ตนที่ 20 การปะทะ..

ณ กระท่อมน้อยกลอยใจ..(บ้าน)

ผมที่พึ่งจะเดินทางกลับมาถึงบ้าน..ระหว่างทางก็แวะซื้อของกินติดไม้ติดมือกลับเข้ามาด้วย ทันทีที่เข้ามาในบ้านผมก็จัดการเตรียมอาหารใส่จาน และเข้าไปอาบน้ำ..พอออกมาก็จะได้กินข้าวกับชบา 

แต่ผมก็ต้องรู้สึกใจคอไม่ค่อยจะดี..เพราะชบานั้นตั้งแต่ตอนเช้าก็ยังหลับไม่ยอมตื่น..กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป..

“ชบา..ชบา..”

‘หาววววว ถึงไหนแล้วหรอ..?’เสียงหาวที่ดังลากยาว ผสานกับน้ำเสียงใสๆที่ถามขึ้น มันจึงทำให้ผมเริ่มที่จะรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย..

“ชบา..ออกมา..”ผมที่กางฝ่ามือและเรียกให้ชบาออกมา ทันทีที่เธอปรากฏตัว เธอก็ขยี้ตาและป้องปากหาว พลางบิดขี้เกียจไปมา..

“อ้าว..ทำไมถึงกลับมาบ้านล่ะ..?”ชบาที่หันมองซ้ายมองขวา ก่อนจะกล่าวถามผม..

“พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะ..กินข้าวไปด้วยเล่าไปด้วยล่ะกัน..”ผมที่พูดกับชบา ก่อนที่เราสองจะเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว..

10 นาทีผ่านไป..

“หู้ย..เจ็บมากมั้ย เป็นอะไรหรือเปล่า..ขอฉันดูหน่อย..”ชบาที่ลุกและปรี่ตรงเข้ามาตรวจดูร่างกายของผม หลังจากที่ผมได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง ดูเหมือนชบาจะเป็นห่วงผมอยู่ไม่ใช่น้อยจากสีหน้าที่เธอแสดงออกมา

“ฉันไม่เป็นไร..เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปรับภารกิจมาทำล่ะกัน..”

“อ้าว..แล้วเรื่องอัศวินอะไรนั่นล่ะ..?”

“ขอลองเก็บไปคิดดูก่อน..ไม่อยากจะเอาตัวไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากน่ะ..”ผมที่ตอบกลับชบา..ซึ่งเธอก็พยักหน้าเข้าใจ..

ต่อจากนั้นชบาก็เก็บจานและไปอาบน้ำ ก่อนที่เราทั้งสองจะไปเข้านอนกันตามปกติอย่างเช่นทุกๆวัน..

ภายในห้องนอนที่มีแสงไฟสลัวๆจากตะเกียงไฟ ผมกำลังนั่งเอนกายเอาหลังผิงเข้ากับหัวเตียง ในระหว่างนั้นก็เปิดหนังสืออัศวินที่ได้มาจากฟานลองอ่านเนื้อหาของมันไปพลางๆ

องค์กรอัศวินจิตวิญญาณลงทัณฑ์อสูรคือชื่อเต็มๆ องค์กรนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 300 ปีที่แล้ว โดยคนที่ก่อตั้งมันขึ้นมาก็คือองค์จักพรรดิ์ของอาณาจักรทั้ง 6 องค์จักรพรรดิ์แห่งปฐพี องค์จักรพรรดิ์แห่งวารี องค์จักรพรรดิ์แห่งวายุ องค์จักรพรรดิ์แห่งอัคคี องค์จักรพรรดิ์แห่งแสง องค์จักรพรรดิ์แห่งความมืด ซึ่งจุดประสงค์ที่องค์กรนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาก็เพื่อต่อกรและกำจัดผู้รุกรานที่หมายจะยึดครองโลกใบนี้ โดยผู้รุกรานที่ว่าก็คือจิตวิญญาณอสูร..

พออ่านมาถึงตรงนี้ผมก็เริ่มที่จะสงสัย เพราะไม่มีเนื้อหาหรือข้อมูลที่จะอธิบายว่าจิตวิญญาณอสูรนั้นคืออะไร..? ผมจึงเปิดอ่านมันไปเรื่อยๆก็พบเจอเข้ากับกฏระเบียบและข้อบังคับขององค์กร รวมไปถึงระดับชนชั้นของอัศวินภายในหน่วย..

อัศวินจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ชนชั้น..

