทีที่ผมท่องมนต์คาถาจบ ผมก็ง้างข้าวสารเสกในมือ ก่อนจะปามันออกไปยังร่างของกระสือ อีกทั้งยังเล่งจุดสำคัญ ซึ่งนั่นก็คือหัว..
ฟ้าว..!!!
ปัก..!!!
“เอ๊อะ..ทำบ้าอะไรของแกว่ะ..?!!!”
“อะเร๊ะ..!!?”ผมที่ร้องอุทานออกมา
ซึ่งหลังจากที่ผมปาถุงข้าวสารเสกเข้ากลางแสกหน้าของเป้าหมาย มันก็กระเด้งผ่านร่างของกระสือไปทางด้านหลัง แต่กระสือก็ไม่ยักจะเจ็บปวดหรือร้องโหยหวนแต่อย่างใด สรุปคือไม่เป็นผล..
“ไม่เป็นอะไรเลยงั้นเหรอ..?”
“ก็เออสิย้ะ..คิดจะใช้ของพรรค์นี้โจมตีใส่ฉันเนี่ยนะ..? หมอผีงั้นหรอ..? กระจอก..ถุ้ย..!!!?”
นั่น..!!! ถึงผมจะกลัวไอ้ตัวตรงหน้าจนขาสั่น แต่ในตอนนี้ผมกลับรู้สึกโกรธมันมากกว่าที่มันกล้ามาถมน้ำลายใส่ถุงข้าวสารเสกของคุณปู่ อีกทั้งยังมาดูถูกหมอผีแห่งตระกูลคชสาร..
“อภัยให้ไม่ได้..!!!”ผมที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แต่ในช่วงจังหวะนั้นไอ้หมีเวรก็วิ่งเข้ามาหยุดอยู่ทางด้านหลังของกระสือและยกแขนขึ้นสูงเตรียมที่จะตะปบ แต่สิ่งที่ทำให้ผมโกรธจนเลือดขึ้นหน้า คือการที่มันกล้าใช้ขาหลังอันแสนโสโครกเหยียบยำถุงข้าวสารเสกของผม
“โฮก..!!!!!”
“กรี๊ด..!!!!!”เมื่อกระสือหันไปเห็นหมี เธอก็ส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่นออกมาด้วยความหวาดกลัว แต่ทว่าทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้อุบัติขึ้น..
วิ๊ง..!!!
ตู้ม..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“กรี๊ด..!!!!”
“เฮ้ย..!!!”
ตุบ..!!!!
ในช่วงจังหวะที่หมียักษ์กำลังจะตะปบกรงเล็บลงมาโจมตีใส่กระสือ จู่ๆสิ่งที่มันกำลังเหยียบอยู่ตรงบริเวณใต้ขาหลังก็เกิดการส่องแสง ก่อนจะระเบิดออกอย่างรุนแรง เป้าให้ร่างของหมียักษ์แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆไปภายในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว
และจากการระเบิดดังกล่าว แรงระเบิดมันก็ผลักให้ร่างของกระสือกระเด็นเข้ามาสู่อ้อมอกของผม จนผมและเธอหง่ายหลังลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น แต่เดี๋ยวก่อน..อย่าบอกนะว่าไอ้ที่ระเบิดเมื่อกี้คือข้าวสารเสก..คงไม่ใช่หรอกมั้ง..?
“โอ้ย..เจ็บชะมัด..?”เสียงใสๆที่กำลังทับร่างของผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ในเวลานี้ผมกำลังสบตาอยู่กับสาวสวย มันจะฟินอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าไอ้คนที่ว่ามันไม่ใช่..
“จ๊ากกกกกก..!!!! กระสือ..!!!! คร่อก..~”และนั้นก็คือภาพสุดท้ายที่ผมได้เห็น ก่อนที่สติของผมจะเลือนลางและดับวูบลงไป..
✢✢✢✢✢✢✢✢✢✢✢✢
ผมหลับไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงของคนที่กำลังคุยกัน และยังรับรู้ได้ว่าเสียงดังกล่าวเป็นการพูดคุยกันระหว่างคนสามคน
“ถึงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอเล่ามาก็เถอะนะ..แต่ขอแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อลากอส ส่วนเจ้านี่คือจิตวิญญาณอัญเชิญของฉันชื่อเชเนียส..”
ผมที่แอบลืมตาพริมเพื่อสังเกตุการณ์ และบริเวณรอบๆ ก่อนจะพบว่าในตอนนี้ตัวผมเองกำลังนอนอยู่ใต้ต้นไม้ โดยที่เบื้องหน้ามีกองไฟอยู่หนึ่งกอง ฝั่งตรงข้ามของกองไฟมีชายวัยกลางคนผมสีแดงแปลกตา หน้าตาดูแล้วเหมือนคนตะวันตก อยู่ในชุด เอิ่ม..เหมือนพวกคอสเพลย์จอมเวทย์
ถัดมาอีกข้างๆของชายคนดังกล่าว จะเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งเสือ ร่างกายเป็นมนุษย์มีขนสีขาวปกคลุมอยู่ตามตัว ไม่ใส่เสื้อผ้าและที่สำคัญ ไม่มีกระปู๋..~
และแล้วก็มาถึงไอ้ตัวที่น่าสะพรึงที่สุด หญิงสาวที่มีแต่หัวกับใส้ที่ในตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนพื้นดินห่างจากผมไม่ไกลสักเท่าไหร่ แถมยังนั่งกระดิ๊กไส้ดุ๊กดิ๊กไปมาอย่างน่ารัก ถุ้ย..!! ก็พยายามจะมองให้มันเหมือนหางอยู่หรอกนะ แต่มันทำไม่ได้..
“อะ…อื้ม..~”ผมที่แสร้งทำเป็นพึ่งได้สติค่อยๆชันตัวลุกขึ้นมา ในระหว่างนั้นก็พยายามทำเป็นมองไม่เห็นกระสือ เพราะกลัวที่จะช็อคจนหมดสติไปอีกรอบ
“ฟะ..ฟื้นแล้วสินะ..”ชายที่ดูเหมือนจะชื่อลากอสพูดขึ้น
“พะ..พวกคุณ ปะ..เป็นใครกัน..?”
“นะ..นี่ฟื้นก็ดีแล้ว..”
ผมถามชายที่ชื่อลากอส แต่จู่ๆยัยกระสือก็ลอยตัวขึ้นมาเหนือพื้นดินและดูเหมือนจะตั้งท่าพุ่งเข้ามาหาผมอีกครั้ง
“หยุดอยู่ตรงนั้น..อย่าได้เข้ามา ไม่อย่างนั้นฉันจะวิ่งจริงๆล่ะนะ..”ผมที่พูดกับกระสือด้วยท่าทีตื่นตระหนก แต่ก็ยังคงไม่กล้าที่จะหันไปมองแบบตรงๆ และเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้นก็เหมือนจะเข้าใจ จึงหยุดชะงักนิ่งอยู่กับที่..
“นะ..นี่มันหมายความว่ายังไง ที่นี่ที่ไหน..?”กระสือที่เปิดประเด็นกล่าวถาม น้ำเสียงของเธอฟังดูแล้วสั่นเครือเหมือนกับว่ากำลังจะร้องไห้..
“ที่นี่คือต่างโลก..กระสือตัวที่ฉันเจอในป่าช้าคือเธอเองสินะ..?”ผมที่ตอบคำถาม และเมื่อเจ้าตัวรู้ดังนั่นก็ลอยถอยหลังไปเหมือนจะรับความจริงไม่ได้
“มะ..ไม่จริงน้า..พะ..พาฉันกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ..!!!”
ฟุบ..!!!~
“อ๊อก..หะ..หายใจไม่ออก..”
ยัยกระสือที่ยืดไส้เข้ามารัดคอของผมเอาไว้ ก่อนจะออกแรงรัดสุดกำลัง จนทำให้ผมเริ่มที่จะหายใจไม่ออก ผมจึงรีบตั้งสติและคิดหาวิธี จริงสิถ้าเรียกออกมาได้ ก็ต้องยัดกลับเข้าไปได้..
“จะ..จงกลับเข้ามา จะ..จิตวิญญาณ อะ..อัญเชิญ..!!”
วิ๊ง..!!!
ฟุบ..!!!
ผมที่กางฝ่ามือออกไปยังร่างของยัยกระสือ หลังจากนั้นร่างของเธอก็ส่องแสงสว่างวาบและกลายเป็นลูกไฟสีเขียว ก่อนที่จะลอยกลับเข้ามาภายในตัวของผม
“แค่กๆ ๆ มะ..เมื่อกี้เราคุยกันถึงไหนแล้วนะครับ..?”ผมที่ไอจากการสำลักน้ำลาย ทันทีที่รอดพ้นจากพันธนาการของยัยกระสือมาได้ ผมก็หันหน้าไปถามคนทั้งสอง ที่ในเวลานี้กำลังนั่งทำตาปริบๆมองดูการกระทำทั้งหมดอยู่อย่างอึ้งๆ
“อะ..เอ่อคือ อยะ..อย่างแรกเลย เรามาแนะนำตัวกันก่อนดีหรือเปล่า..?”ลากอสที่ส่งยิ้มแห้งๆพูดกับผม
“ผมชื่อหมื่นกรินณ์ คชสาร หรือจะเรียกสั้นๆว่าช้างก็ได้ครับ..”