ชนชั้นอัศวินขั้นที่ 4 จะคอยปกครองดูแลอัศวินขั้นที่ต่ำกว่าตั้งแต่ขั้นที่ 3 ลงไปจนถึงขั้นที่ 1 และอัศวินขั้นที่ 4 นี้ จะถูกปกครองและรอฟังคำสั่งจากหัวหน้าหน่วยเท่านั้น..

ส่วนอัศวินขั้นที่เหลือจะค่อยรับฟังคำสั่งจากอัศวินที่มีลำดับขั้นที่สูงกว่า อีกทั้งยังสามารถรับภารกิจขององค์กรมาทำได้อย่างอิสระ..แต่จุดที่ผมให้ความสนใจมากที่สุด ดูเหมือนจะเป็นเงินเดือนของอัศวินที่หลวงจะจ่ายให้..

อัศวินขั้นที่ 1 จะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 50 เหรียญเงิน..

อัศวินขั้นที่ 2 จะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 1 เหรียญทอง

อัศวินขั้นที่ 3 จะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 2 เหรียญทอง

อัศวินขั้นที่ 4 จะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 4 เหรียญทอง

ส่วนหัวหน้าหน่วยจะได้รับเงินเดือนถึง 10 เหรียญทองต่อเดือน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมได้รู้ว่าเซนฟรอนได้ควักเงินเดือนส่วนตัวของตัวเอง เพื่อที่จะจ่ายให้กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือก..ถือว่าใจป้ำไม่เบา ดีนะที่ผมเป็นคนเดียวที่ผ่านการคัดเลือก ถ้าอีก 49 คนที่เหลือผ่านมาด้วย เซนฟรอนคงจะเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากแหงๆ แค่คิดก็ฮาแล้ว..

กลับมาที่เรื่องของระดับชนชั้น..หัวหน้าหน่วยนั้นจะอยู่ภายใต้การดูแลของจตุรเทพทั้ง 4 ที่ขึ้นตรงและสวามิภักดิ์กับองค์จักพรรดิ์..แต่เดี๋ยวก่อน..จตุรเทพทั้ง 4 งั้นหรอ เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อนแห๊ะ..แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกมา

[ปล่อยข้าออกไปน้า..!!!!!!!]เสียงตะโกนของวิญญาณภายในหม้อที่ยังคงดังแววๆให้ได้ยินอยู่ในทุกๆค่ำคืน..

“ถ้าอย่างงั้นคืนนี้..พอแค่นี้ก่อนดีกว่า..”ผมที่ค่อยๆปิดหนังสือเล่มหนาในมือลง ก่อนจะเอามันไปวางลงบนโต๊ะข้างๆเตียง

ต่อจากนั้นผมก็ค่อยๆขยับตัวเอนหลังลงไปนอน ข้างๆกายของผมในเวลานี้มีชบาที่กำลังนอนขดตัวหลับไม่ได้สติอยู่..ทั้งๆที่นอนหลับมาทั้งวัน แต่เธอก็ยังสามารถที่จะนอนได้อีก เป็นกระสือที่ขี้เซาอะไรแบบนี้..

“ฝันดีนะ..”ผมที่พูดกับชบา ก่อนจะเคลื่อนตัวไปประทับริมฝีปากที่ตรงกลางหน้าผากของเธอ..

“อ๊ะ..ชะ..ช้าง ตะ..ตรงนั้นมัน..!”

“ห้ะ..?”ผมที่ร้องเสียงหลงออกมาอย่างงงๆ เมื่อกี้เหมือนได้ยินชบาละเมออะไรสักอย่างออกมา แถมมือของเธอในเวลานี้กำลังสัมผัสอะไรบางอย่างอยู่ที่ตรงบริเวณระหว่างขาของตัวเอง อยะ..อย่าบอกนะว่า..

“กะ..ก็คงไม่แปลก ยะ..ยังไงเธอก็ยังเป็นเด็กผู้หญิงล่ะนะ..”

“อ๊าส์ ชะ..ช้าง..!”

ฟุบ..!!

ก่อนที่ขันติจะกลายเป็นขันแตก ผมจึงรีบข่มตานอนให้เร็วที่สุด..โบราณว่าเอาไว้ช้างเป็นสัตว์กินพืชและไม่ดุร้าย แต่ถ้าเกิดมันคลุ้มคลั่งตกมันขึ้นมาเมื่อไหร่ พอถึงตอนนั้นต่อให้เอาสิ่งใดมาฉุด..ก็รั้งมันเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

อีกด้านหนึ่ง ณ ป่าทางตอนใต้ของอาณาจักร..

เหล่าอัศวินที่กำลังนั่งสุ่มกองไฟกันอยู่ภายในป่ารกทึบ รอบๆบริเวณกองไฟมีร่างของชายฉกรรจ์นับสิบคนในชุดผ้าคลุมสีดำทมิฬ กลุ่มคนเหล่านี้คืออัศวินของหน่วยจิตวิญญาณสัตว์สวรรค์และหน่วยจิตวิญญาณบุพผาไร้เงาที่ได้รับมอบหมายหน้าที่และถูกส่งตัวให้มาทำภารกิจ ณ เมืองทางตอนใต้..

ภายใต้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากกองไฟมากนัก ปรากฏให้เห็นร่างของชายสองคนที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่..

“ไม่นึกเลยแห๊ะ..จู่ๆพวกเราจะถูกเรียกตัวมาที่เมืองทางตอนใต้ แถมยังเป็นภารกิจระดับ A อีก..”เอสที่หันไปพูดกับชายผมแดงที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งเขาคนนี้ก็คือลากอสนั่นเอง..

“ก็นะ..นานๆที่หน่วยของเราจะได้มาทำภารกิจร่วมกัน นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะได้มานั่งคุยกับเพื่อนสนิทในวัยเด็กอีกครั้ง..”ลากอสที่ตอบกลับเอส..

“เจ้าก็พูดไป..ถึงเราจะอยู่กันคนล่ะหน่วยแต่ความเป็นเพื่อนของเราก็ยังคงอยู่นิ..อีกอย่างเราสองคนก็เดินทางตามความฝัน เผลอแปปเดียวก็ได้ขึ้นมาเป็นอัศวินขั้นที่ 3 แล้ว..”เอสที่เอื้อมแขนไปคล้องคอของเพื่อนสนิท ซึ่งเขานั้นสังกัดอยู่กันคนล่ะหน่วยกับลากอส เอสนั้นสังกัดอยู่ที่หน่วยจิตวิญญาณบุพผาไร้เงา..

“นั่นสินะ..”ลากอสที่ตอบกลับ ก่อนจะค่อยๆยกกาแฟขึ้นมาดื่ม..

“ลูกสาวของเจ้าเป็นยังไงบ้าง..?”ลากอสที่เปิดประเด็นกล่าวถาม..

“จะเป็นยังไงเสียอีกล่ะ เกือบจะได้แต่งงานไปแล้ว..”

“เห๋..คนที่ห่วงลูกสาวอย่างเจ้าเนี่ยนะ..แสดงว่าเจ้าหนุ่มคนนั้นคงจะไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาแน่ๆเลย..”ลากอสเอ่ยออกมาด้วยความแปลกใจ เพราะเท่าที่รู้จักเอสมา ตั้งแต่ที่ลาเต้โตเป็นสาว เขาก็กลายเป็นคนที่ห่วงลูกสาวเอามากๆ..

“หึๆ..เหนือคำบรรยาย เจ้านั่นมันเกือบจะฆ่าฉันด้วยซ้ำ..”

“ห้ะ..? เอาจริงดิ..ฮ่าๆ ชักอยากจะเห็นหน้าแล้วล่ะสิ..”ลากอสที่ได้ฟังเรื่องราวก็หัวเราะออกมาด้วยความขบขัน..

“ว่าก็ว่าเถอะ..ฉันได้ข่าวมาว่า..ตอนที่แกถูกส่งตัวไปทำภารกิจยังเมืองทางตอนเหนือ แกได้พบกับทรราชลำดับที่ 4 และก็ได้สู้กับสาวกของมันจริงหรือเปล่า..?”เอสที่เปิดประเด็นถาม ทำให้ลากอสที่ได้ยินในคำถามถึงกับมีสีหน้าเคร่งเครียดในทันที..

“เอส..สิ่งที่แกถามฉัน มันเป็นความลับระดับสุดยอดขององค์กรเราเลยนะ..แกไปรู้มาได้ยังไง..?”

“ฉันเป็นคนโปรดของท่านหัวหน้าหน่วยเชียวนะ..”

“เออว่ะลืม..”ลากอสที่ถึงกับต้องเอามือกุมขมับด้วยความเคร่งเครียด เพราะเอสนั้นคือคนโปรดของหัวหน้าหน่วยจิตวิญญาณบุพผาไร้เงา ไม่แปลกที่หัวหน้าหน่วยของเขาจะบอกหรือเล่าเรื่องราวความลับขององค์กรให้ฟัง..