“ฉันชื่อลากอส เอนโกเลีย ส่วนนี่คือจิตวิญญาณอัญเชิญของฉันชื่อเชเนียส..”ลากอสที่แนะนำตัวเองอีกครั้ง และแนะนำเชเนียสที่นั่งนิ่งๆอยู่ข้างๆ
‘ฮะ..เฮ้ย ไอ้หมอผีเฮงซวย รีบปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ..!!!’
แต่แล้วจู่ๆเสียงใสๆก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้มันดังอยู่ภายในหัวของผม ไอ้เสียงที่ว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจากเสียงของยัยกระสือ..
‘ฮะ..เฮ้ย ยัยกระสือบ้านี่ตามมาหลอกฉันยันในหัวเลยเร๊อะ..?’ผมที่โต้ตอบกลับสิ่งที่อยู่ภายในตัว..
‘พาฉันกลับไปที่โลกเดิมเลยนะ..อ่อ แล้วอีกอย่าง เลิกเรียกฉันว่ากระสือได้แล้ว ฉันชื่อชบา..’
หู้ย..~ ชื่อโครตโบราณ ผมควรจะปลื้มปริ่มดีมั้ยเนี้ย อุสาห์ได้มาที่ต่างโลกทั้งที แต่ดันมีจิตวิญญาณอัญเชิญเป็นผีที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่องแสงวูบวาบและก็ลอยไปมา..
“เอ่อ..คุณลากอสครับ ที่นี่คือที่ไหนหรอครับ..?”ผมที่พูดกับลากอสและแกล้งทำเป็นไม่สนใจยัยกระสือ อ่อ..หมายถึงชบา
“ที่นี่คือป่าแซนเดรีย ตั้งอยู่ในอาณาจักรเฟริคทางตอนเหนือ..”ลากอสที่ตอบกลับ
‘อย่ามาทำเป็นเมินฉันนะ..!!!’ชบาที่ยังคงส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่ภายในหัวของผม ซึ่งผมก็ปล่อยและทำเป็นไม่สนใจ เพราะคิดว่าถึงต่อจะให้เป็นผีก็คงที่จะเหนื่อยเป็น..
“ว่าแต่เจ้าหนูเถอะ..มาทำอะไรที่ภายในป่าแห่งนี้..”
“อะ..เออคือ..”
ลากอสที่เป็นฝ่ายตั้งคำถาม มันจึงทำให้ผมชะงักไปชั่วขณะได้แต่นั่งอ่ำๆอึ้งๆ เพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามของคนตรงหน้ายังไง และก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ จึงไม่ได้เค้นเอาความ แต่เรียกผมว่าเจ้าหนูเนี่ยนะ ถึงผมจะเตี้ยแต่ก็ 19 ขวบแล้วนะเฟ้ย..!!
“ถ้าบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้ามากๆ ในช่วงที่ฉันหมดสติไป..ได้ยินมาจากเชเนียสแล้วล่ะว่าเจ้าเป็นคนที่เข้ามาช่วยพวกเราเอาไว้..”ลากอสที่พูด พร้อมทั้งโค้งศรีษะให้เล็กน้อยแสดงออกถึงการขอบคุณจากใจจริง..
“อะ..เออคือ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ..”