“เป็นความจริง..นอกจากจะได้สู้กันแล้ว สาวกลำดับที่ 2 ของทรราชลำดับ 4 มันยังถูกสังหารลงด้วย..”

“ปะ..เป็นฝีมือของแกงั้นหรอ..?”

“ปะ..เปล่า จริงๆแล้ว เป็นฝีมือของชายหนุ่มผู้นึ่งที่ได้ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ถึง 2 ครั้ง..”ลากอสที่ตอบกลับ..

“คนๆนั้นดูท่าน่าจะเป็นทหารรับจ้างที่มีฝีมือมากๆหรืออาจจะเป็นอัศวินขององค์กรจากต่างอาณาจักรแน่ๆ..”เอสที่กล่าวคาดเดา..

“ไม่ใช่เลย..เขาเป็นเพียงแค่ชายหนุ่มนิสัยแปลกๆที่ความจำเสื่อม แถมยังมีจิตวิญญาณอัญเชิญที่มีลักษณะจำเพาะคลายกับจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 6 ดาว..”ลากอสที่อธิบายให้เอสฟัง มันจึงทำให้จู่ๆเขาก็นึกถึงชายหนุ่มผู้มาเยือนที่คฤหาสถ์เมื่อไม่นานมานี้ขึ้น..

“เดี๋ยวนะ..เจ้าหนุ่มนั่นมีชื่อว่าอะไร..?”เอสที่หันมาจับบ่าของลากอส ถามออกด้วยความร้อนรน

“หะ..หืม ไม่เห็นจะต้องตกใจถึงขนาดนั้น เขามีชื่อว่า..”

ฟ้าว..!!!!!!

ตู้ม..!!!!!!!!!

“อ๊ากกกกกกกก..!!!”

ยังไม่ทันที่ลากอสจะได้บอกชื่อของชายหนุ่มคนนั้น จู่ๆก็มีลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งทะยานลงมายังกองไฟ ก่อนจะระเบิดออกอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้ร่างของอัศวินทั้งสองหน่วยที่อยู่ใกล้กองไฟในรัศมีของแรงระเบิด.. ถูกแรงระเบิดผลักจนร่างกระเด็นไปกันคนล่ะทิศคนล่ะทาง..

“เวรล่ะไง..มันมาแล้ว..!!!!”ลากอสที่พูดขึ้น พร้อมกับชันตัวลุกขึ้นยืน..

“นะ..นั่นมัน สาวกของทรราชลำดับที่ 3 จิตวิญญาณอสูรระดับ 4 ดาว..!!!”เอสที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก บนฟากฟ้าในเวลานี้ปรากฏให้เห็นร่างทมิฬ..ลักษณะคล้ายคลึงกับไวเวรินกำลังกระพือปีกบินอยู่เหนือน่านฟ้า..

“เชเนียส../ เดรียโบ..!!”

วิ๊ง..!!!×2

ฟุบ..!!×2

ลากอสและเอสที่เรียกจิตวิญญาณอัญเชิญของตนออกมา ก่อนที่ร่างของพยัคฆ์ขาวและอัศวินทมิฬผ้าคลุมแดงจะปรากฏตัวออกมายืนอยู่ต่อหน้าของพวกเขาทั้งสอง..

“เจ้านั่นมันไม่ธรรมดา..ขอเสนอว่าให้ผสานร่าง..”เชเนียสที่หันมาบอกลากอส ซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบรับ..

“ทางนี้ก็คิดเหมือนกัน..อีกฝ่ายเป็นจิตวิญญาณอสูรระดับ 4 ดาว ถ้าให้มัวมาคอยคุ้มกันมีหวังสู้ไม่ได้แน่..”เดรียโบที่หันมาพูดกับเอส โดยที่เขาก็พยักหน้าตอบรับ..

“ผสานร่างจิตวิญญาณอัญเชิญ..×2!!!”เอสและลากอสที่ตะโกนผสานเสียง..

ทันใดนั้นร่างของจิตวิญญาณอัญเชิญทั้งสองก็เปล่งแสงสว่างสีน้ำเงิน ก่อนจะแปลงกายไปเป็นลูกบอลแสง พลันลอยเข้าสู่กลางหน้าอกของเอสกับลากอส..