“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกน้า..พวกข้าเห็นนะว่าเจ้ามีจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 6 ดาว ออร่าสีเขียวมันฟ้อง เล่นเอาข้าตกตะลึงไม่น้อยเลยล่ะ ดูๆแล้วอายุของเจ้าน่าจะไม่ถึง 20 ปี แต่กลับพัฒนาจิตวิญญาณอัญเชิญไปถึงขั้นนั้นได้ มันแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย คำว่าอัจฉริยะคงน้อยไป ขอใช้เป็นอภิมหาอัจฉริยะลาะกัน..”เชเนียสที่นั่งนิ่งเงียบมานานพูดขึ้น พอบทจะพูดก็ร่ายซะยาว แต่เดี๋ยวนะ..อะไรคือจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 6 ดาว..? ออร่าสีเขียวก็ด้วย..หมายถึงอะไรกันนะ..? เอ๊ะ..ออร่าสีเขียวงั้นเหรอ..อ่อ เข้าใจแล้ว
“เอ่อ..คือผมเกรงว่าพวกคุณอาจจะกำลังเข้าใจผิดอยู่นะครับ ออร่าสีเขียวที่พวกคุณเห็น มันคือเอกลักษณ์เฉพาะของจิตวิญญาณอัญเชิญของผม ไม่เกี่ยวกับระดับพลังเลย ส่วนไอ้แรงระเบิดที่เป้าร่างของเจ้าหมีติดไฟจนกระจุยนั่น ผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นฝีมือของใคร..”ผมที่พูดอธิบายตามความเป็นจริงให้คนทั้งสองได้รับฟัง เพราะไม่อยากที่จะโกหก มันผิดศีลข้อสี่นะเฟ้ย..~
“งะ..งั้นเองสินะ ถะ..ถ้าเจ้าพูดถึงขนาดนั้นก็คงที่จะเป็นเรื่องจริงสินะ..เพราะฉะนั้นทางนี้ก็จะขอพูดตรงๆบ้างเลยล่ะกัน ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ว่าเจ้าจะมีจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 6 ดาว เพราะมันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กอายุเพียงเท่านี้จะพัฒนาจิตวิญญาณอัญเชิญไปได้เร็วขนาดนั้น..”ลากอสที่พูดกับผมแบบตรงๆ ถึงวิธีการพูดจะออกไปทางแนวสบประมาท แต่น้ำเสียงที่ใช้กลับนุ่มนวลและแฝงไปด้วยความจริงใจ
“ครับ..เอ่อคือคุณลากอสครับ ผมมีเรื่องที่จะรบกวนให้ช่วย..”
“หืม..? ว่ามาสิ..ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรง ฉันก็ยินดีที่จะช่วย..”
“ช่วยอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับจิตวิญญาณอัญเชิญให้ผมฟังจะได้หรือเปล่าครับ..พอดีก่อนหน้านี้ผมตกจากหน้าผาหัวฟาดโขดหิน มันจึงทำให้ความทรงจำของผมนั้นเลือนลางไป จำชื่อตัวเองได้นี่ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วครับ..?”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็แย่เลยน่ะสิ..ได้สิ เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟังเอง..”ลากอสที่เห็นใจในเรื่องราวที่ช้างนั้นผ่านมาพูดขึ้น
มุสาเขาว่าห้ามพูดเทจแต่ถ้าพูดสำเร็จล่ะก็ไม่เป็นไร
“แต่ขอเป็นพรุ่งนี้เช้านะ คืนนี้เราพักผ่อนกันก่อนล่ะกัน..”ลากอสที่พูดต่อ จากที่ผมดูๆสีหน้าของเขาแล้ว ดูจะเหนื่อยล้าอยู่ไม่ใช่น้อย..
“เข้าใจแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นราตรีสวัสดีครับ..”ผมที่พูดกับลากอส ก่อนจะเปลี่ยนอริยะบทมานั่งทำสมาธิใต้ต้นไม้ จนเวลาล่วงเลยผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ ผมที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมาดู ก็พบว่ากองไฟนั้นได้มอดดับลงไปแล้ว ส่วนคุณลากอสก็นอนผิงต้นไม้และก็ดูเหมือนว่ากำลังจะหลับอยู่
“ที่นี่คือต่างโลกจริงๆสินะ..ต่อจากนี้ชีวิตของเราจะเป็นยังไงกันนะ..?”ผมที่เงยหน้ามองหมู่ดาวบนท้องฟ้า และตั้งคำถามกับตนเอง ชีวิตในตอนนี้นั้น มันช่างไร้จุดหมายปลายทาง จนไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม โอกาสที่ได้รับในครั้งนี้ ผมจะใช้มันให้คุ้มค่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับคุณปู่..
‘ไอ้หมอผีบ้า..!!! อย่าทำเป็นเมินฉันน่ะ..!!!’
‘หนวกหูโว้ย..แล้วนี่ยังไม่หลับอีกหรอฟร่ะ..!!!!’
แต่ลองมาคิดๆดูแล้ว ชีวิตของผมมันคงจะไม่สดใสเหมือนกับพระเอกในนิยายแฟนตาซีคนอื่นๆเป็นแน่ เฮ้อ..~ คิดแล้วก็กลุ้มใจ..
Chapters
Comments
- ตอนที่ 20 พฤษภาคม 23, 2022
- ตอนที่ 19 พฤษภาคม 23, 2022
- ตอนที่ 18 เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 17 เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 16 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 15 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 14 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 13 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 12 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 11 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 10 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 9 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 8 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 7 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 6 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 5 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 4 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 3 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 2 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 2 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 1 เมษายน 29, 2022
MANGA DISCUSSION