ซูม..×2

แสงสว่างสีน้ำเงินที่เข้าห่อหุ้มร่างทั้งสองเอาไว้ ทันทีที่มันสงบลง สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็คือเอสในร่างของอัศวินชุดเกราะทมิฬกับลากอสในร่างของมนุษย์ครึ่งเสือขาว เส้นผมสีแดงยาวที่เคยปะบ่า บัดนี้กลับผันเปลี่ยนกลายไปเป็นสีขาว ผสานกับกรงเล็บอันแสนแหลมคมที่งอกยาวออกมา..

“เอาล่ะนะ..!!!×2″เสียงทั้งสองที่แผดผสานสนั่น..

ฟุบ..!!!!

เอสที่ย่อตัวลงต่ำ ก่อนจะออกแรงกระโดดพุ่งตรงขึ้นไปหาร่างของไวเวิร์น แต่แรงกระโดดนั้นดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ร่างทะยานขึ้นไปถึงตัวของเป้าหมาย..

“ทักษะจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 3 ดาว รูปแบบที่ 2 คลื่นคำราม..!!!!”

“โฮก..!!!!!!!!!!”

ลากอสที่ตั้งท่า พร้อมกับปลดปล่อยทักษะรูปแบบที่ 2 ออกมา ปรากฏเป็นคลื่นเสียงที่พุ่งทะยานพลักส่งให้ร่างของเอสทะยานขึ้นไปหาเป้าหมาย..

“เจ้าพวกมดปลวก..”เสียงทุ่มๆของไวเวิร์นที่เอื้อนเอ่ยออกมา ในเวลานี้สายตาของมันกำลังจับจ้องมองลงไปยังร่างที่กำลังพุ่งทะยานตรงขึ้นมาใกล้..

ชิ้ง..!!!

เอสที่เอื้อมมือไปจับยังด้ามดาบเคลย์มอร์ ก่อนจะชักมันออกมาจากฝัก เผยให้เห็นใบดาบสีดำที่มีความคมสูง..เขาไม่รอช้ารีบทำการง้างมันเข้าหาลำตัวในทันที..

“ทักษะจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 3 ดาว รูปแบบที่ 3 เพลิงนิล..!!!!”

ฟูม..!!!!

สิ้นเสียงของเอส..ดาบเคลย์มอร์ที่กำลังง้างไปทางด้านหลัง จู่ๆก็ปรากฏเปลวเพลิงสีทมิฬที่ลุกโชนไปทั่วทั้งใบดาบ..ร่างของเอสในตอนนี้ได้พุ่งทะยานเข้ามาประชิดถึงตัวของไวเวิร์นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..

“แหลกไปซ่ะ..!!!!”

ฟุบ..!!!

ดาบที่กำลังง้างอยู่ข้างลำตัว บัดนี้ได้ถูกเหวี่ยงให้ขึ้นสูงมาอยู่เหนือศรีษะ ก่อนที่เอสจะฟาดฟันมันลงไปยังหัวของไวเวิร์น..

เคร้ง..!!!!!!!!!!!!!

“อะไรกัน..!!! ไม่ยอมหรอกน้า..กรรซ..!!!”

ทันทีที่ดาบถูกฟาดฟันลงไปยังกลางหัวของไวเวิร์น ผลปรากฏว่าคมดาบทมิฬไม่อาจที่จะสามารถเฉือดเฉือนผิวหนังของเป้าหมายได้..แต่ด้วยจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ เอสจึงทำการกดคมดาบในมือลงไป เพื่อหวังจะให้เปลวเพลิงสีทมิฬแผดเผาร่างของเป้าหมาย..

“สวะ..!!!”ไวเวิร์นที่ตวาดออกมา ก่อนจะสบัดหางที่เป็นหอกแหลมปัดดาบของเอสออก..

เคร้ง..!!!

“บ้าน้า..อั่ค..!!!”

เมื่อดาบเคลย์มอลถูกปัดจนกระเด็นหลุดมือไป ไวเวิร์นก็จึงใช้หางเข้ารัดร่างของเป้าหมายเอาไว้อย่างแนบแน่น..

ปึด..

กรุบ..!!!

“อ๊ากกกกกกกก..!!!”

หางที่กำลังกอดรัดเริ่มที่จะออกแรงรัดแน่นขึ้น ส่งผลทำให้ชุดเกราะของเอสถูกบดขยี้และยุบตัวลงไป..เขาไม่อาจที่จะอดกลั้นความเจ็บปวดนั้นได้ ส่งเสียงกู่ร้องออกมาจนดังสนั่นไปทั่วทั้งผืนป่า..

“ไม่ได้การล่ะ..!!!”ลากอสที่ยืนดูสถานการณ์และเห็นว่าท่าไม่ดี จึงทำการย่อเข่าทั้งสองข้างลงต่ำ ก่อนดีดตัวกระโดดพุ่งทะยานตามขึ้นไปช่วยเอส..

ฟุบ..!!!

ตู้ม..!!!!!

“ทักษะจิตวิญญาณระดับ 3 รูปแบบที่ 1 ฉีกกระชาก..!!!!”

ในขณะที่ร่างของลากอสกำลังทะยานตรงเข้าหาไวเวิร์น เขาก็ทำการง้างกรงเล็บทั้งสองข้างเข้าหาลำตัว เตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อยคลื่นคมดาบออกไป..

ฟุบ..!!!

ฟิ้ว..!!!!!!

ไวเวิร์นที่เห็นเช่นนั้น จึงทำการสบัดหางเหวี่ยงร่างของเอสใส่ลากอสที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา..

“แย่ล่ะสิ..!!!”

ตุบ..!!!×2

ร่างของเอสที่กระเด็นกระแทกเข้ากับร่างของลากอส ก่อนที่ร่างของคนทั้งสองจะดิ่งทะยานลงสู่ผืนดิน..

ตู้ม..!!!!

“อั่ค..”

ทันทีที่ร่างทั้งสองดิ่งลงมาสู่พื้นดิน แรงกระแทกอันแสนหนักหน่วง ส่งผลทำให้พื้นดินเกิดการทรุดตัวลงไปจนกลายเป็นหลุมยุบ..

“กร่อด..!! เอส..แกไหวหรือเปล่า..”ลากอสที่ค่อยๆดันร่างของเอสที่กำลังนอนทับตัวอยู่ออก ก่อนจะหันไปกล่าวถาม..

“หวะ..ไหว..!!”เอสที่นอนอ้าซ่าชำเลืองสายตาและให้คำตอบลากอส ก่อนที่คนทั้งสองจะพร้อมใจกันค่อยๆยืดหยัดชันตัวลุกขึ้นมา..

“ไอ้สวะ..ได้เวลาที่ข้าจะต้องเก็บกวาด..ทักษะจิตวิญญาณอสูรระดับ 4 ดาว รูปแบบที่ 4 ลมหายใจระเบิดเพลิง..!!!!”ไวเวิร์นที่แผดเสียงตวาดออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด พลันอ้าปากกว้างเผยให้เห็นเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนอยู่ภายในปากของมัน..

ฟิ้ว..!!!!!!!!!

ไวเวิร์นที่ยิงลูกไฟขนาดใหญ่ออกมาจากปาก เส้นผ่าศูนย์กลางของลูกไฟดังกล่าวประมาณ 3 เมตรเห็นจะได้..

ฟ้าว..!!!!

“มะ..ไม่รอดแน่..×2!!!”เอสและลากอสที่เอ่ยออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เป็นเวลาเดียวกันกับที่ลูกไฟจะพุ่งตรงลงมายังร่างของพวกเขาทั้งสอง..

“ลาเต้/เซย่า..!!!”ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตที่ไม่อาจจะสามารถทำอะไรได้ คนทั้งสองพลันหลับตาลง ก่อนจะพากันส่งเสียงเรียกชื่อคนสำคัญออกมา..

ฟุบ..

แต่ทว่าทันใดนั้นจู่ๆก็มีร่างของสิ่งมีชีวิตปริศนาที่ปรากฏตัวออกมายืนบังร่างของเอสและลากอสเอาไว้ 

“ทักษะจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 6 ดาว รูปแบบที่ 2 ราชสีห์คำราม..!!!!”

“โฮก..!!!!!!!!!!!!!!!”

เสียงของสิ่งมีชีวิตปริศนาที่ร้องคำรามออกมา จนดังสนั่นไปทั่วทั้งผืนป่า ก่อนจะปรากฏเป็นคลื่นเสียงอันแสนทรงพลัง พุ่งเข้าปะทะกับลูกบอลเพลิงที่กำลังพุ่งทะยานตรงลงมา..

ตู้ม..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ลูกบอลเพลิงที่เกิดการระเบิดกลางอากาศ ส่งผลทำให้เกิดเป็นลมพายุที่กรรโชกแรง..แต่ร่างของสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวออกมากลับยืนตระหง่านไม่ไหวติง..

“ทะ..ท่านจิตวิญญาณอัญเชิญเซโอ..×2!!!”ทันทีที่เอสและลากอสลืมตาขึ้นมาก็พบเข้ากับร่างของสิ่งมีชีวิตครึ่งมนุษย์ครึ่งสิงโต..